ตอนที่ 181 การลงโทษโลลิ

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

181 การลงโทษผู้กระทำผิดหลัก

 

เหตุการณ์ราชาตกหลุม

 

ชิ่อของรายการตรงไปตรงมา「รายการพิเศษ! พวกเราเล่นแกล้งราชา!」แต่ด้วยชื่อที่สามัญที่เชื่อมโยงถึงเหตุการณ์ได้ง่ายเพียงแค่เห็นชื่อเช่นนี้ทำให้ได้รับความนิยมไปทั่วอย่างอย่างง่ายดาย

ม๊า แน่นอนว่ากลายเป็นเรื่องอื้อฉาวเช่นกัน

 

การตอบสนองนั้นยอดเยี่ยมมาก

หากพูดไปแล้ว ในแง่ของการทำให้คลุ่มคลั่งชั่วขณะ อาจจะเหนือยิ่งกว่างานแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับอาณาจักรเลยก็ได้

 

พวกเราซึ่งมีส่วนร่วมในรายการ ตลอดจนสถานีกึ่งออกอากาศ ทุกคนถูกสั่งให้บอกทุกสิ่งทุกอย่าง

แม้ว่าจะมีการถามคำถามมากมายก่อนที่รายการจะออกอากาศ แต่ก็อย่างที่คาดไว้ ฉันสามารถได้ยินคำถามอีกมากมายหลังจากที่รายการออกอากาศ

 

ความประทัยใจของรายการ

ปฏิกิริยาของราชา

ทำไมคุณถึงทำอย่างงั้น

 

ก็มีทั้งคนที่บอกว่าน่าสนใจ แน่นอนว่าก็ต้องมีเสียงคัดค้าน และต่อต้าน

 

นั่นไร้มารยาทจริง ๆ

นี่คือการเหยียดหยามอำนาจของขุนนาง

นี่คือการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

 

ฉันเตรียมใจยอมรัยสถานการณ์ไว้ก่อนที่จะเริ่มถ่ายทำไว้แล้วด้วยซ้ำ ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจยืดอกยอมรับทั้งหมด

ฉันแน่ใจว่าไม่ใช่แค่ฉันเท่านั้น แต่ทุกคนที่เกี่ยวข้องต่างก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายกัน

 

เป็นเวลาหลายเดือนแล้วนับตั้งแต่งานแข่งขันศิลปะการต่อสู้ ดังนั้นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจึงลดลงไปมากแล้ว

ด้วยเหตุนั้น เหตุการณ์ราชาตกหลุมจึงถูกรับชมโดยประชาชนของอาร์ตัวร์เป็นหลัก

 

แต่ความสำคัญก็คือความสำคัญ ก่อนอื่นเลยจึงไม่มีการออกอากาศซ้ำ

มีการประกาศเรื่องนี้ล่วงหน้าหลายครั้งในรายการ

 

หากจะมีการออกอากาศซ้ำ อย่างน้อยก็คงอีกหลายปีข้างหน้า บางทีอาจจะเกิดขึ้นหลังจากที่ราชาองค์ปัจจุบัน ฮูเรนซ์・อาร์ตัวร์ สละราชบัลลังก์แล้วเท่านั้น

 

――และตามที่ราชาได้ร้องขอไว้ พวกเราเข้าสู่ฤดูร้อนได้โดยสามารถรักษาอัตราการเข้าถึงเมจิกวิชั่นให้คงอยู่ที่สามในสิบส่วนไว้ได้

 

เหตุการณ์ราชาตกหลุม

นั่นมีผลกระทบอย่างมากต่อสังคมของชนชั้นปกครองทั้งราชวงศ์และขุนนาง ไม่ว่าจะในทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลง

 

มองไม่เห็นแต่ก็ได้ยินแน่นอน

เสียงของระบบปัจจุบันที่เริ่มบิดเบี้ยว เสียงของวัฒนธรรมในปัจจุบันที่เริ่มแตกร้าว เสียงของรากฐานของชนชั้นสูงในปัจจุบันที่เริ่มพังทลายลง

 

เสียงของอาณาจักรอาร์ตัวร์ที่แตกร้าว

 

ยุคสมัยกำลังจะเปลี่ยนแปลง

ขนบธรรมเนียมประเพณี มรดกดั้งเดิม ธรรมเนียมสายเลือดและชาติกำเนิดเก่าแก่ ที่กำลังจะจบลง ยุคสมัยใหม่ที่กำลังจะหลุดพ้นจากเปลือกของยุคสมัยเก่า สิ่งเหล่านั้นกำลังเกิดขึ้น

 

มีวี่แววว่าสิ่งนี้เดิมทียังไงก็ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว

เห็นได้ชัดว่ายุคสมัยกำลังเปลี่ยนแปลงไป เมื่อตำแหน่งของขุนนางเริ่มอ่อนแอลง และผู้คนเริ่มคิดว่าชนชั้นไม่สำคัญ

 

และ

จุดเปลี่ยนที่อาจเรียกได้ว่าเป็นจุดแตกหักก็คือ เหตุการณ์ราชาตกหลุม

 

ไม่ว่าจะดีขึ้นหรือแย่ลง อาร์ตัวร์ก็กำลังเข้าสู่วัฒนธรรมที่แตกต่าง ――แม้ว่าจะยังมีระบบกษัตริย์อยู่ แต่ประชาชนก็มีสิทธิ์ที่จะพูด ช่างเป็นพัฒนาการที่แปลกประหลาด

 

ประเทศที่ทุกคนสามารถพูดและสื่อสารได้อย่างอิสระผ่านเมจิกวิชั่น

 

――ในภายหลัง ถึงจะไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นผู้ที่เริ่มเรียก「อาณาจักรแห่งระบบสารสนเทศอันหลากแง่มุม」แต่นั่นก็ยังเป็นเรื่องอีกยาวไกล

 

 

 

ฉันรู้สึกว่าพวกเราต้องเตรียมการต้อนรับจุดเปลี่ยนของยุคสมัยที่กำลังจะมาถึงในยุคของพวกเรา

ทว่า น่าเสียดายที่ฉันไม่สามารถอยู่เห็นความเปลี่ยนแปลงด้วยตาตัวเองได้

 

 

 

วันหนึ่งในฤดูร้อนก่อนที่ที่จะถึงวันหยุดฤดูร้อน

 

“คุณหนูค่ะ…….”

 

อืม

 

“ไปแล้วนะ”

 

ฉันพยักหน้าให้กับริโนกิสที่ดูกังวลมากเป็นพิเศษ แล้วหันกลับไปมองข้างหน้า

ที่ตรงข้ามฝั่งถนนสายหลัก มีพ่อแม่ของฉันยืนอยู่โดยมีปราสาทหลวงอยู่เบื้องหลัง

 

คุณพ่อ ออร์นิท・ลิสตัน

คุณแม่ เอริว・ลิสตัน

 

แม้ว่าพวกท่านจะยุ่งและเหน็ดเหนื่อยกับการทำงานอยู่ตลอดเวลา แต่ที่บ้านพวกท่านก็สงบและเอาใจใส่ลูก ๆ เป็นอย่างดี เป็นพ่อแม่ที่ใจดีและไม่ค่อยคัดค้านสิ่งที่ลูก ๆ อยากทำ

 

นี่เป็นเรื่องปกติสำหรับเนีย・ลิสตัน แต่ตอนนี้ก็กลายเป็นครอบครัวที่ใกล้ชิดของ・ฉันเช่นกัน

 

“ขอโทษที่ทำให้ต้องคอยนะคะ”

 

ทั้งสองคนที่จ้องมองตรงมาที่ฉัน มีสีหน้าที่ค่อนข้างอ่อนโยนเล็กน้อย

 

ในช่วงภาคเรียนแรกของชั้นประถมศึกษาปีที่สี่ แน่นอนว่าเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ความขัดแย้ง และแรงเสียดทานจากรอบด้าน

ฉันสามารถทำได้เพียงขอบคุณพวกท่านเท่านั้นที่เคยไม่แสดงออกสิ่งนั้นต่อหน้าฉันแม้แต่น้อย ไม่แม้แต่จะดุ

 

 

“ลูกสบายดีใช่ไหม?”

 

“ค่ะ ไม่เป็นไรแม้แต่น้อยเลย รีบไปกันเถอะนะคะ”

 

จริงนะ ฉันสบายดีจริง ๆ ฉันเป็นห่วงพ่อแม่มากกว่า ไม่จำเป็นต้องจริงจังขนาดนั้นก็ได้ ไม่ได้มีอะไรสำคัญเลย

 

――นับตั้งแต่ที่งานแข่งขันศิลปะการต่อสู้ครั้งก่อนจบลง ฉันก็รู้สึกเหมือนว่าทุกสิ่งที่ฉันต้องทำในประเทศนี้หมดสิ้นลงแล้ว

 

ไม่ใช่ว่าฉันกำลังมุ่งเป้าไปที่สิ่งใด แน่นอนว่าฉันไม่เคยคิดว่าจะกลายเป็นแบบนี้ด้วยซ้ำ

ยังไงก็ตาม ไม่ว่าสถานการณ์รอบนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ฉันก็อยากจะคิดแง่บวกเอาไว้

 

 

 

พวกเราสามคนขึ้นไปถึงที่ปราสาทโดยแทบไม่พูดอะไรกัน

พวกเราได้รับการนำทางโดยผู้บัญชาการอัศวินโวลคัสซึ่งกำลังรออยู่ที่โถงทางเดินให้ไปที่ห้องทำงานทันที ที่นี่คือห้องที่ฉันได้มาพบราชาก่อนหน้านี้

 

” ――นั่งลง”

 

ราชาซึ่งนั่งรออยู่บนโซฟา สั่งให้พวกเรานั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้ามกับเขา โดยไม่เอ่ยคำทักทาย หรือคำพูดใด ๆ

 

และจากนั้นราชาก็มองตรงมาที่ฉันซึ่งนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างพ่อกับแม่ ด้วยดวงตาสีเขียวซึ่งมีจุดสีแดง

 

“เจ้าทำลงไปโดยรู้ผลที่จะตามมาสินะ? ก็ดีนี่?”

 

ฉันไม่ได้พูดอะไรโง่ ๆ ออกไป

 

“เพคะ”

 

สิ่งที่กำลังจะได้รับมอบต่อจากนี้คือ บทลงโทษ

 

เมื่อสองเดือนที่แล้ว「รายการพิเศษ! พวกเราเล่นแกล้งราชา!」……หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าเหตุการณ์ราชาตกหลุม นี่คือการมอบบทลงโทษสำหรับเรื่องนั้น

 

ถึงจะเห็นได้ชัดว่าพระราชดำรัสของราชาในช่วงท้ายของรายการจะเป็นการประกาศให้โลกรู้ว่าทุกอย่างจบลงแล้วที่ตรงนี้

 

ในถ้อยคำของช่วงเวลานั้นทั้ง「เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม」และ「ฝากชื่อไว้ในประวัติศาสตร์」เป็นการพูดอย่างผู้ดีที่มีความหมายจริง ๆ ว่า「นี่เป็นการกระทำของเด็ก ดังนั้นข้าจะยกโทษให้ แต่ข้าก็จะจำไว้ใส่บัญชีดำ」

พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นคำเตือนที่เข้มงวด

 

อาจจะดูเหมือนเป็นคำพูดธรรมดา ๆ แต่ก็เป็นคำพูดที่สามารถใช้ปกป้องพวกเด็ก ๆ ที่เข้าร่วมเอาไว้ได้

 

แต่ยังไงก็ตาม มีเหล่าขุนนางระดับสูงที่คิดว่าแค่สิ่งนั้นเพียงอย่างเดียวมันไม่เพียงพอ

พวกเขามีอำนาจอยู่ได้ภายใต้ระบอบกษัตริย์ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะสามารถยอมรับให้มีรายการที่ทำการสั่นคลอนอำนาจของราชา การปกครองของราชาเกิดขึ้นมาได้

 

ฉันหมายถึงในทางกลับกันแล้ว หากเราไม่หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด จะเกิดอะไรขึ้นกับความภักดี ซึ่งเรื่องนี้ก็สามารถกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้เช่นกัน ฉันแน่ใจว่ามีคนจำนวนมากที่ชอบ แต่ก็ไม่ต้องการให้มีการนำเสนอออกไป

 

ทว่า เนื่องจากราชาได้ตรัสคำว่า「ยกโทษให้」ออกมาด้วยองค์เองผ่านทางเมจิกวิชั่นไปแล้ว ที่ทำให้ประชาชนจำนวนมากได้กลายเป็นพยาน ดังนั้นจึงไม่สามารถลงโทษอย่างเป็นทางการได้

 

นี่คือจุดที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างราชากับขุนนาง

ราชาจึงต้องแก้ไขปัญหาโดยเร็ว ก่อนที่พวกขุนนางที่ไม่ใส่ใจเรื่องวิธีการทำความสะอาดจะเข้ามายุ่ง

 

――หัวใจสำคัญในเรื่องนนี้คือการลงโทษผู้กระทำความผิดหลัก

 

พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ เป็นการลงโทษสำหรับฉัน

 

หลังจากที่รายการนั่นได้ออกอากาศ ฉันก็ฝากข้อความถึงราชาผ่านทางฮิลเดโทร่าว่า 「ฉันเตรียมใจพร้อมแล้ว」ทั้งยังยื่นข้อเสนอการลงโทษที่อาจจะสร้างการประนีประนอมขึ้นมาได้

 

หากเกิดความซับซ้อนที่แปลกประหลาด และการลงโทษถูกลงไปที่คนอื่นที่ไม่ใช่ฉัน มันคงทำให้ฉันรู้สึกผิดไม่ใช่น้อย

ตัวอย่างเช่น ฮิลเดโทร่าที่ยังเป็นเด็กจะมีการลงโทษแบบไหน จะแบบเบาสำหรับชนชั้นสูง หรือแบบรุนแรงสำหรับสามัญชน อะไรทำนองนั้น

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันแนะนำว่าควรมีเพียงแค่ฉันเท่านั้นที่จะต้องได้รับการลงโทษ

เพราะว่าฉันจะไม่เป็นไรจริง ๆ

 

“เช่นนั้น เนีย・ลิสตัน ข้าขอตัดสินเนรเทศเจ้าออกจากอาณาจักรอาร์ตัวร์”

 

เมื่อมีการประกาศออกมาในที่สุด พ่อแม่ของฉันก็ถึงกับอ้าปากค้าง

 

การเนรเทศเนีย・ลิสตัน

 

ม๊า ฉันคิดว่านั่นเป็นการประนีประนอมที่สมเหตุสมผลที่สุดแล้ว เรื่องนี้ฉันก็สบายดี เพราะสิ่งที่ฉันสามารถทำได้ในประเทศนี้ดูเหมือนจะมีเหลือไม่มากอีกแล้ว เมจิกวิชั่นก็มีอัตราการเข้าถึงที่สามในสิบแล้ว การขายไปยังต่างประเทศก็ดูเหมือนจะเป็นไปได้ด้วยดีเช่นกัน แล้วก็น่าจะเป็นแบบนี้ต่อไปด้วย ถึงจะไม่มีฉันอยู่ก็ไม่เป็นไรหรอก

                                                     

“ฝ่าบาท……ไม่มีสิ่งใดที่ทรงทำได้แล้วหรือพะยะค่ะ?”

 

และคุณพ่อพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเครียดพยายามขัดค้านคำพูดของราชา คุณแม่จับมือของฉันไว้แน่นราวกับจะไม่ยอมปล่อยฉันไป และจ้องมองไปที่ราชา เป็นใบหน้าในแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน

 

เป็นปฏิกิริยาที่ไม่คาดคิดเลยทีเดียว

ฉันบอกพวกท่านล่วงหน้าแล้วว่า ฉันเตรียมใจไว้แล้ว ฉันนึกว่าพวกท่านจะยอมรับแล้ว……

 

“สิ่งที่ข้าอยากทำมีเป็นภูเขาเลากา ・แต่เรื่องที่เด็กบ้าลูกของพวกเจ้าทำเป็นเรื่องที่ใหญ่เกินไปนะสิ”

 

หลังจากที่โดนทั้งสองท่านจับจอง ราชาก็สูดลมหายใจเข้าลึก

 

“ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความนิยมในเมจิกวิชั่นเพิ่มขึ้นอย่างมาก และแม้แต่คำสั่งที่ไม่สมเหตุสมผลของข้าก็ยังได้รับการตอบสนอง ทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่ก็ยังไม่สามารถทำได้ได้อย่างใจเย็น เป็นเด็กบ้าที่อายุยังไม่ถึงสิบขวบด้วยซ้ำ

 

แต่ทว่าผลลัพธ์ก็คือ ได้รับการลงโทษ ถูกขับไล่ออกจากประเทศ แย่มากเสียจริง ให้ตายเถอะ ข้าเองยังคิดเลยว่านี่มันเลวร้ายที่สุด”

 

เพราะเหตุนั้น ราชาจึงทรงหัวเราะ

 

“พวกเจ้าคิดว่าข้าจะโง่ไล่คนที่มีความสามารถมากมายเพียงนี้ออกจากประเทศไปจริง ๆ งั้นเรอะ?”

 

เอ๊ะ? หมายความว่ายังไง?

 

“เนีย・ลิสตัน ข้าไม่มีความตั้งใจที่จะปล่อยให้เจ้าหลุดมือออกไปอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าเจ้าจะถูกให้ออกจากอาร์ตัวร์ไปเป็นการชั่วคราวก็ตาม แต่ข้าก็ไม่อนุญาตให้เจ้ากลายไปเป็นพลเมืองของประเทศอื่นหรอกนะ”

 

……เอ๊ะ? ก็แล้วมันหมายความว่ายังไงกันแน่?

 

“ความหมายของข้าก็คือ เจ้าจงไปสร้างผลงานที่สามารถพาเจ้ากลับมาได้โดยที่ไม่มีใครสามารถพ่นอะไรออกมาได้ จงเผยแพร่เมจิกวิชั่นไปยังประเทศต่าง ๆ จงกลายเป็นก้าวสำคัญของฮิเอโร่ ถ้าเป็นเจ้าล่ะก็ สามหรือสี่ปีก็น่าจะเป็นเวลาที่เหลือเฟือแล้ว

 

――หรืออยากให้ข้าพูดให้เข้าใจง่ายกว่านี้ไหม? ที่ข้ากำลังพูดอยู่ก็คือ ข้ากำลังบอกให้เจ้าจงไปอาละวาดที่ประเทศต่าง ๆ ไงล่ะ”

 

 

 

การเนรเทศของฉันมีการประกาศอย่างเป็นทางการในรูปแบบของการไปเรียนต่อต่างประเทศ

มีเพียงไม่กี่คนที่รู้สถานการณ์ที่แท้จริง แล้วอย่างที่ราชาบอกไว้ ดูเหมือนว่าเขาเองก็ได้สร้างหนทางให้「พร้อมที่จะกลับมาในสักวัน」มาตั้งแต่ต้นแล้ว

 

จุดหมายปลายทางคือ อาณาจักรทหารจักรกรมาเวเลีย

ว่ากันว่าเป็นประเทศปิดที่กำลังมีสงครามอยู่ แต่ไม่มีใครรู้รายละเอียดจริง ๆ

 

ฉันจะออกจากสถาบันอาร์ตัวร์เมื่อสิ้นสุดภาคเรียนนี้ และจะไปเข้าโรงเรียนทหารจักรกลมาเวเลีย