ภายใต้​คบเพลิง​นั้น​ ​สีหน้า​ของ​อวี​๋​จง​อี้​ไม่น่า​ดู​มาก​เท่าที่​จะ​มาก​ได้

เฉินลั​่​วก​ลับ​ยิ้ม​บาง​ๆ

ผู้อื่น​ต่าง​คิด​ว่า​ตระกูล​ซือ​เป็น​ตระกูล​ที่​ยืนหยัด​ขึ้น​มา​ได้​ด้วย​การ​พึ่งพา​อวี​๋​จง​อี้​ ​ตระกูล​ซือ​ก็​เหมือนกับ​ผู้ติดตาม​ของ​อวี​๋​จง​อี้​ ​ทว่า​เขา​เคย​สืบมา​อย่างละเอียด​แล้ว​ ​อวี​๋​จง​อี้​เป็น​คนที​่​เอาแต่ใจ​มาก​ ​ตอนแรก​ที่​เขา​ถูก​บีบ​ให้​ไปรั​บรา​ชกา​รอยู​่​ต่างเมือง​ ​หลัก​ๆ​ ​แล้วก็​เพราะ​นิสัย​ที่​ไม่​อาจ​อดทน​อดกลั้น​ของ​เขา​ ​อย่างไรก็ตาม​หลังจากที่​ไปรั​บรา​ชกา​รต​่าง​เมือง​หลาย​ปี​ ​ทำให้​ได้​รู้​ถึง​ความยากลำบาก​ของ​โลก​ใบ​นี้​ ​จึง​ระงับ​นิสัย​บางอย่าง​เอาไว้​ได้​ก็​เท่านั้น

แต่​กมล​สันดาน​ของ​เขา​ยังอยู่​ตรงนั้น​ ​อีกทั้ง​ได้​เป็น​ถึง​ขุนนาง​ใหญ่​ใน​สภา​ ​ต่อให้​อดกลั้น​เอาไว้​อย่างไร​ ​เนื้อใน​ก็​ยังคง​โหดเหี้ยม​หลาย​ส่วน​อยู่ดี

ยิ่งไปกว่านั้น​ด้วย​สถานะ​และ​ตำแหน่ง​ของ​เขา​ตอนนี้​ ​ ​ไม่ว่า​ใคร​ได้​เป็น​ฮ่องเต้​ก็​ไม่​อาจ​ปฏิบัติ​ต่อ​เขา​อย่าง​อยุติธรรม​ได้​ ​เขา​เหมือนกับ​เฉินลั​่ว​ ​การ​ไม่​เลือก​ข้าง​คือ​วิธี​รักษา​ตำแหน่ง​ที่​ยั่งยืน

ตระกูล​ซือ​กลับ​ลาก​เขา​ลง​น้ำ​ไป​ด้วย

ไม่​แปลกที่​ครั้งนี้​เขา​ต้อง​มารั​บองค​์​ชาย​ใหญ่​ด้วยตัวเอง

แปด​ถึง​เก้า​ใน​สิบ​ส่วน​เป็น​เพราะ​อยาก​ประกาศ​ท่าที​ของ​ตัวเอง​ต่อ​เรื่อง​นี้​ให้​ชัดเจน

หาก​เป็น​เฉินลั​่ว​คน​ก่อน​ ​ก็​คง​ลืมตา​ข้าง​หนึ่ง​หลับตา​ข้าง​หนึ่ง​ปล่อย​ผ่าน​ไป​แล้ว​ ​แต่​น่าเสียดาย​ ​เขา​มา​พบ​กับ​เฉินลั​่ว​คน​ปัจจุบัน​เข้า

เฉินลั​่​วจะ​ปล่อย​โอกาสดี​เช่นนี้​ไป​ได้​อย่างไร

อวี​๋​จง​อี้​อยาก​ลอยตัว​อยู่​เหนือ​ปัญหา​ ​เกรง​ว่า​คง​ไม่​ง่าย​!

เฉินลั​่ว​ไม่​กล่าว​อะไร​สัก​ประโยค​ ​ทำความเคารพ​อวี​๋​จง​อี้​ครั้งหนึ่ง​ท่ามกลาง​เสียงดัง​พึ่บพั​่บ​ของ​เปลวเพลิง​ ​ขาน​เรียก​ ​“​ใต้เท้า​อวี​๋​”​ ​เสียง​หนึ่ง​อย่างนอบน้อม​ ​กล่าวว่า​ ​“​ท่าน​มารั​บองค​์​ชาย​ใหญ่​กลับ​วัง​หรือ​ ​เขา​ได้รับบาดเจ็บ​สาหัส​ ​ไม่​สะดวก​ต่อ​การขยับ​เขยื้อน​ ​คง​ต้อง​รบกวน​ท่าน​ไปดู​เขา​ด้วยตัวเอง​แล้ว​”

ตอนที่​อวี​๋​จง​อี้​รู้​ว่า​ตระกูล​ซือ​เข้าไป​แทรกแซง​เรื่องส่วนตัว​ของ​ราชวงศ์​นั้น​ ​เขา​ระงับ​ความ​เดือดดาล​ใน​ใจ​เอาไว้​ไม่อยู่​ ​ด่าทอ​ตระกูล​ซือ​อย่างรุนแรง​ไป​หลาย​ประโยค

ผู้ช่วย​ของ​เขา​เห็น​เช่นนั้น​ก็​อด​บ่น​ไม่ได้​ว่า​ ​ท่าน​ให้ความสำคัญ​กับ​มิตรภาพ​มากเกินไป​ ​คน​ไม่รู้​สูง​ต่ำ​อย่าง​ตระกูล​ซือ​นี้​ ​ท่าน​ควร​ขีดเส้น​กับ​พวกเขา​ให้​ชัดเจน​ไป​ตั้ง​นาน​แล้ว​ ​หาไม่​วันนี้​พวกเขา​คง​ไม่​ทำให้​ท่าน​ต้อง​เดือดร้อน​ไป​ด้วย​เช่นนี้​ ​ข้าว​่า​ ​ต้อง​ทำให้​คน​ตระกูล​ซือ​รู้จัก​ดี​ชั่ว​ถึง​จะ​ถูก​ ​มิใช่​ท่าน​ไป​จาก​ตระกูล​ซือ​ไม่ได้​ ​มิใช่​ท่าน​ที่​อยาก​มี​แม่ทัพ​ใหญ่​เช่น​ตระกูล​ซือ​ ​แต่​เป็น​ตระกูล​ซือ​ที่​ไป​จาก​ท่าน​ไม่ได้​ ​หาก​ไม่มี​ท่าน​พวกเขา​ก็​คง​ก้าว​ไป​ไหน​ไม่ได้​แม้แต่​ก้าว​เดียว

อวี​๋​จง​อี้​หน้าซีด​เผือด​ ​ไม่​กล่าว​สิ่งใด

ผู้ช่วย​คน​นั้น​เห็น​เช่นนั้น​ก็​กล่าว​ต่อไป​อย่าง​อด​ไม่อยู่​ว่า​ ​หาก​มิใช่​ท่าน​ ​เขา​จะ​นั่ง​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​แม่ทัพ​ใหญ่​ได้​อย่างมั่นคง​หรือ​ ​แต่​ท่าน​ดู​เขา​ ​เปลี่ยน​ที่​ครั้งแล้วครั้งเล่า​ ​ผลสุดท้าย​เล่า​?​ ​ช่วย​พวกเขา​ติดสินบน​ไป​จนถึง​ฮ่องเต้​แล้วด้วย​ซ้ำ​ ​เขา​กลับ​ไม่มี​ปัญญา​อยู่​ที่ใด​ที่หนึ่ง​ได้​นาน​ ​ผู้ใต้บังคับบัญชา​ก็​ล้วนแล้วแต่​เป็น​หญ้า​เหนือ​กำแพง​ที่​ประจบ​ผู้​สูง​กว่า​เหยียบย่ำ​ผู้​ต่ำกว่า​เหล่านั้น​ทั้งสิ้น​ ​ข้าว​่า​จวน​ชิง​ผิง​โหว​ยัง​พึ่งพา​ได้มา​กก​ว่า​พวกเขา​เสียอีก

อวี​๋​จง​อี้​รู้สึก​ว่าที่​ผู้ช่วย​ของ​เขา​กล่าว​มามี​เหตุผล​ ​จึง​บังเกิด​ความคิด​หนึ่ง​ใน​ใจ​ ​แต่​ให้​พูด​ออกมา​ตอนนี้​ก็​ไม่มี​ความหมาย​อะไร​ ​เขา​เปลี่ยนไป​สวม​ชุด​ขุนนาง​แล้ว​เดินทาง​เข้า​วัง​ ​อยาก​เก็บกวาด​กระดาน​หมาก​ตา​สุดท้าย​ให้​เรียบร้อย​ก่อนที่​ตระกูล​ซือ​จะ​สร้างเรื่อง​วุ่นวาย​มาก​ไป​กว่านี​้

เพราะเหตุนี้​เขา​ถึง​ได้​อาสา​มารั​บองค​์​ชาย​ใหญ่​ด้วยตัวเอง

เพียงแต่ว่า​สิ่ง​ที่​ทำให้​เขา​คิดไม่ถึง​ก็​คือ​เฉินลั​่​วอ​ยู่​กับ​องค์​ชาย​ใหญ่​ด้วย​ ​นอกจากนี้​ยัง​เป็น​คน​ช่วยชีวิต​องค์​ชาย​ใหญ่​และ​พา​องค์​ชาย​ใหญ่​มารั​กษา​บาดแผล​ที่​วัด​เจิน​อู่

เขา​อด​ถาม​เฉินลั​่ว​ไม่ได้​ว่า​ ​“​เหตุใด​เจ้า​กับ​องค์​ชาย​ใหญ่​ถึง​อยู่​ด้วยกัน​ได้​”

ตาม​หลัก​แล้ว​ ​เฉินลั​่ว​ควร​สนิทสนม​กับ​องค์​ชาย​รอง​มากกว่า​ถึง​จะ​ถูก

หาก​องค์​ชาย​ใหญ่​สวรรคต​ ​รูปการณ์​ย่อม​เป็นผลดี​ต่อ​องค์​ชาย​รอง​มากกว่า

เฉินลั​่​วกำ​ลัง​คิด​จะ​หา​โอกาส​ล้วง​ข้อมูล​จาก​อวี​๋​จง​อี้​พอดี​ ​เพียงแต่ว่า​คน​อย่าง​อวี​๋​จง​อี้​นี้​ล้วนแล้วแต่​เป็น​จิ้งจอก​เฒ่า​เขี้ยว​คม​กัน​ทั้งสิ้น​ ​ต่อให้​เขา​อยาก​ถาม​แค่ไหน​ ​ก็​ต้อง​ดึง​พลัง​ใจ​ออกมา​สิบสอง​ส่วน​ ​เผชิญหน้า​กับ​อีก​ฝ่าย​อย่างระมัดระวัง​ ​หาไม่​นอกจาก​สอบถาม​อะไร​ออกมา​ไม่ได้​แล้ว​ ​มี​ความเป็นไปได้​มาก​ว่า​ตน​อาจ​ถูก​ล่อลวง​แทน

เขา​ตอบ​ ​“​ช่วงนี้​ข้า​ติดตาม​องค์​ชาย​ใหญ่​ไป​สังเกตการณ์​ที่​กรม​อาญา​ ​จึง​มีโอกาส​ออก​ไป​เดินเล่น​กับ​องค์​ชาย​ใหญ่​บ้าง​เป็นครั้งคราว​ ​ครั้งนี้​ก็​นัด​องค์​ชาย​ใหญ่​ไป​ชิม​อาหารเจ​ที่​วัด​หลิง​กวง​”

ส่วน​เรื่อง​ที่ว่า​เหตุใด​ถึง​ถูก​คน​ลอบสังหาร​นั้น​ ​เขา​มีท​่า​ที​เหมือน​ไม่​สะดวก​ที่จะ​เล่า​รายละเอียด​ ​ทำให้​อวี​๋​จง​อี้​ลอบ​ด่า​ฮ่องเต้​อยู่​ใน​ใจ​ไป​หลาย​ประโยค

อยาก​แต่งตั้ง​บุตรชาย​ที่​ถือกำเนิด​จาก​สตรี​อันเป็น​ที่รัก​ของ​ตัวเอง​ขึ้น​เป็นไท​่​จื่อ​ ​ใช่​ว่า​จะ​เป็นไปไม่ได้​ ​แต่​เพราะเหตุนี้​ถึงกับ​ต้อง​สังหาร​บุตรชาย​ที่​ถือกำเนิด​จาก​ภรรยา​ร่วม​ผูก​ผม​ ​นี่​ต่าง​อะไร​จาก​สามี​ใน​หมู่บ้าน​ชนบท​ที่​ต้องการ​เอาใจ​อนุ​ละเลย​ภรรยา​เหล่านั้น​?

ฮ่องเต้​แก่​แล้ว​จริงๆ​ ​ถูก​หนิง​ผิน​ผู้​นั้น​ใช้อุบาย​ล่อลวง​จน​ไม่มีเหตุผล​เหลืออยู่​แล้ว

อวี​๋​จง​อี้​นำ​หมวก​ดังกล่าว​ไป​วาง​ไว้​บน​ศีรษะ​ของ​หนิง​ผิน​ ​รู้สึก​ว่า​ฮ่องเต้​ถูก​สตรี​ร้ายกาจ​ผู้​นี้​ล่อลวง

แต่​ใน​ยาม​คับขัน​เฉินลั​่​วก​ลับ​คุ้มกัน​องค์​ชาย​ใหญ่​อย่างไร​้​อคติ​ได้​ ​ใน​สายตา​ของ​เขา​แล้ว​ ​นับว่า​มี​ศักยภาพ​ใน​การ​เป็น​ขุนนาง​ภักดี​ ​เป็น​ขุนนาง​มือสะอาด​ ​กระทั่ง​เป็น​ขุนนาง​ที่​กล้า​พูด​ต่อหน้า​จักรพรรดิ​อย่างตรงไปตรงมา

คนหนุ่ม​ที่​ไม่​ก้มหัว​ให้​ผู้มีอำนาจ​ ​มี​หลักการ​และ​ความคิด​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ​คน​เช่นนี้​ได้รับการยกย่อง​จาก​คนที​่​ผ่าน​การเปลี่ยนแปลง​ครั้ง​ใหญ่​ของ​โลก​นี้​มา​โชกโชน​อย่าง​อวี​๋​จง​อี้​เป็น​ที่สุด​แล้ว​

เขา​พยักหน้า​น้อย​ๆ​ ​ไม่​กล่าว​อะไร​กับ​เฉินลั​่​วอีก​ ​ตรง​ไป​ยัง​ห้อง​ยาที​่​องค์​ชาย​ใหญ่​พัก​รักษาตัว​อยู่

องค์​ชาย​ใหญ่​ยัง​ไม่ได้​ตัดสินใจ​ว่า​จะ​เผชิญหน้า​กับ​ความขัดแย้ง​ด้านนอก​อย่างไร​ ​เขา​จึง​หลับตา​แสร้ง​นอนหลับ

อวี​๋​จง​อี้​เห็น​ว่า​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​เขา​สาหัส​มาก​จริงๆ​ ​ไม่​สะดวก​เคลื่อนย้าย​เขา​ ​จึง​ทิ้ง​คน​ของกอง​พล​ขนนก​ซ้าย​และ​กองพล​ทองคำ​ซ้าย​เอาไว้​เฝ้า​ระวัง​ภัย​อยู่​ที่​วัด​เจิน​อู่​ ​ส่วนตัว​เอง​บอกกล่าว​ผู้บังคับบัญชา​กองพล​ทั้งสอง​ไป​สอง​สาม​ประโยค​แล้ว​ถึง​ได้​ถาม​เฉินลั​่​วว​่า​ ​“​เจ้า​จะ​อยู่​ดูแล​องค์​ชาย​ใหญ่​ที่นี่​หรือ​จะ​ตาม​ข้า​กลับ​จิง​เฉิง​?​”

เฉินลั​่ว​ตอบ​โดย​ไม่ต้อง​คิด​ว่า​ ​“​ข้า​อยู่​ดูแล​องค์​ชาย​ใหญ่​ที่นี่​ดีกว่า​!​ ​ไม่ว่า​จะ​กล่าว​อย่างไร​ ​เขา​ก็​เป็น​ญาติ​ผู้​พี่​ของ​ข้า​ ​รอ​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​เขา​ดีขึ้น​จน​เหมาะ​แก่​การ​เคลื่อนย้าย​แล้ว​ข้า​ค่อย​กลับ​ไป​โขก​ศีรษะ​ให้​เสด็จ​ลุง​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​ล้วน​เป็น​ข้า​ที่​ไม่​อาจ​ดูแล​องค์​ชาย​ใหญ่​ให้​ดี.​..​”

อวี​๋​จง​อี้​รู้สึก​ว่า​เช่นนี้​ก็ดี​เหมือนกัน​ ​องค์​ชาย​ใหญ่​ยัง​ไม่​ตาย​ ​ฮ่องเต้​คิด​จะ​ทำ​อย่างไร​ต่อ​?​ ​จวน​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​เคลื่อน​กองพล​ขนนก​ซ้าย​ได้​อย่างไร​?​ ​เฉินลั​่ว​ถูก​ลาก​เข้าไป​เกี่ยว​ด้วย​ ​ตระกูล​ซือ​เข้าไป​ผสมโรง​ด้วย​ ​ควรจะ​จัดการ​อย่างไร​ดี.​..​คิด​แล้ว​เขา​รู้สึก​ปวดศีรษะ​ไป​หมด​ ​ยิ่ง​ไม่ต้อง​พูดถึง​เรื่อง​ยัง​ต้อง​สร้าง​ความ​สมดุล​เรื่อง​สายสัมพันธ์​ต่างๆ​ ​อีก​ ​เฉินลั​่​วรั​้​งอยู​่​ที่นี่​ก็ดี​เหมือนกัน​ ​ทุกคน​ต่าง​ถอย​กัน​คนละ​หนึ่ง​ก้าว​ ​หาวิ​ธี​ชดเชย​ที่​ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​ยอมรับ​ได้​สัก​วิธี​หนึ่ง​ ​แล้ว​รีบ​ปกปิด​เรื่องอื้อฉาว​นี้​ให้​เร็ว​ที่สุด​คือ​สิ่ง​เร่งด่วน​ใน​ตอนนี้

“​เช่นนั้น​เจ้า​ก็​ระวังตัว​ด้วย​”​ ​อวี​๋​จง​อี้​จำต้อง​กำชับ​เขา​ ​“​หลัง​กลับ​ไป​แล้ว​ ​ข้า​จะ​ส่ง​กองพล​ม้า​ทะยาน​มา​ให้​ด้วย​ ​ล้วน​เป็น​คน​ของ​เจ้า​ทั้งสิ้น​ ​เจ้า​เอง​ก็ได้​ใช้งาน​ได้​สะดวก​”

เฉินลั​่ว​พลัน​มอง​อวี​๋​จง​อี้​ด้วย​ความ​ยกย่อง​มากขึ้น​หลาย​ส่วน

คนที​่​เป็น​ถึง​ขุนนาง​ใหญ่​ได้​ ​แต่ละคน​ล้วน​ไม่ธรรมดา​เลย​จริงๆ

นี่​เท่ากับ​มอบ​กุญแจ​ต่ออายุ​ให้​เขา​เพิ่ม​อีก​ชั้นหนึ่ง

เขา​ทำความเคารพ​อวี​๋​จง​อี้​ด้วย​ความจริงใจ​ ​รู้สึก​ว่า​ตระกูล​ซือ​ช่าง​โชคดี​จริงๆ​ ​ถึงกับ​มีที​่​หลบภัย​เป็น​อวี​้​จง​อี้​ ​แม้น​กล่าวว่า​อวี​๋​จง​อี้​ผู้​นี้​เป็น​บัณฑิต​เรียนหนังสือ​ ​ทว่า​กระทำ​สิ่งใด​กลับ​องอาจ​กล้าหาญ​กว่า​ขุนนาง​ฝ่ายบู๊​เหล่านั้น​เสียอีก

เฉินลั​่ว​ส่ง​อวี​๋​จง​อี้​ออก​ไป​แล้ว​ ​คิด​คำนวณ​อยู่​ใน​ใจ​ว่า​ ​ควร​ดึง​อวี​๋​จง​อี้​มา​เป็น​พวก​เดียว​กับ​เขา​หรือไม่​ ​ดีร้าย​ก็​เป็น​ภูเขา​ให้​พึ่งพิง​ได้

อวี​๋​จง​อี้​กลับ​กำลัง​คิด​ว่า​ประเดี๋ยว​พบ​ฮ่องเต้​ต้อง​พูด​อะไร​บ้าง​ ​แต่​เมื่อ​เขา​เข้าไป​ใน​วัง​ ​กลับ​ถูก​ขันที​ประจำ​ตำหนัก​เฉียน​ชิง​ขวาง​เอาไว้​ด้านนอก​ ​ยัง​กระซิบ​รายงาน​เขา​ด้วยว่า​ ​“​หม่า​กง​กง​กลับมา​แล้ว​ ​ฝ่า​บาท​กำลัง​คุย​กับ​เขา​อยู่​ ​ท่าน​กรุณา​รอสั​กค​รู่​”

ผู้บังคับบัญชา​ใหญ่​ที่​ฮ่องเต้​ส่ง​ไป​ครานี​้​คือ​หม่า​ซาน​ ​บัดนี้​องค์​ชาย​ใหญ่​รอดชีวิต​มา​ได้​ ​ข่าว​ฮ่องเต้​สังหาร​โอรส​จึง​ถูก​เปิดเผย​ออก​ไป​ ​คนที​่​พอ​มีหน้ามีตา​ใน​จิง​เฉิง​ต่าง​รู้​การกระทำ​ของ​ฮ่องเต้​หมด​แล้ว​ ​เกรง​ว่า​ชีวิต​ของ​หม่า​ซาน​คง​ไม่​ราบรื่น​นัก

เขา​หันไป​พยักหน้า​ให้​ขันที​ผู้​นั้น​ ​ตาม​ขันที​คนดัง​กล่าว​ไป​ยัง​ห้องน้ำ​ชา​ของ​ตำหนัก​เฉียน​ชิง

หม่า​ซาน​กลับ​เจ้าเล่ห์​กว่า​ที่​อวี​๋​จง​อี้​คิด​เอาไว้​มาก​โข​ ​เขา​คุกเข่า​หน้าผาก​แนบ​พื้น​อยู่​เบื้อง​พระพักตร์​ฮ่องเต้​ ​กล่าว​ด้วย​น้ำตา​คลอ​หน่วย​ว่า​ ​“​บ่าว​ตื้นเขิน​ดั่ง​หัวใจ​ถูก​พอก​ด้วย​มัน​หมู​ ​กลัว​ถูก​เหล่า​ขุนนาง​ใหญ่​รู้เรื่อง​ ​แต่​ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​หวาดกลัว​สิ่งใด​สิ่ง​นั้น​กลับ​เดินทาง​มาหา​ ​จู่ๆ​ ​คน​ของ​ตระกูล​ซือ​ก็​กระโดด​ออกมา​ ​ตอนนั้น​บ่าว​ไม่ได้​คิด​อะไร​มาก​ ​ยัง​คิด​ว่า​ตระกูล​ซือ​คง​อยาก​สร้าง​ผลงาน​ ​คิด​ว่า​ข้า​พระองค์​เป็น​คนสนิท​ของ​ฝ่า​บาท​ ​ต่อให้​พวกเขา​อยาก​สร้าง​ผลงาน​ก็​ต้อง​ให้​ฝ่า​บาท​อนุญาต​ก่อน​ ​นอกจาก​ไม่​ห้ามปราม​แล้ว​ ​ยัง​คิด​เอาไว้​ว่า​ถึง​เวลา​หาก​พวกเขา​ร้องขอ​ผลงาน​ต่อ​เบื้อง​พระพักตร์​พระองค์​ ​บ่าว​จะ​ต้อง​ทำให้​พวกเขา​ล้ม​ลง​ ​พวกเขา​ถึง​จะ​รู้​ว่าน​้ำ​ใน​จิง​เฉิง​นี้​ลึก​มาก​เพียงใด​…

…​แต่​ไม่​คิด​ว่า​พวกเขา​กลับ​มี​ความคิด​เช่นนี้​ ​เป็นคุณ​หนู​ของ​พวกเขา​ ​เพื่อ​ตำแหน่ง​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ซื่อ​จื่อ​แล้ว​ถึงกับ​ต้องการ​สังหาร​หลิน​หลาง​!​…

…​หลิน​หลาง​เป็น​เสมือน​บุตร​อีก​ผู้​หนึ่ง​ของ​พระองค์​ ​นิสัย​นั่น​คล้าย​พระองค์​อย่าง​กับ​แกะ​…

…​ตระกูล​ซือ​ไม่​ขยับ​เขา​ยัง​คิดไม่ถึง​ ​แต่​ตระกูล​ซือ​จงใจ​สร้างเรื่อง​ขนาด​นี้​ ​คน​เฉลียวฉลาด​อย่าง​เขา​ ​จะ​คิดไม่ถึง​ได้​อย่างไร​…

…​ด้วยเหตุนี้​ ​เขา​ไม่​เพียง​ไป​ช่วย​องค์​ชาย​ใหญ่​เท่านั้น​ ​ยัง​แอบหนี​ไป​หลบ​ที่​วัด​เจิน​อู่​และ​ขอให้​นักพรต​ช่วยรักษา​อาการ​บาดเจ็บ​ให้​องค์​ชาย​ใหญ่​อีกด้วย​…

…​ฝ่า​บาท​ ​บ่าว​คิดไม่ถึง​จริงๆ​ ​ว่า​จะ​กลายเป็น​คนโง่​อวด​ฉลาด​ไป​ได้​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ค่ะ​!​”​

ฮ่องเต้​ทอดพระเนตร​สภาพ​ของ​หม่า​ซาน​ ​ความ​เดือดดาล​ที่​ปะทุ​ขึ้น​มาตอน​ได้ยิน​ข่าว​เมื่อ​ครู่​ค่อยๆ​ ​สงบ​ลงมา​ตามเวลา​ที่​เคลื่อน​ผ่าน​ไป

หัวใจ​เขา​สงบ​ดุจ​น้ำ​ ​ออกคำสั่ง​ให้​ขันที​ข้าง​กาย​ไป​ประคอง​หม่า​ซาน​ขึ้น​มาด​้ว​ยสุร​เสียง​ราบเรียบ​ ​กล่าว​ขึ้น​อย่างกะทันหัน​ด้วย​ท่าทาง​เหมือน​ไม่มี​อะไร​เกิดขึ้น​ว่า​ ​“​หม่า​ซาน​ ​เจ้า​ว่า​บัดนี้​พวกเรา​ควร​ทำ​อย่างไร​”

หม่า​ซาน​รู้สึก​ว่า​เมื่อก่อน​เขา​รู้​พระทัย​องค์​เหนือ​หัว​ ​แต่​นับตั้งแต่​ฮ่องเต้​ตัดสิน​พระทัย​ว่า​จะ​สังหาร​องค์​ชาย​ใหญ่​เพื่อ​เปิดทาง​ให้​องค์​ชาย​เจ็ด​เป็นต้นมา​ ​เขา​ก็​รู้สึก​ว่า​เขา​ไม่รู้​แล้ว​ว่า​ฮ่องเต้​กำลัง​คิด​อะไร​อยู่​บ้าง

เขา​ก้มหน้า​หลุบ​ตาลง​เหมือนสมัย​ที่​เพิ่ง​มาถ​วาย​การรับใช้​ฮ่องเต้​ใหม่​ๆ​ ​พลาง​กล่าว​ ​“​บ่าว​ไม่ทราบ​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ค่ะ​ ​ขอ​ฝ่า​บาท​โปรด​ชี้แนะ​”

ฮ่องเต้​กล่าว​ ​“​คง​จัดการ​องค์​ชาย​ใหญ่​ไม่ได้​แล้ว​ ​หาไม่​ต่อให้​ในอนาคต​ไท่​จื่อ​ได้​ขึ้น​ครองราชย์​ ​ฝ่าย​ร้องเรียน​เหล่านั้น​ก็​คง​ไม่​ปล่อย​เขา​ไป​ ​ยัง​มี​หลิน​หลาง​อีก​ ​ข้า​หา​ได้คิด​อยากได้​ชีวิต​ของ​เขา​ ​ไม่อย่างนั้น​คง​ไม่​ให้​เจ้า​เหลือ​ทางรอด​เอาไว้​ให้​เขา​ ​แต่​เด็ก​สอง​คน​นี้​ก็​ต้อง​รู้จัก​หนัก​เบา​ ​ใน​ใจ​ต้อง​กระจ่างแจ้ง​ว่า​อะไร​พูด​ได้​ ​อะไร​พูด​ไม่ได้​ถึง​จะ​ถูก​”

ซึ่ง​ก็​หมายความว่า​ ​ฮ่องเต้​ต้องการ​ให้​ปิด​เรื่อง​นี้​เอาไว้

หม่า​ซาน​รีบ​กล่าว​ ​“​ฝ่า​บาท​ ​ข้า​พระองค์​เป็นตัวแทน​พระองค์​เดินทาง​ไป​วัด​เจิน​อู่​สักครั้ง​ดี​หรือไม่​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ค่ะ​”

ฮ่องเต้​พยักหน้า​อย่าง​พอใจ

หม่า​ซาน​รีบ​โขก​ศีรษะ​ให้​ฮ่องเต้​แล้ว​ออกจาก​ตำหนัก​เฉียน​ชิง​ไป

ฮ่องเต้​จับจ้อง​อยู่​ที่​พื้น​ตรง​ที่​หม่า​ซาน​เพิ่ง​โขก​ศีรษะ​ไป​เมื่อ​ครู่​ ​หัวเราะ​เยียบ​เย็น​ออกมา

***​

หม่า​ซาน​รู้​ว่า​มหันตภัย​ร้ายแรง​กำลัง​มา​จวนตัว​แล้ว​ ​ต่อให้​หลังจากนี้​เขา​ทำงาน​ได้ดี​เพียงใด​ ​ก็​คงมี​ชีวิต​อยู่​ได้​ไม่นาน​แล้ว

แต่​มนุษย์​ยิ่ง​อยู่​ก็​ยิ่ง​กลัว​ตาย​ ​โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ตอนนี้​คือ​ช่วงเวลา​ที่​เขา​สะดวกสบาย​ที่สุด​ใน​ชีวิต​ ​เขา​จะ​ทำใจ​ตาย​ได้​อย่างไร

ควร​ไป​ขอ​ความ​คุ้มครอง​จาก​จวน​ชิง​ผิง​โหว​หรือ​จวน​เจิ​้​นกั​๋​วก​งดี​นะ​?

คน​แรก​ซื่อสัตย์​เถรตรง​เกินไป​ ​คน​หลัง​ก็​ไร้ค​วาม​จริงใจ​เชื่อถือ​ไม่ได้

หรือว่า​ ​ไป​ขอ​เจียง​ชวน​ป๋อ​ช่วย​ตัดสินใจ​?

เขา​ ​‘​เขมือบ​พยัคฆ์​ใน​คราบ​สุกร​’​ ​มานาน​หลาย​ปี​ ​มิใช่​ว่า​ใครๆ​ ​ก็​ทำได้

หม่า​ซาน​ครุ่นคิด​ไป​ด้วย​ ​มุ่งหน้า​ออก​ไป​ข้างนอก​อย่าง​รีบร้อน​ไป​ด้วย

***​

ด้าน​องค์​ชาย​รอง​ ​ดวงตา​ทั้งคู่​แดงก่ำ​ ​คล้าย​เสือดาว​กำลัง​เดือดดาล​ตัว​หนึ่ง​ ​แต่​ถูก​ชิ่ง​อวิ​่น​โหว​จับตัว​เอาไว้​ใน​ห้อง

“​องค์​ชาย​รอง​ ​เวลานี้​เจ้า​ต้อง​สงบนิ่ง​เอาไว้​ ​และ​ต้อง​ฟัง​ข้า​พูด​ให้​จบ​”​ ​เขา​แนะนำ​หลานชาย​ของ​ตัวเอง​ด้วย​ความหวังดี​ ​“​เวลานี้​ไม่เหมาะสม​ที่​เจ้า​จะ​ไป​เจอ​เฉินลั​่ว​ ​และ​ยิ่ง​ไม่เหมาะสม​ที่จะ​ไป​พบ​องค์​ชาย​ใหญ่​ ​หาก​ฮ่องเต้​ถาม​ขึ้น​มา​ ​เจ้า​คิด​ว่า​จะ​ตอบ​อย่างไร​ ​ถ้า​ฝ่า​บาท​สงสัย​ว่า​เจ้า​ซ่องสุม​พรรคพวก​ ​เจ้า​คิด​ว่า​จะ​รับมือ​อย่างไร​”

“​ข้า​เจ็บปวด​มามาก​พอแล้ว​”​ ​นัยน์ตา​ของ​องค์​ชาย​รอง​แดงก่ำ​มากยิ่งขึ้น​ ​เขา​กัดฟัน​กรอด​พลาง​กล่าว​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​ต่อให้​ข้า​ไม่ใช่​องค์​ชาย​รอง​ ​ข้า​ก็​ยัง​เป็น​น้องชาย​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​ ​ข้า​ไป​เยี่ยม​เขา​แล้ว​อย่างไร​?​ ​เรื่อง​ที่​เขา​ได้รับบาดเจ็บ​มิใช่​ความจริง​หรือ​?​ ​เขา​ถูก​คน​ลอบสังหาร​มิใช่​เรื่องจริง​หรือ​ ​ในเมื่อ​กล้า​ทำ​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่กล้า​รับ​?​ ​ท่าน​น้า​ ​ข้า​รู้​ว่า​ท่าน​ทำ​เพื่อ​ข้า​ ​ที่ผ่านมา​เนิ่นนาน​หลาย​ปี​ข้า​เอง​ก็​เชื่อฟัง​ท่าน​มาโดยตลอด​ ​อยู่ในโอวาท​ไม่กล้า​ละเมิด​กฎ​แม้แต่​ครึ่ง​ก้าว​ ​แต่​เช่นนี้​แล้ว​ ​ฮ่องเต้​โปรดปราน​ข้า​ ​ยอมรับ​ข้า​หรือไม่​?​”

ไม่

ฮ่องเต้​ก็​ยัง​ไม่ยอม​แต่งตั้ง​องค์​ชาย​รอง​เป็นไท​่​จื่อ​อยู่ดี

ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​นิ่งเงียบ

เขา​ควร​กระจ่างแจ้ง​มาตั​้ง​นาน​แล้ว​ว่านับ​ตั้งแต่​ที่​ตระกูลปั​๋ว​ของ​พวกเขา​สนับสนุน​ให้​ฮ่องเต้​ขึ้น​สู่​บัลลังก์​ได้​สำเร็จ​ ​พวกเขา​ก็​ไม่มี​ประโยชน์​สำหรับ​ฮ่องเต้​อีกแล้ว​ ​ฮ่องเต้​ไม่มีทาง​ยอมให้​ตระกูลปั​๋ว​ได้​เป็นใหญ่

การ​ถือกำเนิด​ของ​องค์​ชาย​รอง​คือ​ตราบาป​ของ​เขา

………………………………………………………………….

ตอนต่อไป