บทที่ 169 ขยะหยางอวิ๋น

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 169 ขยะหยางอวิ๋น

บทที่ 169 ขยะหยางอวิ๋น

ผู้เป็นศิษย์พี่ไม่เข้าใจว่าลู่หยวนหมายถึงอะไร แต่เมื่อมองตามต้นเสียง ก็เห็นบุตรศักดิ์สิทธิ์พาอาจารย์กลับถึงพื้น โดยสายตาจับจ้องมายังเขาด้วยความสนใจยิ่ง

ด้วยเหตุผลบางอย่าง ในใจหยางอวิ๋นรู้สึกหนาวสะท้าน

เมื่อเขากลับมามีสติแล้วมองไปที่เจียงเชียนชิว ก็เห็นว่าใบหน้าของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยโทสะ พร้อมร่างกายที่ไม่ได้อ่อนแอเหมือนก่อนหน้า

ศิษย์เอกของบรรพชนหอกสะกดความสงสัยเอาไว้ ยกหอกของตัวเองขึ้น กล่าวกับเจียงเชียนชิวว่า “ตอนนี้เจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว ไม่มีทางเอาชนะข้าได้หรอก ถ้าเจ้าถอยตอนนี้ ข้าจะยอมไว้ชีวิตให้!”

บุตรแห่งโชคชะตาจงใจกล่าวประโยคนี้ให้ดังยิ่ง เพื่อให้ทุกคนได้ยิน ประกาศกร้าวว่าตนจะไม่ปรานีต่อเจียงเชียนชิว

ในสายตาของคนอื่น เจียงเชียนชิวกำลังได้รับบาดเจ็บ ถึงบาดแผลไม่ตื้นเขิน เขาก็ไม่สามารถใช้พลังได้อย่างเต็มที่อีกแล้ว แต่ก็ใช่ว่าจะไร้ประโยชน์ ถึงอย่างไรชายผู้นี้ก็อยู่ขั้นเทียมเทพ แม้กระทั่งหยางอวิ๋นผู้เป็นเทียมเซียนตัวน้อย ๆ อีกฝ่ายจะเอาชนะไม่ได้หรืออย่างไร?!

เมื่อคำพูดของเจ้าหนูหยางดังเข้าหูของคนอื่น มันดูตลกไม่น้อย

คนอย่างหยางอวิ๋นอยากเอาชนะเจียงเชียนชิวหรือ?

ช่างเป็นความฝันที่โง่เขลาอะไรอย่างนี้!

ยังจะมาพูดว่าไว้ชีวิตอีกหรือ?!

กล้าพูดแบบนั้นออกมาได้อย่างไร?!

เพราะสายตาดูถูกเหยียดหยามจากฝูงชน ทำให้หยางอวิ๋นกดดันยิ่งนัก

นานมากแล้ว …นานมากแล้วที่เขาไม่ได้ถูกสายตาเช่นนี้จับจ้องมา!

ก่อนที่พรสวรรค์จะปรากฏออกมา เขาก็เติบโตมาท่ามกลางสายตาเหล่านี้

ไม่มีใครเชื่อคำพูดที่เขากล่าวออกมา ทุกคนต่างมองเขาด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยัน

ทว่าเป็นเวลานานมากแล้ว ที่สายตาเหล่านี้ถูกบดขยี้

บุตรแห่งโชคชะตาทำให้คนเหล่านี้รู้ครั้งแล้วครั้งเล่าว่า เขา หยางอวิ๋น คือชายที่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถหยุดยั้งได้!

เขาเป็นผู้ถูกเลือก …ผู้ที่สามารถสั่นสะเทือนทั้งโลกา!

ผู้เบิกทางสวรรค์!

หยางอวิ๋นเผยสายตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ

เอาสิ ส่งสายตาเหยียดหยันให้มากกว่านี้สิ เมื่อข้าจัดการกับเจียงเชียนชิวจนหมอบกับพื้น ท่าทางประหลาดใจของพวกเจ้าคือคำชมที่ดีที่สุด

ข้าจะทำให้ทุกคนล่วงรู้ในวันนี้ เจียงเชียนชิวอะไรกัน แม้กระทั่งยอดฝีมือขั้นเทียมเทพก็ไม่สามารถเทียบเคียงได้!

หยางอวิ๋นหันปลายหอกไปที่คู่ต่อสู้ “ในเมื่อเจ้าไม่ถอย วันนี้ข้าจะให้เจ้ารู้เองว่า โลกนี้มีบางสิ่งที่ต่อให้เป็นคุณชายแห่งตระกูลเจียงก็ไม่สามารถแตะต้องได้!”

บุตรศักดิ์สิทธิ์ประคองให้หลิงอวิ๋นนั่งลง ถ่ายทอดพลังให้กับนางเพื่อฟื้นฟูบาดแผล ขณะมองศิษย์พี่โง่เง่าแสร้งทำเป็นแข็งแกร่ง

เมื่อเห็นดังนี้ ลู่หยวนอดหัวเราะไม่ได้

อวี๋ฉู่ที่อยู่อีกด้านยืนเอามือไพล่หลังได้แต่ส่ายหน้า… บุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่ช่างชั่วร้ายเสียจริง

อดีตเจ้าสำนักมองท้องนภาถล่มลงมา ในพริบตานั้นเห็นร่างหนึ่งวูบไหว ถึงแม้เคล็ดวิชาของร่างดังกล่าวจะบดบังกลิ่นอายเอาไว้ แต่เขายังคงสามารถสัมผัสได้

หลายคนที่มาถึงคือผู้อาวุโสตระกูลเจียง!

หยางอวิ๋นยั่วโมโหเจียงเชียนชิวในครั้งนี้ เท่ากับรนหาที่ตาย!

บุตรแห่งโชคชะตาผู้อยู่กลางอากาศไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติ เขายืนตัวตรงพร้อมกับถือหอก วงแสงเลือนรางปกคลุมหอกสีดำทันที เหนือวงแสงนั่น เจตจำนงหอกนับไม่ถ้วนพลันรวมตัวกัน ส่งผลให้อุณหภูมิรอบข้างลดลง

หากมองดูอย่างละเอียดจะพบว่า หอกยาวในมือของเขาคล้ายกับหอกสะบั้นนิลกาฬของหลิงอวิ๋นเป็นอย่างยิ่ง เจตจำนงหอกส่วนใหญ่ที่ใช้ ซ้อนทับเข้ากับเจตจำนงหอกของนาง

ขณะพลังวิญญาณเพิ่มขึ้น หยางอวิ๋นพลันยกหอกขึ้นมา พลังมหาศาลพุ่งทะยานตรงเข้าโจมตีเจียงเชียนชิว

ฟู่! ฟู่! ฟู่!

กลิ่นอายอันบ้าคลั่งกวาดไปทั่วพื้นที่จนเกิดเป็นเสียงหวีดหวิว

เจตจำนงหอกทั้งหลายปรากฏขึ้น พุ่งตรงเข้าหาคู่กรณีทันที ขณะที่คุณชายเจียงยังคงยืนตระหง่านอยู่กลางอากาศ พร้อมสายตาที่ฉายแววดูถูกเหยียดหยันอยู่เช่นเดิม

ในใจของหยางอวิ๋นหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง คนผู้นี้คิดว่าตนจะสามารถพึ่งขั้นการบ่มเพาะที่แข็งแกร่ง จนต้านเขาได้อย่างนั้นหรือ?!

เพ้อเจ้อ!

บุตรแห่งโชคชะตาใช้หอกแทงตรงออกไปพร้อมพลังโถมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง ด้วยระยะห่างจากเจียงเชียนชิวไปสามชุ่น

คลื่นเจตจำนงหอกที่คล้ายกับหลิงอวิ๋นแผ่ออกมาเช่นกัน

วิ้ง!

อากาศรอบคุณชายเจียงสั่นไหว เสียงร้องคร่ำครวญของหอกปกคลุมพื้นที่ระหว่างสวรรค์และโลก เขาไม่แม้แต่จะชายตามองหอกที่อยู่ข้างหน้าด้วยซ้ำ เขายังคงมองหยางอวิ๋นผู้เคลื่อนผ่านท้องนภา ความรู้สึกเต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลน

ตูม!

ปลายหอกพุ่งเข้าถึงใบหน้าของเจียงเชียนชิวในพริบตา ทำให้เกิดเสียงดังก้องกังวาน แสงสว่างสีขาววาบไหว จนหลายคนในบริเวณต้องหลับตาลง

เมื่อแสงสว่างจางหาย ตรงหน้าเจียงเชียนชิวปรากฏกำแพงสีทองขนาดใหญ่ขึ้นทันเวลา ป้องกันการโจมตีร้ายแรงเอาไว้

หยางอวิ๋นถือหอกสีดำด้วยมือทั้งสองข้างไว้แน่นอยู่กลางอากาศเช่นกัน พลังรอบข้างของเขาทั้งหมดสลายไปเมื่อหอกแทงไปที่กำแพงสีทอง

สีหน้าของหยางอวิ๋นในตอนนี้บิดเบี้ยวนัก ทันทีที่กำแพงสีทองปรากฏขึ้น เขาก็สัมผัสได้ว่า มีกลิ่นอายที่ไม่ได้เป็นของเจียงเชียนชิวแผ่ออกมาจากรอบข้าง กำแพงสีทองนี้ต้องเป็นฝีมือของคนอื่นเป็นแน่!

เขาเค้นพลังลึกล้ำ มือทั้งสองข้างจับหอกเอาไว้มั่น หมายจะดึงมันออกมา แต่เหนือกำแพงสีทอง พลันปรากฏพลังแก่กล้าออกมาหยุดยั้ง และตรึงเขาเอาไว้กับที่

หยางอวิ๋นลอบพึมพำว่าแย่แล้ว เขากำลังจะทิ้งหอกยาวก่อนถอยออกมา แต่กลิ่นอายทรงพลังปกคลุมรอบข้างของเขาเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

ด้านหลังของบุตรแห่งโชคชะตา มือขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็นคว้าเขาเอาไว้ พร้อมน้ำเสียงกดต่ำและเกรี้ยวกราดดังขึ้น “เจ้าเด็กน้อย กล้าทำร้ายคุณชายแห่งตระกูลเจียงได้อย่างไร?!”

เสียงคำรามต่ำนั่นราวกับฟ้าผ่าที่ฟาดลงมาจากสวรรค์ทั้งเก้า แรงกดดันนับไม่ถ้วนบดขยี้ลงมา กระแทกเข้าใส่ร่างของศิษย์เอกของบรรพชนหอกทันที

อัก!

หยางอวิ๋นไม่สามารถต้านแรงกดดันดังกล่าวได้แม้แต่นิดเดียว ดังนั้นเขาจึงกระอักโลหิตออกมาอย่างต่อเนื่อง และพยายามสุดความสามารถที่จะไม่คุกเข่าลง

แต่ภายใต้แรงกดดันดังกล่าว เพียงแค่ไม่กี่อึดใจสั้น ๆ เขาใช้พละกำลังไปจนเกือบหมดสิ้น อาภรณ์ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ขาสั่นเทา แต่ในสายตาของชายถือหอก กลับไม่มีความหวาดกลัวอยู่เลยแม้แต่น้อย ยังจ้องตรงไปที่เจียงเชียนชิวผู้อยู่ตรงหน้า

ตอนนี้ที่ด้านหลังศัตรูมียอดฝีมือจำนวนมาก พวกเขาล้วนเผยจิตสังหารบนใบหน้า พร้อมสายตาเย็นชาที่จ้องมองมาราวกับพร้อมลงมือสังหารทุกเมื่อ

“ขยะเอ๊ย”

เจียงเชียนชิวเย้ยหยัน ในสายตาของเขา ตอนนี้หยางอวิ๋นไม่ต่างจากมด

ยิ่งนานยิ่งรู้สึกว่าหลิงอวิ๋นไม่มีค่าอะไร นางทำตัวสูงส่งราวกับเทพธิดา แต่กลับทำให้ศิษย์ที่สอนสั่งมาเหลวแหลกแบบนี้!

ชายชราที่อยู่ด้านข้างถามเจียงเชียนชิวเสียงต่ำว่า “คุณชาย ทำอย่างไรกับสวะตัวนี้ดี?”

ผู้ที่ถูกกล่าวถึงคือหยางอวิ๋น

เจียงเชียนชิวมองอีกฝ่ายราวกับซากศพ “ฆ่า!”

ทันทีที่สิ้นเสียง ผู้อาวุโสคนหนึ่งพลันลงมือ หมายจะพรากชีวิตของหยางอวิ๋น

ทันใดนั้น เสียงอันทรงพลังก็ดังขึ้นจากเหนือฟากฟ้า “เหตุใดตระกูลเจียงถึงมาสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ในวันนี้?”