บทที่ 149 ผมชอบน้องสาว
หลังจากที่ทราบว่าเจียงหยุนเอ๋อฟื้นแล้ว หลันเยว่เฉินก็รีบเดินเข้ามา
อย่างไรเสียก็เป็นภรรยาของลี่จุนถิงเพื่อนสนิทมานานหลายปีของเขา ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ควรที่จะดูแลให้ดี
“ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้างครับ?”
พอเดินมาถึงหน้าเตียง หลันเยว่เฉินก็มองเจียงหยุนเอ๋อที่ฟื้นแล้วพร้อมกับเอ่ยถามด้วยเสียเบา
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้าเบาๆ แต่ก็ยังไม่มีแรงที่จะพูดอะไรมาก
แต่พอคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวิลล่า เธอก็ยังคงรู้สึกหวาดผวาอยู่
ถ้าซู่จี้งยี้มาไม่ทันล่ะก็ เกรงว่าตอนนี้ตอนเองก็คงจะ…
พอนึกถึงเหตุการณ์เหล่านั้น เจียงหยุนเอ๋อก็อดตัวสั่นขึ้นมาไม่ได้
ปฏิกิริยาการตอบสนองทุกอย่างของเจียงหยุนเอ๋อล้วนอยู่ในสายตาของหลันเยว่เฉิน จนทำให้เขาอดขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้
ดูแล้ว…เหตุการณ์นี้คงจะทำร้ายเธออย่างมาก
“คุณหนูเจียง ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว คุณไม่ต้องกลัวแล้วนะครับ” หลันเยว่เฉินพูดปลอบใจเธอเบาๆ
“อืม…”เจียงหยุนเอ๋อตอบรับเสียงเบา
หลังจากที่อารมณ์ของเจียงหยุนเอ๋อคงที่แล้ว หลันเยว่เฉินถึงได้เอ่ยปากสอบถามอีกครั้ง: “คุณหนูเจียง ถ้าสะดวกล่ะก็ ตอนนี้พวกเราลองตรวจกันดูอีกสักรอบไหม ดูว่าร่างกายของคุณยังมีอะไรผิดปกติอีกบ้าง ดีไหม? ”
“ค่ะ” เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
หลังจากที่ทำการตรวจอย่างง่ายเสร็จ หลันเยว่เฉินก็บอกกับเจียงหยุนเอ๋อว่าตอนนี้เธอไม่เป็นอะไรมากแล้ว
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้าอย่างมึนงงเล็กน้อย แล้วจู่ๆ เธอก็นึกถึงลูกในท้องขึ้นมา จึงรีบถาม: “ใช่สิ ลูกในท้องของฉัน…”
“เด็กปลอดภัยดีครับ” หลันเยว่เฉินตอบ
เจียงหยุนเอ๋อจึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ก็ได้ยินหลันเยว่เฉินพูดต่อว่า: “แต่…”
จู่ๆ ก็ได้ยินแบบนี้ เจียงหยุนเอ๋อก็เริ่มรู้สึกเครียดขึ้นมา แล้วกระชับผ้าห่มแน่นด้วยความกลัว: “แต่อะไรคะ?”
พอเห็นเธอมีท่าทางที่เครียดแบบนี้ หลันเยว่เฉินก็รู้เลยว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ จึงยิ้มเบาๆ และพูดว่า: “คุณหนูเจียงไม่ต้องเครียดขนาดนั้นก็ได้ ขอแค่หลังจากนี้คุณพักผ่อนให้เพียงพอ เด็กคนนี้ก็จะคลอดออกมาอย่างปลอดภัย”
“ค่ะ…ขอบคุณค่ะคุณหมอ” เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้าเบาๆ
“หลังจากที่ผ่านเรื่องราวนี้มา มันคงยากที่จะหลีกเลี่ยงความกลัว คุณควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อนนะครับ” หลันเยว่เฉินยังเตือนอีกว่า “หลังจากนี้ต้องบำรุงร่างกายให้ดี ไม่อย่างนั้นเด็กคนนี้คงจะรอดยากแล้ว”
พอเจียงหยุนเอ๋อฟังจบก็พยักหน้าติดๆ กัน
“จริงด้วย ถวนจื่อล่ะ?” เจียงหยุนเอ๋อมองไปรอบๆ ทันที เมื่อไม่เห็นร่างของถวนจื่อ จึงทำให้เธออดเป็นกังวลไม่ได้
คนรับใช้ที่อยู่ข้างๆ รีบเดินเข้ามา ชี้ไปที่ห้องข้างๆ และพูดว่า: “คุณนายน้อย คุณไม่ต้องเป็นกังวลไปนะคะ คุณชายน้อยนอนหลับอยู่ที่ห้องข้างๆ ค่ะ”
เจียงหยุนเอ๋อก็โล่งใจและถอนหายใจในที่สุด
“ตอนนี้คุณพักผ่อนเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่ได้รับให้ดีก็พอ แล้วพยายามดื่มของบำรุงร่างกายเยอะๆ ก็คงจะทำให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้น” หลันเยว่เฉินย้ำอีกครั้ง
จู่ๆ คนรับใช้ก็ตีหน้าผากของตัวเองเบาๆ และพูดว่า: “คุณนายน้อย ตอนที่ฉันเพิ่งมาได้เตรียมน้ำซุปไก่ให้คุณด้วย จะรีบนำไปอุ่นเดี๋ยวนี้ค่ะ”
ผ่านไปไม่น้ำ คนรับใช้ก็เดินเข้ามาพร้อมซุปไก่
หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อดื่มเสร็จก็รู้สึกอบอุ่นและสบายขึ้นไม่น้อย
พอเห็นว่าใบหน้าของเธอค่อยๆ เป็นสีแดงระเรื่อ หลันเยว่เฉินก็โล่งใจแล้วเหมือนกัน
บอกตามตรง เขาเองก็ยังรู้สึกกลัวเล็กน้อย เพราะถ้าไม่ดูแลเจียงหยุนเอ๋อให้ดี หลังจากที่ลี่จุนถิงกลับมาแล้วอาจจะมาคิดบัญชีกับตนเองก็ได้
เมื่อคิดได้ดังนี้ หลันเยว่เฉินก็อดส่ายหัวอย่างจนปัญญาไม่ได้
เขากับลี่จุนถิงรู้จักกันมานานขนาดนี้ เคยเห็นลี่จุนถิงมีท่าทางใส่ใจผู้หญิงขนาดนี้ที่ไหนกัน?
แต่เพียง ในเมื่อลี่จุนถิงมีคนที่ตนเองรักแล้ว เขาก็ควรที่จะยินดีในฐานะเพื่อน
“เอาล่ะ คุณนอนพักต่อเถอะ จากนี้ไปพยายามเอนตัวนอนให้มากที่สุด ตอนนี้ร่างกายยังต้องการการพักผ่อนเป็นอย่างมาก จนกว่าร่างกายจะฟื้นฟูได้สักระดับแล้วถึงจะเดินได้มากขึ้น” หลันเยว่เฉินยังสั่งกำชับก่อนที่จะออกไป
เจียงหยุนเอ๋อพยักหน้า แล้วเอ่ยขอบคุณหลันเยว่เฉินอีกครั้ง: “ขอบคุณจริงๆ ค่ะ คุณหมอ”
หลังจากที่หลันเยว่เฉินออกไป เจียงหยุนเอ๋อที่นอนอยู่บนเตียงเฉยๆ ก็รู้สึกเบื่อเล็กน้อย
เธออดหาวขึ้นมาไม่ได้ จากนั้นก็สะลึมสะลือแล้วนอนหลับไป
คืนนี้ เจียงหยุนเอ๋อนอนหลับไม่ค่อยสนิทนัก เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ตั้งแต่ต้นจนจบยังคงวนเวียนอยู่ในหัวเธอไม่ไปไหน
“อย่า…อย่าทำร้ายลูกฉัน…”
เจียงหยุนเอ๋อยังคงพึมพำเสียงต่ำอยู่ในความฝัน
ในตอนที่ตื่นขึ้นมา ก็เป็นเช้าวันรุ่งขึ้นของอีกวันเสียแล้ว
ในตอนที่ลืมตาขึ้นมา เจียงหยุนเอ๋อก็เห็นถวนจื่อนอนฟุบอยู่ข้างๆ เธอพอดี เขาเฝ้ามองตนเองด้วยความกระวนกระวายใจ
“หม่ามี้ คุณฟื้นแล้ว!” พอเห็นเจียงหยุนเอ๋อลืมตา ถวนจื่อก็ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น
“อืม ถวนจื่อ เมื่อวานลูกไม่ได้รับบาดเจ็บใช่ไหม?” เจียงหยุนเอ๋อกุมมือถวนจื่ออย่างเป็นกังวล แล้วตรวจดูอย่างละเอียด
ถวนจื่อยิ้มแล้วส่ายหน้า แล้วถามเจียงหยุนเอ๋อด้วยความเป็นห่วง: “หม่ามี้ ผมไม่เป็นอะไรครับ เมื่อวานหม่ามี้เลือดออกเยอะมาก ผมทั้งกลัวแล้วก็เป็นห่วงมาก โชคดีที่หม่ามี้ปลอดภัย”
พูดจบ ถวนจื่อก็ถูไถ่หัวไปมากับแขนของเจียงหยุนเอ๋อ
เจียงหยุนเอ๋อยกมือขึ้นลูบผมของถวนจื่อ จากนั้นมุมปากก็ยิ้มออกมาอย่างชื่นใจ
ถึงแม้ว่าถวนจื่อจะบอกว่าตนเองไม่เป็นอะไร แต่เจียงหยุนเอ๋อก็ยังเห็นรอยบาดแผลบนตัวเขาอย่างชัดเจนแล้วอดรู้สึกปวดใจขึ้นมาไม่ได้
“ถวนจื่อ ลูกเจ็บไหม?” เจียงหยุนเอ๋อลูบใบหน้าของถวนจื่อเบาๆ แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
พอถวนจื่อเห็นเข้าก็รีบส่ายหัว: “หม่ามี้ ผมไม่เจ็บจริงๆ ครับ!”
เจียงหยุนเอ๋อดึงถวนจื่อเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของตนเองและกระซิบเบาๆ: “ถวนจื่อ ครั้งนี้หม่ามี้ดูแลลูกไม่ดีเอง ขอโทษนะ…”
“เปล่าเลย ถวนจื่อดูแลหม่ามี้ไม่ดีเอง! หม่ามี้ จากนี้ไปถวนจื่อยังพยายามเข้มแข็ง จะไม่ยอมให้หม่ามี้ต้องได้รับบาดเจ็บอีก!” ถวนจื่อเงยหน้าพูดด้วยความแน่วแน่
เจียงหยุนเอ๋อริมฝีปากสั่น ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้ง
ถวนจื่อมองเธออยู่นาน แล้วจู่ๆ ก็ถามขึ้นมาว่า: “หม่ามี้ ในท้องของหม่ามี้มี baby แล้วใช่ไหมครับ?”
พอได้ยิน เจียงหยุนเอ๋อก็อดตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้
เธอยังคิดไม่ออกว่าควรจะบอกถวนจื่อว่าอย่างไรดี เพราะกลัวว่าเขาจะไม่ดีใจ
แต่ว่า…เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ดูเหมือนว่าคงจะปิดบังต่อไปไม่ได้แล้ว
เจียงหยุนเอ๋อเลยพยักหน้าเบาๆ แล้วถามอย่างเป็นกังวลว่า: “ถวนจื่อไม่ชอบเหรอ?”
“ไม่มีทาง” ถวนจื่อกระพริบดวงตาคู่โตแล้วมองเจียงหยุนเอ๋อด้วยความคาดหวัง “ผมชอบมาก! ยิ่งมีน้องสาวตัวเล็กๆ ยิ่งดี! ผมจะต้องดูแลเธอให้ดีแน่นอน”
ในที่สุดเจียงหยุนเอ๋อก็ยิ้มออกมา เมื่อเห็นว่าถวนจื่อไม่ได้แสดงอาการไม่พอใจออกมาแม้แต่นิดเดียว
ถวนจื่อรู้ความขนาดนี้ ดูเหมือนว่า…ก่อนหน้านี้คงเป็นเธอที่คิดมากไปเอง