“ผลักลงไป?”นัทธียืนขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

มารุตพยักหน้า“ใช่ครับ ผู้ริเริ่มคือลูกสาวของคุณออสติน เธอมีใจให้คุณหมอพงศกร ให้คุณวารุณีไปจากคุณหมอพงศกร คุณวารุณีไม่ยอม เพื่อนของเธอสองคนก็เลยลงมือแทนเธอ ผลักคุณวารุณี คุณวารุณีเลยตกน้ำ”

“ที่แท้ก็แบบนี้เอง”ริมฝีปากบางๆของนัทธีเม้มเข้า ทำเสียงเยือกเย็น

พงศกรบอกว่าเขาจะนำความเดือดร้อนมาให้วารุณี แต่พงศกรเองล่ะไม่ใช่เหมือนกันเหรอไง?

ดังนั้นพงศกรมีสิทธิ์อะไรมาว่าเขา?

“ประธาน เรื่องนี้ คุณคิดจะจัดการอย่างไรครับ?”มารุตมองนัทธีที่มีสีหน้าไม่ดีแล้วถาม

นัทธีเม้มริมฝีปากบางๆ“ลูกสาวของคุณออสตินล่ะ?”

“คุณออสตินขังเธอไว้แล้วครับ รอให้คุณวารุณีฟื้น ค่อยให้ขอโทษคุณวารุณี ความหมายของเขาคือ ขอโทษเสร็จก็จะส่งกลับไปตระกูลฮิลล์”มารุตดันแว่นแล้วตอบ

นัทธีหัวเราะอย่างเย็นชา“เกือบจะทำคนตาย ขอโทษคำเดียวก็ได้แล้ว?ไป เอาสัญญาที่ร่างไว้ลบเลย”

มารุตเลิกคิ้วขึ้นอย่างตกใจ“ประธาน พวกเราจะไม่ร่วมมือกับตระกูลฮิลล์แล้วเหรอครับ?ช่วงนี้ตระกูลฮิลล์จะมีการขุดเหมืองเพชร บริษัทอัญมณีที่อยู่ภายใต้ชื่อของพวกเรา ขาดเพชรดิบจำนวนมากพอดีนะครับ”

“บนโลกนี้ไม่ได้มีแค่ตระกูลฮิลล์ที่มีเหมืองเพชร และผมก็ไม่ใช่ว่าต้องร่วมมือกับตระกูลฮิลล์ให้ได้!”นัทธีหรี่ตาลงเล็กน้อย พูดด้วยสีหน้าเย็นชา

เขาพูดแบบนี้ มารุตจะพูดอะไรได้อีก หลังจากมองวารุณีที่อยู่บนเตียงด้วยความรู้สึกที่ค่อนข้างหดหู่ ก็พยักหน้าตอบ“ผมเข้าใจแล้ว งั้นตอนนี้ผมจะไปแจ้งตระกูลฮิลล์เรื่องที่ยกเลิกสัญญานะครับ?”

“ไม่ต้อง รอพวกเขาขอโทษเสร็จค่อยพูด”นัทธีส่ายมือ

มารุตพยักหน้า“ครับ งั้นผมออกไปก่อนนะครับ”

นัทธีตอบอือ

พอเขาไป นัทธีก็กลับไปนั่งอีกครั้ง ลูบขมับที่ปวดเล็กน้อย นอนหลับลงไปอยู่ข้างเตียง

เล่นเทนนิสกับคุณออสตินไปหลายแมตช์ แล้วยังกระโดดน้ำลงไปช่วยคนอีก ออกกำลังกายติดต่อกันแบบนี้ ทำให้ตอนนี้เขาอ่อนล้า ต้องการพักผ่อนถึงจะดี

ดังนั้นการนอนหลับของนัทธีนี้ หลับจนหัวค่ำ

วารุณีตื่น ลืมตามองไปบนเพดาน สำหรับสถานที่ที่ตัวเองอยู่นั้น ในใจเธอรู้ดี

เธอสะบัดหัว อยากจะขึ้นมานั่งบนเตียง แต่มีอะไรทับผ้าห่มของเธอไว้ ทำให้เธอลุกขึ้นแล้วไม่สะดวก

เธอหันหน้ามองไปทางที่กดทับผ้าห่มอยู่ มองเห็นนัทธีฟุบลงตรงนั้นและกำลังนอนหลับ เธออ้าปากอย่างตกใจ แล้วส่งเสียงออกมา

เสียงนี้ปลุกให้นัทธีตื่น เขาลืมตานั่งตัวตรง มองเห็นวารุณีที่กำลังจ้องมองตัวเอง สายตาเป็นประกายเล็กน้อย“ฟื้นแล้วเหรอ?”

วารุณีพยักหน้าจากจิตใต้สำนึก

นัทธียื่นมือไปลูบหน้าผากของเธอ“ยังมีตรงไหนไม่สบายอีกไหม?”

วารุณีส่ายหน้าอย่างเชื่อฟัง

“หิวหรือยัง?”นัทธีเอามือวางลง แล้วถามอีกครั้ง

วารุณีก้มหน้าลงลูบท้องของตัวเอง“นิดหน่อย”

นัทธีหยิบโทรศัพท์ออกมา ให้มารุตซื้อข้าวมาให้

วารุณีก็จ้องเขา

ไม่รู้ว่าเธอรู้สึกผิดหรือเปล่า เธอรู้สึกว่า เขาอ่อนโยนต่อเธอกว่าเมื่อก่อนขึ้นมาก

“มองผมทำไม?”นัทธีส่งข้อความเสร็จ ก็เห็นวารุณีมองตัวเองอย่างตะลึง เปลือกตาเงยขึ้นเล็กน้อย

วารุณีได้สติคืนมา ก็ส่ายมือ“ไม่มีอะไร ขอบคุณนะคะที่ประธานนัทธีช่วยฉันไว้”

“ไม่เป็นไร”นัทธีวางโทรศัพท์ลง“เรื่องที่คุณจมน้ำ ผมรู้แล้ว แอนนี่กับเพื่อนของเธอยอมรับความผิดของตัวเองแล้ว คุณจะจัดการพวกเธออย่างไร?”

ได้ยิน วารุณีก็ถอนหายใจอย่างปวดหัว

ถ้าบอกว่า ผลักเธอลงน้ำเป็นพิชญา หรือคนที่มีตัวตนธรรมดา เธอคงสู้กลับโดยไม่ลังเล

แต่ครั้งนี้กลับเป็นคนของตระกูลฮิลล์ เธอแตะต้องไม่ได้ เลยไม่รู้จริงๆว่าจะเรียกคืนความยุติธรรมคืนได้อย่างไร

คิดไป วารุณีก็หัวเราะอย่างขมขื่น“ประธานนัทธี งั้นคนของตระกูลฮิลล์ ได้บอกไหมคะว่าจะจัดการอย่างไร?”

ถ้าพวกเขาบอกแล้ว และเหมาะสมล่ะก็ เธอก็จะทำตามนั้นละกัน

ความคิดของวารุณี แค่นัทธีมองดูก็ดูออกแล้ว และก็รู้ความกลัวและความลำบากใจของเธอ เขาอยากพูดว่าที่จริงเธอไม่ต้องกังวลเรื่องพวกนี้ แค่เธอคิดมา เขาก็สามารถทำเพื่อเธอได้

แต่เห็นได้ชัดว่า สถานะตอนนี้ของพวกเขาไม่เหมาะสม

สถานะ……

ลึกในแววตาของนัทธีมีความประหลาดแวบเข้ามา ทันใดนั้นก็เปลี่ยนไปทันที หยิบน้ำที่หัวเตียงยื่นให้เธอ“พวกเขาจะขอโทษ จะชดเชยให้คุณ”

“งั้นก็ตามนี้ละกันค่ะ”วารุณีดื่มน้ำ หัวเราะเบาๆ

จากนั้น เธอก็คิดอะไรได้ ยืดหลังตรง“ใช่สิ พงศกรล่ะ?”

เธอจำได้ว่า ก่อนที่นัทธีจะช่วยเธอ ที่ช่วยเธอก่อนคือพงศกร ก็แค่ต่อมาขาพงศกรตะคริวกิน เลยไม่ได้ช่วยเธอขึ้นไป กลับเหนื่อยจนจมน้ำ

และก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาเป็นอย่างไร?

ได้ยินวารุณีพูดถึงพงศกร สีหน้าที่ราบเรียบของนัทธี ก็หม่นหมองลงทันที รับแก้วน้ำของเธอ แล้ววางลงที่หัวเตียงแรงๆ พูดเยาะเย้ยอย่างเย็นชา“คุณเป็นห่วงแฟนคุณขนาดนี้เชียว?”

“แฟน?”วารุณีตะลึงเล็กน้อย

นัทธีเม้มริมฝีปากมองเธอ“พงศกรไม่ใช่แฟนคุณเหรอไง?”

“ไม่ใช่สิ”วารุณีกลืนไม่เข้าคายไม่ออก“พวกเราแค่แกล้งเป็นแฟนกัน”

“แกล้ง?”สีหน้านัทธีดีขึ้นมาทันที

วารุณีตอบอือ“ใช่ค่ะ เขาน่าจะรู้ว่าครั้งนี้ตัวเองมาต้องเจอคุณแอนนี่ ดังนั้นเพื่อสลัดออกจากคุณแอนนี่ เลยจงใจให้ฉันแกล้งเป็นแฟนเขาค่ะ”

“คุณคิดว่าเป็นแบบนี้จริงๆเหรอ?”นัทธีเอนพนักพิงเก้าอี้

วารุณีกะพริบตา“หรือว่าไม่ใช่?”

นัทธีมองดวงตาใสๆของเธอ อดไม่ได้ที่จะกำฝ่ามือไว้

ผู้หญิงคนนี้ ใสซื่อจริงๆ สำหรับเธอแล้ว พงศกรให้เธอแกล้งเป็นแฟน เพื่อสลัดออกจากแอนนี่ แต่สำหรับเขาแล้ว นี่มันก็แค่จุดประสงค์หนึ่งเท่านั้น

พงศกรอยากให้เธอแบกรับตำแหน่งแฟนนี้ไว้ จากนั้นให้คนเข้าใจผิด คนที่เข้าใจผิดมากขึ้น เธอก็ไม่มีโอกาสอธิบาย เรื่องปลอมก็กลายเป็นจริง เจ้าเล่ห์จริงๆ ดูเหมือนเขาต้องให้มารุตรีบสืบตัวตนที่แท้จริงของพงศกรซะแล้ว ให้เธอรู้ว่า พงศกรเป็นคนแบบไหนกันแน่

“ประธานนัทธี ทำไมคุณไม่พูดคะ?”เห็นนัทธีละสายตาลง วารุณีจึงเอามือไปส่ายตรงหน้าเขา

นัทธีคว้ามือของเธอไว้ บีบอย่างไม่เบาและแรงเกินไป

ถึงแม้มือของเธอจะเรียวยาว แต่บีบแล้วก็รู้สึกว่าพอมีเนื้ออยู่ ความรู้สึกที่มือนั้นดีมาก นัทธีอดไม่ได้ที่จะบีบไปอีก

วารุณีมองการกระทำของเขานี้ หน้าเล็กๆก็แดงขึ้น“ประธานนัทธีคุณ……”

นัทธีได้สติคืนมาว่าตัวเองทำอะไรลงไป ก็ตะลึงไป แล้วก็ปล่อยมือทันที

เขาเอามือคืนกลับมา วารุณีกลับผิดหวังเล็กน้อย แต่ยังแกล้งทำเป็นเอามือวางลงด้วยใบหน้าไม่สนใจ

ตอนนี้เอง ประตูห้องคนไข้ก็ถูกคนเคาะเสียงดัง

ริมฝีปากบางๆของนัทธีพูดออกมาว่า“เข้ามา!”

มารุตผลักประตูเดินเข้ามา ในมือถือกล่องอาหารหนึ่งกล่อง ด้านหลังยังตามด้วยคนสองสามคน

วารุณีจ้องมองเขม็ง เป็นคุณออสติน แล้วก็มีคุณแอนนี่รวมทั้งเพื่อนของเธออีกสองคน

ส่วนคนอื่นๆ เธอก็ไม่รู้จักแล้ว

“ประธาน พวกเขามาขอโทษคุณวารุณีครับ คนพวกนี้เป็นพ่อแม่ของคุณผู้หญิงสองคนนี้”มารุตวางกล่องอาหาร ชี้ไปที่คนสองสามคนที่วารุณีไม่รู้จักและแนะนำ

นัทธีพยักหน้าด้วยใบหน้านิ่งเฉย ให้พวกเขาเข้ามา

ถึงแม้เขาไม่ต้อนรับคนพวกนี้ แต่พวกเขามาขอโทษ เขาเลยไม่ขวาง

“เอ่อ คุณวารุณี ขอโทษจริงๆครับ ผมตามใจลูกสาวจนนิสัยเสีย เกือบจะทำให้คุณเกิดเรื่อง ขอโทษครับ พวกเราตั้งใจมาขอโทษคุณโดยเฉพาะ”คุณออสตินผลักคุณแอนนี่มาหน้าเตียงวารุณี ให้เธอขอโทษ

ถึงแม้คุณแอนนี่ไม่ยินยอมเท่าไหร่ แต่ก็ยังขอโทษ คนอื่นๆก็ทำตามด้วย

วารุณีก้มหน้ามองเล็บสีแดงสดของตัวเอง“ฉันคิดว่า พวกคุณไม่ควรขอโทษฉันแค่คนเดียวนะ”