บทที่ 185 ข้าอยากแต่งงานกับเผยยวน

เซียวเย่เจ๋อแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง แต่จี้จือฮวนตอบรับคำของท่านอาน้อยของเขาจริง ๆ

เซียวเย่เจ๋อลิ้นแทบจะพันกันอยู่แล้ว “นี่ ๆ ๆ ใบหน้าของเจ้า มันเรื่องอะไรกันแน่?”

“รักษาหายแล้ว” จี้จือฮวนเอ่ยเรียบ ๆ

เซียวเย่เจ๋อจ้องนางสักพัก ใบหน้าก็แดงเรื่อขึ้นมา หายดีแล้วก็ดูดีทีเดียว

“ข้าคิดว่าใช้คำว่าสาวงามได้เลย”

หย่งหนิงน้อยมุ่ยปาก มือน้อย ๆ ป้องที่ข้างหูของจี้จือฮวนแล้วเอ่ยขึ้นมา “พี่สาวฮวนฮวน เขากำลังชมว่าท่านสวย แต่ว่าอายเจ้าค่ะ”

จี้จือฮวนไม่สนใจความคิดของเซียวเย่เจ๋อ ในสายตาของเขานางจะสวยหรือไม่ นางไม่ได้อยากจะรู้

นางอยากรู้แค่ว่าที่เขามาที่นี่ เพราะจะปรึกษาเรื่องสีชาดทาปากใช่หรือไม่

“เห็นจดหมายหรือยัง?”

เห็นได้ชัดว่าความเย็นชาของจี้จือฮวน ทำให้เซียวเย่เจ๋อรู้สึกอับอายเล็กน้อย

“เห็นแล้ว ข้าให้น้องสาวใช้แล้ว นางโวยวายอยากให้ข้าทำให้นางมากกว่านี้หน่อยจะได้เอาไปมอบให้คนอื่นด้วย และบอกว่าใช้ดีมาก”

หนอนกระบองเพชรเป็นของหายาก ต้องใช้ดีอยู่แล้ว

“เจ้าคงมาหาข้ากระมัง”

เซียวเย่เจ๋อสีหน้าไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไรนัก “เอ่อ ข้าแค่ผ่านมาก็เท่านั้น ก่อนหน้านี้ข้าไปเยี่ยมท่านปู่ของข้าที่ซีซานเป็นเพื่อนท่านอาน้อยมา เขาคิดถึงลูกหลงของตัวเอง ข้าก็ต้องเป็นคนไปส่งน่ะสิ นี่ก็เพิ่งกลับมา และตั้งใจว่าจะให้คนไปส่งนางกลับเมืองหลวง ส่วนข้าก็จะไปหาเจ้าที่บ้าน”

หย่งหนิงพอเห็นเขาพูดถึงเรื่องนี้ก็ไม่พอใจขึ้นมาทันที “เขานิสัยไม่ดี เขาไม่อยากให้ข้าไปด้วย”

เซียวเย่เจ๋อไม่อยากให้นางไปด้วยจริง ๆ เพราะไปแล้วนางยังจะลงโทษให้เขาหันหน้าเข้ากำแพงเพื่อสำนึกผิด ใครอยากจะพาเด็กคนนี้ไปด้วยกัน

“เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ จะได้ไปดูที่ด้วยพอดี พวกเราจะปรึกษาเรื่องตั้งโรงงานกันด้วย”

จี้จือฮวนขึ้นไปบนรถม้า เซียวเย่เจ๋อจึงลงจากหลังม้าและตามขึ้นมาด้วย

“โอ๊ะ รถม้าคันนี้ของพวกเจ้าซื้อได้ไม่เลวเลย ม้านี่ก็ดูกระฉับกระเฉงดีด้วย”

เซียวเย่เจ๋อเพิ่งจะตบก้นของจ้านอิ่งแค่ทีเดียว ก็ถูกจ้านอิ่งสะบัดหางใส่หน้าเข้าให้

“ถุย ๆ ๆ เจ้าม้าบ้านี่หมายความว่าอย่างไรกัน!”

จ้านอิ่งขี้เกียจจะฟังเจ้าเด็กนี่พูดพล่ามอีก จึงย่ำกีบม้าและออกวิ่งทันที

“เซียว~ ผิง~ เจ้ารีบ~ ตาม~ มา~ สิ~” เสียงของเซียวเย่เจ๋อดังมาจากที่ไกล ๆ เพียงพริบตารถม้าก็วิ่งไปจนไม่เห็นเงาแล้ว…

เซียวผิงและกลุ่มองครักษ์ของตระกูลเซียว “…”

นายท่านกับท่านหญิงน้อยถูกแม่นางจี้พาตัวไปต่อหน้าต่อตาเช่นนี้น่ะหรือ?!

จี้จือฮวนต้องการหารือเกี่ยวกับสถานที่และกำลังการผลิตของโรงงานกับเซียวเย่เจ๋อ ทว่าความเร็วของจ้านอิงนั้นเร็วเกินไป นางจึงทำได้เพียงกอดหย่งหนิงและมองดูเซียวเย่เจ๋อชะโงกหัวอาเจียนไปจนถึงหมู่บ้านตระกูลเฉิน

โชคดีที่ไม่นานก็ถึงบ้านแล้ว เซียวเย่เจ๋อไม่แม้แต่จะทันสังเกตหมู่บ้านตระกูลเฉิน ในตอนนี้เขาได้แต่พยุงตัวกับต้นไม้ใหญ่ข้างทางต้นหนึ่ง และต้องการอาเจียนออกมาให้หมดก่อน

ความรังเกียจของหย่งหนิงแทบจะล้นทะลักออกมาอยู่แล้ว “ไม่ได้เรื่อง แค่นี่ก็อาเจียนเสียแล้ว”

เซียวเย่เจ๋ออยากจะเถียง แต่กลับอาเจียนออกมาอีกครั้ง

หย่งหนิงจึงหันไปเอ่ยกับจี้จือฮวน “พี่สาวฮวนฮวน ท่านรู้หรือไม่ แม้เขาจะมีสภาพเช่นนี้ แต่ไม่นานมานี้ยังให้คนไปซื้อม้าพันลี้มา บอกว่าจะซื้อม้าที่เหมือนกับของท่านแม่ทัพเผยยวน แต่พอถึงเวลาขี่ก็ทั้งอึราดทั้งอาเจียน ถุย!”

ทว่าม้าของท่านแม่ทัพเผยยวนเวลานี้กลับส่งเสียงขึ้นจมูก แสดงถึงความดูแคลน

มุมปากของจี้จือฮวนกระตุกขึ้น นางกระแอมเล็กน้อยกำลังจะเอ่ยปาก แต่เซียวเย่เจ๋อที่อาการดีขึ้นแล้วก็พูดขึ้นมาก่อน “ก็ข้าชอบเผยยวน จะทำไม!”

เขาเช็ดปากไปหนึ่งที “เป็นผู้ชาย ใครบ้างไม่อยากออกรบฆ่าศัตรูอย่างเผยยวน หากข้าเป็นจี้หมิงซูอย่าว่าแต่ให้เป็นอนุของเขาเลย ต่อให้เป็นคนรับใช้คอยล้างเท้าให้เขาข้าก็ยอม

จี้จือฮวน เจ้าทำสีหน้าเช่นนั้นทำไมกัน!? เจ้ารู้หรือไม่ว่าเผยยวนของพวกเราร้ายกาจเพียงใด”

จี้จือฮวนได้แต่คิดในใจ แล้วข้าจะทำสีหน้าเช่นไรได้…

เซียวเย่เจ๋อเหมือนคุยเพลินจนติดลม จึงเอามือข้างหนึ่งเท้าลงบนสิงโตหินที่อยู่ข้างต้นไม้ “ข้าจะบอกเจ้าให้ เกรงว่าเจ้าคงยังไม่รู้ว่าเผยยวนเป็นใครกระมัง วัน ๆ เอาแต่ทำงานอยู่เรือนหลัง ข้าดูก็รู้ว่าเจ้าต้องไม่รู้แน่ ใครก็ตามที่รู้จักเผยยวน ใครบ้างจะไม่เรียกเขาว่าวีรบุรุษหนุ่ม ศึกหลงเหมินเจ้ารู้จักหรือไม่? เขามีชื่อเสียงเพราะศึกครั้งนี้ อาศัยคนแค่หนึ่งพันคนบุกสังหารค่ายของศัตรูพลิกกลับมาชนะได้”

เซียวเย่เจ๋อพูดน้ำไหลไฟดับไม่หยุด ระหว่างนั้นยังชมสิงโตหินไปด้วย หน้าตาดูคุ้น ๆ รู้สึกเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

สิงโตหินของจวนจี้กั๋วกง ขอบคุณเจ้ามากเลย

“กองทัพทหารเกราะเหล็กเจ้ารู้จักหรือไม่?” เซียวเย่เจ๋อพูดพลางมองดูกลุ่มชายฉกรรจ์ที่สวมชุดทำงานพอดีตัวแบกไม้เดินผ่านไปมา และเรียกจี้จือฮวนว่าฮูหยิน จากนั้นเขาก็เอ่ยต่อด้วยท่าทางประหลาดใจ “กองทัพทหารเกราะเหล็กเป็นทหารของเผยยวน เป็นกองทัพที่กล้าหาญที่สุดของราชวงศ์ต้าจิ้นของเรา! กองทัพที่สามารถทำให้ศัตรูในสนามรบหวาดกลัวได้ หากข้าสามารถออกรบและต่อสู้กับศัตรูเคียงบ่าเคียงไหล่กับเผยยวน แม้ในฝันข้าก็คงสามารถหัวเราะออกมาได้!”

จี้จือฮวนลูบคางตัวเองเล็กน้อย ผู้ชายก็มีหัวใจเป็นเด็กอยู่ตลอดสินะ ดังนั้นในใจของเซียวเย่เจ๋อ เผยยวนก็เปรียบเสมือนกับอุลตร้าแมนอย่างนั้นหรือ?

จบกัน นางอับอายจนแทบอยากจะขุดดินหนีไปเมืองหลวงแทนเซียวเย่เจ๋อที่อีกเดี๋ยวจะได้รู้ความจริง

เหล่าชายฉกรรจ์ที่เพิ่งเดินผ่านไปต่างก็หันกลับมามองเซียวเย่เจ๋อจนเป็นตาเดียว

เซียวเย่เจ๋อจึงเอ่ยด้วยความหงุดหงิดขึ้นมา “มองอะไรกัน พวกเจ้าคิดว่าตัวเองเป็นทหารเกราะเหล็กหรืออย่างไร?”

เหล่าทหารเกราะเหล็ก “???”

เซียวเย่เจ๋อถอนหายใจออกมา “เฮ้อ หากข้าเป็นสตรีก็คงจะดี ข้าจะแต่งงานกับเผยยวน สตรีอื่นก็ดีแต่แต่งตัวไปวัน ๆ ส่วนหมิงซูก็ไม่คู่ควรกับเขา”

ดูท่าเจ้าเด็กนี่ไม่อยู่เมืองหลวงแค่ไม่กี่วัน พลาดไปหลายเรื่องทีเดียว

ทางด้านนี้เผยยวนกำลังสั่งให้เหล่าทหารสร้างบ้านต่อไป บ้านต้องแข็งแรง ดังนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะสร้างให้เสร็จในวันเดียวได้ พื้นดินก็จะต้องบดอัดให้แน่นเสียก่อน

คนกลุ่มเมื่อครู่มาถึงก็เอ่ยขึ้นมา “ท่านแม่ทัพ ฮูหยินกลับมาแล้วขอรับ”

เผยยวนหันหน้าไป บนใบหน้าหล่อเหลาใกล้กับดวงตาข้างขวาเห็นได้ชัดว่าเป็นรอยกำปั้นที่เปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้ว

เดิมทุกคนยึดหลักหากกลั้นหัวเราะได้ก็อย่าหัวเราะออกมา มองเผยยวนที่ราวกับกำลังกระดิกหางเล็ก ๆ ขณะวิ่งไปหาฮูหยินอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

“พรวด ข้าแทบจะทนไม่ไหวแล้ว เหตุใดพวกเจ้าถึงกลั้นขำไหวกัน?”

“ดูไม่ออกเลยว่าฮูหยินจะโหดร้ายเช่นนี้”

“เชอะ กล้านินทาฮูหยินอย่างนั้นหรือ จะเรียกฮูหยินว่าโหดร้ายได้อย่างไร นั่นเรียกว่ายอดฝีมือในหมู่สตรีต่างหากเล่า เวลาท่านแม่ทัพดื่มเหล้าพวกเจ้าเองก็ใช่ว่าจะไม่รู้ ผู้ชายสิบกว่าคนยังทำอะไรเขาไม่ได้เลย”

เผยยวนเพิ่งสาวเท้าเข้ามาใกล้จี้จือฮวน ก็ได้ยินเซียวเย่เจ๋อพูดอย่างฉะฉานว่าต้องการแต่งงานกับตน

รอยยิ้มของเผยยวนพลันแข็งค้างทันที

เจ้าหมอนี่มาจากที่ไหนกัน?!

เซียวเย่เจ๋อเพิ่งบรรยายความนับถือที่มีต่อเผยยวนเสร็จ เมื่อหันหน้าไปก็เห็นชายคนหนึ่งที่ดูคล้ายแม่ทัพเผยอย่างมาก กำลังมองมาที่เขาด้วยสีหน้าอาฆาตแค้น บนใบหน้าด้านขวายังมีรอยกำปั้นอีกด้วย

จี้จือฮวนหันหน้าไป สีหน้าของเผยยวนก็เปลี่ยนไปทันที พลางเอ่ยราวกับเป็นเด็กดีเสียเต็มประดา “เจ้ากลับมาแล้วหรือ? เหนื่อยหรือไม่ อยากดื่มน้ำหรือไม่?”

จี้จือฮวนวางหย่งหนิงที่อยู่ในอ้อมแขนลงบนพื้น “มีแขกมาบ้าน ข้าจะพาพวกเขาไปเดินดูสักหน่อย ทางเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง?”

“ทุกอย่างราบรื่นดี”

เซียวเย่เจ๋อเดินไปแทรกกลางระหว่างคนทั้งสองอย่างรวดเร็ว พลางพิจารณาเผยยวนอย่างละเอียด “เจ้า…เจ้าเหตุใดถึงได้หน้าตา…”

“เซียวซื่อจื่อ? ไม่พบกันเสียนาน” เมื่อเซียวเย่เจ๋อเข้ามาใกล้ เผยยวนจึงจำเขาได้

ดูท่าเด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างกายฮวนฮวนคนนี้ คงเป็นน้องสาวคนเล็กของอู่อันโหว อาหญิงเล็กของเซียวเย่เจ๋อ คนในเมืองหลวงมักจะล้ออาหลานที่มีอายุต่างกันมากคู่นี้อยู่บ่อยครั้ง เผยยวนเองก็เคยได้ยินเรื่องนี้เช่นกัน เพียงแต่ตอนนั้นหย่งหนิงยังเล็กมาก แต่ตอนนี้โตขึ้นจนเขาจำไม่ได้แล้ว