บทที่ 172 ความบาดหมางของหยางอวิ๋นกันกลุ่มเทียน (ต้น)

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 172 ความบาดหมางของหยางอวิ๋นกันกลุ่มเทียน (ต้น)

บทที่ 172 ความบาดหมางของหยางอวิ๋นกันกลุ่มเทียน (ต้น)

หยางอวิ๋นปล่อยพวกเขาทั้งสองคนไป ก่อนจะมุ่งหน้าไปที่หอคอยบนยอดเขากระบี่

กลุ่มอวิ๋นที่เขาก่อตั้งมีฐานที่มั่นอยู่ที่นั่น

เพียงแค่หนึ่งถ้วยชา เขาก็ทะยานมาถึงหอคอย และได้พบกับค่ายกลกางอาณาเขตปกคลุมอยู่โดยรอบฐานที่มั่น โดยมีกลิ่นอายพลังรวมตัวอยู่รอบข้าง ชายถือหอกสามารถมองเห็นได้อย่างเลือนรางว่ามีสิ่งปลูกสร้างและผู้คนบางส่วนอยู่ข้างใน

เมื่อหยางอวิ๋นก้าวไปข้างหน้า ค่ายกลรอบข้างพลันทำงานทันที มันปกคลุมเขาด้วยพลังอันแข็งแกร่ง ก่อนเสียงตะโกนอันเกรี้ยวกราดจะดังขึ้น “ใครกล้าบุกรุกกลุ่มเทียนของพวกข้า?!”

หลังจากบุตรแห่งโชคชะตาหยางได้ยินเสียงดังกล่าว ใบหน้าของเขาเย็นชาขึ้นมา

เขาถือหอกยาวไว้ในมือ เจตจำนงหอกสูงสุดปรากฏขึ้นในทันที จนวงแสงของค่ายกลที่เคลื่อนเข้ามาหาเขาอย่างบ้าคลั่งเกิดการสั่นคลอน

ร่างที่อยู่ด้านหลังวงแสงปรากฏขึ้นต่อหน้าผู้มาเยือนเช่นกัน คนผู้นี้ดูสง่างาม ร่างกายกำยำ สวมชุดสีดำ ถือกระบี่ใหญ่ที่มีรูปทรงเหมือนกับโล่เอาไว้ในมือ

ผู้ใช้โล่กระบี่คนนี้คือพี่น้องที่แสนดีที่สุดของหยางอวิ๋นในสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ กันเม่า!

ทันทีที่เขาเห็นหยางอวิ๋น สีหน้าเกรี้ยวกราดของเขาพลันแข็งทื่อ

หลังจากผ่านไปหลายอึดใจ ในที่สุดกันเม่าก็ตระหนักได้ “ย… หยางอวิ๋น เจ้าถูกปล่อยตัวแล้วหรือ?”

ใบหน้าของคนฟังเคร่งขรึม ถามกลับอย่างเย้ยหยันว่า “อะไรกัน? ข้าถูกปล่อยตัวแล้ว เจ้าไม่ดีใจหรือ?”

เมื่อกันเม่ามองคู่สนทนาผู้ฝืนยิ้มออกมา ทั่วร่างก็สั่นสะท้าน เขาลอบกลืนน้ำลายเข้าไป ก่อนแค่นยิ้มละอายใจออกมา “ต้องดีใจสิ”

ผู้ใช้โล่กระบี่รู้ว่าหยางอวิ๋นมาทำอะไรที่นี่ อีกฝ่ายต้องรู้แล้วว่ากลุ่มอวิ๋นมีการเปลี่ยนมือไปแล้ว!

แต่นี่คือสิ่งที่ช่วยไม่ได้เช่นกัน ปกติแล้วหากมีผู้ฝึกหอกคนนี้อยู่ด้วย กลุ่มอื่นจะไม่เข้ามารุกราน ทำให้กลุ่มอวิ๋นอยู่รอดปลอดภัย

แต่ครั้งนี้เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากหยางอวิ๋นถูกจองจำ แทบทุกกลุ่มต่างก็ระบายความคับข้องใจออกมา และโจมตีกลุ่มอวิ๋นอย่างสุดกำลัง

เพียงแค่ไม่กี่วัน กลุ่มอวิ๋นได้รับความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง สมาชิกกลุ่มหลายคนถูกปล้นศิลามายาไป บางคนถึงขั้นถูกทุบตีจนตาย

กันเม่ารู้สถานการณ์ปัจจุบันดีที่สุด ในตอนที่เลือกติดตามหยางอวิ๋น เขารู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของอีกฝ่ายในอนาคต แต่ตอนนี้พี่น้องกลับทำเรื่องโง่เขลาอย่างการต่อว่าเจ้าสำนักต่อหน้าธารกำนัล

ผู้ใช้โล่กระบี่คิดถึงขั้นที่ว่า ต่อไปกลุ่มอวิ๋นจะมุ่งสู่ทิศทางใด และหยางอวิ๋นควรค่าจะให้ติดตามต่อหรือไม่?

ในช่วงเวลานี้เองที่เซียวเทียนปรากฏตัวขึ้น

กันเม่าพบว่าเจ้าหนุ่มคนนี้เป็นเหมือนคลื่นลูกใหม่ ผู้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าทุกคนด้วยท่วงท่าอันไร้ที่ติ ด้วยพลังที่น่าตื่นตะลึง เขาฉายแววโดดเด่นจนสามารถเอาชนะศิษย์จำนวนมาก ทำให้หลายคนในกลุ่มอวิ๋นได้รับการช่วยเหลือ แถมนิสัยใจคอก็คบได้

มีเหตุผลสามประการว่าทำไมกันเม่าถึงหันมาภักดีต่อเซียวเทียน

ข้อแรก พลังของเซียวเทียนไม่เลว ขอเพียงตาไม่มืดบอดก็สามารถมองเห็นพรสวรรค์ได้

ข้อสอง หลังจากกันเม่าตรวจสอบมาแล้ว เซียวเทียนกับบุตรศักดิ์สิทธิ์ลู่เป็นสหายกัน ทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดี หากมีเขากลายเป็นผู้นำกลุ่ม ลู่หยวนย่อมต้องยืนอยู่ข้างพวกเขา

ข้อสาม เป็นข้อที่สำคัญที่สุด เซียวเทียนผู้นี้ไม่ทำตัวน่ากังขาเหมือนกับหยางอวิ๋น

สามข้อนี้เพียงอย่างเดียวก็ทำให้กันเม่ายอมเปลี่ยนข้าง จึงลอบรวมพันธมิตรจำนวนมากในการยอมรับเซียวเทียนเป็นผู้นำกลุ่มคนใหม่ ส่วนคนในกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยก็ย่อมต้องถูกเตะออกไป

กันเม่าทราบว่า ไม่ช้าก็เร็วหยางอวิ๋นจะต้องรู้เรื่องนี้ ทว่าทุกสิ่งจะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเหลือเกิน

บุตรแห่งโชคชะตาหยางมองเจ้าคนทรยศพร้อมจิตสังหารในแววตา มือกำหอกไว้แน่นจนเกิดเส้นโลหิตปูดโปนออกมา แรงกดดันรอบข้างสั่นไหวอย่างรุนแรง ราวกับมันผันผวนตามโทสะของหยางอวิ๋น

กันเม่าวิตกเช่นกัน เขาย่อมรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่มือของอีกฝ่าย

โล่กระบี่ในมือขวาถูกกุมไว้แน่น ยันต์ที่อยู่ในมือซ้ายเคลื่อนเข้าไปในแขนเสื้อ มันถูกจุดอย่างเงียบงัน

ทันทีที่ยันต์ถูกเผา ร่างจำนวนมากพลันปรากฏขึ้นจากแท่น แต่ละร่างถืออาวุธเอาไว้ในมือ ตะโกนว่า “ใครกล้ารังแกกลุ่มเทียนของพวกข้า?!”

ทันทีที่คนเหล่านี้โผล่หัวออกมาเห็นหยางอวิ๋น ใบหน้าเกรี้ยวกราดทั้งหมดกลับแข็งทื่อ ดูเก้อกระดากเช่นเดียวกัน

ทุกคนชะงักงันตัวแข็งค้างอยู่กับที่

สายตาของหยางอวิ๋นเหมือนกับเสือดาวที่อยู่ในป่า เขาตรวจสอบทุกคนอย่างละเอียด พลางกล่าวเย้ยหยันว่า “ดี! พวกเจ้าทุกคนดีมาก เสียแรงจริง ๆ ที่ปฏิบัติกับพวกเจ้าในฐานะพี่น้องร่วมสาบาน!”

“ข้าแค่ถูกจองจำเพียงไม่กี่วัน มาตอนนี้พวกเจ้ากลับไปรวมกับกลุ่มอื่น ถึงขั้นเปลี่ยนชื่อกลุ่มอวิ๋นด้วย!”

ทุกคนก้มศีรษะด้วยความสำนึกผิด ไม่กล้าพูดอะไรออกมา พวกเขาติดหนี้หยางอวิ๋นอยู่จริง

เมื่อเห็นดังนี้ หัวใจของกันเม่าก็ดิ่งวูบ ในเมื่อพวกเขาเตรียมหักหลังอีกฝ่ายแล้ว ก็ไม่มีทางให้ถอยกลับอีก

เขารู้จักหยางอวิ๋นดีที่สุด คนผู้นี้ไม่สามารถทนต่อเรื่องเช่นนี้ได้ แต่ในเมื่อวันนี้พวกเขาเป็นสมาชิกของกลุ่มเทียนแล้วก็ควรยืนอยู่ข้างกลุ่มเทียน!

ต่อให้ผู้ใช้หอกจะก่อเรื่องในวันนี้ พวกเขาก็ไม่กลัว ไม่ใช่เพราะมีเซียวเทียนเป็นผู้นำกลุ่มเท่านั้น แต่ลู่หยวนผู้เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งตระกูลลู่ก็อยู่ข้างพวกเขาด้วยเช่นกัน

ต้องโทษหยางอวิ๋นที่ไม่อาจท้าทายสวรรค์ได้!

กันเม่าก้าวไปข้างหน้า พลิกโล่กระบี่ในมือ เจตจำนงกระบี่พวยพุ่งปกคลุมทุกคนเอาไว้ จิตสังหารแผ่ซ่านออกมา พุ่งเข้าหาหยางอวิ๋น

“หยางอวิ๋น ข้าขอบอกเจ้าตามตรง ตอนนี้พวกข้าคือสมาชิกกลุ่มเทียนแล้ว ไม่ได้ข้องเกี่ยวกับกลุ่มอวิ๋นอีก ที่นี่คืออาณาเขตของพวกข้ากลุ่มเทียนเช่นกัน หากไม่มีอะไรแล้ว ก็เดินทางใครทางมัน!”

“อาณาเขตของกลุ่มเทียนงั้นหรือ?!”

หยางอวิ๋นยกหอกขึ้น ชี้ไปที่กันเม่า พร้อมส่งเสียงสบถดัง “นี่คืออาณาเขตของกลุ่มอวิ๋นของข้า! เป็นของข้า หยางอวิ๋นที่ได้รับมาจากเจ้าสำนัก! เจ้าเป็นใครมาจากไหน ถึงบอกว่าจะยึดอาณาเขตกลุ่มอวิ๋นของข้าไปเป็นของตัวเอง?”

ก่อนกันเม่าจะทันได้พูดอะไร คู่กรณีพลันตวัดหอก ฟาดมาตรงหน้าพร้อมประกาศกร้าว “พวกเจ้ามันคนเนรคุณ! ตอนที่ถูกศิษย์เก่าเหล่านั้นรังแก ใครกันที่ยืนหยัดปกป้องพวกเจ้า?!”

“ตอนนี้พอข้าเจอปัญหา พวกเจ้ากลับมาทำตัวแบบนี้ เหอะ สุนัขมันยังดีกว่าพวกเจ้าเสียด้วยซ้ำ!”

เมื่อได้ยินหยางอวิ๋นกล่าวเช่นนั้น ทุกคนต่างก้มศีรษะ

อีกฝ่ายสะบัดหอกยาว จนเกิดเสียงแหวกอากาศกระจายไปทั่วพื้นที่ทันที ดึงดูดความสนใจของทุกคน

“วันนี้ข้า หยางอวิ๋น จะตัดเยื่อใยกับพวกเจ้าทั้งหมด!”

หนึ่งในพวกเขาได้ยินดังนี้ก็ไม่อาจทนได้อีกต่อไป จึงก้าวออกมาข้างหน้าทันที กล่าวว่า “พี่หยาง ไม่ใช่อย่างนั้น ข้าเต็มใจที่จะติดตามท่าน!”