ตอนที่ 21

Hell mode

บทที่ 21 คบเพลิง

เช้าวันหนึ่งช่วงกลางเดือนตุลาคม เวลาประมาณ 6 โมงเช้า

ซ่า

ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงน้ำที่อยู่ในโอ่ง

“ อรุณสวัสดิ์ครับป๊ะป๋ะ”

“โอ๊ะ ตื่นแล้วเหรอ”

ถึงจะไม่เคยตื่นเช้าเลย แต่ช่วงนี้เริ่มตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้าโดยไม่ต้องมีนาฬิกาปลุกได้แล้ว โรดันทำกิจวัตรประจำวันตอนเช้า

“นี่ค่ะคุณ”

“ขอบคุณนะ”

เทเรเซียก็ตื่นแล้วเหมือนกัน พร้อมกับมอบถุงผ้าป่านให้โรดันก่อนที่เขาจะเอาพาดหลัง โดยในนั้นมีเนื้อและมันฝรั่งตากแห้งกับถุงหนังบรรจุน้ำใส่อยู่

ห้องนั่งเล่นที่มีเตาไฟมีท่อนไม้ยาวราวๆ 2 เมตรที่ตามปกติไม่มีวางไว้ โดยตรงปลายมีใบมีดขนาดใหญ่ติดอยู่ เป็นหอกที่ใช้สำหรับล่าหมูป่า โดยสิ่งนี้ทำการยืมมาจากร้านอาวุธก่อนวันล่าซึ่งเมื่อคืนทำการตรวจสอบแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไร

โรดันหยิบหอกขึ้นมา

“ถ้างั้นไปก่อนนะ”

“จะกลับมาช้าหรือเปล่าคะ?”

“วันนี้มีคนใหม่อยู่ด้วย เลยวางแผนจะไปล่าตรงสถานที่ใกล้ๆ คงไม่ช้าขนาดนั้นหรอก”

พอพูดอย่างนั้นก็ออกไปข้างนอกที่อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว

(ล่าหมูป่าเหรอ อยากไปด้วยจัง อยากเพิ่มเลเวลแล้วด้วยสิ)

อเลนยังคงเลเวล 1 แม้จะผ่านไปแล้ว 6 ปีตั้งแต่มาเกิดใหม่ เนื่องจากนอกหมู่บ้านมีมอนสเตอร์อยู่ทำให้ออกไปไม่ได้ หากทาสติดที่ดินจะออกนอกหมู่บ้านต้องได้รับอนุญาตจากหัวหน้าหมู่บ้านก่อน แต่ต่อให้ขออนุญาตตามปกติจะโดนปฏิเสธ ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญอย่างการออกไปล่าหมูป่าเพื่อหมู่บ้านอย่างในครั้งนี้ ตามปกติจะโดนปฏิเสธ ทาสติดที่ดินเคลื่อนไหวได้ค่อนข้งจำกัด

เลยทำการขว้างหินตามปกติ

(ยืนยันแล้วว่าสกิลขว้างหินจะขึ้นเลเวลถัดไปต้องใช้ถึง 1 ล้าน หลังจากที่เลเวลเพิ่มครั้งก่อนก็ก็ปาเกิน 2 แสนครั้งไปแล้วแต่เลเวลก็ยังไม่เพิ่ม)

หินที่โดนขว้างอย่างต่อเนื่องจนกลม ถึงกระนั้นก็ยังคงขว้างต่อไปเรื่อยๆ ไม่ว่าฝนจะตก ลมจะพัดก็ยังคงขว้างต่อไป ทั้งโรดันและเทเรเซียเองคงไม่คิดว่าจะขว้างทุกวัน โรดันเลยไปปรึกษากับเกลด้าและเหมือนจะได้รับคำแนะนำมาว่าให้มาเล่นติ๊ต่างกับลูกสาวของเขาที่บ้านทุกวันแทน!

(อย่างนี้ สกิลธรรมดาคงไม่เหมาะกับฉันสักเท่าไร ได้ผลต่อชั่วโมงน้อยเกินไป)

วิชาดาบและขว้างสกิลเวลเป็น 3 แล้ว ถ้าพยายามอย่างต่อเนื่องจากการที่ไม่มี จากสกิลเลเวล 0 ไป 1 ใช้ 1 หมื่น จาก 1 ไป 2 ใช้อีก 1 หมื่นเหมือนกัน จาก 2 ไป 3 ใช้ 1 แสน และหลังจากนั้นน่าจะเพิ่มขึ้นทีละ 10 เท่าอยู่

จากสภาพนี้ รู้สึกได้เลยว่าต่อให้พยายามทั้งชีวิตคงขึ้นสู่เลเวล 5 ได้ยาก บางทีขีดจำกัดน่าจะอยู่ที่ 4 กระมัง ถึงการเพิ่มเลเวลสกิลจะมีค่าที่ทำให้ความรุนแรงทวีคูณขึ้นก็ตาม แต่คงคาดหวังกับความรุนแรงนั้นไม่ได้

(จริงอยู่ที่ความรุนแรงมากกว่าตอนที่ไม่มีสกิล จากความรู้สึกทางดูเหมือนสกิลเลเวล 3 จะเพิ่มแค่ประมาณเท่าตัวเองด้วยสิ)

เนื่องจากไม่มีการแสดงค่าความเสียหาย เลยต้องพึ่งความรู้สึกทางกาย และรู้สึกว่าความรุนแรงน่าจะเพิ่มเป็น 2 เท่าของตอนไม่มีสกิล

(กะแล้วว่าผมควรฝึกสกิลอัญเชิญให้เชี่ยวชาญ ส่วนดาบกับปาหินเอาไว้ใช้ปกป้องตัวเองน่าจะดีกว่า แถมพืช F เองไม่ได้มีดีแค่กลิ่นอย่างเดียวเสียด้วย)

ข้างหน้ามีต้นไม้สูงราวๆ 1 เมตรอยู่ มันส่งกลิ่นน้ำมันหอมระเหยออกมา กลิ่นที่ทำให้จิตใจสงบและอยากจะสูดไปตลอด

ดูระบบบันทึกในสมุดเวทมนตร์

(อืม กะแล้วว่าเวลาที่ใช้ฟื้นฟูพลังเวทจนเต็มลดจาก 6 ชั่วโมงเหลือ 5 ชั่วโมง)

ต้นไม้ของพืช F ที่ปลูกไว้ตรงสวน ทำให้เก็บค่าประสบการณ์ของสกิลอัญเชิญได้มากขึ้นจาก 3 ครั้งเป็น 4 ครั้ง

ตลอดเวลา 5 ปี จะเก็บค่าประสบการณ์สกิลได้ทุก 6 ชั่วโมงมา โดยทุกๆ 6 ชั่วโมงคือกลางดึก 1 ครั้ง เช้าตรู่ 1 ครั้ง ตอนเที่ยง 1 ครั้ง และตอนเย็น 1 ครั้ง ใน 1 วันสามารถเก็บค่าประสบการณ์สกิลได้ถึง 4 ครั้ง แต่วิธีนี้ในวันที่ 2 จะทำได้น้อยกว่า 3 ครั้ง

แต่พอใช้ทักษะพิเศษอโรม่าของพืช F สามารถทำ 4 ครั้งติดต่อกันได้แล้ว 3 วัน

(5 ครั้งมันยากอยู่ ถ้าไม่ลดให้เหลือ 4 ชั่วโมงคงทำไม่ได้)

จากการตรวจสอบว่าลดระยะเวลาได้เท่าไร ก็สามารถยืนยันได้แล้วว่าเป็น 5 ชั่วโมงไม่ใช่ 4 ชั่วโมง ซึ่งอย่างนี้น่าจะทำการเร่งค่าประสบการณ์สกิลได้เร็วขึ้นอยู่

(นี่คงเป็นผลดีทุกอย่างของอัพโป้แล้วสินะ)

ในขณะที่ดูบันทึกของสมุดเวทมนตร์ ก็ทำการสรุปผลการตรวจสอบของพืช F

・กลิ่นหอมทำให้หลับสบาย

・ลดเวลาการฟื้นฟูพลังเวทให้เหลือ 5 ชั่วโมง

・ถ้าใช้สกิลจะทำให้การ์ดสัตว์อัญเชิญหายไป (กลายเป็นต้นไม้)

แตกต่างกับสัตว์อัญเชินตัวอื่นๆ ตรงที่ทักษะพิเศษใช้ได้เพียงครั้งเดียว ถ้าใช้ไปแล้วจะทำให้สัตว์อัญเชิญกลับมาเป็นการ์ดไม่ได้ และกลายเป็นต้นไม้โดยสมบูรณ์ แน่นอนว่าคนอื่นสามารถมองเห็นและสัมผัสได้

“อเลย ได้เวลากินข้าวแล้ว”

“ครับมาม้า!”

พอปลดระดับ F ได้ทำให้มีเรื่องที่ต้องตรวจสอบมากมาย ถึงจะผ่านมาแล้วครึ่งเดือน แต่ก็ยังตรวจสอบได้ไม่หมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกัดของสัตว์ F จะทดลองกัดคนด้วยก็ไม่ได้ ยิ่งให้กัดตัวเองก็คงไม่ได้เหมือนกัน ทำให้ตรวจสอบความรุนแรงได้ยาก

“พี่ๆ ไม่ไหวแล้ว”

“เข้าใจแล้วมัชชู”

เนื่องจากออกมาอยู่ข้างนอกคนเดียวเกิน 2 ชั่วโมง เลยเข้าไปในบ้านพร้อมกับกอดมัชชู อีกแค่ 2 เดือนมัชชูจะอายุ 3 ขวบและออกมาสวนคนเดียวได้

(ขว้างหินทุกวันวันละ 1 ชั่วโมงแทบจะไม่ได้อะไรตอบแทนเลย กว่าจะขึ้นเลเวลถัดไปใช้เวลามากกว่า 5 ปีด้วย ไหนจะมีมัชชูด้วยน่าจะได้เวลาเลิกทำแล้วมั้ง)

แล้วก็เริ่มคิดว่ามีอะไรที่พอจะทำพร้อมกับมัชชูได้บ้าง พร้อมกับทำการป้อนมันฝรั่งบดให้กิน

“อเลน วันนี้ก็สนุกมากเลย!! เหมือนแข็งแกร่งขึ้นเลย?”

“ก็นะ”

(ถึงจะยังเทียบไม่ติดก็ตาม นะ น่าเจ็บใจยอดนักดาบเนี่ยแข็งแกร่งจริงๆ!”

การเล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินตอนบ่ายจบลง คุเรนะยังคงวิ่งกลับบ้านตัวเองเหมือนเดิม 3 ปีไม่เปลี่ยน มีบางครั้งที่ได้รับอนุญาตให้พักที่บ้านของอเลนได้อยู่

ตอนนี้อเลนสามารถเก็บการ์ดได้ถึง 30 ใบ เลยทำการเพิ่มการ์ดจนถึง 30 ใบ พอคิดถึงการตรวจสอบและเพิ่มพลังเวทแล้ว พลังโจมตีถือว่าเพิ่มพอตัวอยู่

・สัตว์ F 11 ใบ

・แมลง F 2 ใบ

・นก F 2 ใบ

・พืช F 15 ใบ

จากพรคุ้มครองทำให้พลังโจมตีเพิ่มเป็น 55 คุเรนะที่เล่นติ๊ต่างเป็นอัศวินกับอเลนมาตลอด 3 ปีรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลง

อนึ่ง หลังจากที่ทำการตรวจสอบระดับ F เสร็จ จะทำการเพิ่มสกิลของเสริมความแข็งแกร่งเป็นหลัก โดยจะเสริมความแข็งแกร่งการ์ดทั้งหมดของตัวเอง เพื่อที่จะทำให้สกิลเสริมความแข็งแกร่งจากเลเวล 1 เป็นเลเวล 3 ได้โดยเร็ว ทำให้ผสมหรือสร้างแทบจะไม่ขึ้นเลย

(อีกนิดเดียวสกิลเสริมความแข็งแกร่งก็จะเลเวล 2 แล้ว พรุ่งนี้น่าจะขึ้นอยู่)

รู้สึกดีใจมากกับพืช F ที่ทำให้ได้รับค่าประสบการณ์เพิ่มมากขึ้นอย่างนี้

“อืม คนคนนั้นช้าจังเลยนะเนี่ย”

ในขณะที่อเลนช่วยเตรียมอาหารเย็นก็ได้ยินเทเรเซียที่อยู่ข้างๆพึมพำออกมา กลับมาช้าจริงด้วย โรดันบอกว่าจะไปล่าใกล้ๆนี้อยู่ ถ้าเป็นวันที่ออกล่าตามปกติบางครั้งก็กลับมาช่วงเวลานี้อยู่

“อืม ป๊ะป๋ะ ช้าจังเลยนะครับ”

ถึงจะเตรียมอาหารไว้มากมายเพื่อรอฉลองที่ล่าเหยื่อกลับมาได้ แต่ไม่กลับมาสักที เนื่องจากมัชชูรอไม่ไหวแล้ว วันนี้ก็เลยกินกันไปก่อน

ก๊อง

1ก็อง

2ก็อง

แล้วเวลาก็ผ่านไปอีก 1 ชั่วโมง จนได้ยินเสียงระฆังบอกเวลา 6 โมงเย็น

“ยังอีกเหรอเนี่ย”

รู้สึกไม่สบายใจ เพราะมัชูหลับไปแล้วทำให้เทเรเซียกลับมาที่ห้องนั่งเล่น

“อเลน ลูกไม่ต้องรอก็ได้นะ มีบ้างที่ป๊ะป๋ะไปล่าแล้วกลับมาช้าอยู่”

“แต่วันนี้บอกว่าจะกลับมาเร็วนี่ครับ”

“นั่นสินะ อเลนเป็นเด็กที่คิดถึงป๊ะป๋ะนะเนี่ย”

ถูกลูบศีรษะ

และผ่านไปอีก 2 ชั่วโมงจนข้างนอกมืดสนิท

“อ๊ะ กลับมาแล้วสินะ”

ได้ยินเสียงมาจากข้างนอก เทเรเซียเลยมองออกไปข้างนอกจากตรงห้องพื้นดิน ซึ่งอเลนเองก็มองด้วย

ท่ามกลางโลกที่มืดมิดเห็นจุดแสงไฟ น่าจะเป็นคบเพลิง ถึงจะได้ยินเสียงแต่มันค่อนข้างไกลเลยเห็นแสงไฟค่อนข้างเล็ก

(พ่อกลับมาช้าจัง แต่อย่างน้อยก็กลับมาอย่างปลอดภัย)

แสงไฟเข้ามาใกล้ขึ้น

และกลายเป็นแสงไฟ 2 ดวง

(เอ๊ะ? ไม่ใช่คนเดียวเหรอ?)

แสงไฟกลายเป็น 3 ดวง 4 ดวง และค่อยๆเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ แสงไฟที่ตอนแรกคิดว่ามีแค่ 1 ดวง กลายเป็น 4 ดวง 5 ดวง แล้วก็เกิน 10 ดวงขึ้นไป

ได้ยินเสียงตะโกน รู้สึกว้าวุ่นใจอย่างไรไม่รู้ พอหันไปดูข้างๆ เทเรเซียก็เป็นเช่นเดียวกัน

พอมาถึงตรงนั้นก็ได้ยินเสียงของเกลด้า

“โรดัน! ถึงบ้านแล้ว!! กลับมาถึงแล้ว!!!”

เทเรเซียตอบสนองต่อเสียงตะโกนของเกลด้า เลยวิ่งไปหาแสงไฟโดยไม่รู้ตัวอเลนเองก็ด้วย

เทเรเซียหยุดลง และเห็นสิ่งที่ไม่อยากจะเชื่อ จนร่างกายสั่นไหว

“เอ๊ะ? ป๊ะป๋ะ?”

ตรงนั้นมีชายหลายคนแบกสิ่งที่เหมือนเปลหามซึ่งขนโรดันอยู่ แสงจากคบเพลิงสาดส่องไปยังโรดัน เนื้อผ้าป่านที่ขาดวิ่นตอนนี้มีเลือดจำนวนมากที่กลายเป็นสีดำเกาะติดแน่น