179 คำให้การ การสอบสวน และการนับถอยหลัง

 

――「เซโนะ」

 

 

เจ้าหญิงที่คุณสามารถพบได้โดยไม่คาดคิด

 

วลีประจำตัวที่เคยโด่งดัง แต่ตอนนี้「เจ้าหญิงนักทำอาหาร」มีชื่อเสียงโด่งดังมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเคยได้กินอาหารที่เธอปรุงหรือไม่ก็ถือว่าเป็นสถานะประเภทหนึ่ง

 

นอกจากนี้เธอยังหลงใหลในการเยี่ยมเยียนและเป็นอาสาสมัคร ――เจ้าหญิงลำดับที่สาม ฮิลเดโทร่า

 

รูปร่างหน้าตาของเธอไม่ใช่เด็กอีกต่อไป แต่กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านไปเป็นผู้ใหญ่

เธออายุเกือบสิบสามปีแล้ว ผู้ที่ได้เฝ้าดูช่วงเวลาการเติบโตจากเด็กสู่ผู้ใหญ่ย่อมมีความทรงจำดี ๆ  มากมาย

 

ฮิลเดโทร่าให้สัญญาณกับเด็กอีกสองคนที่อยู่ข้าง ๆ ให้พูดพร้อมกัน

 

 

――「「เรามีประกาศสำคัญ!」」

 

 

เด็กผมสีแดงที่อยู่ทางซ้ายคือ เรเลียเรด ลูกสาวคนเล็กของขุนนางระดับขั้นที่ห้า วิกซอน・ซิลเวอร์

ดวงตาสีเทาของเธอดูเหมือนจะมีความตั้งใจและจิตวิญญาณที่แข็งแกร่ง เต็มไปด้วยพลังและความมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ

 

 

――「ห้าวันนับจากวันนี้ จะมีการประกาศที่สำคัญมาก」

 

 

จากนั้นที่ทางขวาคือ เด็กผมสีขาวโดดเด่น พูดเสียงค่อย

 

เธอคือ เนีย・ลิสตัน ลูกสาวของ ขุนนางระดับขั้นที่สี่ ออร์นิท・ลิสตัน

เธอเป็นเด็กสาวที่ดูเหมือนผู้ใหญ่ มีดวงตาสีฟ้าใสให้ความรู้สึกสงบที่ไม่ธรรมดาสำหรับเด็ก และมีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ว่า เส้นผมของเธอเปลี่ยนเป็นสีขาวเนื่องจากความเจ็บป่วยในวัยเด็ก

 

 

――「ยังไม่สามารถพูดสิ่งใดมากไปได้ แต่เราจะออกอากาศรายการที่ทุกท่านอยากจะรับชม」

 

 

เรเลียเรด ผู้ที่ควรจะรู้ เนื่องจากออกมาแสดงพร้อมกันสามคน กลับถามเนียว่า 「นั่นเป็นรายการแบบไหน?」 ในลักษณะที่เหมือนแกล้งทำนิดหน่อย

 

 

――「ราชา」

 

――「มากกว่านั้นยังไม่ได้นะคะ」

 

 

ฮิลเดโทร่าทำเป็นดุ ปิดปากพวกเธอ

 

 

――「ดังที่กล่าวไป ประกาศสำคัญในห้าวัน เซโนะ」

 

 

 ――「「ตั้งตารอได้เลยนะค๊า!!」」

 

 

 

 

……อื~ม……เป็นการออกอากาศที่กำหนดไทม์มิ่งได้สุดยอดมาก

 

“เห๊ย นี่เป็นประกาศสำคัญสินะ”

 

เราเฝ้าดูการนับถอยหลังผ่านเมจิกวิชั่นที่พึ่งเริ่มเล่น ระหว่างดู ผู้บัญชาการอัศวินโวลคัสมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่เย็นชา

 

โอ้ยโอ้ย นั่นไม่ใช่ใบหน้าที่ดีสำหรับใช้มองเด็กเลยนา ……ไม่ใช่ใบหน้าที่ใช้มองเด็ก ม๊า ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ

ท้ายที่สุดแล้ว ฉันถูกต้องสงสัยว่าวางแผนลอบปลงพระชนม์ราชา

ม๊า อัศวินสาวที่อยู่ข้างหลังกำลังหัวเราะ ดูเหมือนว่าเธอจะพยายามอย่างหนักแล้วที่จะไม่หัวเราะ

 

จะว่าไปแล้ว วันนี้เป็นวันที่ภาคเรียนที่หนึ่งของสถาบันการศึกษาเริ่มต้นใช่รึเปล่านะ?

 

ถ้าไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้น ฉันก็คงได้เลื่อนชั้นขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่สี่ และคงจะกำลังถ่ายทำภาพสะท้อนแนะนำสถาบันสุดยุ่งวุ่นวายตามปกติ

 

――ปีนี้ฉันจะถูกกักบริเวณในห้องรับแขกของปราสาทหลวงสินะ ม๊า พอมีชีวิตยืนยาวเรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นสักครั้งแหละ

 

“แล้ว? ใครเป็นคนต้นคิดความคิดสำหรับเหตุการณ์เลวร้ายครั้งใหญ่นั่นกัน?”

 

“ความคิดของฮิลเด้ค่ะ

ก่อนหน้านี้ เพื่อให้โปรเจกต์『ทำอาหารกับเจ้าหญิง』ได้รับการอนุญาต เริ่มต้นด้วยการลอบโจมตีขุนนางระดับขั้นที่3 ท่านโฌแรส・ไลม์ซึ่งมีตำแหน่งสำคัญ ในความคิดเห็นของฉันเรื่องแบบนั้นเป็นที่ยอมรับได้

และเราทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า『เรื่องนี้ฟังดูน่าสนใจ』ลองคิดดูสิ ความคิดไปในทิศทางเดียว――”

 

“พอแล้ว พอแล้ว! ――เจ้าอย่าหัวเราะด้วย!”

 

ขณะที่ฉันสารภาพอย่างรื่นไหลไม่ลังเล โวลคัสก็ขึ้นเสียงราวกับจะบอกว่า 「นั่นไม่ใช่สิ่งที่ข้าหมายถึง!」

ในเวลาเดียวกัน อัศวินหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างหลังผู้บัญชาการอัศวิน และทำหน้าที่คอยจับตาดูฉันก็ถูกตะโกนใส่เช่นกัน เธอยังคงหยุดหัวเราะไม่ได้

 

“กำลังจะบอกว่าเจ้าไม่รู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควรงั้นเร๊ออออ! เจ้าเป็นลูกหลานขุนนางถูกไหม!เกิดอะไรขึ้นกับความเคารพและความจงรักภักดีต่อราชวงศ์!?นอกจากนี้ การขายเพื่อนของตัวเองง่าย ๆ ก็ไม่ดีด้วย! ฮิลเดโทร่าซามะไม่ใช่เพื่อนของเจ้ารึไง!?”

 

“แต่ท่านผู้บัญชาการอัศวิน คุณจะตั้งใจฟังและฟังอย่างต่อเนื่องทั้งหมดใช่ไหมล่ะ?”

 

“นี่คือการสอบสวน! เข้าใจบ้างไหม!? เจ้าตอนนี้กำลังถูกสอบสวนโดยผู้บัญชาการอัศวินอยู่!? นั่นเป็นท่าทางของผู้ถูกสอบปากคำรึไง!?”

 

“ท่าทางเป็นปัญหาด้วยหรือค่ะ หากว่าฉันตอบอย่างตรงไปตรงมา? การพูดอย่างตรงไปตรงมาจะไม่ช่วยพวกเราทั้งคู่ประหยัดเวลาเหรอคะ?”

 

“ก็บอกแล้วไงว่าข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น!――หยุดหัวเราะได้แล้ว!”

 

เขาเป็นคนที่งานยุ่งจัง เดี๋ยวก็หันหน้า หันหลัง

 

 

 

――「เหลือเวลาอีกสี่วัน! เป็นประกาศที่สำคัญมาก ดังนั้นกรุณาตั้งตารอได้เลยค่ะ!」

 

 

เรเลียเรดประกาศอย่างมีความสุข งั้นเหรอ เหลือเวลาอีกสี่วัน

 

“สิ่งนี่ เธอวางแผนที่จะออกอากาศจริง ๆ เหรอ?”

 

“การนับถอยหลังนี้ยังดำเนินต่อไปได้ นั่นหมายถึงเราได้รับอนุญาตจากองค์ราชาแล้ว ถ้าอย่างงั้นก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ทำ”

 

คู่สนทนาของฉันซึ่งถูกกักบริเสณอยู่ในห้องพักแขกของปราสาทหลวงในช่วงหกวันที่ผ่านมาคือ อัศวินสาวที่มีหน้าที่ดูแลเป็นการส่วนตัย และจับตามองฉัน

 

ความสงสัยเกี่ยวกับการพยายามลอบปลงพระชนม์ราชายังคงไม่ได้รับการแก้ไข

 

หรือพูดให้ถูกคือ ฉันไม่คิดว่าสถานการณ์นี้จะได้รับการแก้ไขไปสักระยะหนึ่ง ด้วยเหตุผลอื่นนอกเหนือจากความพยายามก่ออาชญากกรรม ส่วนเหตุผลที่อัศวินสาวดูผ่อนคลายมาก ๆ ก็เพราะเธอรู้ดีว่าไม่มีทางที่ว่าเรื่องนี้จะเป็นความพยายามลอบปลงพระชนม์

 

ทว่า ด้วยตำแหน่งราชา และหน้าตาที่ต้องรักษา ฉันไม่คิดว่าจะพ้นผิดได้ง่าย ๆ

แม้แต่ในยุคสมัยเช่นนี้ ที่ความหมายของสังคมชนชั้นลดน้อยลง ก็ยังมีหลายคนที่คิดว่าเป็นความคิดที่ไม่เหมาะสมที่จะล้อเล่นกับราชา

 

ท้ายที่สุดแล้ว แม้ฉันจะคิดว่าราชาเป็นแค่ตาแก่คนหนึ่ง แต่ฉันก็คิดว่าภายในสามัญสำนึกของฉันเองก็บอกว่าการไปล้อเล่นกับราชาไม่ใช่เรื่องดี

 

ยังไงก็ตาม นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันคิดว่าฉันควรทำ

 

แม้ว่าหลาย ๆ คนจะคิดว่า「การล้อเล่นกับราชาเป็นความคิดที่แย่」แต่ภาพสะท้อนนั่นจะมีคุณค่ายิ่งกว่าสิ่งใดที่ไม่สามารถแสดงออกมาเป็นคำพูดหรือเงินได้

 

“――ข้าเอง เปิดประตู”

 

โอ๊ตโตะ วันนี้ท่านผู้บัญชาการอัศวินก็มาเยือนเช่นเคยสินะ

 

เมื่ออัศวินสาวเปิดประตู ชายวัยกลางคนร่างใหญ่ที่ไม่ได้สวมชุดเกราะแต่ได้รับอนุญาตให้พกพาดาบก็เข้ามา

 

“ที่มาสอบสวนรายวัน ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักนะคะ ขอบคุณที่มาในวันนี้เช่นกันค่ะ”

 

“…….อุมุ”

 

ไม่มีความกระตือรือร้นหลงเหลือแล้ว

ฉันเดาว่าอย่างงั้น ใกล้ได้เวลาที่แม้แต่ผู้บัญชาการอัศวินจะเบื่อหน่ายกับเรื่องตลกนี้แล้ว

 

เพราะถึงแม้จะเรียกว่าสอบปากคำ แต่ก็เป็นแค่การถามคำถามเดิม ๆ และได้คำตอบเดิม ๆ ทุกวัน

เพราะเป็นกฎ วันนี้ก็เลยยังต้องทำต่อไป แต่ยังไงก็ไม่มีข้อมูลใหม่อะไรเป็นพิเศษอยู่ดี พวกเราคุยกันทุกเรื่องที่ต้องคุยกันตั้งแต่ในวันแรกไปแล้ว และก็เอาแต่พูดเรื่องเดิมซ้ำ ๆ กันทุกวัน ก็ไม่มีใครเหลือแรงจูงใจที่จะทำต่อไปหรอก

 

อาจมีความสงสัยว่าเรื่องการพยายามลอบปรงพระชนม์ราชาในช่วงแรก แต่ตราบใดที่ยังไม่มีการลงมือสังหารจริง ๆ จะรู้ได้ยังไงว่ามีเจตนาร้ายอยู่จริง ๆ

ฉันเดาว่าเขาต้องการทำให้ประเด็นนั้นชัดเจน

 

แต่ มาถึงตอนนี้แล้ว ฉันแน่ใจว่าเขาเองก็คงคิดว่าจะเป็นไปไม่ได้แล้ว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงกลายเป็นเรื่องตลก

 

 

 

――「เหลือเวลาอีกสามวัน! ทุกท่าน เตรียมพร้อมจิตใจกันหรือยังค๊า!? นี่เป็นประกาศที่สุดยอดมากจริง ๆ!」

 

 

วันนี้เป็นคิคิเนียสินะ ดูเหมือนเธอเริ่มชินกับการถ่ายทำแล้วเหมือนกัน

 

“อุว้า นี่อร่อยจัง ฮิลเดโทร่าซามะทำอาหารเก่งจริง ๆ เลยเน๊”

 

“ดูเหมือนเธอจะฝีกพิเศษหนักสุด ๆ เลยล่ะ”

 

อืม อร่อยอย่างแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น ยังชวนให้คิดถึงอีกด้วย อาจเป็นเพราะเป็นผลงานที่ลอกสูตรมาจากเค้กของร้าน『คุโรยูริ โนะ คาโอริ』ที่เป็นร้านโปรดของฉัน น่าจะเข้ากันกับเหล้านอกก็ดี จะชาดำก็ดี

 

“――นี่ข้าเอง เปิดด้วย”

 

โอะ มาตรงเวลาจังน้า ดูเหมือนว่าก็ยังเป็นผู้บัญชาการอัศวินที่มาในวันนี้เช่นเดิม

 

“เปิดอยู่แล้วค๊า เชิญเลย”

 

อัศวินสาวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะมุมตรงข้ามกับฉัน ดูเหมือนว่าเธอจะลืมหน้าที่ในการเฝ้าจับตาไปแล้ว

 

“โอะ…….โอ้ย นี่เจ้า! เจ้ากำลังทำอะไรอยู่ห๊า!?”

 

ผู้บัญชาการอัศวินเลิกคิ้วขึ้น เมื่อเห็นเธอไม่เพียงแต่ผ่อนคลาย แต่ยังกินเค้กร่วมกับคนที่ต้องเฝ้าจับตาอยู่ด้วย เรียกว่าหลักฐานคาตา

 

“นี่เป็นของขวัญจากฮิลเดโทร่าซามะค่ะ นอกจากนี้ยังมีส่วนของหัวหน้าด้วยนะคะ”

 

“ไม่ใช่แบบนั้นสิโว้ย! ทำไมถึงมากินด้วยกันแบบน๊านนนนน!? งานเฝ้าจับตาล่ะ!? ถ้าเนียลิสตันหนีไปจะทำยังไงห๊า!? ทำไมถึงได้ทำตัวตามสบายแบบเน๊!”

 

“ฉันก็กำลังเฝ้าอยู่นะค๊า อยู่ตรงหน้าเลย”

 

“มันไม่ใช่แบบนั้นเซ๊! ทำหน้าที่ให้สมหน้าที่ซะ! หน้าที่ของเจ้าไม่ใช่การไปนั่งกินเค้กร่วมกับผู้ต้องสงสัยแบบนี้!”

 

“…….ชิ ตาแก่จอมโวยวาย…….”

 

“โอ๊ย ได้ยินนะเฟ้ย! ได้ยินเต็มสองรูหู! หยุดเดาะลิ้นกับหยุดเรียกข้าว่าตาแก่เดี๋ยวนี้เลย!”

 

“แล้วเรื่องที่ชอบมาคุยโว่ข่มอีกฝ่ายที่เป็นเด็กอยู่ทุกวันทุกวันแบบนี้ล่ะคะ! ท่านเองก็ไม่ได้ขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการอัศวินเพื่อทำอะไรแบบนี้ใช่ไหมคะ!? ฉันเองก็ไม่ได้มาเป็นอัศวินเพียงเพื่อมาเฝ้าเด็กที่ถูกกักบริเวณหรอกนะค๊า! นี่มันงานบ้าอะร๊าย!? เป็นบ้ากันไปแล้วหรือไง!”

 

“อยามาพูดว่าบ้าสิเฟ้ย! มันเป็นคำสั่งจากเบื้องบน!! ข้าก็ไม่ได้ทำ เพราะอยากทำสักหน่อย!!”

 

โอ๊ยๆๆๆ เหล่าอัศวิน อย่ามาสู้กันหน้าผู้ต้องสงสัยสิ

 

 

 

――「เหลือเวลาอีกเพียงสองวันเท่านั้น เราจะทำให้ทุกท่านต้องพูดว่า『อยากดู』 โปรดตั้งตารอได้เลยค่ะ」

 

 

วันนี้เป็นโจเซคอตต์ล่ะ ค่อนข้างกระตือรือร้นเลย

 

“ปฏิกิริยาของสาธารณชนต่อเรื่องนี้เป็นยังไงบ้างคะ?”

 

พวกเรายังคงได้รับขนมหวานจากฮิเดโทร่าเช่นเดิม ฉันถามความคิดเห็นจากอัศวินหญิงที่กลายเป็นคู่ดื่มชาด้วย

 

“อื~ม……ฉันก็ไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับส่วนอื่นเท่าไหร่ แต่เพื่อนอัศวินกับพวกทหารต่างก็ดูจะค่อนข้างกังวลกับเรื่องนี้มาก เพราะรู้อะไรไหม บางคนทำเหมือนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข่าวลือก็เลยเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ล่ะนะ

ฉันเองก็ถูกถามเรื่องนี้อยู่บ่อย ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเนียจัง นับถอยหลังพวกนี้คืออะไรกันแน่”

 

อ้า เข้าใจล่ะ

สรุปแล้วก็คือ กลายเป็นประเด็นร้อนไปแล้วนั้นเอง อย่างงั้นก็ไม่มีปัญหา

 

“…….นี่เป็นคำถามส่วนตัวของฉัน แต่ขอถามได้ไหม?”

 

หืม? ส่วนตัว?

 

“อะไรเหรอคะ?”

 

“――ก็เธอคิดที่จะแบกบาปในครั้งนี้ไว้เพียงคนเดียวตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหม? เพราะทั้งฮิลเดโทร่าซามะ ทั้งเรเลียจัง ทั้งเด็กคนอื่น ๆ ที่เข้าร่วมการถ่ายทำครั้งนี้ ยังใช้ชีวิตอยู่ที่สถาบันตามปกติ มีแค่เนียจังคนเดียวที่ต้องมาติดอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เนียจังพอใจแล้วจริงเหรอ?”

 

อะ เรื่องนั้นเองสินะ

 

“นั่นคือสิ่งที่เตรียมใจไว้แต่แรกแล้วค่ะ นี่เป็นวิธีที่จะจำกัดความเสียหายไว้น้อยที่สุด นอกจากนี้ อย่างที่เคยบอกไปแล้วหลายครั้งแล้วว่า นี่เป็นสิ่งที่องค์ราชาขอร้องให้ทำ ดังนั้นนี่จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะสามารถทำได้แล้วค่ะ”

 

“ตั้งแต่แรก……เตรียมใจเอาไว้พร้อมแล้วอย่างงั้นสินะ?”

 

“ค่ะ ――ไม่ว่าองค์ราชาจะบอกว่าพระองค์พร้อมให้อภัยสักเพียงใด แต่ก็ย่อมมีขีดจำกัด พวกเราต่างรู้ดีว่า แม้องค์ราชาจะยอมอภัยให้ แต่เหล่าขุนนางที่อยู่รอบกายไม่มีทางที่จะอยู่นิ่งเฉยได้

นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมชีวิตที่ถูกกักบริเวณจึงเป็นสิ่งที่เป็นไปตามคาดการ ที่จริงคิดว่าจะโดนขังคุกที่เลวร้ายที่สุดด้วยซ้ำนะคะ ดังนั้นคิดว่าการดูแลตอนนี้ก็ไม่เลวเลย แล้วก็ยังมีคนให้คุยด้วยได้”

 

“งั้นเหรอ……นั่นเป็นเหตุผลที่เธอดูใจเย็นมากเลยสินะ

ฉันไม่คิดว่าเด็กธรรมดา ๆ จะสามารถทนต่อชีวิตที่ไม่สามารถพบปัครอบครัวหรือเพื่อนฝฝูงได้แบบนี้

ถ้าหากว่าตั้งใจไว้แต่แรกแล้วก็อีกเรื่องสินะ ไม่ว่าสิ่งที่ทำจะถูกหรือผิดก็ตาม ฉันก็คิดว่าเป็นเป็นเด็กที่ยอดเยี่มมมากเลยล่ะ”

 

เหรอ?

 

ฉันมีเวลาว่างพอสมควร และเหนือสิ่งอื่นใดก็สบายมากเพราะไม่ต้องทำการบ้าน เมื่อฉันไม่อยู่ภายใต้การเฝ้าจับตา ฉันก็จะฝึกฝน และทำทุกอย่างที่ต้องการได้

ในแง่นั้นก็เหมือนค่อนข้างจะได้เติมเต็มความรู้สึกเก่า ๆ

 

…….ก็แค่นั้นล่ะน๊า

 

“ท่านผู้บัญชาการอัศวิน วันนี้คุณมาสาย”

 

 

 

――「อีกหนึ่งวัน พรุ่งนี้จะเป็นประกาศสำคัญ」

 

 

ฉันเอง

การนับถอยหลังถูกถ่ายทำเอาไว้ล่วงหน้าจนเสร็จหมดแล้ว ก่อนที่งานจริง ๆ จะเริ่มขึ้น ดังนั้นจึงไม่ได้เป็นอะไรที่ผิดธรรมชาติที่จะเห็นหน้าฉันออกอากาศอยู่ พวกเราได้ลองถ่ายเอาไว้หลาย ๆ รูปแบบ แต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะใช้ของฉัน

 

“เนีย・ลิสตัน”

 

โอ๊ตโตะ

 

ฉันหันความสนใจกลับไปหาผู้บัญชาการอัศวินที่อยู่ตรงหน้าฉัน

 

“ที่ต้องให้อยู่มาจนถึงวันนี้ต้องขอโทษด้วย ตอนนี้ข้อสงสัยของเจ้าได้รับความกระจ่างแล้ว จากนี้เจ้าจะได้รับการปล่อยตีว”

 

“ขอบพระคุณมากเลยนะคะ”

 

ดูเหมือนว่าที่ผู้บัญชาการอัศวินจะไม่ได้มาที่ห้องขังนี้ตอนเมื่อวาน เป็นเพราะว่าเขาได้ไปพูดคุยกับบุคคลสำคัญในปราสาทเพื่อขอให้ปล่อยตัวฉัน อัศวินหญิงบอกฉันอย่างลับ ๆ

 

ด้วยพระประสงค์อันแรงกล้า และแรงกดดันของราชา  เห็นได้ชัดว่ามีความเคลื่อนไหวที่พยายามปล่อยฉันมาสักพักแล้ว ดังนั้นเรื่องนี้จึงช่วยส่งเสริมกันเล็กน้อย

 

“――เนีย!”

 

เมื่อฉันออกมาจากห้องที่อยู่มาประมาณสิบวันได้ ฉันก็ได้รับการต้อนรับจากฮิลเดโทร่าที่มารออยู่ที่หน้าประตู ม๊า ก็ที่นี่ก็เป็นบ้านของเธอเหมือนกันล่ะนะ

 

“ขอโทษ! เราไม่คิดเลยว่าจะต้องใช้เวลานานขนาดนี้!”

 

ฉันจับเธอไว้ ขณะที่เธอกระโดดเข้ามาพยายามกอดฉัน จนต้องรีบพูด

 

“สบายมากจนฉันอยากจะอยู่ต่ออีกสักหน่อยเลยล่ะ ขอบคุณสำหรับของขวัญมากเลย นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ทานอาหารฝีมือของฮิลเด้ อร่อยมากเลยน๊า”

 

หลังจากที่ทำให้ฮิลเดโทร่าซึ่งเต็มไปด้วยอารมณ์ สงบลงได้แล้ว พวกเราก็แยกทางกัน แค่เข้ามาทักทายกันก็ดีมากพอแล้ว เธอเองวันนี้ก็ยุ่งเหมือนกันนินะ

 

――ซ้า ตอนนี้กลับหอพักกันดีกว่า

 

 

 

 

 

 

――「「ประกาศสำคัญ!」」

 

 

ในที่สุดพวกเราก็ออกพร้อมกันสามคนเช่นเดียวกับห้าวันก่อน

 

ฉันรู้สึกเหมือนว่าทำทุกอย่างได้ทันเวลาพอดี

ฉันกังวลมากว่าจะต้องเป็นคนเดียวที่จะได้ดูภายในห้องกักบริเวณ

 

ในแง่สาธารณชน เรื่องของฉันคือ「หยุดเรียนไปเนื่องจากสถานการณ์ในครอบครัว」ทำให้ฉันกลับไปใช้ชีวิตในสถาบันได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องยุ่งยากมากเกินไป เนื่องจากว่าฉันเป็นลูกหลานขุนนางทำให้รู้สึกว่าเรื่องประมาณนั้นสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ

ถึงในความเป็นจริง ฉันจะถูกกักบริเวณเนื่องจากข้อสงสัยต่าง ๆ ก็ตาม

 

ริโนกิสที่ต้องรออยู่ที่หอพักของสถาบันที่ไม่มีฉันอยู่ ได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นกระตือรือร้นมากเพื่อชดเชยช่วงเวลาที่ขาดหายไป

แต่ว่า ม๊า นี่ก็ผ่านมาหนึ่งคืนแล้ว เธอจึงสงบสติอารมณ์ลงได้บ้างแล้ว

 

“ดีแล้วดีจริง ๆ! ดีแล้วในที่สุดก็กลับมาแล้ว!”

 

เรเลียเรดซึ่งได้รับการเลื่อนชั้นโดยไม่มีปัญหาใด ๆ และไม่ได้อยู่ห้องข้าง ๆ กันอีกต่อไป คืนนี้ก็มาหาอย่างรวดเร็ว

เธอบอกว่าอยากดูประกาศสำคัญนี้ด้วยกันกับฉัน

 

――ฝากด้วย

 

หัวใจของฉันเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อย

ความรู้สึกวิตกกังวลแปลก ๆ กำลังก่อตัวขึ้น ฉันจะทำยังไงถ้าประกาศไม่เป็นไปตามที่ฉันจินตนาการไว้

 

เมื่อประกาศเรื่องนี้แล้ว แม้แต่ราชาหรือขุนนางก็ไม่สามารถยกเลิกการออกอากาศได้อีกต่อไป

เมื่อหลาย ๆ คนตัดสินใจว่า「อยากดู」 ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ความคาดหวังของพวกเขาเหล่านั้นต้องผิดหวังได้

 

เมื่อมีการออกอากาศการนับถอยหลัง ก็เท่ากับตัดสินใจแล้วว่ารายการนั้นจะต้องได้ออกอากาศเช่นกัน

ยังไงก็ตาม ก็ยังมีโอกาสที่ไม่น่าแปลกใจที่จะถูกเข้ามาขัดขวางจนทำให้ถูกยกเลิกได้อยู่

 

รายการสามารถถูกเปลี่ยนแปลงได้มากตามที่ต้องการ จนกว่าจะประกาศเนื้อหาจริง ๆ ออกไป เพราะอย่างงั้นแล้ว ก็ยังมีโอกาสที่จะถูกเปลี่ยนแปลงด้วยกำลัง

 

ถึงกระนั้นเราก็ตัดสินใจใช้วิธีการนับถอยหลังเพราะว่าเป็นการเตรียมการ「ให้เวลากับราชาทรงคิดอย่างจริงว่ามีบางอย่างไม่เหมาะสมหรือไม่」

เพราะว่าฉันไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่า เมื่อทำไปแล้วจะก่อให้เกิดความเสียหายแบบไหน

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ หากราชาคิดว่า「เรื่องนี้ไม่ได้ ไม่ดีต่อประเทศ」ก็จะทำให้สามารถพิจารณาว่าต้องการที่จะยกเลิกการออกอากาศหรือไม่ ได้อย่างทันเวลา 

 

เพราะเนื้อหาสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะเรายังไม่ได้ทันประกาศเนื้อหาออกไปไงล่ะ

 

 

 

――「พวกเราจะแกล้งพระราชา!」

 

――「จะแกล้งแบบไหนเหรอ?」

 

――「จะทำให้ตกหลุมยังไงล่ะ!」

 

――「พระราชา? ตกหลุม? จริงเหรอ?」

 

――「ใช่แล้ว!จะทำให้ร่วงหล่น! และฉากนี้ก็ถูกถ่ายออกมาอย่างดีเลยล่ะ!」

 

 

――「「ดังเช่นที่กล่าวไปแล้ว รายการพิเศษฉบับฉุกเฉินจะออกอากาศในเร็ว ๆ นี้!โปรดจับตาดูจังหวะที่ราชาตกลงไปในหลุม!」」

 

 

 

วันรุ่งขึ้นไม่จำเป็นต้องพูดอะไร

 

ทันทีหลังจากการออกอากาศ ก็เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ในหอพัก ในเมือง และในปราสาท

 

 

 

 

 

 

 

 

 

นานๆจะได้ไปนั่งกินร้านบรรยากาศ++ สั่งผัดกะเพราเบค่อนมา  

เบค่อนกรอบจนเลย์ยังอาย พี่เอาเบค่อนมาทำกะเพราไม่ต้องทอดจนกรอบหดเล็กจิ๋วยังกับเอาไว้ลอยหน้าสลัดก็ได้ ฮา

กระเทียมสับใส่มาเยอะจัด คลุกให้กลบเบค่อนสักหน่อยคงนึกว่ากินกะเพรากระเทียมอยู่ เหลืองเด่นคู่พริกซะเหลือเกิน เผ็ดพริกไม่ว่ามาเผ็ดกระเทียมด้วย ฮา

ไข่ดาว เยิ้มๆอร่อยสุด ฮา