ตอนที่ 179 เศรษฐีอันดับหนึ่งของประเทศเหยียนหวง

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 179 เศรษฐีอันดับหนึ่งของประเทศเหยียนหวง

“พี่เยาเยา!”

เจียงเฟิงเหมียนลงจากรถได้ก็กระโจนเข้าหามู่เถาเยา

“เสี่ยวเหมียน อาจารย์อาเล็ก”

อาจารย์อาเล็ก “เสี่ยวเยาเยา เตรียมของขวัญเรียบร้อยหรือยัง”

ของขวัญที่จะมอบให้ตระกูลตี้

เดิมทีเขาจะเตรียมเอง แต่เสี่ยวเยาเยาบอกว่าให้ของดีจากเผ่าดีกว่า

ก็จริง ไม่มีอะไรเหมาะไปกว่าเอาของดีของเผ่าหมาป่าพระจันทร์ให้ท่านราชาตี้อีกแล้ว!

นี่เป็นการแสดงถึงมิตรภาพระหว่างประเทศเหยียนหวงกับเผ่าหมาป่าพระจันทร์

“เรียบร้อยแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้หนูให้เหลียงจีทิ้งของฝากจำนวนหนึ่งไว้บนเครื่องบิน”

“ดีมาก งั้นพวกเราออกเดินทางเลยไหม”

“ค่ะ”

สองพ่อลูกช่วยมู่เถาเยากับเหลียงจีขนสัมภาระของพวกเธอไปใส่ท้ายรถแล้วขึ้นรถ

ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นมู่เถาเยาขับรถ

อาจารย์อาเล็ก “เสี่ยวเยาเยาได้ใบขับขี่หรือยัง”

“ยังค่ะ หนูขับรถแข็งแล้ว อาจารย์อาเล็กไม่ต้องกังวลค่ะ”

“อาจารย์ไม่ได้กังวล ก็แค่ถามดู”

เขาย่อมรู้ว่าเสี่ยวเยาเยาเคยขับรถมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วตอนอยู่หมู่บ้านเถาหยวน

เจียงเฟิงเหมียนยกมือ “หนูก็อยากเรียนขับรถด้วยค่ะ”

ผู้หญิงขับรถก็เท่เหมือนกัน!

อืม ขอแค่เป็นเรื่องที่เธอไม่เข้าใจมันก็ดูเท่ไปหมด!

มู่เถาเยายิ้มดวงตาโค้งมน “ว่างๆ พี่จะสอนให้ก่อน พอเธออายุครบสิบแปดค่อยไปสอบใบขับขี่”

“งั้นปิดเทอมหน้าร้อนแรกหลังจากเข้ามหา’ลัยนะคะ”

“ได้เลย”

“พี่เยาเยาคะ เมื่อกี้พวกเราคุยกันว่าหลังสอบเข้ามหาวิทยาลัยเสร็จจะให้พี่เหลียงจีสอนทำอาหาร พี่เสี่ยวหว่านก็จะมาไม่ใช่เหรอคะ พี่เสี่ยวหว่านต้องอยากเรียนด้วยแน่”

“ตามสบายเลยนะ”

ไว้วันไหนเธอต้องเตือนเหลียงจีหน่อย เด็กสองคนนี้เข้าครัวพร้อมกันแอบดูอันตราย ต้องจับตาดูให้ดี

ทำครัวระเบิดยังไม่เท่าไร แต่กลัวจะทำตัวเองบาดเจ็บไปด้วย

“พี่เยาเยา รอพี่ปิดเทอมฉันขอกลับหมู่บ้านเถาหยวนด้วยคนนะคะ”

“ได้สิ”

มู่เถาเยาใจดีกับคนที่อายุน้อยกว่าเธอ

ขอแค่ไม่ล้ำเส้นและละลาบละล้วง อยากทำอะไรเธอก็ไม่มีทางคัดค้าน

อาจารย์อาเล็ก “เสี่ยวเยาเยา คุณชายเล็กตระกูลตี้กลับเมืองหลวงไปแล้วใช่ไหม”

“กลับวันนี้เหมือนกันค่ะ เวลานี้น่าจะถึงแล้วค่ะ”

ก่อนขึ้นเครื่องบินตี้อู๋เปียนส่งข้อความมาหาเธอ ก็เลยรู้ว่าเขาจะถึงบ้านเมื่อไร

เจียงเฟิงเหมียนถาม “คุณชายเล็กตระกูลตี้คือใคร แซ่ตี้เหรอคะ ประเทศเหยียนหวงแซ่ตี้มีแค่ตระกูลเดียว! พ่อคะ พ่อไปรู้จักกับตระกูลตี้ตั้งแต่เมื่อไรคะ”

ในประเทศเหยียนหวงมีใครบ้างไม่รู้จักตระกูลตี้ของท่านราชา

“คุณชายเล็กตระกูลตี้เป็นคนไข้ของเสี่ยวเยาเยา พวกเราไปครั้งนี้จะพักที่ตำหนักของตระกูลตี้”

“อ่อๆ”

ขนาดเรื่องของคนไข้ทั่วไปยังไม่มีทางบอกให้เด็กสาวรับรู้ แล้วนับประสาอะไรกับคนไข้ที่มีสถานะพิเศษ เจียงเฟิงเหมียนไม่รู้ก็ไม่แปลก

“เสี่ยวเหมียน ไปบ้านตระกูลตี้ครั้งนี้ห้ามเอาเรื่องทุกอย่างของตระกูลตี้ไปเล่าให้ใครฟังทั้งนั้น รวมถึงอาหารการกินหรือเรื่องแปลกตาต่างๆ”

เจียงเฟิงเหมียนเอามือปิดปาก กะพริบตาปริบๆ ความหมายชัดเจนมาก ‘หนูไม่มีทางพูดออกไปแน่นอน!’

เธอไม่ได้โง่นะ! รู้อยู่แล้วว่าบางเรื่องบางคนจะเที่ยวเอาไปพูดพล่ามไม่ได้!

มู่เถาเยากับเหลียงจีต่างขำท่าทางกับสีหน้าของเจียงเฟิงเหมียน

ไม่นานรถก็ไปจอดใกล้ลานจอดเครื่องบิน

จอดรถในโรงรถเฉพาะ จากนั้นก็ต่างคนต่างหอบสัมภาระขึ้นเครื่องบิน

ออกเดินทาง

“พี่เยาเยา ตระกูลเย่ว์ดีกับพี่ไหมคะ”

เจียงเฟิงเหมียนรู้ชาติกำเนิดของมู่เถาเยาแล้ว

มู่เถาเยาลูบผมยาวของเด็กสาวที่นั่งข้างๆ พลางตอบ “ดีมากจ้ะ”

“อืมๆ งั้นอีกหน่อยพี่เยาเยาจะกลับไปไหมคะ”

เธอรู้ว่าต้องกลับไปแน่นอน แต่ก็อดถามไม่ได้

แอบเสียดาย

“พี่จะอยู่ทั้งสองที่เลย ต่อไปเสี่ยวเหมียนว่างๆ ก็ไปเที่ยวที่เผ่าหมาป่าพระจันทร์ได้นะ”

“เอาสิคะๆ ฉันยังไม่เคยไปเลย!”

“ตอนปิดเทอมหน้าร้อนพี่อาจกลับไปดูหน่อย เสี่ยวเหมียนกับเสี่ยวหว่านมีเวลาเยอะ ถ้าอยากไปก็ไปด้วยกันได้ ถือเป็นการเที่ยวฉลองเรียนจบ”

อาจารย์อาเล็กไม่รอให้ลูกสาวตอบก็ชิงตอบก่อน “เสี่ยวเยาเยา ไว้ครั้งหน้าดีกว่า หนูกลับไปครั้งแรกมีเวลาว่างพาพวกน้องๆ เที่ยวที่ไหนกัน”

“อาจารย์อาเล็กกับอาสะใภ้เล็กเคยไปแล้ว ไม่อย่างนั้นก็ไปด้วยกัน จะได้พาพวกน้องๆ เที่ยว เป็นไงคะ”

“อาจารย์ต้องอาศัยช่วงเวลานั้นไปอยู่กับอาจารย์ของเธอที่หมู่บ้านเถาหยวนให้มากหน่อย”

“งั้นอาสะใภ้ล่ะคะ”

“เสี่ยวเยาเยา ไว้ครั้งหน้าเถอะ ยังไงซะวันหน้าหนูก็ต้องไปๆ กลับๆ ไม่ต้องรีบนะ”

เจียงเฟิงเหมียนได้ฟังพ่อตัวเองพูดแบบนี้ก็รู้สึกว่าตามไปคงไม่เหมาะ จึงบอกปัด “พี่เยาเยาคะ ไว้ครั้งหน้าดีกว่าค่ะ ฉันกับพ่อไปพักที่หมู่บ้านเถาหยวนอยู่กับอาจารย์ลุงก่อนก็ได้ค่ะ”

“อืม”

เธอก็ไม่มีเวลาพาสองสาวไปเที่ยวให้ทั่วทุกที่จริงๆ เพราะพี่รองของเธอจะพาเธอไปเก็บสมุนไพร

แล้วก็เธออยากให้น้าเล็กอวิ๋นไปด้วยกัน

ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้อาหญิงจะมีความรู้สึกอะไรต่อน้าเล็กอวิ๋นเพิ่มเติมหรือเปล่า

เธอรู้สาเหตุที่อาหญิงไม่อยากแต่งงาน แต่เธอมองออกว่าน้าเล็กอวิ๋นไม่เหมือนกับเสด็จพ่อของเธอจริงๆ

อาหญิงอยู่กับเขาต้องมีความสุขแน่นอน

“เสี่ยวเยาเยา?”

“คะ?”

“คิดอะไรอยู่เหรอ”

“อยู่ๆ ก็คิดถึงอาหญิงของหนูค่ะ”

“หัวหน้าเผ่าเย่ว์เลี่ยงน่ะเหรอ มีอะไรเหรอ”

“อาจารย์อาเล็กว่าอาหญิงของหนูกับน้าเล็กของตี้อู๋เปียนดูเหมาะสมกันไหมคะ”

“อวิ๋นไป๋น่ะเหรอ อาจารย์ไม่รู้จักเขาเท่าไร ตอบยาก แต่ว่าชื่อเสียงของเขาดีมากและก็เป็นเรื่องจริง ถึงแม้ตระกูลอวิ๋นจะร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งของประเทศเหยียนหวง แต่ตระกูลของพวกเขาไม่ซับซ้อน ได้ยินมาว่าพวกเขาสองพี่น้องรักใคร่กลมเกลียวกันดี ดูอย่างอวิ๋นเหอคุณนายราชาสิ เป็นคนนิสัยน่ารัก”

มู่เถาเยาพยักหน้า

“อาจารย์คุ้นเคยกับคนตระกูลตี้ ความสัมพันธ์กับคนตระกูลอวิ๋นก็ไม่เลว เคยบอกว่าตระกูลอวิ๋นไม่เหมือนตระกูลร่ำรวยตระกูลอื่น เป็นครอบครัวที่รักใคร่ปรองดองกันดีมาก”

ถ้าตระกูลอวิ๋นซับซ้อน เธอคงไม่อยากให้อาหญิงคบกับน้าเล็กอวิ๋นแน่นอน

“เสี่ยวเยาเยา หนูคงไม่ได้อยากให้อาหญิงแต่งเข้าตระกูลอวิ๋นใช่ไหม”

“น้าเล็กอวิ๋นบอกว่าเขายอมแต่งเข้าได้ค่ะ”

อาหญิงยังไม่มีทางสละตำแหน่ง เพราะเธอ

ถ้าน้าเล็กอวิ๋นอยากแต่งงานก็ต้องไปอาศัยอยู่ที่เผ่าบ่อยๆ

“อุ๊บ…”

สองพ่อลูกระเบิดหัวเราะออกมาพร้อมกัน

“อวิ๋นไป๋พูดแบบนั้นจริงเหรอ”

“ค่ะ พูดกับหนูเองเลยค่ะ”

“หนูก็เชื่อเหรอ”

“เชื่อค่ะ เพราะเขาดีกับอาหนู”

“เสี่ยวเยาเยา หนูก็ดีกับคนเผ่าพระจันทร์มากเหมือนกัน เดิมทีอาจารย์คิดว่า หนูจะรู้สึก…”

อาจารย์อาเล็กไม่พูดให้จบ

มีเหรอที่มู่เถาเยาจะไม่เข้าใจความคิดของเขา

“พวกเขาดีกับหนู หนูก็ตอบแทนแบบเสมอกันค่ะ”

“อืม หนูหายไปสิบแปดปี พวกเขาก็เจ็บปวดสิบแปดปี”

“ไม่พูดถึงอดีต เดิมทีก็ไม่ใช่ความผิดของพวกเขาค่ะ”

“ดีมาก”

คนตระกูลเย่ว์เอ็นดูเสี่ยวเยาเยาจากใจจริง อาจารย์อาเล็กเห็นอยู่ในสายตา ย่อมไม่มีทางรู้สึกติดขัดในใจ

มีคนรักและเอ็นดูเสี่ยวเยาเยาเพิ่มขึ้นย่อมเป็นเรื่องดีที่สุด

ระยะเวลาการบินเจ็ดชั่วโมงผ่านไปเร็วมากระหว่างการพูดคุยของทั้งสามคน

ขณะเครื่องบินลงจอดที่วังตระกูลตี้ก็เป็นเวลาสี่ทุ่มตรงพอดี

ตี้อู๋เปียน ตี้อู๋เว่ยกับภรรยา ตี้อู๋เสีย ตี้อู๋โยว รวมถึงอวิ๋นเหอและตี้อันเหยี่ย ต่างก็มารอรับพวกเขาที่ลานจอดเครื่องบินด้วย

หลังจากทักทายตามมารยาทแล้ว เจ้าถุงลมน้อยตี้อันเหยี่ยก็ดิ้นอยู่ในอกพ่อจะลงพื้นให้ได้ วิ่งเตาะแตะไปหามู่เถาเยา เกาะขาเธอไว้

“พี่สาว พี่สาว พี่สาว…”

เด็กน้อยชอบเรียกคำนี้ซ้ำไปซ้ำมาตลอด

มู่เถาเยาอุ้มเจ้าถุงลมน้อยขึ้นมาแล้วลูบศีรษะของเขา ยิ้มดวงตาโค้งมนถาม “ดึกขนาดนี้แล้วทำไมอันเหยี่ยยังไม่นอนอีกจ๊ะ”

“อาเล็กบอกว่าพี่สาวจะมาหาอันเหยี่ย อันเหยี่ยเลยอยู่รอพี่สาว”

ตี้อู๋เปียน “…”

ตัวแค่นี้ทำไมแสบนัก!

เขาไม่ได้พูดแบบนั้นเลยนะ!

เจ้าตัวแสบนี่ชอบแก้คำพูดของเขาโดยพลการตลอด!