พอออกมาจากโรงพยาบาล อันหรันก็ตามฮั่วเทียนหลันกลับมาที่คฤหาสน์

ตอนนี้มันก็ดึกมาแล้ว ตอนแรกเธอคิดว่าฮั่วเทียนหลันจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่

แต่เมื่อฮั่วเทียนหลันเดินเข้าประตูมาก็กล่าวทักทายป้าding หลังจากนั้นก็หาเหตุผลออกไปข้างนอก

อันหรันแอบมองว่าฮั่วเทียนหลันจะไปไหน และเหมือนกับว่าเขากำลังจะไปโรสเฮาส์

หลังจากทานอาหารเย็น ป้าdingช่วยอันหรันต้มยา แล้วถามขึ้นมาเกี่ยวกับงานวันเกิดที่ไปวันนี้

อันหรันรู้ดีว่าถ้าหากพูดอะไรกับป้าdingไป ทุกประโยคจะไปถึงหูของฮั่วเทียนหลัน เธอจึงพูดแต่สิ่งที่ควรพูดออกไป

“คุณนาย วันนี้นายน้อยไม่ได้ทำอะไรให้คุณลำบากใจใช่ไหม? ” ป้าdingถามด้วยความเป็นห่วง

อันหรันคิดไปคิดมาก็คิดไม่ออก ส่ายหัวแล้วตอบกลับไปว่า “ป้าding วันนี้เทียนหลันดูแลฉันดีมากๆ”

ป้าdingมองไปที่อันหรัน สีหน้าของอันหรันสงบ เธอไม่ได้โกหก

“คุณหนูของบ้านตระกูลฉวน เธอชอบเล่นกับนายน้อยมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นพวกเขาจึงดูสนิทกันมาก คุณนายอย่าได้คิดมากไป….. ”

“ป้าding ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่คิดเล็กคิดน้อยขนาดนั้นนะ”

ป้าdingถอนหายใจยิ่ง อันหรันเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา แต่เธอต้องมาทนกับความเศร้าตลอดเวลา

เธอพูดออกมาเบาๆว่า “กับมู่เหว่ยคนนั้น ไม่มีทางเป็นไปได้ รอนายน้อยคิดได้เมื่อไหร่ เขาต้องรู้แน่ว่าคุณนายดีกับเขามากแค่ไหน เขาต้องกลับใจมาหาคุณนายแน่นอน”

อันหรันพยักหน้า เธอมองไปที่เปลวไฟสีฟ้าที่ลุกไหม้อยู่ใต้หม้อตุ๋น ทำให้ใจของเธอสงบขึ้นมาบ้าง

พวกเธอนิ่งไปชั่วขณะ ป้าdingมีข้อสงสัย จึงถามออกมาว่า “คุณนาย มีอะไรจะพูด แต่ไม่รู้ควรจะพูดออกมาดีไหม”

อันหรันมองไปที่ป้าdingด้วยความประหลาดใจ ไม่รู้ว่าป้าdingจะพูดอะไรออกมา

“ป้าding ป้าก็รู้จักฉันดี ป้าอยากพูดอะไรก็พูดออกมาเถอะ ฉันไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า?”

“คุณนายไม่ได้ทำอะไรผิด อันนั้นฉันรู้ดี แต่ช่วงนี้ที่เมืองz มีข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องคุณนายมากมาย ถ้าหากมีเรื่องอะไรทุกข์ใจก็บอกกับฉันได้ ไม่ต้องไปบอกกับคนของครอบครัวทางโน้น ทำแบบนั้นจะยิ่งทำให้คุณผู้หญิงลำบากใจมากขึ้น”

ไปหาครอบครัว? อันหรันคิดว่าตัวเธอกำลังฟังเรื่องตลก เธอมีครอบครัวที่ไหนกัน

ตระกูลอันตอนนี้ มีแต่พวกขูดเลือดขูดเนื้อ

“ป้าding ป้าจะบอกว่ามีคนของครอบครัวอันมาหาคุณหญิงหรอ?” อันหรันถาม

ป้าdingพยักหน้า อันหรันเดาถูกแล้ว

ปกติเธอคิดว่าอันหรันเป็นคนที่สุขุม หนักแน่น แต่สำหรับเรื่องบางเรื่องเธอก็ยังเป็นเด็กเกินไป

ปัญหาชีวิตคู่ ก็ควรให้คนสองคนแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ไม่ต้องไปถามคนอื่น นั้นไม่เพียงแต่ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่มันยังทำให้ปัญหาซับซ้อนยิ่งขึ้นไปอีก ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจัดการได้ไม่ดี ก็จะทำให้ทั้งสองครอบครัวมองหน้ากันไม่ติด

อันหรันพยักหน้า ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว

อาจจะเป็นครอบครัวของอันหงไชที่ใช้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเป็นข้ออ้าง แสดงถึงความไม่พอใจ เพื่อเรียกร้องประโยชน์จากคุณหญิงหลี่

คนพวกนี้ไม่รู้จักพอจริงๆ!

โรสเฮาส์ ฮั่วเทียนหลันเพิ่งจะวางสายโทรศัพท์ไป

โจวหยวนรายงานว่าเขาได้จัดการกับเรื่องการเผยแพร่ข่าวที่ไม่ดีบนอินเทอร์เน็ตเรียบร้อยแล้ว และข่าวหนังสือพิมพ์ก็เช่นกัน

ฮั่วเทียนหลันอยากจะบอกกับโจวหยวนให้จับตาดูเรื่องนี้เอาไว้ให้ดีๆ แต่เมื่อคิดถึงท่าทางที่อ่อนโยนของอันหรันแล้ว สุดท้ายเขาก็ไม่ได้พูดอะไรและวางสายโทรศัพท์ลง

มู่เหว่ยทำกำลังปอกผลไม้อยู่ข้างๆฮั่วเทียนหลัน ได้ยินเรื่องราวที่ฮั่วเทียนหลันพูดกับโจวหยวนทั้งหมด

ความโกรธพลุ่งพล่านขึ้นในใจ ฮั่วเทียนหลันไม่ได้อยู่ข้างเธอหรอ? ทำไมถึงช่วยอันหรันจัดการเรื่องราวเหล่านี้

เนื่องจากข่าวร้ายๆในอินเทอร์เน็ต เกิดจากฝีมือของมู่เหว่ยทั้งหมด

เธอยิ่งคิดยิ่งอารมณ์เสีย และในใจเธอก็ยังคงครุ่นคิด หาวิธีในการกลั่นแกล้งอันหรันอีกครั้ง

มู่เหว่ยหยิบผลไม่ขึ้นมาหนึ่งชิ้นป้อนไปที่ปากของฮั่วเทียนหลัน “อ้ามมมมม….!”

ฮั่วเทียนหลันค่อยๆอ้าปากเพื่อที่จะกินผลไม้ที่มู่เหว่ยเป็นคนป้อน

มู่เหว่ยพูดออกมาว่า “เทียนหลัน คุณเห็นคอมเมนต์ในอินเทอร์เน็ตแล้วหรือยัง?”

นี่เป็นครั้งแรกที่มู่เหว่ยพูดเรื่องนี้ในที่สาธารณะ ฮั่วเทียนหลันจึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยแล้วตอบกลับไปว่า “อ่า ผมจัดการมันเรียบร้อยแล้ว”

“คุณคิดว่า….มันเป็นความผิดของใคร?”

“ไม่มีใครผิดและไม่มีใครถูก ฉันได้เห็นมันด้วยตาของตัวเอง มันเป็นแบบนั้นจริงๆ แต่ว่า….” พอพูดถึงตรงนี้ ฮั่วเทียนหลันก็หยุดชะงัก

มู่เหว่ยใจสั่น แต่เธอก็อยากที่จะฟังต่อไป “ยังไงต่อหรอ? เทียนหลัน ฉันไปทำอะไรให้คุณโกรธหรือเปล่า?”

“วิดีโอที่คฤหาสน์แพร่กระจายไปบนอินเทอร์เน็ต มันเป็นแบบนั้นได้อย่างไร?”

เสียงของฮั่วเทียนหลันเย็นชาจนอธิบายไม่ถูก

มู่เหว่ยกังวลเล็กน้อย แต่เธอคือคนฉลาดคนหนึ่ง เธอจึงรีบพูดออกมาทันทีว่า “เทียนหลัน ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว แฟนคลับของฉันรู้ข่าวการเข้าโรงพยาบาลของฉัน ในนั้นมีคนเอาข้อมูลเหล่านี้ไปเผยแพร่ ก็เลย…..”

พอมู่เหว่ยพูดถึงตรงนี้ น้ำตาของเธอก็ค่อยๆหยดลงมา ทำท่าทางที่น่าสงสาร

ตอนแรกฮั่วเทียนหลันไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้ แต่ด้วยความที่มู่เหว่ยเซ้าซี้ เลยทำให้ฮั่วเทียนหลันต้องพูดออกมา

สุดท้ายมู่เหว่ยก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้มากที่สุด เขายื่นมือออกมาเพื่อปาดน้ำตาบนหน้าของมู่เหว่ยพร้อมกับพูดว่า “ไม่เป็นไรนะ ไม่ต้องร้อง เรื่องนี้คุณไม่ผิดหรอก!”

มู่เหว่ยหรี่ตาลง ร้องสะอื้นจนตัวสั่น

ใบหน้าของผู้ชายที่อ่อนโยนคนนี้ ไม่สามารถทำให้รู้สึกปลอดภัยได้แล้ว

หลายปีที่ผ่านมานี้ ฮั่วเทียนหลันไม่เคยถูกเนื้อต้องตัวมู่เหว่ยเลย นี่มันเป็นสัญญาณที่แย่มาก

มีข่าวลือมากมายของเรื่องระหว่างเธอและเขาที่เกิดขึ้นในเมืองz แต่ใจมู่เหว่ยรู้ดี ว่าแท้จริงแล้วระหว่างเธอกับฮั่วเทียนหลันไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลย เต็มที่ก็แค่ผิวเผิน

ความรักที่เขามีต่อเธอนั้น เป็นแค่การสมรู้ร่วมคิดเท่านั้น

“ฉันผิดไปแล้ว….ถ้าหากฉันไม่ไปหาอันหรัน เรื่องทั้งหมดก็คงไม่เกิดขึ้น ขอโทษจริงๆ เทียนหลัน ฉันแค่อยากที่จะอยู่ข้างๆคุณ….”

มู่เหว่ยสะอื้นพร้อมกับเงยหน้าขึ้นพูด ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา ทำให้ฮั่วเทียนหลันรู้สึกหวั่นไหว

เธอพูดขึ้นมาอีกครั้ง “เทียนหลัน ฉันมันเป็นตัวปัญหาหรือเปล่า?”

ฮั่วเทียนหลันยื่นมือออกมาโอบไปที่ไหล่ของมู่เหว่ย ลูบหลังของเธอพร้อมกับพูดว่า “คุณกำลังคิดอะไรอยู่? คุณคือผู้หญิงของผม และผมจะอยู่ดูแลคุณทั้งชีวิตของผม”

แต่เมื่อเขาพูดถึงประโยค ‘เธอคือผู้หญิงของฉัน’ในตอนนั้นเขาก็นึกถึงภาพของอันหรันออกมาโดยไม่ตั้งใจ

“พักนี้คุณดูเครียดมาก คุณรีบพักผ่อนได้แล้ว ไว้เราค่อยมาเจอกันใหม่”

พอพูดจบ ฮั่วเทียนหลันก็อุ้มมู่เหว่ยขึ้น และพาเธอไปยังห้องนอน

ตอนที่เขาวางมู่เหว่ยลงบนเตียง มู่เหว่ยรั้งคอของฮั่วเทียนหลันไว้ไม่ยอมปล่อย และพูดออกมาว่า “เทียนหลัน มาเป็นของฉันเถอะ!”