180 การเล่นตลกที่จะคงอยู่ในประวัติศาสตร์ของอาร์ตัวร์

 

“มีปัญหาสามประการ

 

เมื่อไหร่

ที่ไหน

จะวางยังไง

 

หลุมพรางมีกว้าง ๆ อยู่สองประเภท

 

ประเภทแรก เป็นหลุมพรางที่ติดตั้งอย่างง่าย ๆ

เป็นประเภทที่ไม่เจาะจงว่าเป้าหมายจะเป็นอะไร

 

อีกประเภทหนึ่งคือ หลุมพรางแบบที่มีการล่อลวง

ที่รู้จักกันดีโดยทั่วไปในชื่อ กับดักหนู ก็เหมือนกับการตกปลาที่ต้องใช้เหยื่อล่อ หรือการไล่ต้อนให้เข้าสู่หลุมพราง

 

เมื่อพิจารณาจากเป้าหมายคือ ราชา 『ที่ไหน』และ『เมื่อไหร่』จึงมีข้อจำกัดอย่างช่วยไม่ได้

 

ประการแรก ขอบเขตการการเคลื่อนไหวของราชา โดยพื้นฐานแล้วจะจำกัดอยู่ภายในปราสาทหลวงเท่านั้น

เนื่องจากต้องเตรียมหลุมเพื่อตกลงไป จึงเป็นไปไม่ได้บนถนนที่ปูด้วยหิน เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว วิธีที่เหมาะสมที่สุดคือการเตรียมหลุมพรางในสถานที่อย่างลานบ้านหรือสวน

 

หากราชาไม่มีนิสัยชอบออกไปที่ลานบ้านหรือสวนในชีวิตประจำวัน ก็จำเป็นต้องมีสิ่งที่จะนำทางราชาไปที่หลุมพราง

ดังนั้นฉันขอแนะนำให้ใช้หลุมพรางประเภทกับดักหนูเพื่อกำจัดข้อผิดพลาดออกไป

 

โชคดีที่เรามีธิดาของราชาอยู่เคียงข้าง ทั้งการเตรียมการและการล่อเหยื่อจึงไม่ใช่เรื่องยากเลย ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ตกหลุมพราง

 

ทว่า ก็ยังมีปัญหา นั่นก็คือสายตาที่สอดส่องทั้งจากสายตาของราชาเอง หรือจากคนรอบข้าง

 

ก่อนอื่น ความร่วมมือจากผู้คนรอบตัว……ของผู้คนที่ทำงานในปราสาทมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เริ่มต้นจากการซื้อตัวพวกเขาก่อน

ถ้ายุ่งยากเกินไป การสนับสนุนที่ดีที่สุดก็คือจัดการให้พวกเขาอยู่ให้ห่างจากพื้นที่ขณะถ่ายทำให้มากที่สุด ทำเช่นนั้นก็อาจได้ผลดีที่สุดแล้ว

 

แต่สิ่งที่ต้องระวังไว้มากที่สุดก็คือ ดวงตาที่คอยสอดส่องของราชาเอง

ว่ากันว่ายิ่งเป็นบุคคลที่อยู่สูงมากเท่าใด ความสามารถของเขาหรือเธอในการสังเกตและตรวจจับความไม่เป็นธรรมชาติ หรือความไมน่าใว้วางใจในสถานการณ์รอบตัวก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น หากเราเคลื่อนไหวอย่างรีบเร่ง ราชาจะต้องตื่นตัวเป็นอย่างมากแน่นอน

 

ฉันคิดว่าเราจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่ละเอียดถี่ถ้วน”

 

 

 

นักผจญภันริโนะ ผู้ชนะงานแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับอาณาจักรที่ได้หายตัวไปตามที่ประกาศไว้ ได้ปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง

ริโนกิส หรือที่รู้จักกันในชื่อริโนะกำลังบรรยาสรุปให้กับทีมงานถ่ายทำที่จะต้องเป็นคนจัดเตรียมเรื่องนี้ เธออธิบายได้อย่างเป็นระบบจนดูเหมือนครูจริง ๆ

 

――ที่กำลังออกอากาศอยู่บนเมจิกวิชั่นตอนนี้ก็คือ การแนะนำกลยุทธ์「จะทำให้ราชาตกหลุมได้ยังไง」และครอบคลุมรายละเอียดทั้งหมดที่นำไปสู่การปฏิบัติการ

 

โดยจะออกอากาศสองคืนติดต่อกัน และวันนี้จะครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่บทนำจนถึงการเริ่มต้น

การที่จู่ ๆ ก็นักผจญภัยริโนะผู้โด่งดังถูกโยนเข้ามา ทันใดนั้นก็กลายเป็นประเด็นร้อนและดึงดูดความสนใจในเมืองหลวง และสร้างความคาดหวังของวันพรุ่งนี้ขึ้นมา

 

การร่วงหล่นของราชาอันน่าตกตะลึงจะได้เวลาออกอากาศ

 

“น่าอายจังค่ะ”

 

ริโนกิสที่กำลังดูอยู่ด้วยกันพูดขึ้น ดูเหมือนว่าเธอจะยังไม่ชินกับการมองเห็นตัวเองผ่านแผ่นคริสตัลเวทมนตร์

 

อนึ่ง เรเลียเรดซึงปกติมักจะดูด้วยกันอยู่เสมอ ไม่มีกำหนดมาสักพัก

พ่อของเธอ วิกซอน・ซิลเวอร์ซึ่งไม่รู้อะไรเกี่ยวกับรายการนี้เลย รีบเร่งมาถึงเมืองหลวงอย่างหน้าตาตื่น

และสั่งให้เธอรีบไปอธิบายทุกอย่างกับเขา

ตอนนี้พวกเขาก็น่าจะกำลังดูรายการนี้ไปพร้อม ๆ กับการพบปะและอธิบายเรื่องต่าง ๆ

 

นอกจานี้ ฉันได้ส่งจดหมายไปถึงพ่อแม่ล่วงหน้าเพื่อแจ้งให้ทราบถึงสถานการณ์ไว้ก่อนแล้ว พวกท่านรีบส่งจดหมายกลับมาหลายฉบับว่า「จะไม่เป็นไรจริง ๆ ใช่ไหม?」และฉันก็ตอบกลับไปซ้ำ ๆ ว่า「ไม่เป็นไรหรอกค่ะ」

 

“เหรอ? ฉันคิดว่าเธอดูดีออก”

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ริโนกิสมีอารมณ์ขันแบบแปลก ๆ ในตอนที่กำลังพูดถึงเรื่องการทำให้ราชาตกหลุมด้วยสีหน้าจริงจังและสงบนิ่งอย่างยิ่ง

น่าสนใจมากจนอยากจะพูดเลยว่า ทำไมถึงต้องพูดด้วยสีหน้าจริงจังขนาดนั้นกัน

 

จริง ๆ นะทำไมต้องทำหน้ายังงั้นด้วย

แม้แต่ในตอนที่กำลังฝีกฝนอยู่ ดวงตาของเธอก็ยังไม่เคยเห็นจริงจังขนาดนั้นมาก่อนเลย จริงจังสุด ๆ ไปเลยไม่ใช่รึไงน่ะ สีหน้ายังกับคนที่อยากจะทำทุกอย่างเพื่อโยนราชาเข้าสู่หลุมพรางอย่างจริงจังเลย ทำไมกัน ทำไมถึงไปจริงจังขนาดนั้นกัน

 

และก็เป็นเรื่องน่าสนใจเช่นกันที่ได้เห็นทีมงานรุ่นเยาว์ ฮิลเดโทร่า และเรเลียเรด รวมทั้งฉันกำลังฟังสิ่งนี้ด้วยสีหน้าจริงจัง

เป็นใบหน้าของคนที่ต้องการให้ราชาตกลงไปในหลุมอย่างไม่สนชีวิต

ฉันอดคิดไม่ได้ว่าควรจะแกล้งกันด้วยสีหน้าแบบนี้ หรือควรจะทำด้วยสีหน้าที่ดูเบากว่านี้สักหน่อย

 

ทว่า หน้าตาดูดี

ใบหน้าของทุกคน จริงจังเป็นประกาย

 

ถึงแม้จะเป็นใบหน้าที่คิดจะโยนพระราชาลงหลุมก็ตาม

 

――ม๊า ถึงอย่างงั้นก็เถอะ

 

นักผจญภัยริโนะ หรือที่รู้จักในชื่อริโนกิส ถูกตั้งไว้ว่าถูกเรียกตัวมาผ่านทางฮิลเดโทร่า

เราต้องการความคิดเห็นจากมุมมองของนักผจญภัย ทว่าแทนที่จะฉายเพียง「ภาพราชาที่ตกลงไปในหลุม」อาจเป็นความคิดที่ดีกว่าหากจะใส่คำอธิบายไปด้วยว่าหลุมพรางคืออะไร 

 

หากคุณพูดเพียงแค่ว่า 「ฉันจะโยนคนลงไปในหลุม」โดยไม่มีการอธิบายก็จะกลายเป็นเพียงความรุนแรงรูปแบบหนึ่ง รสชาติที่ได้ก็ไม่ต่างอะไรจาก「การบังคับจับคนโยนลงหลุมที่ขัดต่อวัตถุประสงค์หลัก」

 

พวกเราตั้งใจใส่คำอธิบาย เพื่อเน้นย้ำความรู้สึกซุกซนของเด็กให้มากที่สุด

 

อันที่จริง การบรรยายเรื่องหลุมพรางนี้ก็เป็นสิ่งที่ฉันให้ความสำคัญอย่างจริงจัง

เนื่องจากพวกเราไม่คุ้นเคยกับหลุมพรางเลย จึงต้องเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้เกี่ยวกับหลุมพรางเหล่านั้นก่อน

 

และด้วยรากฐานของความคิดเห็นและแนวปฏิบัติจากริโนกิส กลยุทธ์ก็ถูกเขียนขึ้นมา

 

 

 

――ทำไมจึงมีแผนการเช่นนี้?

 

――「เรากำลังจะไปศึกษาต่อในชั้นมัธยมต้นในปีหน้า ในชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น เราจะได้รับการปฎิบัติที่แตกต่างกันมาก เราไม่สามารถบอกว่าตัวเองเป็นเพียงแค่เด็กได้อีกต่อไป เราจะค่อย ๆ เข้าร่วมกับสังคมของผู้ใหญ่ทีล่ะน้อย

 

ก่อนที่จะเป็นเช่นนั้น เราจึงอยากที่จะทำอะไรแบบเด็ก ๆ หากเป็นไปได้ก็อยากจะทำร่วมกับเหล่าสหายสนิท」

 

――นั้นคือการทำให้ราชาตกลงหลุมพรางเช่นนั้นหรือเพคะ?

 

――「ใช่ค่ะ เป็นเรื่องที่ไม่มีผู้ใดทำมาก่อน คิดว่าคงจะไม่แม้แต่กล้าคิดที่จะทำด้วยซ้ำ แต่เพราะเป็นเช่นนั้นเราจึงมั่นใจว่าไม่ว่าใครก็ต่างต้องการที่จะเห็นอย่างแน่นอน ผลลัพธ์ทั้งหมดเกิดขึ้นมาจากการไล่เรียงความคิดเช่นนั้นค่ะ」

 

――มิใช่ว่าองค์ราชาคือเสร็จพ่อของพระองค์หรือเพคะ พระองค์ไม่รู้สึกลำบากพระทัยบ้างหรือเพคะ กับการกระทำบางอย่างที่อาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียพระเกียรติเช่นนี้?

 

――「เราไม่รู้จักท่านพ่อ พระองค์แสดงแต่เพียงใบหน้าในฐานะของราชาเพียงเท่านั้น ดังนั้นเราเองก็เช่นกัน เราไม่สามารถแสดงใบหน้าเหมือนเด็ก ๆ ต่อหน้าของพระองค์ได้

 

นี่อาจเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่เราจะสามารถทำตัวเหมือนเด็กได้ ได้รับการเอาใจใส่ ตามใจ และเล่นด้วยในฐานะของพ่อลูก ความรู้สึกนั้นอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงตัดสินใจเล่นเรื่องตลกใยครั้งนี้」

 

 

“นั่นโกหกสิเน๊”

 

“รู้หรอกค่ะ”

 

จากห้องประชุมที่จัดบรรยายของริโนกิส เปลี่ยนสถานที่มาเป็นลานของปราสาทหลวง

 

แม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิที่มีอากาศเย็น แต่ก็ยังเต็มไปด้วยแปลงดอกไม้สวยงาม สนามหญ้า ต้นไม้เตี้ย ๆ ที่ตัดแต่งอย่างระมัดระวัง เต็มไปด้วยความเขียวขจีที่สบายตา

เห็นว่าได้ชัดว่าได้รับการดูแลเป็นอย่างดี สมกับเป็นสวนของปราสาทหลวง

 

ฮิลเดโทร่ากำลังมองไปรอบ ๆ ลานกว้าง พยายามตัดสินใจว่าจะวางหลุมพรางไว้ที่ไหนดี และกำลังตอบคำถามจากผู้สัมภาษณ์ที่มองไม่เห็น

 

ฮิลเดโทร่ากำลังพูดบางอย่างที่ดูเหมือนจะสมเหตุสมผล แต่ก็เป็นเรื่องโกหก

ไม่สิ บางทีเธออาจจะรู้สึกแบบนั้นนิดหน่อยจริง ๆ

 

ทว่า ในความเป็นจริงแล้ว ฉันเห็นเธอขุดหลุมอย่างมีความสุข คิดวางแผน และดำเนินโปรเจ็กต์ด้วยความยินดีอย่างยิ่ง บางทีก็ดูสนุกเกินไปล่ะ

 

 

 

แผนง่ายมาก

เพราะไม่ต้องการผลลัพธ์ที่ซับซ้อนแต่แรก พวกเราจึงวางกรอบไว้ในลักษณะที่เข้าใจง่าย

 

พวกเราเริ่มจากใช้การร้องขอ「ต้องการถ่ายทำลานกว้างอันงดงามของปราสาทหลวง」ซึ่งเป็นคำร้องขอโดยสถานีกึ่งออกอากาศของสถาบัน เมื่อฮิลเดโทร่านำเรื่องนี้ไปพูดกับราชา ก็ได้รับตราประทับอนุมัติพร้อมคำเตือนว่า「อย่าให้เห็นภายในปราสาทหรือบุคคลสำคัญ ตราบที่เป็นเพียงที่ลานกว้าง ทำทุกอย่างได้ตามที่เจ้าต้องการ」

 

เป็นคำตอบที่สมกับที่หวังไว้

ราชาเป็นพวกที่จะไม่คิดอะไรมาก ตราบใดที่ไม่เข้าไปรบกวนหน้าที่ในฐานะราชา หรือทำให้เกิดผลเสียใด ๆ

นอกจากนี้ยังมีคนคอยตรวจสอบภาพที่ถ่ายอยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะมีเจตนาแบบไหนก็ตาม หากมีสิ่งใดที่ดูไม่ดีออกมาก็จะถูกยึดเก็บไปอยู่ดี

 

ดังนั้นแล้ว ในจังหวะเดียวกันฮิลเดโทร่าก็พูดว่า

 

 

――「เราอยากให้ทุกท่านได้เห็นพระพักตร์ของพระราชา แม้จะเป็นเพียงชั่วพริบตาเดียวก็ตาม เนียบอกว่าจะต้องกลายเป็นเรื่องสร้างเสียงฮือฮาได้อย่างแน่นอน」

 

 

เพราะฉันคิดว่าราชาจะไม่ปฏิเสธสิ่งที่ฉันจะพูด

ท้ายที่สุดแล้ว ต้นกำเนิดของโครงการนี้ก็คือตัวราชาเอง

 

แต่ก็อาจจะไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร เมื่อราชาเคยโชว์ใบหน้าของเขาผ่านเมจิกวิชั่นในงานแข่งขันศิลปะการต่อสู้ไปแล้ว ตอนนี้เขาอาจไม่ต่อต้านการปรากฎตัวบนภาพสะท้อนแล้วก็ได้

และอย่างที่คิด เขาตอบกลับมาพร้อมเดาะลิ้นว่า「แค่เล็กน้อยเท่านั้น」ผลลัพธ์นี้ก็เป็นไปตามคาดเช่นกัน

 

ด้วยวิธีนี้ พวกเราจึงได้รับอาณาเขตของ「ลานกว้างของปราสาทหลวง」

 

 

 

การกันพวกข้ารับใช้ออกไปนั้นเป็นเรื่องง่าย

 

 

เพียงแค่บอกอย่างตรงไปตรงมาว่า ――「พวกเราจะถ่ายทำภาพสะท้อนขององค์ราชาที่นี่ ฉะนั้นจงอย่าได้เข้าใกล้ เพราะหากมีผู้อื่นเข้ามาในภาพสะท้อน เราก็จะไม่สามารถนำไปออกอากาศได้」

 

คนเพียงผู้เดียวที่เราได้ร้องขอความช่วยเหลือคือ คนสวนเก่าแก่ ที่เราบอกเขาตามตรงว่า「อยากจะขุดหลุมเล็ก ๆ ที่นี่」

 

พวกเราไม่ต้องการที่จะทำลายลานที่งดงามแห่งนี้ที่เขาดูแลด้วยความเอาใจใส่ ดังนั้นจึงวางแผนลงมือทำภายใต้สายตาของคนสวน และภายในขอบเขตที่สามารถซ่อมแซมได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นทีมงานถ่ายทำทั้งกำลังช่วยกันขุดหลุม เขาก็พูดว่า 「ดูเหมือนกับหลุมพรางเลยน๊า」อย่างสบายใจ คำพูดตรงเป้า

 

ตามที่ริโนกิสสอน พวกเราได้ปูฟางนุ่ม ๆ หนา ๆ ไว้ที่ก้นหลุม และคลุมด้วยหญ้าที่คนสวนทิ้งเอาไว้ให้ หลังจากนั้นก็ทำให้แข็งตัวด้วยเวทมนตร์ และก็เสร็จสมบูรณ์

 

“เช่นนั้น มาปกปิดกันเถอะ ถ้าทำตรงนี่และทางนั้น……..เป็นไงครับ?”

 

ด้วยความช่วยเหลือของคนสวนอีกครั้งงาน หลุมที่ขุดก็ได้รับการกลบเกลื่อนอย่างเชี่ยวชาญจนมองไม่เห็นร่องรอยใด ๆ แม้แต่จากมุมมองของคนที่มองอยู่โดยรอบก็ไม่สามารถบอกได้แล้วอยู่ตรงไหนกันแน่ จากนั้นคนสวนก็หัวเราะ และพูดว่า「นี่ดูเหมือนเป็นกับดักจริง ๆ เลยนะครับ」

เมื่อมาถึงจุดนี้ ฉันอดสงสัยไม่ได้ว่า「ผู้ชายคนนี้จริง ๆ แล้วรู้อยู่แล้วสินะว่าพวกเรากำลังทำอะไรอยู่กันแน่?」 แต่ก็ไม่มีใครสนใจที่จะหาคำตอบ

 

ทั้งหมดที่สามารถพูดได้ก็คือ เขารู้ว่าราชาจะถูกถ่ายทำที่นี่ และเพียงแค่จินตนาการแค่เล็กน้อยว่าราชาจะหกหลุมพรางนี้ เขาก็ให้ความร่วมมืออย่างสุดความสามารถ เขาเป็นคนที่ชั่วร้ายอย่างแน่นอน

 

ม๊า เป็นคนแก่ที่ร้ายใช่ย่อย

 

ด้วยการปรากฏตัวของผู้ร่วมงานที่ไม่คาดคิด กับดักที่สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าที่คาดไว้ก็ถูกสร้างขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเราต้องระมัดระวังเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บแม้ว่าจะตกลงไปก็ตาม พวกเราไม่ตั้งใจที่จะให้เกิดการบาดเจ็บขึ้นมา ไม่อย่างงั้นก็จะเกินขอบเขตของการเล่นตลด

 

นอกจากนี้

 

“เน๊ เราขอลองตกสักครั้งก่อนได้ไหม?”

 

“โอก้าซามะ……”

 

ใช่แล้ว แม่ของฮิลเดโทร่า หรือก็คือ ราชินี

เธออยากจะดูว่าจะสร้างขึ้นมากันยังไง ดังนั้นจึงมาอยู่ด้วยตั้งแต่แรก

 

ราชินีอยากรู้เกี่ยวกับหลุมพรางมาก จึงได้รับแจ้งให้ทราบถึงแผนการทั้งหมดเพื่อให้พวกเราสามารถมาขอความช่วยเหลือได้ในกรณีฉุกเฉินได้ด้วย

 

“เอ๊”

 

“โอก้าซาม๊า”

 

เธอลองด้วยร่างกายตัวเอง เพื่อยืนยันหลักการของหลุมพรางและความปลอดภัย

 

“――จะดู ต้องดูโดยตรง จังหวะที่คน ๆ นั้นตกหลุมต้องไม่พลาดเด็ดขาด”

 

“――โอ โอก้าซามะ………”

 

และ เฉพาะในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น……ราชินีจะเป็นผู้ขัดขวางในกรณีที่พระราชาโกรธจัด และประกาศลงโทษในทันที จู่ ๆ ก็ได้ผู้สมรู้ร่วมคิดอย่างเต็มใจที่มีฟางคลุมผมและเสื้อผ้า

 

ด้วยความร่วมมือของคนสวนเฒ่าผู้ชั่วร้ายและราชินีผู้ร่าเริง แผนจึงสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

 

ที่เหลือตอนนี้ก็คือ รอการตัดสินในพรุ่งนี้――

 

 

 

ในวันนั้นสิ่งเดียวที่กลัวคือสภาพอากาศที่อาจมีฝนตก แต่อากาศก็แจ่มใส

หลังจากเสร็จสิ้นการตรวจสอบขั้นสุดท้ายทั้งหมดแล้ว ที่เหลือก็แค่รอเวลาที่เหมาะสม

 

พวกเราถ่ายทำภาพสะท้อนลานกว้าง จากนั้นจัดโต๊ะและเพลิดเพลินกับชาและขนมหวานในสวนที่สวยงาม

 

แล้วพระราชาและราชินีก็มาถึง

ชายในชุดเกราะที่ติดตามมาด้านหลัง น่าจะเป็นอัศวินคุ้มกัน ดูจากอายุและบรรยากาศแล้ว เขาอาจจะเป็นอัศวินที่มีตำแหน่งค่อนข้างสูง ม๊า ความแข็งแกร่งค่อนข้างเฉย ๆ ――เขาคือผู้บัญชาการอัศวินที่จะทำหน้าที่สอบปากคำฉันในภายหลัง

 

ทุกคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะยืนขึ้น ส่วนผู้กำกับ และทีมกล้องที่กำลังถ่ายทำอยู่ก็ยืนตัวตรง ――ทุกคนอยู่ในสถานะเตรียมพร้อม

 

――ประการแรก กล้องจะเปลี่ยนหินเวทมนตร์ที่ใช้สำหรับถ่ายทำใหม่ทันที เพื่อช่วยลดทั้งข้อผิดพลาดเบื้องต้น และข้อผิดพลาดร้ายแรง

 

――ผู้กำกับเคลื่อนไหวอย่างสบาย ๆ เปิดสวิตช์ของกล้องที่ฝังอยู่ในพื้นด้วยเท้า

 

――เด็กผู้หญิงฝ่ายเมคอัพคนหนึ่งที่กำลังดูดอกไม้อยู่ไกลออกไป แอบเปิดกล้องที่ซ่อนอยู่ในฟุ่มไม้เตี้ย ๆ ก่อนวิ่งมาหาฉัน

 

――กล้องที่ถ่ายจากระยะไกลยังคงเดิม เนื่องจากใช้หินวิเศษสำหรับการถ่ายทำระยะยาวที่ได้มาด้วยงบประมาณอันน้อยนิด

 

พวกเราจัดพื้นที่อย่างไม่เป็นระเบียบแต่มีการคำนวณไว้แล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าแนวการถ่ายของกล้องจะไม่ถูกบดบัง ที่เหลือคือรอราชาและราชินี

 

กล้องกำลังหมุน

พวกเรายืมตัวคนจากทั้งทีมหลักและทีมสำรองจากสถานีกึ่งออกอากาศ และหลายทีมจากสถานีออกอากาศของเมืองหลวง ทุกอย่างเตรียมการพร้อมแล้ว

 

“โย่ว”

 

ราชายกมือข้างหนึ่งทักทาย ขณะเดินเข้ามาหาพวกเรา

ปกติฉันจะเห็นแต่หน้าบูดบึ้งของราชา แต่อาจเป็นเพราะวันนี้มีเด็กคนอื่น ๆ มาช่วยกันทำถ่ายทำด้วย เขาจึงค่อนข้างเป็นมิตร

 

“การถ่ายทำเป็นไปด้วยดีไ ――”

 

 

สวบ

 

 

 

 

 

 

หายไป

ราชาหายไปแล้ว

 

พื้นดินก็หายไป ตกไปแล้ว หายไปแล้ว

 

――สุดยอด ราชาตกลงไปแล้ว สุดยอด

 

ฉันแน่ใจว่าตัวเองได้เห็นสิ่งมหัศจรรย์มามากมายในชีวิตที่แล้ว แต่นี่จะเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะสร้างอิมแพคที่สั่นสะท้านจิตใจของฉันแน่นอน

 

ราชาตกลงไปแล้ว

ตกลงไปจริง ๆ

ฉันมาที่นี่เพื่อจุดประสงค์นั้น นั่นคือความตั้งใจของฉัน

 

ขาดการระวังตัวขนาดนี้เลยเหรอ ร่วงหล่นง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ

 

ฉันไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับตัวเองในจังหวะนั้นยังไงดี

 

ทว่าพวกเรา แม้จะคาดหวังและจินตนาการไว้แล้วก็ตาม ถึงอย่างงั้นก็ยังรู้สึกตกตะลึงอยู่ดี เหมือนได้เผชิญหน้ากับความจริงที่ไม่น่าเชื่อ ถูกความตกตะลึงเข้าครอบงำ

 

” ――ฟุๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆ!!!”

 

และ ด้วยเสียงหัวเราะของราชินี ทุกคนก็กลับมามีสติสัมปชัญญะ

 

“ฝะ ฝ่าบาท! ทรงปลอดภัยหรือไม่พะยะค่ะ!? นี่มันอะไรกัน!?”

 

เหล่าอัศวินคุ้มกันรีบไปที่หลุมพราง และพยายามยื่นมือลงไปในหลุดให้ราชา ――กล้องในพุ่มไม้เตี้ยควรจะถ่ายภาพตอนที่ราชาตกหายลับไปได้ จะเป็นปัญหาหากมองไม่เห็น

 

จากนั้น เมื่อได้ยินเสียงของอัศวินคนนั้น ทหาร อัศวิน และข้ารับใช้หลายคนที่อยู่ใกล้ ๆ ก็รีบวิ่งเข้ามา

 

ในขณะเดียวกัน ราชาก็ขึ้นมาจากหลุมได้ด้วยความช่วยเหลือจากอัศวิน ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยฟาง ――

 

“――……พวกแก! ทำกันได้น๊าาาาาาาา!!”

 

เขาส่งเสียงคำรามด้วยสีหน้าโกรธจัด

 

แล้วพวกเราก็รีบวิ่งหนีไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“พวกแกหยุดเดี๋ยวนี้! หยุด”

 

สวบ

 

 

ราชาตกหลุมอีกครั้ง

 

ใช่แล้ว นี่คือแผนการสองชั้น

 

คิดอยู่แล้วว่าเขาจะต้องไล่ตามฉัน แล้วยังไงฉันก็ต้องโดนจับได้ ดังนั้นฉันจึงได้เตรียมหลุมที่สองเผื่อไว้ เป็นของสำรองในกรณีที่เกิดเหตุไม่คาดคิด

 

ราชาตกลงอย่างสง่างามอีกครั้ง

เป็นการตกแบบที่ทำให้ฉันสงสัยมากว่าคน ๆ หนึ่งจะสามารถตกได้อย่างสง่างามขนาดนี้เลยเหรอ

 

อัศวิน ข้ารับใช้ และทหารต่างตกตะลึง และสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น

 

ถึงกระนั้น มีเพียงราชินีเท่านั้นที่หัวเราะออกมาดัง ๆ

เธอยังคงหัวเราะ แม้ว่าฉันจะถูกจับกุมในฐานะผู้กระทำผิดหลัก แต่ก็ไม่ปรากฎบนกล้อง หรือถูกถ่ายไว้ได้

 

และตอนที่ฉันกำลังก็ถูกพาตัวไปอย่างเงียบ ๆ ฉันก็คิดกับตัวเองว่า 「ราชินีคือผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด」

 

 

 

 

 

 

แต่

 

 

――เป็นเช่นไรเพคะ?

 

――「เป็นยังไงนะรึ ฟังไว้เจ้าเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมทั้งหลาย ฟังไว้พวกเจ้าทุกคน เรื่องนี้จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของอาร์ตัวร์ ชื่อเสียงของพวกเจ้าจะไม่จางหายไปจากอาณาจักรแห่งนี้」

 

 

นั่นไม่ใช่ใบหน้าของราชา แต่เป็นของชายชราที่ถูกเด็ก ๆ แกล้ง

สำหรับฮิลเดโทร่า เขามีใบหน้าของความเป็นพ่อที่หาได้ยากยิ่ง

 

ฉันคิดว่าพระราชาที่ทิ้งถ้อยคำเหล่านั้นไว้ในตอนท้ายของรายการขณะที่กำลังหัวเราะก็เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่เช่นกัน