ตอนที่ 57: ขั้นตอนเตรียมการ

“ฉันไม่มีเงิน” เสี่ยวเฉิงพลันพูดขึ้น

“แต่ฉันมี!” เซินเหยารีบตอบกลับ

“ฉันไม่มีอำนาจ”

“พ่อฉันจะมอบอำนาจให้นายเอง!“

“ฉันไม่ได้หล่อขนาดนั้น”

“ขอแค่เราสองเข้าใจกัน… แค่นั้นก็พอ”

“ฉันไม่มีอะไรจะให้เธอเลยด้วยซ้ำ”

“ฉันแค่ต้องการนาย… แค่นายเท่านั้น”

เสี่ยวเฉิงพลันถอนหายใจ “ข้อเสนอของเธอดูจะเวอร์เกินไปหน่อยนะ ยังไงก็เถอะ ฉันขอเก็บไปคิดก่อนก็แล้วกัน”

ไม่นานนัก เสี่ยวเฉิงก็ลุกขึ้นและเตรียมตัวที่จะออกไป

ทันใดนั้น เซินเหยาก็พลันจ้องมองไปที่เสี่ยวเฉิงและตะโกนเสียงดังออกมา “นายอย่าทำตัวงี่เง่าไปหน่อยเลยน่า! รู้ตัวไหมว่ากำลังพาตัวเองไปตายน่ะ?!”

เธอรู้ดีว่าการแสดงของตนคงดูเวอร์วังเกินไป อีกทั้ง เสี่ยวเฉิงเองก็คงจะไม่เชื่อแน่ เพราะแบบนั้น เซินเหยาจึงตัดสินใจกล่าวคำพูดอย่างตรงไปตรงมาและพยายามห้ามปรามเสี่ยวเฉิงแทน

เสี่ยวเฉิงพลันหันกลับมาและเผยยิ้มให้ทั้งสอง “พวกเธอจะไปดูด้วยไหมล่ะ?”

ทั้งนี้ เซินเหยาก็พลันตะโกนขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์ “ทำไมจะไม่ไปล่ะ? เราไปแน่นอน! ฉันจะซื้อที่นั่งวีไอพีของลานประลองใต้ดินเอาไว้สองที่เลยล่ะ แล้วฉันก็จะวางเดิมพันกับฝั่งผู้นำของแก๊งเต่าดำด้วย! รู้หรือเปล่าว่ามีคนไม่ชอบขี้หน้านายตั้งกี่คน? อีกอย่าง ถ้าหัวหน้าใหญ่ของแก๊งเต่าดำชนะ พวกนักพนันก็จะได้เงินเดิมพันมากกว่าเดิมประมาณหนึ่งจุดสองเท่า แต่ถ้านายชนะ คนที่วางเดิมพันก็จะได้เงินมากกว่าเดิมสิบสองเท่า… แต่อย่างว่า ไม่มีใครกล้าเดิมพันกับนายหรอก”

“เยอะขนาดนั้นเชียว?” เสี่ยวเฉิงพลันเบิกตากว้าง

ในไม่ช้า หรานจิงก็พลันกล่าวคำพูดแทรกขึ้นมา “อันที่จริง หัวหน้าแก๊งเต่าดำก็เป็นชายที่เจ้าเล่ห์มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วแหละ ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะอายุห้าสิบปีแล้วก็เถอะ แต่ไม่ว่ายังไง เขาก็เป็นคนหนึ่งที่เอาแต่ฝึกฝนตัวเองอย่างหนักหน่วงจนได้รับฉายาปรมาจารย์แห่งแก๊งเต่าดำเลยล่ะ สำหรับใครก็ตามที่คุ้นเคยหรือรู้จักกับหัวหน้าแก๊งเต่าดำ พวกเขาก็คงจะไม่เชียร์หรือวางเดิมพันกับนายแน่! คนพวกนั้นรู้ประวัตินายหมดแล้ว มันไม่ได้มีอะไรน่าสนใจเลยสักนิด และถ้าไม่ใช่เพราะวิดีโอที่นายไปซัดกับลูกน้องของแก๊งเต่าดำตั้งห้าสิบคน ก็คงไม่มีใครใจกล้าพอที่จะวางเดิมพันกับนายหรอก”

ไม่ช้า เซินเหยาพลันกล่าวคำพูดแทรกขึ้น “ใช่ หรานจิงเคยบอกฉันว่าขนาดพวกตำรวจเองยังไม่มั่นใจในตัวนายเลยด้วยซ้ำ”

เสี่ยวเฉิงพลันถอนหายใจ จากนั้นไม่นาน เขาก็เดินเข้าไปในห้องพร้อมกับหยิบหนังสือรับรองทรัพย์สินและสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ออกมาวางไว้ที่โต๊ะ “เซินเหยา งั้นเธอช่วยจัดการให้ฉันด้วยก็แล้วกัน”

เซินเหยาพลันขมวดคิ้ว “หือ? นายต้องการให้ฉันเผามันทิ้งหลังจากที่ตัวเองตายหรือยังไง?”

“ไม่ใช่ทิ้ง แต่ฉันวางเดิมพันให้ตัวเองไม่ได้ต่างหากล่ะ ยังไงก็เถอะ ช่วยไปหาคนมาประเมินมูลค่าทรัพย์สิน แล้วก็ถอนเงินทั้งหมดไปไว้ในตลาดมืดเพื่อวางเดิมพันให้ฉันหน่อยสิ” เสี่ยวเฉิงพลันตอบกลับ

เซินเหยาก้มไปหยิบหนังสือรับรองทรัพย์สินและสมุดบัญชีเงินฝากขึ้นมาพร้อมกับเผยท่าทีที่ตกใจเล็กน้อย “โห! เยอะเหมือนกันนะเนี่ย… เล่มนี้น่าจะเกินสิบสองล้านใช่ไหม? แล้วหนังสือรับรองนี่คืออะไรกัน?”

เธอมองเข้าไปใกล้กว่าเดิม จากนั้นไม่นาน เซินเหยาก็พลันเงยหน้าขึ้นพร้อมมองไปยังเสี่ยวเฉิง “นายเป็นเจ้าของทั้งคอนโดนี้เลยเหรอ?!”

“ไม่งั้นฉันจะเลือกอยู่ชั้นบนสุดแล้วก็ทำทุกอย่างตามอำเภอใจได้ยังไงกันล่ะ?” เสี่ยวเฉิงพลันตอบกลับ

ระหว่างที่หรานจิงเดินไปหยิบหนังสือรับรองมาอ่าน เธอเองก็เผยท่าทีสุดตกใจออกมาเช่นกัน “ตอนแรกฉันคิดว่านายเป็นผู้เช่าเหมือนกันเสียอีก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวันนั้นฝ่ายบริหารทรัพย์สินอยากให้ฉันย้ายออกนักหนา สรุปว่าพวกเขาได้รับคำสั่งมาจากนายนี่เอง ดีจังเลยนะ ราคาคอนโดนี้อย่างน้อยก็น่าได้จะสักสองถึงสามล้านแหละน่า”

เสี่ยวเฉิงพลันเผยยิ้มอย่างสุภาพออกมา “พ่อฉันทิ้งเงินเอาไว้ให้ก่อนตายน่ะ ก็เลยหยิบเอามาลงทุนหน่อย ส่วนมากก็พึ่งโชคเอาทั้งนั้นแหละ”

ทว่า เซินเหยาพลันพูดแทรกขึ้นมา”อย่างน้อยก็ต้องเจ็ดหรือไม่ก็แปดร้อยล้านแหละ… แล้วถ้าเอาเงินไปลงเดิมพันกับหัวหน้าแก๊งเต่าดำ นายก็จะทำเงินได้ตั้งหลายร้อยล้านเลยด้วย… เสี่ยวเฉิง! นายเคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าถ้าตัวเองเกิดตายขึ้นมา เงินพวกนี้จะตกไปอยู่ในมือใคร? นายมีญาติหรือแฟนสักคนไหม?”

เสี่ยวเฉิงพลันพูดอะไรไม่ออก “ใครบอกเธอกันว่าฉันจะเอาเงินทั้งหมดไปลงกับไอ้หัวหน้าแก๊งเต่าดำบัดซบนั่น? ฉันจะฝากเธอเอาเงินทั้งหมดไปลงเดิมพันกับตัวฉันเองต่างหากล่ะ”

ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เซินเหยาก็พลันตกใจและเผยท่าทีที่เปลี่ยนไป “ถามจริง?!”