บทที่ 173 การควบคุมเปลวเพลิง
บทที่ 173 การควบคุมเปลวเพลิง
“โจวอี้ คุณบ้าไปแล้วรึไง!? เขายังเด็กอยู่ คุณจุดไฟเผาเขาแบบนี้ได้ยังไง!?” ถังหว่านพยายามอย่างมากที่จะหาน้ำมาดับไฟ แต่เธอก็ดิ้นออกจากโจวอี้ไม่ได้
“หุบปาก!!”
โจวอี้ตวาดด้วยความโกรธ ก่อนจะชี้ไปที่ถังเสี่ยวถังและตะโกนว่า “เบิกตาของคุณดูเขาให้ชัด ๆ ดูด้วยว่าจริง ๆ แล้วมันเป็นยังไง!”
ถังหว่านทั้งเศร้าโศกและขุ่นเคือง เมื่อเผชิญกับฉากที่น่าสลดใจเช่นนี้ เธอไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้
แต่!
เสียงโกรธของโจวอี้ทำให้เธอเริ่มได้สติและมองไปที่ถังเสี่ยวถังอย่างพินิจมากกว่าเดิม
เอ๊ะ?
ถังเสี่ยวถังกำลังถูกไฟคลอก แต่ทำไมสีหน้ากลับเป็นแบบนั้น…ไม่เจ็บเหรอ?
เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมเส้นผมของเขาไม่ไหม้ล่ะ? แล้วทำไมเปลวไฟถึงมีขนาดเล็ก? หรือเพราะเสื้อผ้าใกล้จะไหม้หมดแล้วเหรอ?
ถังเสี่ยวถังรู้สึกอบอุ่นมาก เหมือนกับว่าเขากำลังนอนอยู่ในผ้านวมอุ่น ๆ ในฤดูหนาว เขาสบายจนอยากจะฮัมเพลงออกมา และเพราะดวงตาของเขายังคงปิดอยู่ จึงไม่รู้ว่าทั้งร่างของตัวเองกำลังถูกปกคลุมด้วยไฟ เขาแค่อยากจะอุ่นสบายแบบนี้ตลอดไป
อย่างไรก็ตาม เมื่อความอบอุ่นลดลง ดวงตาของเขาก็เปิดขึ้นในที่สุด
“เอ๊ะ? ไฟ…ไฟไหม้!!”
ถังเสี่ยวถังที่เพิ่งเห็นเปลวไฟและแม้แต่โซฟาที่อยู่ข้างหลังเขาก็กำลังลุกไหม้ ฉากนี้ทำให้เด็กชายรีบวิ่งไปหาโจวอี้และถังหว่าน
“หยุด!” โจวอี้จับข้อมือของถังหว่านและก้าวถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว
ถังเสี่ยวถังหยุดฝีเท้าทันทีเมื่อเขาได้ยินคำสั่งของโจวอี้
เขาหันไปมองไฟที่อยู่ข้างหลังและพบว่าแม้โซฟาจะไหม้ แต่ก็ไม่มีอะไรได้รับความเสียหายอีกเนื่องจากไม่มีสิ่งใดอยู่รอบ ๆ ตัวเขายกเว้นโต๊ะน้ำชา
รวมไปถึงตัวเขาเองก็ไม่เป็นอะไรเลยเช่นกัน!
เขาก้มศีรษะลงและพบว่าตอนนี้เขาเปลือยกายอยู่ และมีเปลวไฟปกคลุมอยู่บนผิวหนังของเขา
“อาจารย์ ช่วยด้วย! ตัวผมไฟไหม้!” ถังเสี่ยวถังกระโดดโหยง ๆ และตะโกนด้วยความกลัว
“ฉันไม่ได้ตาบอด ฉันเห็นอยู่กับตา!”
โจวอี้ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ เขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันชักจะไร้สาระมากขึ้นเรื่อย ๆ
ถังเสี่ยวถังสามารถปะทุเปลวไฟในร่างกายได้ และแม้ไฟจะลุกโชนรุนแรง ทว่าแม้แต่เส้นผมก็ไม่ไหม้ แล้วไอ้เสียงโหยหวนที่เด็กน้อยร้องออกมานั้นมันเป็นเพราะความตื่นตระหนกล้วน ๆ ไม่ใช่จากความเจ็บปวด
ถังหว่านเองก็พูดไม่ออกแล้วในขณะนี้
ฉากที่แปลกประหลาดแบบนี้ทำให้เธองุนงง
เด็กคนนี้ปลอดภัยทั้ง ๆ ที่ถูกไฟปกคลุมทั่วทั้งร่าง
ไม่กี่นาทีต่อมา ไฟที่ปกคลุมร่างทั้งหมดของถังเสี่ยวถังก็ดับลงจนหมด
“แค่ก ๆ…” ในที่สุดโจวอี้ก็ระงับความตกใจของตัวเองได้ เขาคลายข้อมือของถังหว่าน มองถังเสี่ยวถังตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่หลายครั้ง จากนั้นก็หันไปมองเข้าไปในดวงตาของถังเสี่ยวถังแล้วถามว่า “เป็นยังไงบ้าง?”
“ผมรู้สึกผ่อนคลายมาก” ถังเสี่ยวถังตอบ
“เกิดอะไรขึ้นกับเปลวไฟที่เพิ่งระเบิดออกจากมือของนาย” โจวอี้ถาม
“ผม… ผมไม่รู้”
“ลองอีกครั้ง”
“ฮะ?”
หลังจากงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง ถังเสี่ยวถังก็ยกมือขึ้นพยายามเพ่งสมาธิ
เขารู้สึกว่ามีกระแสความอุ่นไหลเวียนอยู่ในแขนของเขา… ไม่ ไม่ใช่ในแขนของเขาสิ แต่มันไหลเวียนไปทั่วร่างกายของเขาเลย!
“พ่นไฟอีกไม่ได้เหรอ?” โจวอี้ถาม
“ผม…” ถังเสี่ยวถังอ้าปากค้าง พยายามปล่อยให้ความร้อนไหลไปที่ฝ่ามือของเขา
วินาทีต่อมา เปลวไฟที่มีความหนาเท่าแขนของทารกก็พุ่งออกมาจากมือของเด็กชาย แต่คราวนี้ไฟไม่ได้ใหญ่เหมือนครั้งก่อน มันพวยพุ่งสูงเพียงครึ่งเมตร กินเวลาสองหรือสามวินาที จากนั้นก็มอดดับไป
“ไฟปะทุแล้ว อาจารย์เห็นไหม ไฟปะทุอีกแล้ว! ผม…ผมจะไม่กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่พ่นไฟได้ใช่ไหม?” ถังเสี่ยวถังร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก
โจวอี้พุ่งไปข้างหน้า เขาจับข้อมือของถังเสี่ยวถังไว้แล้วเอานิ้วจับชีพจร “เมื่อกี๊นายปล่อยเปลวไฟออกจากฝ่ามือได้ยังไง”
“กระแสไออุ่น… มันมีกระแสไออุ่นจำนวนมากในร่างกายของผม ผมก็เลยลองคิดบังคับพวกมันให้เคลื่อนไปรวมกันที่ฝ่ามือของผม ผลก็คือพวกมันฟังผมจริง ๆ แล้วมันก็ปะทุออกมา!” ถังเสี่ยวถังกล่าวด้วยความกลัว
โจวอี้สัมผัสชีพจรของถังเสี่ยวถังอย่างเงียบ ๆ เขายังรู้สึกว่าพลังปราณในร่างของถังเสี่ยวถังนั้นทรงพลังมาก เด็กชายคนนี้มีพลังแปลก ๆ ไหลเวียนอยู่ในร่างกาย แต่พลังงานเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ร่างกายของถังเสี่ยวถังแย่ลงเลย แต่พวกมันเป็นเหมือนยาครอบจักรวาล ซึ่งกำลังฟื้นฟูร่างกายของถังเสี่ยวถังคล้ายกับการบำรุงและซ่อมแซม
“เสี่ยวถัง บอกฉันมาตรง ๆ นายเคยฝึกยุทธ์มาก่อนไหม” โจวอี้ถามหลังจากปล่อยมือ
“ไม่!” ถังเสี่ยวถังตอบทันที
“แปลก… ในร่างกายของนายมีพลังพิเศษบางอย่าง มันควรจะเป็นพลังงานเหล่านี้ที่ทำให้นายสามารถปลดปล่อยเปลวเพลิงได้” โจวอี้ขมวดคิ้ว หลังจากครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานาน เขาก็ยังหาเหตุผลไม่เจอ
ชายหนุ่มจึงส่ายหัวและพูดว่า “ฉันไม่เคยเห็นร่างกายของใครเป็นแบบนายมาก่อน ฉันจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นายไม่ควรปล่อยไฟแบบนี้ออกมาอีก ไม่งั้นบ้านของฉันทั้งหลังคงไหม้จนไม่เหลือซาก”
“ผม…ผมรู้แล้ว…” ถังเสี่ยวถังพยักหน้าอย่างรู้สึกผิด
ถังหว่านยังคงจ้องมองถังเสี่ยวถัง เธอได้ยินบทสนทนาระหว่างโจวอี้และถังเสี่ยวถังแล้ว และในที่สุดก็รู้ว่าเธอเข้าใจโจวอี้ผิด ไม่ใช่โจวอี้ที่จุดไฟเผาถังเสี่ยวถัง แต่ร่างกายของถังเสี่ยวถังสามารถพ่นไฟได้เองต่างหาก
จู่ ๆ เธอก็นึกเสียใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอนึกถึงความโกรธและสายตาเย็นชาของโจวอี้ซึ่งทำให้เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
แต่!
สิ่งที่เกิดขึ้นกับถังเสี่ยวถังคืออะไร?
คนเราจะพ่นไฟออกจากเนื้อและเลือดได้ยังไง?
แต่ว่าตอนนี้โจวอี้… คุณโกรธและผิดหวังในตัวฉันมากใช่ไหม?
ถังหว่านต้องการที่จะขอโทษ แต่เธอก็กลืนคำพูดนั้นกลับเข้าไป เธอรู้สึกว่าแม้ว่าเธอจะขอโทษ เธอก็ไม่สามารถชดเชยความผิดหวังนั้นได้
โจวอี้ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะพูดคุยกับถังหว่านในเวลานี้ จิตใจทั้งหมดของเขาอยู่ที่ถังเสี่ยวถัง
“เสี่ยวถัง นายสามารถควบคุมกระแสไออุ่นเหล่านั้นด้วยสติเพื่อให้มันรวมตัวกันอย่างช้า ๆ ได้ไหม”
“ผมจะพยายาม!”
ถังเสี่ยวถังหลับตาและมุ่งความสนใจไปที่การรับรู้ถึงกระแสไออุ่นในร่างกายของเขา
สิบนาทีต่อมา
เด็กชายลืมตาขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะส่ายศีรษะและพูดว่า “อาจารย์ ตอนนี้ผมสามารถรวบรวมกระแสไออุ่นได้เพียงส่วนเล็ก ๆ เท่านั้น หากมากเกินไป พวกมันจะสลายหายไป”
ดวงตาของโจวอี้เป็นประกาย “พยายามควบคุมกระแสไออุ่นในร่างกายของนาย และปล่อยให้มันไหลเข้าสู่ตันเถียน ซึ่งอยู่ต่ำกว่าสะดือของนายราว 2-3 นิ้ว”
“ครับ!”
ถังเสี่ยวถังพยักหน้า จากนั้นจึงพยายามควบคุมกระแสไออุ่นให้ไหลเข้าสู่ตันเถียนอีกครั้ง
ครั้งนี้เขาใช้เวลานาน
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขาก็รู้สึกประหลาดใจและพูดว่า “อาจารย์ สำเร็จแล้ว ผมถ่ายโอนกระแสไออุ่นทั้งหมดไปยังตันเถียนแล้ว พวกมันเชื่อฟังผมมากเลย ผมไม่ได้ควบคุมให้พวกมันออกมา พวกมันจึงอยู่ในตันเถียนเท่านั้น”
“ไม่เลว!”
ดวงตาของโจวอี้เป็นประกายอีกครั้ง เขายกแขนขึ้นเหยียดนิ้วออกและพูดว่า “เอาล่ะ ตอนนี้นายลองเคลื่อนกระแสไออุ่นออกจากตันเถียนสักเล็กน้อย แล้วรวบรวมมันไว้ที่ปลายนิ้ว เพื่อดูว่านายจะสามารถปล่อยเปลวไฟออกมาอีกครั้งได้ไหม”
“ครับ!”
คราวนี้ถังเสี่ยวถังไม่ได้หลับตา ไม่ถึงสามวินาทีหลังจากที่เขาตอบรับ เปลวไฟขนาดสองนิ้วก็ปรากฏขึ้นที่ปลายนิ้วของเขา
เปลวไฟนี้เป็นสีน้ำเงินและมีอุณหภูมิสูงมาก
“โยนเปลวไฟนี้ลงพื้น!” โจวอี้สั่งทันที
ถังเสี่ยวถังสะบัดปลายนิ้วของเขาทันที และเปลวไฟนี้ก็ตกลงบนพื้น
ฟู่~~
กระเบื้องพื้นเรียบถูกไฟนี้ทำลายโดยตรง และเปลวไฟก็สลายไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับควันที่พวยพุ่ง
“บ้าไปแล้ว! เปลวไฟเล็ก ๆ นี้สามารถทะลุกระเบื้องปูพื้นได้เลยงั้นเหรอ นี่มันมีพลังมากกว่าดาบแล้วนะ!” สีหน้าของโจวอี้ตกตะลึงเป็นอย่างมาก
จากนั้นเขาก็ตบไหล่ถังเสี่ยวถังและพูดว่า “นายเป็นตัวประหลาดประเภทไหนกันแน่ มนุษย์ไฟรึไง?”