ภายใน​ห้อง​เงียบสงัด

ผู้ช่วย​คน​หนึ่ง​ของ​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​เห็น​สถานการณ์​แล้ว​กระแอม​ไอ​เบา​ๆ​ ​ครั้งหนึ่ง​ ​กล่าว​เสียง​ค่อย​ว่า​ ​“​ท่าน​โหว​ ​องค์​ชาย​ใหญ่​กับ​องค์​ชาย​รอง​เป็น​พี่น้อง​กัน​ ​องค์​ชาย​ใหญ่​ประสบ​เคราะห์ร้าย​ ​องค์​ชาย​รอง​ไป​เยี่ยม​ ​เป็น​ทั้ง​การแสดง​ความรัก​ระหว่าง​พี่น้อง​และ​สำนึก​ทั่วไป​ที่​มนุษย์​พึงมี​ต่อกัน​ ​นอกจากนี้​ใต้เท้า​เฉิน​คนเล​็​กก​็​อยู่​ที่นั่น​ด้วย​ ​พวกเขา​พี่น้อง​ก็​จะ​ได้​พูดคุย​ความในใจ​กัน​ ​แก้ไข​ความเข้าใจผิด​ก่อนหน้า​เหล่านั้น​ด้วย​พอดี​ ​อาจจะ​เป็นเรื่อง​ดี​ก็ได้​ขอรับ​”

องค์​ชาย​ใหญ่​กับ​องค์​ชาย​รอง​จะ​มีเรื่อง​เข้าใจผิด​อะไร​กันได​้​ ​ก็​แค่​ต่าง​ฝ่าย​ต่าง​ต้อง​แย่งชิง​สิ่งล้ำค่า​ ​ที่​บอกว่า​แก้ไข​ความเข้าใจผิด​กัน​นั้น​ ​ก็​แค่​ไปดู​ว่า​ทั้งสอง​ร่วมมือ​เป็น​พันธมิตร​กันได​้​หรือไม่ก็​เท่านั้น

คนใน​ห้อง​ต่าง​กระจ่างแจ้ง​แก่​ใจดี

ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​คิด​ตาม​พลาง​พยักหน้า​น้อย​ๆ​ ​ถาม​องค์​ชาย​รอง​ว่า​ ​“​เจ้า​คิดเห็น​เช่นไร​”

ความจริง​แล้ว​คนที​่​องค์​ชาย​รอง​เกลียด​ที่สุด​คือ​เฉินลั​่ว

องค์​ชาย​ใหญ่​กับ​เขา​ไม่​ถูกกัน​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​ ​เดิมที​ระหว่าง​พวกเขา​นั้น​เจ้า​ตาย​ข้ามี​ชีวิต​อยู่​ถือเป็น​เรื่อง​สมควร​ ​แต่​เฉินลั​่ว​ไม่​ควร​ไป​แล้ว​ไม่​หวนกลับ​มา​ ​ไป​อยู่​ข้าง​กาย​องค์​ชาย​ใหญ่​ทว่า​กลับ​ไม่​ส่งข่าว​ให้​เขา​รู้​สัก​คำ

แทนที่​เขา​จะ​พูดว่า​อยาก​ไป​ ​‘​แก้ไข​ความบาดหมาง​ก่อนหน้า​’​ ​กับ​องค์​ชาย​ใหญ่​ ​มิสู​้​บอกว่า​ต้องการ​ไป​ถาม​เฉินลั​่​วว​่า​คิดเห็น​อย่างไร​ดีกว่า

“​ได้​!​”​ ​เขา​กล่าว​ด้วย​ดวงตา​แดงก่ำ​ ​“​ท่าน​น้า​ข้า​ขอยืม​คน​และ​ม้า​สัก​หน่วย​หนึ่ง​ ​ข้า​ต้องการ​เดินทาง​ไป​วัด​เจิน​อู่​”

องค์​ชาย​ออกเดินทาง​ไป​ข้างนอก​ย่อม​มี​องครักษ์​ส่วนพระองค์​คอย​คุ้มกัน​ ​แต่​ภายใต้​สถานการณ์​เช่น​วันนี้​ ​ผู้ใด​จะ​กล้า​ฝากฝัง​ชีวิต​ไว้​กับ​องครักษ์​ส่วนพระองค์​จริงๆ​?

ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว​พยักหน้า​ ​ไป​เตรียมการ​ด้วยตัวเอง

ฟาก​หวัง​ซี​ ​หลังจาก​ได้รับ​จดหมาย​ของ​หลง​จู๊​ใหญ่​ ​รู้​ว่า​เฉินลั​่ว​หลบ​อยู่​ที่​วัด​เจิน​อู่​ ​นาง​อด​พนมมือ​ขึ้น​ไม่ได้​ ​หันหน้า​ไป​ทาง​ทิศตะวันตก​และ​สวด​ ​อมิตต​พุทธ​ ​เสียง​หนึ่ง​ ​คิดในใจ​ว่า​เมื่อ​ทุกอย่าง​ผ่านพ้น​แล้ว​ ​นาง​จะ​ต้อง​ไป​บริจาค​ค่า​ธูปเทียน​ที่​วัด​เจิน​อู่​ ​และ​ไป​แก้บน​ที่​วัด​อวิ​๋นจ​วี​ให้​ได้​ ​เนื่องจาก​พระโพธิสัตว์กวนอิม​ที่​ประดิษฐาน​อยู่​ใน​ห้อง​พระ​เล็ก​ของ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​นั้น​อัญเชิญ​มาจาก​วัด​อวิ​๋นจ​วี​ ​นาง​จึง​ต้อง​ไป​แก้บน​ที่​วัด​อวิ​๋นจ​วี

ไป๋​กั่ว​และ​คนอื่นๆ​ ​เอง​ก็​โล่งอก​ตาม​ไป​ด้วย​ ​ไป๋กั​๋ว​ยัง​ถาม​หวัง​ซี​ว่า​ ​“​ต้องการ​ให้​นำ​ของ​ไป​ส่ง​ให้​ใต้เท้า​เฉิน​หรือไม่​เจ้า​คะ​”​

“​ไม่ต้อง​!​”​ ​หวัง​ซี​ตอบ​ ​“​เซียว​เหยา​จื่อ​ที่​วัด​เจิน​อู่​มีฝีมือ​ด้าน​การแพทย์​สูงส่ง​ ​หาก​ใต้เท้า​เฉิน​ได้รับบาดเจ็บ​แล้ว​เขา​รักษา​ให้​ไม่ได้​ ​ผู้อื่น​ไป​ก็​ไม่มี​ประโยชน์​ ​แต่​ถ้า​ใต้เท้า​เฉิน​ปลอดภัย​ดี​แล้ว​พวกเรา​ยัง​ส่ง​ของ​ไป​ให้​อีก​ ​หาก​มี​คน​พบเห็น​ ​จัดการ​ไม่ดี​อาจ​กลายเป็น​จุดอ่อน​ของ​ใต้เท้า​เฉิน​ได้​ ​พวกเรา​อยู่​แต่​ใน​จวน​รอ​เขา​กลับมา​อย่างปลอดภัย​ก็​พอ​”

ไป๋​กั่ว​และ​คนอื่นๆ​ ​พยักหน้า​ ​แต่​เมื่อ​อยู่​กันตา​มลำ​พัง​ก็​อด​ชวน​กัน​คุย​ไม่ได้​ว่า​ ​“​นับวัน​คุณหนู​ใหญ่​ยิ่ง​เหมือน​นายท่าน​ผู้เฒ่า​เข้าไป​ทุกที​ ​ปีนั​้​นนาย​ท่าน​ใหญ่​ประสบ​เคราะห์ร้าย​ ​นายท่าน​ผู้เฒ่า​ก็​ทำ​เช่นนี้​ ​น่าเสียดาย​ที่​คุณหนู​ใหญ่​เป็น​สตรี​ ​หาไม่​ต้อง​เป็น​ผู้ช่วย​ให้​คุณชาย​ใหญ่​ได้​อีก​แรง​แน่​”

หวังห​มัว​มัว​กำลัง​ยก​ส้ม​เข้ามา​พอดี​ ​ได้ยิน​แล้ว​เอ็ด​เบา​ๆ​ ​ว่า​ ​“​พูดเหลวไหล​ให้​น้อยลง​หน่อย​ ​เดิม​คุณชาย​ใหญ่​ก็​ไม่​อยาก​ให้​คุณหนู​ใหญ่​แต่ง​ออก​ไป​แล้ว​ ​ยิ่ง​พวก​เจ้า​ช่วยกัน​หลอกล่อ​เช่นนี้​ ​หาก​คุณชาย​ใหญ่​ใจแข็ง​ให้​คุณหนู​ใหญ่​แต่ง​สามี​เข้า​บ้าน​จริงๆ​ ​คงได้​วุ่นวาย​แน่​”

ทุกคน​พากัน​หัวเราะ​แล้ว​แยกย้าย​กัน​ไป

หวังห​มัว​มัว​เป็นห่วง​บุตรชาย​ ​ยก​ส้ม​ไป​วางหน้า​โต๊ะ​แล้ว​หันไป​พนมมือ​ไหว้พระ​พุทธรูป​กวนอิม​ ​ลอบ​สวด​คำ​ว่า​ ​อำนวยพร​และ​คุ้มครอง​บุตรชาย​ของ​ข้า​ให้​ปลอดภัย​ด้วย​ ​ไป​หลาย​ประโยค​ ​เสร็จ​แล้ว​ถึง​ไปหา​หวัง​ซี

กระทั่ง​ตอนบ่าย​ ​ทุกคน​ก็ได้​รู้​ข่าว​ที่​องค์​ชาย​ใหญ่​ถูก​ลอบสังหาร

แต่ละคน​ต่าง​มี​ความคิด​หนึ่ง​อยู่​ใน​ใจ

บัดนี้​บ้านเมือง​เจริญรุ่งเรือง​สงบสุข​ ​ทว่า​ที่​จิง​เฉิง​แต่กลับ​มี​องค์​ชาย​ถูก​ลอบสังหาร​ ​หาก​บอกว่า​เรื่อง​นี้​ไม่มี​การวางแผน​เอาไว้​ ​ล้วน​ไม่มีใคร​เชื่อ

ตอนที่​ข่าว​นี้​กระจาย​ไป​ทั่ว​เรือน​หลัง​ของ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​นั้น​ ​ทุกคน​ต่าง​ตะลึงงัน​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​เจ้านาย​หรือ​บ่าวไพร่​ ​ต่าง​รวมกลุ่ม​สอง​คนบ้าง​สาม​คนบ้าง​พูดคุย​เรื่อง​ดังกล่าว

ซือ​จู​ยิ่ง​แล้ว​ใหญ่​เหมือน​มีสาย​ฟ้า​คำราม​ใน​วัน​ฟ้า​โปร่ง​ก็​ไม่​ปาน​ ​ดึง​ตานห​มัว​มัว​เอาไว้​กล่าวว่า​ ​“​ตระกูล​ซือ​คง​ไม่​ถูก​ลาก​ไป​ติดร่างแห​เพราะ​เรื่อง​นี้​ด้วย​กระมัง​”

นาง​รู้​แค่​ว่า​มี​ผู้ใต้บังคับบัญชา​ของ​บิดา​นาง​ที่​เมื่อก่อน​เคย​ดำรงตำแหน่ง​อยู่​ใน​กองทัพ​ต้าถง​ได้​ย้าย​มาที​่​จิง​เฉิง​ ​ใน​จำนวน​คน​เหล่านี้​มี​คน​ทำงาน​อยู่​ข้าง​กาย​องค์​ชาย​ใหญ่​ด้วย

องค์​ชาย​ใหญ่​ถูก​ลอบสังหาร​ ​คน​ข้าง​กาย​เขา​ย่อม​ถูก​เก็บกวาด​ ​นาง​เป็นห่วง​ว่า​ตระกูล​ซือ​จะ​ถูก​ลาก​ไป​ข้องเกี่ยว​ด้วย

ตานห​มัว​มัว​ไม่ได้​รู้มาก​ไป​กว่านาง​ ​รีบ​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​จะ​ไป​สอบถาม​ท่าน​หวง​เดี๋ยวนี้​เจ้าค่ะ​”

ท่าน​หวง​คือ​ผู้ช่วย​ท่าน​หนึ่ง​ที่​ตระกูล​ซือ​ส่ง​มาจาก​อวี​๋​หลิน​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​ ​พัก​อยู่​ใน​บ้าน​หลัง​เก่า​ของ​ตระกูล​ซือ

ซือ​จู​พยักหน้า​ ​จะ​นั่ง​จะ​ยืน​ก็​ไม่​สงบ​ไป​ครึ่ง​บ่าย​ ​ถึง​เวลา​รับ​มื้อ​เย็น​ยัง​ขอตัว​ลากับฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​บอกว่า​รู้สึก​ไม่สบาย​ ​ขออนุญาต​ไม่​ไป​คารวะ​เย็นฮู​หยิน​ผู้เฒ่า

ถ้าหาก​เป็นช่วง​เวลา​ปกติ​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​คง​ให้​คน​มาถาม​ไถ่​อาการ​แล้ว​ ​แต่​วันนี้​ ​หย่ง​เฉิง​โหว​มารั​บมื​้อ​เย็น​ที่​เรือนฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​นาง​จึง​ไม่ทัน​ได้​สนใจ​ซือ​จู​ไป​ชั่วขณะ

ซือ​จู​จึง​มี​เวลาว่าง

หย่ง​เฉิง​โหวก​ลับ​กล่าวย้ำฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เป็นการ​ส่วนตัว​ว่า​ ​“​มิใช่​ว่า​ข้า​ใน​ฐานะ​ญาติ​ผู้​น้อง​ไม่​ช่วยเหลือ​ญาติ​ผู้​พี่​ ​แต่​ครั้งนี้​ญาติ​ผู้​พี่​ทำเกินไป​จริงๆ​ ​เพื่อ​บุตรสาว​ผู้​หนึ่ง​แล้ว​ ​ถึงกับ​ฉวยโอกาส​ตอนที่​ไป​ช่วย​องค์​ชาย​ใหญ่​ลอบสังหาร​เฉินลั​่ว​ ​แม้แต่​ฮ่องเต้​ก็​ทรง​ทราบ​เรื่อง​แล้ว​ ​ตอนนี้​จ่าง​กง​จู่​ยัง​ร่ำไห้​อยู่​ที่​ตำหนัก​ของ​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​ ​เรื่อง​นี้​คง​ไม่​จบ​ลง​ง่ายๆ​ ​ท่าน​ต้องเต​รี​ยมการ​เอาไว้​ว่า​จะ​ช่วยเหลือ​หลานชาย​หรือ​จะ​ช่วย​บุตรชาย​”

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ฟัง​แล้ว​หน้าซีด​เผือด​ ​มือ​ที่​ถือ​ถ้วย​น้ำชา​สั่น​ไม่​หยุด​ ​กล่าวว่า​ ​“​เป็นเรื่อง​เข้าใจผิด​หรือเปล่า​ ​ต่อให้​เขา​รัก​อาจู​มาก​เพียงใด​ ​ก็​ไม่น่า​จะ​ไม่สน​ใจ​คน​ทั้ง​ตระกูล​เช่นนี้​!​”

ตอน​หย่ง​เฉิง​โหว​ยัง​เป็น​หนุ่ม​ไม่​ชอบ​ที่​บิดา​ใจร้าย​กับ​บุตรชาย​หญิง​ ​แต่​ยิ่ง​อายุ​มากขึ้น​ ​นิสัย​ของ​เขา​กลับ​ยิ่ง​เหมือน​หย่ง​เฉิง​โหว​ผู้เฒ่า​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ ​โดยไม่รู้ตัว​ ​กล่าว​อย่าง​เลือดเย็น​ว่า​ ​“​นั่น​ก็​เป็นความ​คิด​ของ​ซือ​จู​เอง​ ​นาง​มักใหญ่ใฝ่สูง​มาต​ลอด​ ​บัดนี้​ถูก​เฉิน​อิง​ใช้อุบาย​ล่อลวง​ ​ไม่​อาจ​แต่ง​เข้า​วัง​หลวง​ได้​แล้ว​ ​ก็​เลย​อยาก​เป็น​ซื่อ​จื่อฮู​หยิน​ ​จึง​ทน​เฉินลั​่ว​ไม่ได้​”

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ตกใจ​จน​ทำ​น้ำชา​หก​ไป​หมด

นี่​เกี่ยว​อัน​ใด​กับ​ซือ​จู

เหตุใด​เกิดเรื่อง​กับ​บุรุษ​ใน​บ้าน​แล้ว​ต้อง​มาตำ​หนิ​สตรี​ด้วย​?

นาง​ร้อง​ ​บุตร​ของ​ข้า​ ​เสียง​หนึ่ง​อย่าง​เศร้าโศก​ ​สีหน้า​ซีดเผือด​กล่าวว่า​ ​“​คำพูด​นี้​กล่าว​ออกมา​ไม่ได้​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ ​ตระกูล​ซือ​ก็​เป็น​ลุง​ของ​เจ้า​ ​หาก​พวกเขา​ประสบ​เคราะห์ร้าย​ล้ม​ลง​ ​พวก​เจ้า​ก็​ไร้​เกียรติ​ไป​ด้วย​”

หย่ง​เฉิง​โหว​มอง​มารดา​โดย​ไม่​กล่าว​สิ่งใด

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​กลืนน้ำลาย​ ​ครู่ใหญ่​ถึง​กล่าว​ขึ้น​อย่าง​ยากลำบาก​ว่า​ ​“​เจ้า​เป็น​เลือดเนื้อเชื้อไข​ของ​ข้า​ ​ข้า​ย่อม​ต้อง​ปกป้อง​พวก​เจ้า​ ​เรื่อง​ของ​ตระกูล​ซือ​ ​เจ้า​เอง​ก็​อย่า​สอด​มือ​เข้าไป​ยุ่ง​ ​จะ​ผิด​จะ​ถูก​ก็​ให้​ฮ่องเต้​เป็น​คน​ตัดสิน​พระทัย​ก็แล้วกัน​!​”

ใน​น้ำเสียง​ของ​นาง​เจือ​ความ​อ้อนวอน​เอาไว้

เนิ่นนาน​ ​หย่ง​เฉิง​โหว​ถึง​พยักหน้า​เบา​ๆ

ด้าน​ซือ​จือ​กลับ​ต้อง​รอ​ถึง​ยาม​สอง​ถึง​ได้​เจอ​ตานห​มัว​มัว

ค่ำคืน​ของ​ต้น​ฤดูใบไม้ร่วง​ปัดเป่า​ความร้อน​ของกลาง​วัน​ไป​หมด​ ​ความจริง​เป็นช่วง​เวลา​ที่​เย็นสบาย​ที่สุด​ของ​วัน​ ​ทว่า​หัวใจ​ของ​ตานห​มัว​มัว​กลับ​หนาวเหน็บ​คล้าย​แช่​อยู่​ใน​หลุม​น้ำแข็ง

นาง​กระโจน​เข้าหา​ซือ​จู​ ​จับมือ​ของ​ซือ​จู​เอาไว้​แน่น​ ​กล่าว​ด้วย​น้ำตา​คลอ​ว่า​ ​“​ท่าน​หวง​ ​ท่าน​หวง​ออกจาก​เมืองหลวง​ไป​แล้ว​ ​บอกว่า​ต้อง​หลบ​กระแสลม​สักพัก​”

ใน​ใจ​ของ​ซือ​จูมี​เสียงดัง​ ​กริ๊ก​ ​เสียง​หนึ่ง​ ​ราวกับ​ได้ยิน​เสียง​อะไร​แตกหัก​ก็​ไม่​ปาน​ ​เพียงแต่ว่า​ไม่ทัน​ได้​ทบทวน​อย่างละเอียด​ ​ก็​โพล่ง​ออกมา​ก่อน​ว่า​ ​“​เกิด​อัน​ใด​ขึ้น​ ​เหตุใด​ท่าน​หวง​ต้อง​ออกจาก​เมืองหลวง​ไป​หลบ​กระแสลม​ด้วย​?​”

ตานห​มัว​มัว​ตัวสั่น​ระริก​ขณะ​กล่าว​ ​“​บอกว่า​มี​ฝ่าย​ร้องเรียน​กำลังจะ​ฟ้อง​นายท่า​นข​อง​พวกเรา​ ​กล่าวหา​ว่า​ตอนที่​นายท่าน​เป็น​แม่ทัพ​ใหญ่​ของ​ต้าถง​นั้น​กระทำการ​ทุจริต​ ​ต้องการ​ขอให้​ฮ่องเต้​ลงโทษ​นายท่าน​!​”​ ​กล่าว​จบ​ ​นาง​ก็​ร้องไห้​ออกมา​ด้วย​ความหวาดกลัว​อย่าง​ระงับ​ไม่อยู่

เนื่องจาก​ตระกูล​ซือ​กำหนด​เป้าหมาย​มาตั​้ง​แต่​ซือ​จู​เป็น​เด็ก​แล้ว​ว่า​จะ​ส่ง​นาง​เข้า​วัง​ ​ด้วยเหตุนี้​นอกจาก​งานฝีมือ​อย่าง​พวก​เย็บปักถักร้อย​แล้ว​ ​ยัง​ให้​นาง​เรียนหนังสือ​ไม่น้อย​อีกด้วย​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ยัง​ได้​เรียนหนังสือ​พร้อมกับ​พวก​พี่ชาย​ใน​บ้าน​ ​นาง​เรียน​ได้ดี​กว่า​เหล่า​พี่ชาย​ด้วยซ้ำ​ ​นี่​ก็​เป็นหนึ่ง​ใน​สาเหตุ​ที่นา​งดู​แคลน​เด็กสาว​คนอื่นๆ​ ​ที่อยู่​รอบกาย

นาง​พลัน​ตระหนัก​ได้​ในทันที​ว่า​เรื่อง​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​สร้าง​ปัญหา​ให้​บิดา​ของ​นาง​แล้ว

หาไม่​เหตุใด​ฝ่าย​ร้องเรียน​เหล่านั้น​ถึง​ไม่​ฟ้อง​ให้​เร็ว​กว่านี​้​หรือไม่ก็​ช้า​กว่านี​้​ ​แต่กลับ​เลือก​ฟ้อง​ในเวลานี้​พอดิบพอดี​ ​ยัง​ฟ้อง​ใน​เรื่อง​ที่เกิด​ขึ้น​ตอน​บิดา​นาง​ดำรงตำแหน่ง​เป็น​แม่ทัพ​ใหญ่​ของ​ต้าถ​งอีก​?

นาง​ถาม​ด้วย​ดวง​หน้าซีด​ว่า​ ​“​แล้ว​ใต้เท้า​อวี​๋​เล่า​?​ ​ได้​ไป​ติดสินบน​ที่​ใต้เท้า​อวี​๋​หรือยัง​”

ตานห​มัว​มัว​ส่าย​ศีรษะ​ ​กล่าวว่า​ ​“​เปล่า​เจ้าค่ะ​ ​ใต้เท้า​อวี​๋​เอง​ก็​ถูก​ฟ้องร้อง​เช่นกัน​ ​ถูก​กล่าวหา​ว่า​ปกป้อง​นายท่า​นข​อง​พวกเรา​ ​ยัง​กล่าว​อีกว่า​ ​ที่นาย​ท่าน​ของ​พวกเรา​กล้า​กำแหง​ขนาด​นี้​ก็​เพราะ​ใต้เท้า​อวี​๋​ ​ยัง​บอกว่า​นายท่า​นข​อง​พวกเรา​ติดสินบน​ใต้เท้า​อวี​๋​ ​บัดนี้​ใต้เท้า​อวี​๋​ถูก​ฮ่องเต้​เรียก​เข้า​วัง​ไป​ยัง​ไม่ได้​ออกมา​เลย​เจ้าค่ะ​!​”

สอง​ขา​ของ​ซือ​จู​อ่อนแรง​ ​ทรุดตัว​นั่งลง​บน​เก้าอี้​มี​เท้า​แทน​ด้านหลัง

นาง​คิดไม่ถึง​ว่า​เรื่องราว​จะ​ร้ายแรง​ขนาด​นี้

เช่นนั้น​งานแต่ง​ของ​นาง​กับ​เฉิน​อิง​…

นาง​บังเกิด​ความยินดี​ขึ้น​ใน​ใจ

ด้วย​ความ​เจ้ายศ​ของ​ตระกูล​เฉิน​ ​คง​ไม่ยอม​ให้​มี​งานแต่ง​เกิดขึ้น​แล้ว​กระมัง

แต่​ถ้า​ไม่มี​งานแต่ง​แล้ว​ ​นาง​ควร​ไป​ไหน​ดี​?

บิดา​ส่ง​คน​มา​จิง​เฉิง​ ​นอกจาก​ไม่​ติดต่อ​นาง​แล้ว​ ​ยัง​ไม่​ฝากฝัง​ถ้อยคำ​อะไร​มา​ให้​นาง​ด้วย​ ​ครอบครัว​เลือก​นิ่งเงียบ​ไม่​แสดงท่าที​ใด​ต่อ​เรื่อง​สมรส​พระราชทาน​ของ​นาง​ ​บิดา​คง​ผิดหวัง​มาก​กระมัง

นาง​นึกถึง​เรื่อง​สมัย​เด็ก​ขึ้น​มา​ ​เนื่องจาก​พี่ชาย​สี่​ของ​นาง​แพ้​ให้​กับ​ผู้ใต้บังคับบัญชา​ตอน​แข่ง​ยิง​ธนู​ ​บิดา​ของ​นาง​กด​พี่ชาย​สี่​ของ​นาง​ไว้​กับ​พื้น​แล้ว​โบย​สามสิบ​ไม้

ใน​สายตา​ของ​บิดา​นาง​ ​คาด​ว่านาง​ใน​ตอนนี้​ก็​ไม่​ต่าง​จาก​พี่ชาย​สี่​ใน​ตอนนั้น​กระมัง

ซือ​จู​ยิ้ม​ขื่น​ ​พลัน​รู้สึก​ว่า​ใต้​หล้า​กว้างใหญ่​ไพศาล​ ​ทว่า​กลับ​ไม่มี​ที่​ให้​นาง​หลบภัย​ได้

บางที​อาจ​กล่าว​ได้​ว่า​ ​หาก​นาง​คิด​จะ​มีที​่​หลบภัย​สัก​แห่ง​ ​คงมี​แต่​ต้อง​คิด​หา​หนทาง​ด้วยตัวเอง​เท่านั้น​แล้ว

เช่นนั้น​นาง​ควร​ทำ​อย่างไร​ดี​?

ซือ​จู​กัด​เล็บ

นับตั้งแต่​นางอายุ​หก​ขวบ​เป็นต้นมา​ก็​ไม่เคย​กัด​เล็บ​อีก​เลย​ ​คิดไม่ถึง​ว่า​เวลานี้​ ​อุปนิสัย​ที่นาง​เคยชิน​ตอน​เป็น​เด็ก​จะ​ปรากฏ​ออกมา​ให้​เห็น​อีกครั้ง

ซือ​จู​ก้มหน้า​ลง

***​

เฉิน​เจ​วี​๋​ยก​ลับ​เดือดดาล​ครั้ง​ใหญ่

นาง​เดิน​วน​ไป​วน​มา​อยู่​ตรงหน้า​น้องชาย​ ​ขมวดคิ้ว​มุ่น​กล่าว​ซ้ำไปซ้ำมา​ว่า​ ​“​เป็น​เช่นนี้​ไป​ได้​อย่างไร​ ​ซือ​จู​เสียสติ​ไป​แล้ว​แล้ว​ ​ถึงกับ​ให้​คน​ไป​สังหาร​เฉินลั​่ว​ ​เฉินลั​่ว​ตาย​แล้ว​ ​นาง​คิด​ว่า​เรื่อง​จะ​เป็น​อย่างที่​นาง​ปรารถนา​อย่างนั้น​หรือ​ ​ตระกูล​ซือ​เอง​ก็​บ้า​ไป​แล้ว​ ​ฟัง​ใคร​ไม่​ฟัง​ดัน​ไป​เชื่อฟัง​ซือ​จู​ ​ซือ​จู​ให้​พวกเขา​ไป​ฆ่า​คน​พวกเขา​ก็​ไป​ ​ถ้า​ซือ​จู​ให้​พวกเขา​ไป​กระโดด​น้ำ​พวกเขา​ก็​จะ​ไป​อย่างนั้น​หรือ​”

กล่าวถึง​ตรงนี้​ ​จู่ๆ​ ​นาง​ก็​หมุน​กาย​กลับมา​ ​มอง​เฉิน​อิง​ที่นั่ง​เงียบ​อยู่​บน​เก้าอี้​กุหลาบ​มาต​ลอด​พลาง​กล่าว​ ​“​เจ้า​ไป​ถูกใจ​สตรี​เช่นนี้​ได้​อย่างไร​ ​สังหาร​คน​ชิงทรัพย์​โดย​ไม่รู้​สึก​หวาดกลัว​แม้แต่​นิดเดียว​ ​ข้า​ไม่​ชอบ​เฉินลั​่ว​ ​แต่​ข้า​ก็​ไม่เคย​คิด​จะ​ลงมือ​ฆ่า​เฉินลั​่ว​ ​ตกลง​นาง​…​เป็น​คน​เช่นไร​กัน​แน่​”

เฉิน​อิง​เศร้าสลด​ยิ่งกว่า​เฉิน​เจ​วี​๋ย​เสียอีก

ไม่​แปลกที่​องค์​ชาย​สาม​กับ​องค์​ชาย​ห้า​ต่าง​ไม่ยอม​ไป​เกลือกกลั้ว​กับ​ซือ​จู

ซือ​จูบ​้า​ไป​แล้ว​จริงๆ

เรื่องใหญ่​ขนาด​นี้​นาง​ยัง​กล้า​ลงมือทำ

นาง​ไม่​กลัว​ฮ่องเต้​ตำหนิ​หรือ

ต้อง​ใช้ชีวิต​กับ​สตรี​เช่นนี้​ ​เขา​จะ​มีชีวิต​อย่าง​สุขสงบ​ไป​จน​แก่เฒ่า​ได้​หรือ

เฉิน​อิง​ตัวสั่น​ ​รู้สึก​เสียใจ​ภายหลัง​ยิ่งนัก​ที่​ตอนนั้น​ตัดสินใจ​ไม่​รอบคอบ​ ​แต่​เสียใจ​เวลานี้​แล้ว​จะ​มีประโยชน์​อะไร​ ​มี​แต่​ทำให้​พี่สาว​ของ​เขา​ยิ่ง​โมโห​มากขึ้น​เท่านั้น​ ​เขา​จำต้อง​ทำใจ​ดี​เข้า​สู้​ยอมรับผิด​ ​กล่าว​ข้างๆ​ ​คู​ๆ​เพื่อ​แก้ต่าง​แทน​ซือ​จู​ว่า​ ​“​เรื่อง​นี้​ก็​เป็น​แค่​ข่าวลือ​เท่านั้น​ ​เหตุใด​ท่าน​พี่​ต้อง​ฟัง​เสียง​ลม​เป็น​เสียง​ฝน​ด้วย​?​ ​ข้าว​่า​แทนที่​พวกเรา​จะ​คาดเดา​เรื่องราว​อยู่​ที่นี่​ ​มิสู​้​ไป​ถาม​ซือ​จูดี​กว่า​ ​นาง​ยโส​มาต​ลอด​ ​หาก​นาง​เป็น​คน​ทำ​จริง​ ​นาง​ย่อม​ยอมรับ​อย่างแน่นอน​”

เฉิน​เจ​วี​๋ย​ฟัง​แล้ว​รู้สึก​ฉุน​ ​กล่าวว่า​ ​“​นี่​ช่าง​เป็น​แบบฉบับ​ของ​คนที​่​มี​ภรรยา​แล้ว​หลงลืม​มารดา​อย่างแท้จริง​ ​จาก​น้ำเสียง​ที่​เจ้า​พูด​มา​ ​ไหน​จะ​ประโยค​ที่ว่า​ ​‘​นาง​ยโส​มาต​ลอด​’​ ​นั่น​อีก​ ​ข้า​ไม่รู้​เลย​ว่า​เจ้า​ไปรู​้​จัก​ซือ​จูดี​ขนาด​นี้​ตั้งแต่​เมื่อไร​ ​ดูแล​้ว​พระราช​โองการ​ฉบับ​นี้​ของ​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​ช่าง​พระราชทาน​ได้​ถูกต้อง​นัก​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​กลายเป็น​คู่แต่งงาน​ที่​มีความสุข​ไป​แล้ว​!​”

“​ท่าน​พี่​”​ ​เฉิน​อิง​อุทาน​อย่างไร​้​ทางเลือก

เฉิน​เจ​วี​๋ย​เอง​ก็​คร้าน​จะ​สนใจ​เรื่อง​พวก​นี้​แล้ว​ ​โบกมือ​ไปมา​ราวกับ​ต้องการ​ให้​คำพูด​ของ​เฉิน​อิง​ผ่าน​หู​ไป​โดยเร็ว​ ​กล่าวว่า​ ​“​พี่เขย​ของ​เจ้า​บอก​แล้ว​ว่า​เรื่อง​นี้​เป็นได้​ทั้ง​เรื่องใหญ่​เรื่องเล็ก​ ​หาก​มอง​ให้​เล็ก​ก็​คือ​ซือ​จู​อยาก​ให้​เจ้า​เป็น​ซื่อ​จื่อ​จึง​ต้องการ​สังหาร​เฉินลั​่ว​ ​มอง​ให้​ใหญ่​ก็​คือ​เจ้า​ใช้ประโยชน์​จาก​ซือ​จู​ ​ให้​ตระกูล​ซือ​ช่วย​เจ้า​สังหาร​เฉินลั​่ว​ ​เจ้า​ต้อง​คิด​ให้​ดี​ว่า​จะ​ทำ​อย่างไร​”

เฉิน​อิง​ยิ่ง​กระวนกระวายใจ​มากขึ้น​ ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​จะ​ให้​ข้า​ทำ​อย่างไร​?​ ​ให้​ข้า​ไป​อธิบาย​กับ​ทุกคน​ที่​เจอ​ว่า​เรื่อง​ของ​เฉินลั​่ว​ไม่เกี่ยว​อัน​ใด​กับ​ข้า​อย่างนั้น​หรือ​”

……………………………………………………………………..

ตอนต่อไป