“เฟิงหานชวน คุณให้อภัยฉันเถอะนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ฉันไม่ได้……”
เฉินฮวนฮวนโหยไห้อย่างหนัก เธอไม่ได้ตั้งใจจะนำกล่องใส่อัฐิเข้ามายังบ้านตระกูลเฟิง แต่เป็นเพราะว่าเธอไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ
ในสายตาของเธอนั้นเห็นเฟิงหานชวนจับเธอไว้ แสดงว่าต้องลงโทษเธอแน่ๆ
“ขึ้นรถ” เฟิงหานชวนจับมือของเธอไว้ ลากเธอไปข้างหน้า
เฉินฮวนฮวนพยายามขัดขืน แต่ว่าพละกำลังของผู้ชายเยอะจริงๆ พื้นรองเท้าของเธอขูดกับพื้นเกิดเป็นเสียง เป็นเสียงที่ดังมาก
เธอไม่รู้ว่าหลังจากที่ตัวเองถูกลากกลับไปแล้วจะต้องเจอกับอะไรบ้าง กล่องใส่อัฐิของคุณยายจะถูกคนบ้านตระกูลเฟิงจัดการหรือเปล่า เรื่องอย่างนี้แค่คิดเธอก็ไม่กล้าที่จะคิด
ดังนั้น ภายใต้อารมณ์ที่ว้าวุ่นของเฉินฮวนฮวน เธอก้มหน้าลงแล้วกัดลงไปบนมือของผู้ชายอย่างไม่ใยดี
“ซรือ”
เฟิงหานชวนรู้สึกว่าบนมือเจ็บขึ้นมาทีหนึ่ง แล้วสูบอากาศเย็นเข้าไปเฮือกหนึ่ง จึงปล่อยมืออย่างไม่ได้ตั้งใจ
เห็นว่าได้โอกาส เฉินฮวนฮวนจึงรีบจับกระเป๋าเดินทางแล้ววิ่งไปทางตรงกันข้าม เธอวิ่งไปอย่างกับว่าจะบินได้อย่างนั้น และเหมือนจะวิ่งสุดกำลังที่มีด้วย
ในหัวของเฟิงหานชวนเป็นภาพของผู้หญิงที่หายไปเร็วอย่างควันบุหรี่ เขาจ้องมองไปยังรอยฟันที่อยู่บนมือ เห็นรอยเลือดช้ำออกมาเล็กน้อย ผสมกับน้ำลาย
เขาขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ
ตอนเแรกคิดจะไม่สนใจผู้หญิงบ้าคนนี้แล้ว แต่พอคิดถึงสิ่งที่ตัวเองทำผิดพลาดไป เขาจึงเข้าไปในรถ แล้วขับรถไปตามเฉินฮวนฮวน
เฉินฮวนฮวนเดินมาจนถึงทางม้าลายใหญ่ เห็นข้างหลังไม่มีคนตามมา เธอรู้สึกว่าเหนื่อยมาก รีบเดินไปยังที่รอรถบัส แล้วนั่งลงไปยังม้านั่งสาธารณะ
เธอหายใจหอบด้วยความเหนื่อยล้า ทั้งตัวเต็มไปด้วยเหงื่อ
เธอมองออกไปไกลด้วยความสับสน แล้วก็มองไปยังบอร์ดเลขที่ ที่ติดอยู่ที่รอรถบัส รู้สึกมึนงงไปชั่วขณะหนึ่ง
โลกที่กว้างใหญ่ไพศาลอย่างนี้ แต่เธอกลับไม่รู้จะไปที่ไหน
สองวันนี้ เธอผ่านเรื่องมามากมาย คุณยายสุดที่รักของเธอได้จากเธอไป ความบริสุทธิ์ของตัวเองก็เสียไปอีก บวกกับของที่ระลึกของแม่ก็ถูกเธอทำหายไป
มันเป็นสร้อยคอทองเหลืองเส้นหนึ่ง ตอนแรกเธอคิดจะขายมัน ดูว่าพอจะเป็นค่ารักษาให้คุณยายได้ไหม แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงคุณยายก็ไม่ยอมให้ขาย
เมื่อคืนตอนอาบน้ำ เธอถึงรู้ว่าสร้อยคอเส้นนั้นได้หายไปแล้ว เธอไม่รู้ว่าทำหายที่ไหน อาจจะทำตกในห้องเก็บของ
หรือว่า อาจจะทำตกในห้องพี่เลี้ยงของบ้านตระกูลเฉิน
เอ่อใช่นี่ เธอต้องกลับไปยังบ้านตระกูลเฉินแล้วล่ะ
เธอจะกลับไปหรอ
ดึกๆดื่นๆอย่างนี้ พวกเฉินเจี้ยนหมินต้องกลับมาแล้วแน่ๆ
เธอได้ตัดสินใจยอมถอยไปก้าวใหญ่ โดยการแต่งงานกับคนบ้านตระกูลเฟิง แต่พ่อที่แสนดีของเธอคนนั้น กลับเล่นเกมหายตัวกับเธออย่างนั้น
กำลังคิดจะเปิดโทรศัพท์ ค้นหาว่าจะมีรถบัสสายไหนไหมที่จะผ่านบ้านตระกูลเฉิน ทันใดนั้น ก็เห็นรถsuv ที่คุ้นเคยคันหนึ่งมาจอดอยู่ข้างทางที่รอรถบัส
เสียงโทรศัพท์ดัง “ปัง” ตกลงไปบนพื้น
เฉินฮวนฮวนทำตาโตอึ้ง เธอวิ่งมาไกลขนาดนี้แล้ว ทำไมผู้ชายคนนี้ยังตามมาไม่หยุดอีก
“คุณต้องการอะไรกันแน่—–“เธอร้องตะคอกใส่รถsuvที่อยู่ข้างหน้าคันนั้น
ประตูรถทางฝั่งของคนขับถูกเปิดออก ขาที่ยาวของผู้ชายก้าวออกมาจากรถ ตามด้วยตัวที่สูงใหญ่ เดินเข้ามาทางเธอ
มือทั้งสองข้างของเฉินฮวนฮวนเย็นเฉียบ นิ้วมือสั่นไม่หยุด ผู้ชายข้างหน้าเหมือนกับเป็นยมบาลเจ้าแห่งความตาย ทำให้เธอกลัวถึงสุดขีด
“เธอคิดจะเก็บกล่องใส่อัฐิของคุณยายไว้ในกระเป๋าเดินทางตลอดหรือไง”เฟิงหานชวนยกคิ้วขึ้น แล้วชี้ไปยังกระเป๋าเดินทางที่อยู่ข้างๆ
เบ้าตาของเฉินฮวนฮวนแดงขึ้นมาอีกครั้ง จมูกก็แดงเหมือนจะร้องไห้ สายตาคู่นั้นยิ่งบวมอย่างไม่ต้องพูดถึงเลย
“ฉันไม่มีเงินจะฝังคุณยาย ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเอากล่องใส่อัฐิเข้าไปในบ้านตระกูลเฟิงจริงๆ……”เฉินฮวนฮวนนั่งลงไปกับพื้น ใช้มือทั้งสองข้างปิดหน้าไว้ ร้องไห้จนพูดไม่เป็นคำ
ก้มหน้ามองผู้หญิงที่นั่งอยู่บนพื้น ในใจของเฟิงหานชวนกลับมีแต่ความรู้สึกหงุดหงิด อ้าปากถามว่า “แล้วมีสุสานที่อยากจะฝังหรือยัง”