ตอนที่ 64 จุดยืนของผู้ใช้ยันต์

“สมาคมผู้ใช้ยันต์คือองค์กรพิเศษของเขตแดนใต้ เมื่อเทียบกับหกมหาอำนาจ สมาชิกพวกเขานับได้ว่าย่ำแย่ ถึงแม้จะขาดแคลนสมาชิก แต่พลังอำนาจพวกเขากลับร้ายกาจมาก แม้จะเป็นถึงจักรวรรดิต้าฉินหรือโรงเรียนปราชญ์ก็ไม่มีผู้ใดกล้าทำให้พวกเขาขุ่นเคือง! นอกจากนั้น หกมหาอำนาจยังจัดให้สมาคมผู้ใช้ยันต์มีอำนาจพิเศษทุกประเภท!” ระหว่างทางไปสมาคมผู้ใช้ยันต์ หม่าหนานยิ้มพร้อมอธิบายให้หยางเย่ฟัง ถึงแม้จะสงสัยว่าเหตุใดหยางเย่ที่ถามเกี่ยวกับสมาคมผู้ใช้ยันต์ เขาก็ไม่กล้าถามเรื่องนี้กลับ

หยางเย่ถามด้วยความสงสัย “งั้นก็หมายความว่านอกจากหกมหาอำนาจ และจักรวรรดิต้าฉิน พวกเขายังเป็นอีกหนึ่งมหาอำนาจที่ร้ายกาจด้วยงั้นหรือ?”

หม่าหนานพยักหน้าพร้อมกล่าว “สามารถกล่าวได้เป็นหนึ่งมหาอำนาจ แต่ที่ไม่เหมือนมหาอำนาจอื่นเพราะสมาชิกพวกเขามีอิสระเป็นของตนเอง สมาชิกของสมาคมสามารถเข้าร่วมมหาอำนาจอื่นได้ในรูปแบบพันธสัญญา ไม่ได้อยู่แบบถาวร ยกตัวอย่างเช่นยอดเขาผู้ใช้ยันต์ของสำนักดาบราชันของเรา พวกเขาไม่ได้เป็นของสำนักดาบราชัน แต่เป็นเพียงร่วมมือด้วยบางส่วนเท่านั้น!”

“มันไม่เพียงแค่สำนักดาบราชัน แม้กระทั่งจักรวรรดิต้าฉินหรือมหาอำนาจอื่นก็มีอาจารย์ยันต์ บรรดาอาจารย์ยันต์ก็ทำสัญญากับมหาอำนาจเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้เป็นของพวกเขา อย่างเช่นหลังจากอาจารย์ยันต์เข้าร่วมสำนัก แม้สำนักนั้นจะถูกทำลาย อาจารย์ยันต์ก็ไม่มีอะไรต้องเดือดร้อน เพราะพวกเขาขึ้นตรงกับสมาคมผู้ใช้ยันต์ ใครก็ตามที่แตะต้องพวกเขา พวกเขาจะถูกแก้แค้นจากสมาคมผู้ใช้ยันต์!”

“การแก้แค้นของสมาคมผู้ใช้ยันต์?” หยางเย่ถามด้วยความประหลาดใจ

หม่าหนานพยักหน้า “เงื่อนไขที่จะได้เป็นอาจารย์ยันต์นั้นลำบากมาก ดังนั้นจึงมีพวกเขาอยู่เพียงน้อยนิด ด้วยจำนวนที่น้อยนิดนี้ อาจารย์ยันต์จึงสามัคคีกันอย่างมาก! พวกเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสามัคคีกัน หากไม่ทำเช่นนั้น พวกเขาคงจะไม่เหลืออยู่อีกต่อไป!”

หยางเย่เงียบอยู่ชั่วครู่เมื่อได้ยิน ในอดีตเขาทราบถึงสถานะของอาจารย์ยันต์ว่าเป็นที่น่ายกย่องอย่างมาก แต่ไม่เคยคาดคิดว่านอกจากจะน่ายกย่อง หกมหาอำนาจยังต้องอ่อนข้อต่อสมาคมผู้ใช้ยันต์ บัดนี้เขาเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าเหตุใดบรรดาผู้อาวุโสถึงเกรงกลัวปู่ของเปาเอ๋อ ทั้งเปาเอ๋อและปู่ของนางไม่ใช่สมาชิกของสำนักดาบราชัน!

หม่าหนานกล่าวต่อ “สถานะของสมาคมผู้ใช้ยันต์ในเขตแดนใต้นั้นยิ่งใหญ่โดยแท้จริง ยกตัวอย่างเช่น หากอาจารย์ยันต์ก่ออาชญากรรมใดขึ้น จักรวรรดิต้าฉินจะไม่ลงทัณฑ์พวกเขา แต่จะให้สมาคมผู้ใช้ยันต์จัดการด้วยตนเอง แน่นอนว่ามันไม่ได้รุนแรงเท่าไหร่นัก”

หยางเย่ตกตะลึงยิ่งขึ้น “กฎหมายของจักรวรรดิต้าฉินไม่มีผลต่ออาจารย์ยันต์งั้นหรือ?”

หยางเย่เติบโตในจักรวรรดิต้าฉิน ดังนั้นจึงทราบดีถึงความเข้มงวดในกฎหมายนี้ จักรวรรดิต้าฉินปกครองจักรวรรดิด้วยกฎหมาย และกฎหมายกล่าวได้ว่าเป็นรากฐานหลักของจักรวรรดิ แม้จะเป็นศิษย์ของโรงเรียนปราชญ์ หรือสำนักอื่นกระทำความผิดขึ้นมา พวกเขาก็จะถูกลงโทษโดยจักรวรรดิต้าฉิน!

หม่าหนานส่ายหัวพร้อมกล่าว “ไม่ใช่ว่าไม่มีผล แต่มันเป็นสิทธิพิเศษที่จักรวรรดิต้าฉินมอบให้สมาคมผู้ใช้ยันต์ โดยปกติสมาคมผู้ใช้ยันต์ก็จะไม่ปกป้องผู้ที่กระทำผิดอยู่แล้ว หากผู้ใช้ยันต์ก่ออาชญากรรมที่ร้ายแรง อาจารย์ยันต์ผู้นั้นจะถูกปลดจากการเป็นสมาชิกของสมาคม เมื่อถูกปลดแล้ว อาจารย์ยันต์ผู้นั้นจะไม่ถูกปกป้องจากสมาคมอีกต่อไป และจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษทุกอย่างที่สมาคมมี!”

“เป็นเช่นนี้เอง!” หยางเย่พยักหน้า นี่เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ เพราะจักรวรรดิต้าฉินก็ไม่ยอมให้มหาอำนาจอยู่เหนือกฎหมาย เพราะไม่เช่นนั้นจะทำให้อาจารย์ยันต์เป็นพวกที่หยิ่งผยองอย่างไม่น่าเชื่อ และอำนาจของจักรวรรดิจะได้รับผลกระทบแน่นอน! ดังนั้นจักรวรรดิต้าฉินจะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร?

หม่าหนานเผยรอยยิ้ม “ถึงแม้จะมีข้อจำกัดบางอย่าง แต่สถานะของพวกเขาก็ยังยิ่งใหญ่อยู่ดี ด้วยสถานะของอาจารย์ยันต์ พวกเขาจะเป็นที่ต้อนรับอย่างสูงในทุกที่ของเขตแดนใต้ ไม่ว่าจะไปที่ไหน ผู้อื่นจะปฏิบัติกับพวกเขาอย่างสุภาพที่สุด!”

หยางเย่ยิ้มพร้อมพยักหน้า ตอนนี้เขาต้องการจะขอบคุณเปาเอ๋อ เพราะนางเป็นผู้ทำให้เขากลายเป็นอาจารย์ยันต์ ด้วยตัวตนของอาจารย์ยันต์นั้น เขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่จะทำในเวลานี้!

ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงสมาคมผู้ใช้ยันต์ในเมืองอาทิตย์อุทัยอย่างไม่รู้ตัว

สาขาของสมาคมผู้ใช้ยันต์ในเมืองอาทิตย์อุทัย ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่เจริญรุ่งเรืองสุดในเมือง สมาคมถูกสร้างให้หรูหรา และยิ่งใหญ่อย่างมาก

ขณะที่มองอาคารตรงหน้า หยางเย่ทำได้เพียงแสดงอารมณ์พึงพอใจในความมั่งคั่งของอาจารย์ยันต์ แม้จะเป็นสาขาย่อยแต่ก็ยังมีถึงหกชั้น และมันถูกสร้างขึ้นมาจากเพชร เพชรขนาดเท่าหนึ่งฝ่ามือมีมูลค่าถึงสิบเหรียญทอง! ยิ่งกว่านั้นสิบเหรียญทองที่ว่าสามารถทำให้ครอบครัวหนึ่งอยู่ได้เป็นปี

เมื่อเห็นหยางเย่ตกตะลึงในอาคารที่สร้างจากเพชรตรงหน้า หม่าหนานกล่าวด้วยรอยยิ้ม “อาจารย์ยันต์มีชื่อเสียงในเรื่องความมั่งคั่ง เพราะไม่ว่าจะยันต์ประเภทไหนของพวกเขา มันก็สามารถขายได้เป็นหมื่น ๆ เหรียญทอง”

หยางเย่พยักหน้า จากนั้นเขามองไปที่หม่าหนาน “พี่หม่า ข้าจะเข้าไปทำธุระบางอย่าง หากท่านไม่รีบร้อนช่วยรอข้าที่นี่สักครู่”

“ศิษย์พี่จะเข้าไปข้างในงั้นหรือ?” หม่าหนานประหลาดใจ จากนั้นรีบกล่าว “ศิษย์พี่ พวกเราสามารถทำได้เพียงมองดูสมาคมผู้ใช้ยันต์จากด้านนอกเท่านั้น”

แต่เดิมเขาคิดว่าหยางเย่มาเพื่อเยี่ยมชมสมาคมผู้ใช้ยันต์ แต่ไม่คาดคิดว่าหยางเย่ต้องการจะเข้าไปข้างใน สิ่งนี้มันเกินความคาดหมายของเขามากนัก

หยางเย่เผยรอยยิ้ม ขณะกำลังจะกล่าวอะไรบางอย่าง ได้มีรถม้าวิ่งมาอย่างรวดเร็วบนถนน รถม้าดูรวดเร็วและคลุ้มคลั่งเล็กน้อย มันทำให้ผู้คนกลางถนนตื่นตระหนกจนต้องหนีออกด้านข้าง

“ดูเหมือนจะเป็นคุณหนูสามของตระกูลเฉียวมาเข้าสอบเพื่อเป็นอาจารย์ยันต์อีกครั้ง!” หม่าหนานกล่าวขณะมองไปยังรถม้า

“ตระกูลเฉียว?” หยางเย่สงสัยเล็กน้อย

หม่าหนานพยักหน้าพร้อมอธิบาย “ตระกูลเฉียวคือตระกูลที่ผงาดขึ้นในเมืองอาทิตย์อุทัยปีนี้ ผู้สูงอายุของตระกูลเป็นยอดฝีมือขั้นปราณจิตวิญญาณ และตระกูลนี้ค่อนข้างมีอำนาจมากในเมืองอาทิตย์อุทัย เช่นนั้นต้องเป็นคุณหนูสามของตระกูลเฉียวที่นั่งอยู่ในรถม้า เหตุผลที่ตระกูลเฉียวสามารถผงาดขึ้นได้ไม่ใช่เพราะมีคนอยู่ขั้นปราณจิตวิญญาณ แต่มันเป็นเพราะคุณหนูสามของตระกูล!”

ขณะที่มองไปยังรถม้า หยางเย่เผยรอยยิ้มออกมา “คุณหนูสามคนนี้เป็นอาจารย์ยันต์ใช่หรือไม่?”

หม่าหนานกล่าว “อันที่จริงนางยังไม่ได้เป็น นางเพียงแค่มีคุณสมบัติในการเป็นอาจารย์ยันต์!”

“นางครอบครองพลังปราณห้าธาตุงั้นหรือ?” หยางเย่ถาม

หม่าหนานส่ายหัว “ไม่ใช่ มันเป็นพลังปราณกลายพันธุ์ นาง…”

“มีคนสามารถเป็นอาจารย์ยันต์โดยไม่ได้มีพลังปราณห้าธาตุได้ด้วยหรือ?” หยางเย่ถามขัดจังหวะหม่าหนานด้วยความประหลาดใจ เพราะเปาเอ๋อบอกเขาว่ามีเพียงผู้ครอบครองพลังปราณห้าธาตุเท่านั้น ถึงจะสามารถเป็นอาจารย์ยันต์ได้

หม่าหนานคุ้นชินกับความไม่ทราบของหยางเย่แล้ว จากนั้นเขาจึงรีบอธิบาย “อันที่จริง มันไม่จำเป็นต้องมีพลังปราณห้าธาตุก็สามารถเป็นอาจารย์ยันต์ได้ ตราบใดที่พลังปราณล้ำลึกไม่ออกจากร่างกาย คนผู้นั้นก็สามารถเป็นอาจารย์ยันต์ได้ และพลังปราณกลายพันธุ์สามารถทำได้เช่นกัน แน่นอนว่ามันด้อยกว่าพลังปราณห้าธาตุ! ดังนั้นยังไม่มีอาจารย์ยันต์คนไหนรับคุณหนูสามเป็นศิษย์จนกระทั่งบัดนี้!”

หยางเย่พยักหน้า ตอนนี้เขาเข้าใจในพลังปราณของตนเองแล้วว่ามันไม่ใช่พลังปราณห้าธาตุ ที่เขาสามารถเป็นอาจารย์ยันต์ได้เพราะมันมาจากพลังปราณกลายพันธุ์ ‘ดูเหมือนพลังปราณกลายพันธุ์ของเราจะร้ายกาจกว่าพลังปราณห้าธาตุเสียอีก!’

หยางเย่ส่ายหัวและยิ้มออกมา “พี่หม่า หากท่านมีต้องไปทำ ท่านสามารถกลับโรงเตี๊ยมก่อนได้เลย ข้าจะเข้าไปเดี๋ยวนี้!” ทันทีที่กล่าวจบหยางเย่เดินตรงเข้าไปยังสมาคมผู้ใช้ยันต์

หม่าหนานลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่ก็ไม่ได้ห้ามหยางเย่ ‘ถึงแม้ศิษย์พี่จะไม่ทราบสิ่งใด แต่เขาก็ไม่ใช่คนโง่เขลา ดังนั้นเมื่อหยางเย่นึกจะเข้าไปในสมาคม เขาก็ต้องมีบางสิ่งที่ต้องเข้าไปทำจริง!’

“หยุดอยู่ตรงนั้น!” ขณะที่หยางเย่กำลังจะเดินเข้าประตู ทันใดนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาขัดขวาง

หยางเย่มองไปที่ชายหนุ่มด้วยท่าทีประหลาดใจเล็กน้อย เพราะชายหนุ่มคนนี้เป็นยอดฝีมือขั้นปราณสวรรค์ ยิ่งกว่านั้นยอดฝีมือขั้นปราณสวรรค์เป็นเพียงคนเฝ้าประตู? ถูกต้อง ชายหนุ่มตรงหน้าเป็นเพียงผู้ยามรักษาการณ์ และหยางเย่ก็มองข้ามเขามาตั้งแต่แรก

“นี่คือสมาคมผู้ใช้ยันต์ คนนอกห้ามเข้า!” ชายหนุ่มกล่าวอย่างเคร่งขรึม

“ข้าต้องการทดสอบเพื่อที่จะเป็นอาจารย์ยันต์!” หยางเย่กล่าวอย่างเรียบง่าย

ชายหนุ่มชะงักไปเมื่อได้ยิน จากนั้นท่าทีของเขาก็นุ่มนวลขึ้นเล็กน้อย “ท่านมีจดหมายแนะนำหรือไม่?”

“จดหมายแนะนำ?” หยางเย่ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นส่ายหัวพร้อมกล่าว “ข้าไม่สามารถเข้ารับการทดสอบได้หากไม่มีจดหมายแนะนำงั้นหรือ?”

เมื่อได้ยินหยางเย่ ท่าทีชายหนุ่มเปลี่ยนไปเย็นเยือกอีกครั้ง “แน่นอนว่าไม่ได้! ทราบหรือไม่ว่าอาจารย์ยันต์ยุ่งแค่ไหนในแต่ละวัน? หากใครก็ได้จะมาทดสอบ เช่นนั้นพวกเขาจะมีเวลาศึกษาศาสตร์แห่งยันต์งั้นหรือ? เอาล่ะ ข้าจะไม่เปลืองลมหายใจกับเจ้า รีบออกไปจากที่นี่เสีย มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่ปรานี!”

หยางเย่ขมวดคิ้วอีกครั้ง เขาไม่คาดคิดว่าการทดสอบต้องใช้จดหมายแนะนำ และยังไม่รู้จักอาจารย์ยันต์คนอื่นนอกจากเปาเอ๋อ! ‘อาจารย์ของเราอาจจะมีจดหมายแนะนำให้ แต่จะไปหาเขาได้จากที่ไหนกันล่ะ?’

“ให้เขาเข้าไปกับข้า!” ทันใดนั้น เสียงอันไพเราะดังขึ้นจากด้านหลังหยางเย่!