มหาอำนาจที่มิอาจล่วงเกิน…นิกายบูชาไฟ!
เฉินเฉ่าช่วยกับคนที่เหลือต่างเป็นผู้ที่มาเยือนผาน้ำตกครั้งแรก ล้วนถูกคำ ‘กระบี่’ บนผาน้ำตกดึงดูดความสนใจไปสิ้น
ต้วนหลิงเทียนหันไปกล่าวกับเฟิ่งหวู่เต้า ซื่อหม่าฉางฟง กับฉงเฉวียนเสียงเข้ม “ผู้ที่ทิ้งคำกระบี่ไว้บนผาน้ำตก…เป็นยอดคนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าจริงๆ เรื่องนี้ข้ายืนยันได้แน่ชัดแล้ว”
ถึงแม้คำ ‘กระบี่’ จะเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อ แต่ตอนแรกต่างก็คิดว่าวาจาที่เหลือไว้มันเกินจริงไปหน่อย
ไม่ต้องกล่าวถึงพวกเฟิ่งหวู่เต้ากับคนอื่น ตอนนั้นกระทั่งต้วนหลิงเทียนยังไม่อยากจะเชื่อ
จนกระทั่งวันก่อนพอเขาได้เห็นอาการของตี้จิ่ว ต้วนหลิงเทียนก็พบได้ทันทีว่าเซียนกระบี่ฟงชิงหยางนั้นร้ายกาจถึงเพียงใด
นั่นทำให้เขาพลันตระหนักถึงคุณค่าของผาน้ำตกนี่เพิ่มขึ้นอีกหลายส่วน
ด้านพวกเฟิ่งหวู่เต้าพอได้ยิน ก็อดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าด้วยความหนาวเหน็บ
ในเมื่อต้วนหลิงเทียนกล่าวยืนยันออกมาเอง พวกมันก็ไม่คิดคลางแคลงสงสัยอะไรอีก หันไปจับจ้องมองคำ ‘กระบี่’ อีกครั้งทันที หมายได้รับความเข้าใจเพิ่มเติม
ต้วนหลิงเทียนพาทั้งหมดมาที่นี่ด้วยเหตุผล 2 ประการ หนึ่งเพื่อมาดูมรดกที่เซียนกระบี่ฟงชิงหยางทิ้งไว้อีกครั้ง ส่วนประการที่สองก็เพื่อซ่อนตัวจากตี้จิ่ว
เขาเชื่อมั่นว่าหากเป็นที่นี่ต่อให้ตี้จิ่วมาถึงทวีปเมฆาล่อง ให้มันตระเวนหาไปทั่วก็ยากที่จะพบเจอพวกเขา!
นั่นเพราะหุบเขาแห่งนี้มีพลังอันยากหยั่งถึงที่เอ่อล้นออกมาจากคำ ‘กระบี่’ ปกคลุม มันสามารถระงับพลังวิญญาณทั้งมวลที่แผ่ลงมาสำรวจได้ โดยที่ไม่ทำให้เจ้าของพลังวิญญาณสัมผัสถึงความผิดปกติ
ด้วยเหตุนี้เขาจึงคิดใช้ที่แห่งนี้เป็นที่ซ่อนตัว เพราะมันปลอดภัยที่สุด
และดั่งที่ต้วนหลิงเทียนคิดไว้ไม่มีผิด ตี้จิ่วนั้นได้ออกตระเวนล่าตัวต้วนหลิงเทียนไปทั่วทั้งทวีปมนุษย์!
ตอนนี้อาการบาดเจ็บของมันก็หายดีหลายส่วน
ถึงแม้จะยังไม่ฟื้นฟูถึงขั้นสมบูรณ์พร้อม แต่คงใช้เวลาเพียงไม่นานในการตรวจสอบทั้งทวีปมนุษย์!
เวลาค่อยๆไหลผ่านไปอย่างเงียบงัน
ไม่กี่เดือนต่อมา ทวีปเมฆาล่องก็ถูกตี้จิ่วตรวจสอบทุกตารางนิ้ว อนิจจากลับไม่พบร่องรอยต้วนหลิงเทียนกับคนอื่นๆเลย จังหวะนี้อดไม่ได้ที่มันจะพิโรธเดือดดาลหนักข้อ!
ตี้จิ่วเลือกที่จะย้อนกลับไปยังเกาะป้านเยว่ ก่อนที่จะระบายโทสะแค้นด้วยการซัดพลังทำลายเกาะป้านเยว่!
ปง! ปง! เปรี๊ยง! ตูม!!
……
ภายใต้การซัดพลังระบายแค้นอย่างคุ้มคลั่ง เกาะป้านเยว่ก็ไม่อาจทานทนรับไหวสืบไป รากฐานพังทลาย ตัวเกาะจมลงสู่ก้นสมุทร!
บัดนี้เกาะป้านเยว่ที่เคยดำรงอยู่ กลับไม่มีอีกต่อไป คงเหลือเพียงห้วงสมุทรอันว่างเปล่าเท่านั้น!
“ต้วน หลิง เทียน!!”
เมื่อคิดถึงชายหนุ่มชุดม่วงที่ปั่นหัวมัน ตี้จิ่วได้แต่คำรามออกมาด้วยความคับแค้น ขบเคี้ยวฟันจนหลั่งเลือด อนิจจามันยังจะทำอะไรได้
เกลียดชังเคียดแค้นปานใด หาตัวไม่เจอก็เท่านั้น…
“จากไหวพริบของสารเลวน้อยนั่น ยงเอ๋อมิพ้นถูกมันล่อลวงเข้าไปในเจดีย์ จนถูกนกไฟสีทองประหลาดนั่นฆ่าตายไปแล้วแน่!”
ตี้จิ่วยิ่งคิดก็รู้สึกว่าฆาตกรตัวจริงสมควรเป็นต้วนหลิงเทียนไม่ผิดเพี้ยน! ด้วยความเคียดแค้นสังหารบุตรชาย ใจมันยิ่งทวีความอาฆาตต่อต้วนหลิงเทียนถึงขีดสุด มิอาจอยู่ใต้ฟ้าเดียวกันได้สืบไป!
“ต้วนหลิงเทียน ไม่ช้าก็เร็วข้าต้องหาเจ้าเจอแน่! ถึงตอนนั้นข้าจะทรมานจนเจ้าร่ำร้องขอความตาย!!”
หลังคำรามออกด้วยโทสะจนห้วงสมุทรปั่นป่วนอีกรอบ ตี้จิ่วก็จากไป
มันมุ่งหน้าขึ้นเหนือ กลับสู่ดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า
จุดหมายปลายทางของมันคือเผ่าพันธุ์มังกร!
ในขณะที่มันนึกแค้นต้วนหลิงเทียนจนอยากจับจับอีกฝ่ายมาแล่เนื้อเถือหนังบดกระดูก ใจตี้จิ่วก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงร่างสตรีนางนั้นขึ้นมา
สตรีนางนั้นย่อมเป็นชือเม่ย
“นิกายบูชาไฟคืออันใดกัน ใยข้าถึงมิเคยได้ยินนามของขุมพลังนี้มาก่อน…ทว่ากลับสร้างยอดฝีมือเช่นนางขึ้นมาได้ เช่นนั้นไม่สมควรไร้ชื่อเสียงบนดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าแห่งนี้”
ขณะที่พึมพำใจตี้จิ่วก็อดไม่ได้ที่จะเต็มไปด้วยความสับสน
“ฟังจากที่นางว่า คล้ายผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรจักล่วงรู้เรื่องนิกายบูชาไฟ”
พอนึกถึงเรื่องนี้ ใจตี้จิ่วก็คิดว่า พอกลับไปถึงจะถามผู้นำให้รู้ความ
อย่างไรก็ตามในขณะเดินทาง ส่วนมากอารมณ์ของมันยังเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะต้วนหลิงเทียนคนเดียว!
มันว่ามันก็ระวังตัวและรอบคอบมากแล้ว แต่ยังตกหลุมพรางของต้วนหลิงเทียนเสียได้!
เรื่องนี้ทำให้มันเจ็บใจทั้งโกรธแค้นนัก!
ชั่วชีวิตมัน ไหนเลยยังเคยถูกผู้คนปั่นหัวแบบนี้?
ซ้ำร้ายผู้ที่ปั่นหัวมัน เผลอๆจะเป็นฆาตกรฆ่าบุตรชายของมันอีกด้วย!
ในฐานะ ‘มังกรเทพยาดาสีทอง 5 กรงเล็บ’ ศักดิ์ศรีมันยังสำคัญกว่าชีวิต! ไหนเลยจะทำใจยอมรับได้..ว่าถูกปั่นหัวเล่นเช่นนั้น!!
ด้วยเหตุนี้แม้กระทั่งมันกลับมาถึงเผ่ามังกรแล้ว ใจมันก็ยังเต็มไปด้วยโทสะยากระงับ
“ตาแก่ เจ้าเคยได้ยินเรื่อง ‘นิกายบูชาไฟ’ หรือไม่?”
หลังจากที่กลับมาถึงเผ่าพันธุ์มังกร ตี้จิ่วก็ตรงไปหาผู้นำเผ่าพันธุ์ อันเป็นมังกรเทพยาดา 5 กรงเล็บ แต่ต่างสายพันธุ์กับมันก่อนอื่นใด
“จะ…เจ้าไปได้ยินนาม ‘นิกายบูชาไฟ’ มาแต่ที่ใด!?”
พอได้ยินคำถามของตี้จิ่ว สีหน้าผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรเปลี่ยนไปทันที ใบหน้าเผยให้เห็นถึงความหวาดผวาพรั่นกลัว ลูกตาสั่นไหวเลื่อนลอยคล้ายเห็นผี
ความหวาดกลัวของผู้นำ ตี้จิ่วย่อมเห็นได้ชัด
อา!
ทำให้ผู้นำหวาดกลัวได้ถึงขั้นนี้ นิกายบูชาไฟ ที่แท้คืออะไรกันแน่?
“ตาแก่ นิกายบูชาไฟ ร้ายกาจมากหรือ?”
ตี้จิ่วถามออกไปทันที
“บอกข้ามา! เจ้าไปได้ยินนามนิกายบูชาไฟมาได้อย่างไร!? พูด!!”
ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรไม่ตอบ แต่เลือกที่จะถามซ้ำ ขณะถามน้ำเสียงเต็มไปด้วยความร้อนรนใจไม่น้อย ราวกับคำตอบนี้สำคัญใหญ่หลวง!
เมื่อเห็นผู้นำจริงจังร้อนใจขนาดนี้ ตี้จิ่วก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย จึงกลายเป็นตึงเครียดขึ้นมาเช่นกัน
ยกเว้นเรื่องเจดีย์ 7 ชั้นประหลาดนั่น มันเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนเกาะป้านเยว่โดยไม่ปิดบังอะไรเลย รวมถึงสตรีที่กล่าวว่ามาจากนิกายบูชาไฟนั่นด้วย
สาเหตุที่มันไม่กล่าวถึงเจดีย์ประหลาด 7 ชั้นนั่น ล้วนเป็นเพราะความโลภในใจและความเห็นแก่ตัวของมันทั้งสิ้น
ในสายตาของมัน ถึงแม้ต้วนหลิงเทียนจะหลอกมันได้ แต่เจดีย์ 7 ชั้นนั่นไม่ใช่ของปลอม!
พลังอำนาจที่ขับไล่มันออกจากเจดีย์เป็นอะไรที่มหาศาลยากหยั่งถึง สุดที่มันจะต้านทานได้จริงๆ!
ด้วยเหตุนี้มันจึงไม่คิดว่าต้วนหลิงเทียนจะเป็นเจ้าของเจดีย์ดังกล่าว
ในความคิดของมัน เจดีย์ประหลาดนั่นสมควรยังอยู่ที่ก้นเหวลึกใต้สมุทร เพียงแค่มันยังหาวิธีเรียกออกมาไม่เจอเท่านั้น
ตอนนี้ในเมื่อมันเห็นเจดีย์นั่นแล้ว เช่นนั้นเจดีย์นั่นคือของมัน มิอาจให้ใครแตะต้องได้!
‘มรดกของเซียนกระบี่ฟงชิงหยางต้องเป็นของข้าตี้จิ่วแต่เพียงผู้เดียว! มีแต่ข้า ตี้จิ่ว! ที่สมควรเป็นผู้สืบทอดของเซียนกระบี่!!’
นี่คือความทะยานอยากของตี้จิ่ว!
หลังได้ฟังเรื่องราวจากปากตี้จิ่ว ผู้นำเผ่าพันธุ์พอได้ระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ดูเหมือนว่านางจะไม่ติดใจถือสาหาความอันใดกับเจ้ารวมถึงเผ่าพันธุ์มังงกรของพวกเรา ขอบคุณสวรรค์!”
ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรที่ยังเต็มไปด้วยความกลัว กล่าวออกมาด้วยความโล่งใจ
“ตาแก่ นี่เจ้ายังไม่ได้บอกข้าเลยว่านิกายบูชาไฟนั่นมันคืออะไรกันแน่ ไฉนถึงได้กลัวนักเล่า? แถมข้าเองก็ไม่เคยเห็นได้ยินเรื่องนิกายนี้มาก่อน ทำไมกระทั่งเจ้ายังกลัวได้ขนาดนี้…”
ในเรื่องนี้ตี้จิ่วอดไม่ได้ที่จะสงสัยนัก
“ตี้จิ่ว เจ้ายังมิได้เป็นผู้นำของเผ่าพันธุ์มังกร เช่นนั้นเรื่องนี้ข้ายังมิอาจบอกเจ้าได้…แต่ข้าขอกล่าวบอกเจ้าไว้คำเดียว…นิกายบูชาไฟ เป็นมหาอำนาจที่เผ่าพันธุ์มังกรเรามิอาจล่วงเกินได้โดยเด็ดขาด!”
ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรกล่าวออกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ตาแก่เจ้าหมายความว่า…เรื่องนิกายบูชาไฟ เป็นอะไรที่รู้ได้เฉพาะผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรงั้นเหรอ?”
ตี้จิ่วสูดลมหายใจเข้าด้วยความตกใจ ก่อนที่จะกล่าวถาม
“มิผิด”
ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรกล่าวออกด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “ที่จริงไม่ใช่แค่เจ้า กระทั่งอาวุโสในเผ่าพันธุ์เราก็อาจมิมีใครเคยได้ยินเรื่องนิกายบูชาไฟมาก่อน แต่ข้าก็ไม่ได้มั่นใจเต็มสิบส่วน…บางทีพวกมันอาจเคยได้ยินเรื่องนี้มาจากที่ไหนก็ได้”
“แต่เจ้าจดจำคำของข้าไว้เสียให้ดี…แม้เจ้าจะถูกคนของนิกายบูชาไฟหยามหมิ่นให้อัปยศอดสูเพียงใด เจ้าก็ทำได้แค่ก้มหัวยอมรับกล้ำกลืนฝืนทนเอาไว้เงียบๆอย่าได้ริอาจต่อต้านเด็ดขาด…เพราะเจ้าคือผู้นำคนต่อไปของเผ่าพันธุ์มังกร เจ้าต้องตระหนักถึงภาพรวมและรับผิดชอบคนทั้งเผ่า!”
ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรยังกล่าวกำชับย้ำเตือนออกมา
วาจาของผู้นำชราล้วนเต็มไปด้วยความหวาดกลัว นี่ทำให้ตี้จิ่วเองก็รู้สึกหวั่นใจไม่น้อย ด้านหนึ่งก็ยิ่งอยากรู้เรื่องของนิกายบูชาไฟให้มากกว่านี้ ด้านหนึ่งก็เริ่มหวาดกลัวขึ้นมา
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ล่วงรู้เรื่องของนิกายบูชาไฟ แต่ตอนนี้มันตระหนักได้อย่างหนึ่ง
นั่นก็คือ…แม้พวกมันจะเป็นเผ่าพันธุ์มังกร แต่ก็ไม่อาจล่วงเกินอีกฝ่ายได้!
“จากที่เจ้าเล่ามา เช่นนั้นเจ้าก็ยังมิแน่ใจว่าผู้ใดฆ่าลูกเจ้ากันแน่?”
ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรกล่าวถามเปลี่ยนเรื่องออกมา
“ถึงแม้ว่าข้าจะยังไม่แน่ใจ แต่สารเลวน้อยที่เรียกว่าต้วนหลิงเทียนนั่นสมควรมีแรงจูงใจมากที่สุด”
ลูกตาของตี้จิ่วเผยความเคียดแค้นออกมาทันใด เร่งกล่าวออกเสียงเข้ม “ตาแก่ เรื่องนี้ข้าหวังว่าเจ้าจะช่วยข้าด้วย ส่งคนของเผ่าพันธุ์มังกรเราออกไปตามหาตัวบัดซบนั่น! ลากคอสารเลวน้อยต้วนหลิงเทียนนั่นมาให้ข้า!!”
ได้ยินคำของตี้จิ่ว ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรขมวดคิ้ว “ตี้จิ่ว จากที่ข้าฟังมา คนผู้นั้นสามารถหนีรอดไปได้ใต้เงื้อมมือเจ้า คิดว่าเป็นเรื่องง่ายที่คนของเผ่าพันธุ์มังกรเราจะหาตัวมันหรือ…ถึงแม้จะหาพบแต่เจ้าคิดว่าคนของพวกเราเต็มใจจับมันรึไร?”
“ตาแก่ที่มันหนีไปได้ล้วนเป็นเพราะข้าประมาทเอง!”
ตี้จิ่วกล่าวยืนกรานออกมา
เพราะความเห็นแก่ตัวของมันที่ไม่กล่าวถึงเรื่องเจดีย์ประหลาด 7 ชั้น ทำให้ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรคิดว่าต้วนหลิงเทียนสามารถหนีรอดไปได้ต่อหน้าต่อตา
“ตี้จิ่ว เจ้าควรรู้ไว้ ว่าเรื่องนี้เผ่าพันธุ์มังกรเรามิอาจช่วยเจ้าได้…เจ้าอย่าได้ลืมไป ในสายตาของผู้คนในเผ่า ต้วนหลิงเทียนคนนั้นนับเป็นผู้มีพระคุณของเผ่าพันธุ์มังกรเราก็ว่าได้ ที่ช่วยกำจัดมังกรมาร…เจ้าคิดว่าคนในเผ่าจะช่วยเจ้าจับตัวผู้มีพระคุณได้หรือ?”
ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรส่ายหัว
“ตาแก่เจ้าไม่ต้องบอกคนอื่นว่าหาตัวมันเพราะฆ่าลูกข้าก็ได้ เพียงหาข้ออ้างอื่นไปเถอะ…หรือเรื่องแค่นี้เจ้ายังทำไม่ได้?”
ได้ยินวาจาของผู้นำชรา ตี้จิ่วเป็นกังวลไม่น้อย
พลังฝีมือของมันอาจจะแข็งแกร่ง แต่มันก็ตัวคนเดียว
ถึงแม้คนของเผ่าพันธุ์มังกรจะไม่ได้มีมากมายอะไร
แต่ถ้าแยกย้ายกันตามหา ก็ย่อมดีกว่ามันหาอยู่คนเดียว
“อะไร? นี่เจ้าถึงขั้นให้ข้าหลอกลวงผู้คนเลยงั้นเรอะ!?”
หน้าผู้นำชราจมลงทันใด กล่าวถามออกมาเสียงเข้ม
“ตาแก่ หากเจ้าจะคิดว่าหลอกลวงก็หลอกลวงเถอะ”
หน้าตี้จิ่วไม่สะทกสะท้าน ปานหมูตายไม่กลัวน้ำเดือด
“หากข้าปฏิเสธเล่า?”
ผู้นำเผ่าพันธุ์มังกรหยีตากล่าวถาม