บทที่ 180 สิ่งจูงใจให้กลับหมู่บ้าน

ตอนมาถึงหมู่บ้านตระกูลเฉิน เฉินฉือพาคนอื่น ๆ ไปทำงานในไร่นาแล้ว

เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากไกล ๆ ทุกคนก็คิดว่ามีโจรขี่ม้าบุกมาอีกแล้ว เพียงแต่เหตุใดกลุ่มคนครั้งนี้ถึงได้มากกว่าครั้งก่อน พวกเขาจึงรีบคว้าจอบคว้าขวานแล้วพุ่งตัวออกไปทันที สุดท้ายทุกคนก็ได้แต่ตกตะลึง

“ข้ามองผิดไปหรือไม่ อาฝูของเรานั่งอยู่บนม้านั่นใช่หรือไม่?”

“มีแค่อาฝูของพวกเจ้าที่ใดกันเล่า ยังมีฟางจวิ่นเหมยที่กำลังโบกมือให้พวกเราด้วย!”

“ไหนบอกว่าไปรับสะใภ้ตระกูลเผยที่เมืองหลวงไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงได้มีคนมากมายเช่นนี้เล่า…”

คนในหมู่บ้านที่อาศัยอยู่ในที่ที่ไม่มีใครสนใจ และทั้งชีวิตไม่ค่อยได้ออกไปข้างนอกเท่าใดนักต่างก็รู้สึกตกตะลึง ไม่รู้ว่าพวกเขาถูกโจรขี่ม้าจับตัวไป…หรือสะใภ้ตระกูลเผยพาพวกเขาไปจับตัวโจรขี่ม้ามากันแน่

อืม ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

“ท่านพ่อ!” อาฝูเห็นท่านปู่และท่านพ่อแต่ไกลแล้ว จึงดิ้นจะลงจากหลังม้า ทหารเกราะเหล็กจึงรีบวางเด็กชายลงบนพื้น ขาสั้น ๆ วิ่งไปอย่างรวดเร็ว

“ท่านพ่อ! ท่านพ่อ! ข้าได้ขี่ม้าตัวใหญ่ด้วย!! น่าเกรงขามมากเลยขอรับ!” ขณะที่วิ่งมาเขาก็ตะโกนออกมาด้วย ทำให้กินดินเข้าไปเต็มปากจนเกือบทำให้ตัวเองสำลักตาย

ท่านลุงเฉินอุ้มอาฝูด้วยแขนที่สั่นเทาและเอ่ยขึ้นมา “เจ้าบอกความจริงปู่มา คนพวกนี้เป็นใครกัน”

อาฝูชี้ไปที่ทหารเกราะเหล็กแล้วเอ่ยขึ้นมา “ไม่รู้ขอรับ พวกเขาบอกว่าเป็นทหารเกราะเหล็ก ท่านย่าบอกว่ามีไท่ซ่างหวงเป็นพ่อของฮ่องเต้ ยังมีองค์หญิงใหญ่ที่เป็นพี่สาวของฮ่องเต้ด้วย ท่านปู่ หมู่บ้านของเราจะรวยแล้วใช่หรือไม่ขอรับ?”

เฉินฉือตบที่หน้าผากของอาฝู “ออกไปข้างนอกไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยสินะ ที่เรียนมาก็มีแต่เรื่องไร้สาระจริง ๆ!”

ไท่ซ่างหวง องค์หญิงใหญ่อะไรกัน คนที่ปรากฏตัวแค่บนเวทีงิ้วจะถือเป็นจริงเป็นจังได้อย่างไร?

ไม่แน่อาจจะเป็นโจรขี่ม้าก็ได้ ยังมีทหารเกราะเหล็กอีก ทหารเกราะเหล็กใช่เรื่องที่จะเอามาพูดเหลวไหลได้อย่างนั้นหรือ

ส่วนทางนี้ทหารเกราะเหล็กก็ได้หยุดลงแล้ว เผยยวนอุ้มเด็กทั้งสามคนลงมา อาชิงวิ่งดุกดิกไปอยู่ด้านหน้าสุดแล้วเอ่ยขึ้นมา “นี่ก็คือหมู่บ้านตระกูลเฉินของเรา! ทุกคนวางของลงก็เริ่มประกอบได้เลยขอรับ”

ประกอบอะไร แน่นอนว่าคือการประกอบจวนและศาลาที่เอามาจากจวนจี้กั๋วกงน่ะสิ!

สร้างศาลาไว้ที่สระน้ำเก่านั่น เฮ้อ เท่านี้ก็เป็นสวรรค์บนดินแล้วไม่ใช่หรือ

บรรดาพวกผู้ชายที่อยู่ด้านหลังเฉินฉือต่างก็ตกตะลึง “สะใภ้ตระกูลเผยจะเก่งกาจเกินไปแล้วกระมัง นางจับตัวโจรขี่ม้ามาได้ก็แล้วไป เหตุใดยังยกบ้านของโจรขี่ม้ามาด้วยล่ะเนี่ย เอามาตั้งไว้ที่หมู่บ้านเราเช่นนี้ จะไม่กลายเป็นหมู่บ้านโจรหรอกหรือ”

“หมู่บ้านโจรอะไรกัน?” อีและเอ้อร์ยกหีบลงมาก็ได้ยินประโยคนี้เข้าพอดี “รีบมาช่วยกันเถอะ นี่ล้วนเป็นของที่นำมาจากบ้านของลูกพี่ฮวนฮวน ไม่มีที่วางแล้ว”

ส่วนจางตงไหลและยอดฝีมือก็เอาที่เหยียบมาวาง และช่วยประคองไท่ซ่างหวงลงมาจากรถม้า

พวกท่านป้าหยางมีคำพูดมากมายอยากจะพูด เมืองหลวงนั้นยอดเยี่ยมมาก! น่าตื่นเต้นมาก! ชีวิตนี้ไม่เคยมีความสุขเท่านี้มาก่อน พวกนางยังได้ตีกั๋วกงด้วยนะ! ด่าครอบครัวของเขา! ที่สำคัญที่สุดก็คือยังลากตัวคนกลับมาขนอึด้วย

ท่านป้าหยางเจอท่านลุงเฉินก็รีบดึงตัวเขาและเอ่ยขึ้นมา “ตาเฒ่า ข้าจะบอกอะไรให้ หมู่บ้านตระกูลเฉินของเราไม่ธรรมดาแล้ว”

เฉินฉือไม่ว่างจะสนใจท่านป้าหยาง เขารีบดึงไท่ซ่างหวงแล้วเอ่ยถามขึ้นมา “นายท่านขอรับ นี่มันเรื่องอะไรกันขอรับ เหตุใดถึงพาคนกลับมาด้วยมากมายเพียงนี้เล่าขอรับ ไปเมืองหลวงแค่ครั้งเดียวเหตุใดอาฝูของเราถึงพูดจาเหลวไหลไปหมดแล้ว บอกว่ามีไท่ซ่างหวงอะไรนั่นมาด้วย ท่านว่านี่ไม่บ้าหรอกหรือขอรับ? หากไท่ซ่างหวงมาหมู่บ้านตระกูลเฉินของเรา เช่นนั้นคงมีควันเขียวผุดขึ้นจากหลุมฝังศพบรรพบุรุษ*แล้ว พรุ่งนี้ข้าจะไปจุดประทัดให้เลย”

* ควันเขียวผุดจากหลุมฝังศพบรรพบุรุษ (祖坟冒青烟) เป็นการเปรียบ​เปรยว่า เกิดเรื่องน่ายินดีขึ้น

ท่านป้าหยางและชาวบ้านที่เพิ่งลงจากรถม้ามองเฉินฉือที่พูดเป็นต่อยหอยด้วยสีหน้าอึกอัก พยายามขยิบตาให้เขา

และตอนที่ไป๋จิ่นลงจากรถม้า เมื่อเดินผ่านเฉินฉือก็ตบไหล่เขาเบา ๆ พลางถอนหายใจออกมา “หัวหน้าหมู่บ้าน หมู่บ้านรุ่งเรืองตามที่ท่านปรารถนาแล้ว”

เฉินฉืองุนงง เหตุใดไปเมืองหลวงแค่ครั้งเดียวก็เป็นบ้ากันไปหมดแล้ว ใครคือไท่ซ่างหวงกัน แล้วที่บอกว่าสมปรารถนาของเขาแล้ว มันหมายความว่าอย่างไรกัน?

หลังจากผ่านไปหนึ่งเค่อ เฉินฉือก็เอาแต่มองดูไท่ซ่างหวงที่นั่งแทะเมล็ดแตงโมอยู่บนม้านั่งด้วยสีหน้ากระวนกระวาย และเติมน้ำชาให้เขาเงียบ ๆ “หากท่านยังอยากได้อีก บอกกระหม่อมได้เลยนะพ่ะย่ะค่ะ”

จางตงไหล …เหตุใดมาแย่งงานของข้ากันล่ะเนี่ย

พวกตระกูลจี้หิวโหยมาสองวันแล้ว ตอนที่ถูกต้อนมาถึงทีหลังก็เห็นคนของกองทัพทหารเกราะเหล็กกำลังประกอบจวนจี้กั๋วกงกันอยู่ หมู่บ้านตระกูลเฉินแม้จะห่างไกลและก็มีไม่กี่ครอบครัว แต่มีพื้นที่ว่างกว้างขวางเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับเรือนของจวนกั๋วกงนั้นก็ใหญ่โตมาก ห้องหนึ่งสามารถอยู่ได้ถึงยี่สิบคน

คนทั้งกลุ่มแค้นใจอย่างมาก ขณะกำลังคิดที่จะด่าทอออกมานั้น เฉินฉือก็เดินมาพอดี “พวกเจ้าคงเป็นคนของจวนจี้กั๋วกงที่ไร้มโนธรรมนั่นกระมัง”

เมื่อครู่พวกท่านป้าหยางและฟางจวิ่นเหมยเล่าเรื่องทั้งหมดที่พบเห็นในเมืองหลวงให้ฟังแล้ว

เวลานี้คนในหมู่บ้านเพิ่งจะรู้ว่าสะใภ้ตระกูลเผยผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดา แท้จริงแล้วเป็นถึงคุณหนูตระกูลใหญ่! แต่น่าเสียดายที่ชีวิตลำบากยิ่งกว่าคนบ้านนอกเช่นพวกเขาเสียอีก ส่วนเผยจื่อก็คือท่านเทพแห่งสงครามเผยยวน! เป็นวีรบุรุษที่ผู้คนรู้จักกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง! มิน่าเล่าท่าทางตอนสังหารโจรขี่ม้าถึงดูร้ายกาจนัก

ทว่าเผยจื่อเองก็ถูกคนทำร้ายเช่นกัน ตอนนี้ทุกคนในหมู่บ้านตระกูลเฉินต่างก็อยากจะฆ่าคนของจวนจี้กั๋วกงนั่นกันทั้งนั้น!

“มองอะไร ข้าพูดกับพวกเจ้าอยู่นะ!” เฉินฉือเห็นพวกเขาไม่ยอมตอบ ก็ลงมือตีไปหนึ่งที

คนของจวนจี้กั๋วกงเคยได้รับความคับข้องใจเช่นนี้ที่ใดกัน ทว่าสองวันมานี้กลับได้รับความทุกข์ทรมานครบทุกรูปแบบ

หมู่บ้านมีงานสกปรกและงานหนักมากมายรออยู่ เฉินฉือจึงแจกจ่ายงานอย่างสบายอารมณ์ ทุกครัวเรือนงานยุ่งตั้งแต่เช้าจรดค่ำ แต่ว่าคนพวกนี้ทำงานก็ยังต้องให้คนคอยสอน เลี้ยงเสียข้าวสุกจริง ๆ

ทำงานไม่ดีก็ไม่ต้องกินข้าว หิวตายก็สมควรแล้ว

ทางด้านจี้จือฮวนหลังจากเก็บของเรียบร้อยแล้ว จึงได้มาปรึกษาธุระกับเฉินฉือที่ศาลบรรพชน

“ตอนนี้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกท่านว่าอยากซื้อที่ดินกับภูเขาไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะเจ้าคะ ท่านดูสิเจ้าคะ ข้ายังมีคนตั้งมากมายที่ต้องเลี้ยงดู หลังจากซื้อแล้วข้ายังอยากชวนคนในหมู่บ้านมาทำการค้าด้วยกัน ก่อนหน้านี้บรรดาผู้อาวุโสของตระกูลก็บอกแล้วว่าเด็กในหมู่บ้านไปเรียนหนังสือเป็นเรื่องยาก สำนักศึกษาในหมู่บ้านก็ไม่มีแล้ว ข้าจึงอยากจะตั้งสำนักศึกษาในหมู่บ้านขึ้น อาฉือก็ต้องเข้าไปเรียนหนังสือที่ตำบลฉาซู่ ส่วนอาอินกับอาชิงก็ถึงวัยที่จะเข้าเรียนแล้ว นี่เป็นความคิดส่วนหนึ่งของข้า พวกท่านทุกคนลองคิดตามว่าดีหรือไม่”

หลังจากเหตุการณ์ปะทะกับโจรขี่ม้า เรื่องของตระกูลเผยก็คือเรื่องของหมู่บ้านตระกูลเฉิน การตัดสินใจของฮวนฮวนไม่มีใครกล้าโต้แย้งอะไร ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ไท่ซ่างหวงก็อยู่ที่นี่ด้วย ยังมีองค์หญิงใหญ่ที่สูงศักดิ์อีกหนึ่งคน เวลานี้หมู่บ้านตระกูลเฉินเหมือนกับหมู่บ้านอื่นอย่างนั้นหรือ? ใครบอกว่าหมู่บ้านของพวกเขาไม่มีทางมีหงส์ได้กัน

ไม่เพียงมีหงส์เท่านั้น ยังมีมังกรอีกด้วย!

“พวกเราเชื่อเจ้า พวกเราไม่มีความคิดเห็นอื่น สะใภ้ตระกูลเผยยอมเป็นผู้นำของพวกเรา นั่นก็นับว่าเป็นบุญของพวกเราแล้ว!”

จี้จือฮวนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ครั้งนี้ข้าพาคนกลับมามากมายเช่นนี้ต้องลำบากทุกคนแล้ว เพียงแต่ข่าวที่ไท่ซ่างหวงอยู่ในหมู่บ้าน อย่าแพร่งพรายออกไปเด็ดขาดนะเจ้าคะ”

คนในหมู่บ้านต่างก็พยักหน้ารับหนักแน่น “พวกเรารู้อยู่แล้ว ในละครงิ้วร้องว่าจะมีคนชั่วมาลอบฆ่า! พวกเราไม่พูดอย่างแน่นอน รวยแบบเงียบ ๆ ดีกว่า หากใครพูดก็จะถูกส่งไปขนอึกับคนพวกนั้น”

พลพรรคตัวเลขที่บังเอิญเดินผ่านมา ไม่! ต่อให้เป็นนักฆ่าก็ไม่กล้ามา…พวกท่านคิดมากไปแล้ว

หากว่าสวรรค์ให้โอกาสพวกเขาอีกครั้ง พวกเขาจะขอปฏิเสธภารกิจครั้งนี้!