183 ตัดสินใจเป้าหมายเร่งด่วน
“อะไรนะ? เป็นประเทศน่ารังเกียจใช่ไหมล่ะ? ――จ๊า ข้ากลับล่ะ!”
ริกเนอร์ อดีตกัปตันโจรสลัดอากาศ เขาตกลงที่จะอยู่กับฉันจนกว่าจะผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเสร็จ หลังจากนั้นก็หันส้นเท้ากลับ และหายตัวไปทันที
ม๊า ก็เป็นเรื่องที่ฉันได้ยินระหว่างทางมาแล้ว
ดูเหมือนว่าริกเนอร์ที่เป็นคนจากมาเวเลียจะมีปัญหาแน่ ๆ หากได้พบกับคนรู้จัก
มีความเสี่ยงที่ว่าหากทำอะไรผิดแม้เพียงเล็กน้อย ก็มีความเป็นไปได้ที่จะยังมีรางวัลค่าหัวอยู่
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาจะกลับในทันที แต่ฉันก็ไม่ได้กังวลอะไร
รู้อยู่รู้อยู่แล้วว่า เขาเป็นโจรสลัดอากาศ ก็รู้แล้ว
เมื่อถามรายละเอียดเพิ่มเติม เขาก็เริ่มบอกเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับมาเวเลีย
เดิมทีริกเนอร์ต้องการเป็นวิศวกรเรือเหาะ แต่เนื่องจากความสัมพันธ์ต่าง ๆ ที่แย่ลง เขาจึงพบว่าตัวเองไม่มีจุดยืนเหลืออยู่อีกแล้ว เขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องรวมรวบกลุ่มคนที่คล้ายกันเข้ามาเป็นกลุ่มเพื่อทำสิ่งไม่ดีนิด ๆ หน่อย ๆ
สถานการณ์ปัจจุบัน ดูเหมือนว่าสภาพแวดล้อมในการทำงานจะไม่ค่อยดีนัก
ปัจจุบันเขากำลังทำงานอย่างหนักที่บริษัทเซโดนี โดยคิดว่านี่อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของเขาที่จะมีชีวิตเหมือนมนุษย์ และเป็นวิศวกรเรือเหาะซึ่งเป็นเป้าหมายของเขา
ณ ตอนนี้ ดูเหมือนเขาจะยังไม่มีเจตนาที่จะหนีทันที แม้กระทั่งในระหว่างการเดินทาง ไม่มีอะไรน่าสงสัยเกี่ยวกับเขาเลย นอกจากทัศนคติพังเกินไป และขาดศักดิ์ศรีในฐานะกัปตัน
ม๊า ฉันหวังว่าอย่างน้อยเขาก็น่าจะสามารถทำสิ่งดี ๆ ที่นั่นได้
――ริกเนอร์จะไม่อยู่ในประเทศนี้ แต่เขาบอกว่าเขาจะมาเพื่อตรวจสอบฉันทุก ๆ สามเดือนนับจากนี้
ยังไงก็ตาม เขาแสดงความคิดเห็นว่า「ควรดูสถานกาณ์ไปก่อนสักพักหนึ่ง ก่อนตัดสินใจว่าจะลงจากเรือดีหรือไม่」แล้วให้ฉันติดสินใจอีกครั้งหนึ่งว่าจะกลับขึ้นเรือเหาะกลับไหม
ฉันเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับมาเวเลียจากทั้งเฟรซ่ากับริกเนอร์มาก่อนแล้ว
ดูเหมือนว่าประเทศนี้จะไม่เป็นมิตรกับชาวต่างชาติมากนัก
ที่นี่คือเกาะลอยฟ้าอันเป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของอาณาจักรทหารจักรกล มาเวเลีย
เกาะลอยฟ้าแห่งนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่
แม้ว่าจะหยั่งรากอยู่ในพื้นมหาสมุทร แต่กล่าวกันว่าเกาะแห่งนี้มีขนาดใหญ่กว่าแผ่นดินของอาร์ตัวร์ประมาณแปดในสิบ มีพื้นที่น้อยกว่าสองเท่าเล็กน้อย พูดแบบนั้นก็ได้หรือเปล่าน๊า
แต่กลับกันก็มีเกาะลอยฟ้าอยู่เพียงไม่กี่เกาะในบริเวณใกล้เคียง และล้วนมีขนาดเล็กทั้งหมด
” ――พูดง่าย ๆ ก็คือ ขอบเขตของทรัพยากรนั้นแคบ”
“――นั่นสิ ถึงได้เป็นแบบนั้น”
เกาะลอยฟ้าเป็นสถานที่ที่ทั้งชีวิตและผืนดินมีวิวัฒนาการอันเป็นเอกลักษณ์เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม
มีข้อสังเกตที่น่าสนใจมากมาย แต่ท้ายที่สุดแล้ว เกาะลอยฟ้าเหล่านี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเกาะจะใหญ่หรือเล็ก แต่ขึ้นอยู่กับว่าเกาะเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมให้กลายเป็นสถานที่ที่อุดมสมบูรณ์ต่อมนุษย์หรือไม่
หากดันเจี้ยนถือกำเนิดขึ้น ก็อาจจะมีอันตราย แต่ก็จะมีทรัพยากรจากสัตร์อสูรมากมายเช่นกัน
หากดินมีความอุดมสมบูรณ์ก็จะเหมาะสมสำหรับทุ่งนาที่สามารถปลูกพืชผลที่ดีได้อย่างน่าประหลาดใจ
มีทั้งเกาะลอยฟ้าซึ่งมีแร่หายาก สิ่งมีชีวิตหายาก หรือที่ที่รักษาอุณหภูมิไว้คงที่จนมนุษย์สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสบาย
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ยิ่งมีเกาะลอยฟ้าอยู่มากเท่าไหร่ ทรัพยากรที่สามารถรวบรวมได้ก็จะยิ่งหลากหลายมากขึ้นเท่านั้น
ในแง่นั้น มาเวเลียที่ถึงแม้จะดินแดนขนาดใหญ่ แต่เนื่องจากมีเกาะลอยฟ้าเพียงไม่กี่แห่งที่รับประกันว่ามีทรัพยากรเพียงพอ จึงทำให้มีข้อจำกัดในสิ่งที่สามารถทำได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับเรือเหาะ ดูเหมือนว่าจะมีการขุดพบหินลอยฟ้าซึ่งเป็นแก่นกลางสำคัญสำหรับเรือเหาะแค่จำนวนเล็กน้อยเท่านั้น นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการพัฒนาในด้านนั้นจึงช้ามาก
――และ ม๊า นี่คือสิ่งที่ฉันเรียนรู้มาจากสถาบัน และรวบรวมบางส่วนมาจากการฟังเรื่องราวของกัปตันริกเนอร์
ในขณะที่กำลังพูดคุยเรื่องนั้นกัน พวกเราก็กำลังเดินผ่านเมืองหลวงของมาเวเลีย
บริเวณริมถนนสายหลักให้ความรู้สึกเย็นชา นั่นคือความประทับใจแรกพบ
ทางเท้าปูด้วยหินจนเป็นสีเทา และเนื่องจากเป็นถนนสายหลัก อาคารต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้านค้า จึงมีสีเดียวกัน และจัดระเบียบเรียบร้อย
จะว่าสวยก็สวยอยู่ แต่…….ใช่ เป็นความสวยงามของสิ่งที่เน้นใช้งานจริง ถนนที่รถม้าสัญจรไปมาได้สะดวกโดยโทนสีที่ไม่ทำให้ทิวทัศน์เสียไป
ไม่มีความรู้สึกถึงชีวิตชีวา หรือความอบอุ่น ม๊า นี่ก็ไม่ได้เลวเช่นกัน ถ้าที่ประเทศมีแบบนี้ก็คงดีเหมือนกัน
บางทีการที่ไม่มีผู้คนเดินไปเดินมาอยู่ข้างนอก อาจเป็นสาเหตุของการที่ฉันไม่รู้สึกถึงชีวิตชีวา
ฉันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เห็นว่ารถม้าที่วิ่งผ่านเป็นครั้งคราวนั้นมีขนาดใหญ่มาก และมีคนนั่งอยู่มากมาย
ดูเหมือนว่าการขนส่งประเภทนี้ได้จะถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นวิธีการเดินทางหลักสำหรับประชาชน สิ่งนี้สามารถตีความได้ว่าเป็นรถม้าโดยสารที่มีเฉพาะในเมืองได้หรือน่ะ
ซ้า
ในที่สุดฉันก็ออกจากโซนท่าเรือไปยังถนนสายหลักเรียบน้อย แต่ฉันก็ไม่สามารถเดินอย่างไร้จุดหมายได้ตลอดไป
“คงต้องหาข้อมูลก่อนเน๊ะ”
“นั่นสินะคะ ก่อนอื่นพวกเราไปหาโรงแรมกันก่อนเถอะค่ะ จากนั้นก็ถามข้อมูลที่นั่น?”
อืม นั่นสินะ
แม้ว่าพระอาทิตย์จะยังอยู่สูง แต่สำหรับวันนี้รีบไปหาโรงแรมกันก่อนดีกว่า
ฉันต้องหาที่พักอาศัย ไปดูโรงเรียนทหารจักรกลที่ฉันต้องเข้าเรียน และทำขั้นตอนต่าง ๆ ให้เสร็จสิ้น แล้วหลังจากวันพรุ่งนี้ ฉันก็ต้องรวบรวมข้อมูลที่แท้จริงของประเทศแห่งนี้
เรื่องราวของริกเนอร์เต็มไปด้วยคำหยาบคายมากเกินไปจนฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเขาพูดอะไร ส่วนเฟรซ่าก็พูดเพียง「เป็นเรื่องที่ผ่านมานานแล้วที่ฉันเคยอยู่ที่นั่น」
ฉันต้องการข้อมูลที่เป็นปัจจุบันมากกว่า
“เงินไม่มีปัญหาใช่ไหม?”
“ค่ะ ดิฉันส่งบางส่วนไปที่บ้านเกิดแล้ว แต่เงินรางวัลส่วนใหญ่จากงานแข่งขันศิลปะการต่อสู้ยังแทบไม่ได้แตะต้องเลยค่ะ ดิฉันจึงนำเงินทั้งหมดมาด้วย และเพราะไม่มีบริษัทเซโดนีอยู่ทางนี้ ดังนั้นจึงถอนออกมาไม่ได้ค่ะ”
โอ๊ยโอ๊ย
“จ๊า ตอนนี้แปลว่าเธอมีเงินร้อยล้านไหม?”
“ค่ะ บอกตามตรงว่าทั้งหนักทั้งน่ารำคาญเลยค่ะ”
พกมาด้วยงั้นสินะ
ฉันมือเปล่า แต่ริโนกิสมีกระเป๋าเดินทางของฉันอยู่ในทั้งสองมือ และมีกระเป๋าเป้ใบใหญ่อยู่บนหลัง
ของที่อยู่ในมือคือของฉัน นั่นหมายความว่าเธอกำลังแบกเงินร้อยล้านครัมไว้บนหลังอย่างงั้นสินะ
“ดิฉันก็อยากที่จะฝากไว้ที่ไหนสักแห่งเหมือนกันค่ะ แต่เนื่องจากไม่รู้ว่าจะไปซ้ายหรือขวาดี ดิฉันคิดว่าคงต้องแบกไปอีกสักพักค่ะ”
“ถ้าแบบนั้นอยากให้ฉันช่วยถือสัมภาระไหม?”
“ดิฉันไม่สามารถปล่อยให้คุณหนูถือสัมภาระได้หรอกนะคะ หากกังวลล่ะก็รีบเข้าโรงแรม แล้วนอนห้องเดียวกันทันทีเลยก็ดีนะคะ”
อยู่ในห้องเดียวกัน
……ม๊า ก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการใช้ชีวิต ฉันคิดว่าการประหยัดเงินก็เป็นสิ่งสำคัญ
“ฉันสามารถพึ่งพาเงินของเธอได้งั้นเหรอ?”
ฉันเองก็ได้รับเงินมาจากพ่อแม่มากเกินพอ
พวกท่านบอกว่าเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับครึ่งปี แต่ฉันก็คิดว่าไม่อยากใช้และอยากจะคืนให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ฉันกังวลเกี่ยวกับการเงินของตระกูลลิสตัน ฉันเลยอยากหลีกเลี่ยงที่จะใช้
ฉันสามารถหาเงินของตัวเองได้ ดังนั้นจึงไม่สำคัญ
“แน่นอนค่ะ ได้โปรดคิดว่าเป็นเงินของคุณหนูได้เลยค่ะ ตั้งแต่แรกแล้วก็เป็นเงินที่คุณหนูควรได้รับอยู่แล้วจริงไหมคะ สิ่งที่ดิฉันได้รับมาก็เป็นผลมาจากงานแข่งขันที่ประสบความสำเร็จ”
ม๊าม๊า ถ้าเธอได้เริ่มพูดแบบนั้นก็จะไม่มีที่สิ้นสุด ก็แปลว่าฉันสามารถยืมได้ตามที่ต้องการใช่ไหม
“เป็นประเทศที่น่าสนใจจริง”
ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะถูกขอให้เพิกเฉยต่อตารางค่าธรรมเนียม และต้องจ่ายค่าที่พักเป็นสองเท่า
ฉันอดไม่ได้ที่จะตอบพนักงานโรงแรมที่แผนกต้อนรับซึ่งพูดอะไรบางอย่างที่ไม่น่าเชื่อกับฉัน
นี่เป็นโรงแรมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนถนนสายหลัก
และเมื่อดูจากเสื้อผ้าของแขกแล้วก็ต้องเป็นโรงแรมระดับเฟิร์สคลาสในประเทศนี้แน่นอน
――ฉันไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะถูกหลอกโดยสถานที่ชั้นเลิศเช่นนี้
ไม่คิดว่าน่าสนใจเหรอ
เป็นเรื่องตลกที่ได้เห็นแขกโดยรอบที่ทุกคนดูเหมือนมาจากชนชั้นสูงมองดูพวกเราด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายบนใบหน้าของพวกเขาซึ่งดูถูกพวกเราอย่างชัดเจน
ฉันเริ่มรู้สึกเหมือนว่าริกเนอร์ที่พูดจาแย่ ๆ และเฟรซ่าซึ่งมาจากมาเวเลียก็บอกว่า「เป็นประเทศที่ฉันไม่ชอบ」ดูจะไม่ได้พูดเกินจริงเลย
ริโนกิสที่กำลังเจรจาก็กำลังเปิดเผยเจตนาฆ่าชัดเจน อย่าโกรธอย่าโกรธ ยังพอหัวเราะได้อยู่น๊า แม่ลูกศิษย์เลือดร้อนของฉัน
ฉันควบคุมเธอด้วยการก้าวไปข้างหน้า
“ไม่ต้องการอยู่ต่อแล้ว แต่ยังไงก็ขอถามไว้หน่อย ทำไมราคาถึงได้แตกต่างจากที่เขียนไว้บนฝาฝนังล่ะ?”
ผู้จัดการโรงแรมที่อายุพอสมควรก็มองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้มที่ดูถูกอย่างเห็นได้ชัด
“――ลูกค้าที่มาจากประเทศชนบทอื่น ๆ มักจะทิ้งกลิ่นอับติดเฟอร์นิเจอร์และเตียงนอน ทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการทำความสะอาดในภายหลังไงล่ะ”
โฮโฮ๊ เข้าใจล่ะ มากับเด็กบ้านนอกสินะ มีกลิ่นเหมือนชนบทออกสินะ
คนรอบข้างก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาเช่นกัน
เข้าใจล่ะ นี่เป็นแนวทางพื้นฐาน ทัศนคติ และจุดยืนต่อต่างประเทศของประเทศนี้สิน เข้าใจล่ะ เข้าใจล่ะ
……ม๊า ไม่ว่าอาร์ตัวร์จะเป็นพื้นที่ชนบทหรือไม่ก็ตาม ฉันก็เป็นคนหัวโบราณเหมือนกัน ดังนั้นจึงยากที่จะปฏิเสธได้โดยสิ้นเชิง
“เหรอ เข้าใจแล้ว”
ฉันหัวเราะ
“เป็นประเทศที่น่ารักจริง ๆ แค่มีของเล่นเป็นทหารเครื่องจักรก็คิดว่าสามารถข่มขู่ได้ขนาดนี้ ฉันคิดว่าฉันน่าจะรักประเทศนี้ล่ะ”
เสียงหัวเราะหยุดลง
พนักงานโรงแรมทำสีหน้าจริงจัง
――ทหารจักรกล
กล่าวกันว่าเป็นทั้งสัญลักษณ์ ความภาคภูมิใจ และรากฐานของประเทศนี้ มากจนมาเวเลียถูกเรียกว่าอาณาจักรทหารจักรกล และเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงดูถูกประเทศอื่น
ในประเทศนี้มีคนมากมายที่คิดว่าทหารจักรกลต้องมาก่อนไม่ว่าจะยังไงก็ตาม
การล้อเลียนทหารจักรกลก็เหมือนกับการล้อเลียนมาเวเลีย
พูดง่าย ๆ ก็คือ ฉันกำลังล้อเลียนประเทศแห่งนี้ต่อหน้า
ดูจากสีหน้าของพนักงานโรงแรมและปฏิกิริยาของคนรอบข้าง ดูเหมือนว่านี่ไม่ใช่ความเข้าใจที่ผิด
“ไปกันเถอะ――”
“เดี๋ยว”
ฉันถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เฝ้าดูอยู่หยุดไว้
พนักงานโรงแรมที่รูปร่างกำยำยืนขวางอยู่ที่ทางเข้าออก ฉันแน่ใจว่าเขาทำงานเป็นผู้คุ้มกันของโรงแรมด้วย ส่วนความแข็งแกร่ง……ม๊า ฉันสามารถชนะได้ในขณะที่กำลังยืนขาเดียวเพื่อสวมถุงเท้า
“เอ๊ย ยัยหนู เมื้อกี้พูดว่าอะไรนะ?”
ฉันเงยหน้าขึ้นมองเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มองลงมาที่ฉันด้วยท่าทีข่มขู่และเยาะเย้ย
“ไม่ได้ยินเหรอ? จ๊า คราวนี้ฉันจะพูดให้ดังกว่าเดิมนะ! ฉันบอกว่าเป็นประเทศที่น่ารักน่าภูมิใจมากกับแค่มีของเล่นเป็นทหารเครื่องจักร! เป็นของเล่นชิ้นโปรดเลยใช่ไหมล่ะ!? แม้แต่ผู้ใหญ่แก่ ๆ ก็เล่นได้ ช่างเป็นของที่น่ารักเน๊!ประเทศนี้ช่างเป็นประเทศที่น่ารักที่ผู้คนมีความสุขได้ถ้ามีของเล่น! …….พูดคราวนี้เป็นยังไง ได้ยินชัดไหมคะ?”
แผนกต้อนรับของโรงแรมเงียบกริบ
ฉันเห็นได้ชัดเจนเลยว่าทุกคนเริ่มโกรธแล้ว
“โอ๊ย ยัยเด็กเปรต”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเอื้อมมือมาจับหน้าอกของฉัน
“ข้าไม่รู้ว่าแกมาจากประเทศไหน แต่”
ไม่มีคำพูดอื่นมากไปกว่านั้น
“บังอาจแตะต้อง ต้องฆ่า”
เป็นเพราะริโนกิสได้ตัดสติของเขาจนขาด
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถูกหมัดจนล้มลงทั้งยืน อุมุ ออมมือได้ดี เธอเริ่มชำนาญในการควบคุมการกระทำเพื่อไม่ฆ่าได้ดีแล้ว
“――ไปกันเถอะ ริโนกิส”
“――ค่ะ”
ทันทีที่ออกจากโรงแรม ฉันก็ตัดสินใจเป้าหมายเร่งด่วนทันที
“เน๊ เรื่องของอนาคตจะเอายังไงดี”
ค่ะ เข้าใจแล้ว ดิฉันต้องฆ่าพวกมันทีล่ะคนใช่ไหมคะ?”
อยากละเลงเลือดจริงน๊า
――ม๊า ก็ไม่ผิดขนาดนั้นหรอก
“ฉันอยากหลีกเลี่ยงการฆ่าให้มากที่สุดไว้ก่อน แต่จากนี้ไปฉันจะเลือกการต่อสู้ และคงได้ซื้อมากขึ้นไปเรื่อย ๆ แน่นอน”
เพียงเพราะแค่มาจากต่างประเทศ จึงได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เคารพเช่นนั้น
ถ้ายังเป็นแบบตอนนี้ต่อไป การขายเมจิกวิชั่น และการเป็นก้าวย่างหลักให้กิจกรรมของฮิเอโร่ก็คงเป็นเรื่องยาก ฉันไม่สามารถกลับบ้านได้หากไม่สามารถสร้างประวัติที่คู่ควรเช่นนั้น
ถ้าอย่างงั้นฉันควรทำยังไง
ฉันไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำให้รู้เอง
ประเทศนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทหารจักรกลไม่ใช่เรื่องใหญ่ และโลกภายนอกก็กว้างใหญ่กว่ามาก
“แต่ แบบนั้นคุณหนูจะดึงดูดความสนใจของขุนนางและราชวงศ์ทันทีเลยนะคะ รูปลักษณ์ของคุณหนูก็โดดเด่นอยู่แล้วด้วย”
“แล้วจะทำไม? ฉันบอกแล้วไม่ใช่รึไง ฉันเลือกที่จะสู้”
“เอ๊ะ? ………อะ ไม่มีทาง”
ใช่
“ที่กำลังต่อสู้ด้วยคือประเทศนี้ ――เน๊ะ ดูน่าสนุกใช่ไหมล่ะ?”