บทที่ 176 ที่พึ่งของหยางอวิ๋น

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 176 ที่พึ่งของหยางอวิ๋น

บทที่ 176 ที่พึ่งของหยางอวิ๋น

ขณะอยู่กลางอากาศ หยางอวิ๋นมองร่างของเซียวเทียนที่ล้มลงต่อหน้า พลางหัวเราะอยู่ในใจ

เจ้าหนุ่มผู้นี้ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น เพียงใช้พลังมากกว่าปกติสักหน่อยก็สามารถเอาชนะได้แล้ว

บุตรแห่งโชคชะตาหยางหันหอกยาวในมือ แทงตรงไปที่หัวใจของเซียวเทียน! หากเป็นคนอื่นเขาอาจจะยกโทษให้ แต่เจ้าหนุ่มผู้นี้อยู่กับลู่หยวน ดังนั้นอย่าโทษเขาที่โหดเหี้ยม!

หอกสีทองแทงผ่านอากาศ ตรงเข้าสู่หัวใจของคู่ต่อสู้

เคร้ง!

มีเสียงหอกกระทบกับวัตถุแข็ง หยางอวิ๋นเพียงรู้สึกว่ามีวัตถุแข็งอยู่ตรงหัวใจของอีกฝ่าย มันถึงกับป้องกันหอกยาวไม่ให้รุกคืบไปมากกว่านี้

“เหอะ คิดว่ามีสมบัติศักดิ์สิทธิ์คอยปกป้องหัวใจ แล้วข้าจะทะลวงไม่ได้งั้นหรือ?!”

หยางอวิ๋นถือหอกด้วยมือทั้งสองข้าง หอกดูดกลืนคลื่นพลังสีทองรอบข้างเข้าไป เจตจำนงหอกพุ่งทะยาน เกิดแสงสว่างสีทองวาบไหวที่ปลายหอก พลังมหาศาลพลันระเบิดพุ่งตรงไปที่หัวใจของเซียวเทียน

แต่ไม่ว่าหยางอวิ๋นจะรวบรวมพละกำลังเพื่อทะลวงหอกเท่าไหร่ เขาก็ได้ยินเพียงเสียง ‘เปรี้ยง ๆๆ’ กระทบเข้ากับวัตถุแข็งเท่านั้น

ที่ปลายหอกถึงขั้นเกิดประกายไฟตอนทิ่มแทงใส่เซียวเทียน

เมื่อผู้คนด้านล่างเห็นดังนี้ พวกเขาต่างรู้สึกสับสนเช่นกัน

การโจมตีของหอกยาวที่หยางอวิ๋นแทงออกไปไม่อาจดูถูกได้ กายเนื้อของเซียวเทียนจะสามารถปัดป้องแรกกระแทกเช่นนั้นได้อย่างไร?

“เหอะ”

ลู่หยวนมองทั้งหมดนี้ด้วยสายตาราบเรียบ

หยางอวิ๋นผู้นี้ยังอยากใช้อาวุธเหล่านี้ทะลวงเซียวเทียนงั้นหรือ? ช่างเพ้อฝันเสียเหลือเกิน!

ในหัวใจของเซียวเทียนมีเกล็ดมังกรอยู่!

เกล็ดมังกรนี่ ต่อให้เป็นอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่อาจบดขยี้ได้ หอกไร้ประโยชน์ในมือของหยางอวิ๋นจะไปมีปัญญาทำอะไรได้?

“เซียวเทียน เลิกเล่นได้แล้ว โจมตีมันแล้วถอยออกมา”

ลู่หยวนกล่าวอย่างแผ่วเบา แต่เซียวเทียนที่อยู่กลางอากาศก็ได้ยิน ร่างของน้องชายผู้กำลังจะล้มลงพลันกระตุก เขาดันหอกของหยางอวิ๋นออกไป ก่อนคว้ากระบี่ยักษ์ด้วยมือทั้งสองข้าง

ร่างของเซียวเทียนเคลื่อนขยับ หยางอวิ๋นผงะไปทันที หอกในมือที่ถูกดันกลับมาสั่นไหว คลื่นพลังสีทองมหาศาลรวมตัวอยู่รอบกาย

แสงสว่างสีทองที่ปกคลุมส่วนบนของเซียวเทียนเอาไว้สลายไปจนสิ้น เผยให้เห็นชั้นเกล็ดมังกรประดับกรอบหน้าที่มี เมื่อมองแวบแรก มันดูน่าสะพรึงนัก

เกล็ดมังกรกระจายออกไปทั่ว ใบหน้าที่แท้จริงของบุตรแห่งโชคชะตาเซียวเผยต่อหน้าทุกคน เขาถือกระบี่ยักษ์ด้วยมือทั้งสองข้าง ก่อนจะถอนหายใจออกมา คลื่นพลังสีแดงอันแก่กล้าถูกข่มไว้ ในขณะที่เกล็ดสีแดงทั้งหมดบนแขนหายไป

ทว่าหลังจากผ่านไปหนึ่งอึดใจ ที่ด้านหลังของเซียวเทียนก็ปรากฏเกลียวคลื่นพลังสีชาดควบแน่นขึ้นกลางผืนฟ้า ก่อตัวเป็นกระบี่ยักษ์สีแดงกลางท้องนภาขึ้นมาในทันที

พร้อมอักขระสีแดงแปลกประหลาดปรากฏขึ้นบนหน้าผากของหนุ่มน้อย

“หยางอวิ๋น เมื่อครู่ข้ารับการโจมตีของเจ้าแล้ว ทีนี้เจ้าต้องรับของข้าบ้าง!”

ทันทีที่กล่าวจบ เซียวเทียนพลันพุ่งขึ้นฟ้าก่อนจะฟาดกระบี่ยักษ์ในมือ พริบตาเดียวกันนั้น กระบี่ยักษ์สีชาดที่อยู่ด้านหลังของเขาก็โจมตีลงมาเช่นกัน โดยมีเป้าหมายคือหยางอวิ๋น

ตูม! ตูม! ตูม!

เมื่อกระบี่ยักษ์เคลื่อนผ่าน อากาศรอบข้างก็ถูกสะบั้นจนสิ้น แรงกดดันไร้ที่สิ้นสุดเคลื่อนตาม ปราบปรามพลังวิญญาณรอบข้างจนสิ้น

“อัก!”

ยอดฝีมือที่ไม่มีเวลาล่าถอยต่างถูกบดขยี้ด้วยแรงกดดันรุนแรงจนกระอักโลหิตออกมา แม้กระทั่งกันเม่ายังหน้าซีดเมื่อเจอกับแรงกดดันดังกล่าว ทว่าเขายังล่าถอยออกไปทัน

ตอนนี้สายตาที่เขามองเซียวเทียนเปลี่ยนไปทันที เขาไม่เคยสัมผัสแรงกดดันนี้จากหยางอวิ๋นมาก่อน

เดิมทีเขาคิดว่าเซียวเทียนแค่มีพรสวรรค์ เป็นศิษย์ที่มีพลังกำลังแข็งแกร่งนิดหน่อยก็เท่านั้น ด้วยเหตุผลหลายอย่าง การติดตามหยางอวิ๋นจึงยังมีความเหมาะสมมากกว่า

แต่วันนี้ดูท่าว่า เขาจะดูถูกผู้นำคนใหม่มากเกินไป…

หยางอวิ๋นเองก็ไม่เคยคาดคิดว่า เจ้าหนุ่มนี่จะสามารถปลดปล่อยพลังแก่กล้าขนาดนี้ได้ แรงกดดันสะกดทุกสิ่งรอบข้างไว้ชั้นแล้วชั้นเล่า ทำให้ร่างกายของเขาชะงักงัน

ผู้ใช้หอกดำเค้นพละกำลังทั่วทั้งร่างกาย รวบรวมไว้ที่หอก จนแสงสว่างสีทองเจิดจ้าปรากฏขึ้นอีกครั้ง

“เซียวเทียน อย่าคิดว่าเจ้าจะชนะได้!”

แสงสว่างสีทองอาบนัยน์ตาของหยางอวิ๋น หลังจากสิ้นเสียง ภาพมายาหนึ่งพลันปรากฏขึ้นด้านหลังเขา

ภาพมายานักรบสวมชุดเกราะสีทองพร้อมถือหอกยาวไว้ในมือ มันเงยหน้าขึ้นมาจับจ้องกระบี่ยักษ์สีแดงเพลิงที่กำลังฟาดลงมาจากกลางอากาศ

ครั้นเห็นดังนี้ ลู่หยวนพลันขมวดคิ้ว ดวงตาหรี่เล็กน้อย เนตรเทวะปรากฏขึ้นมา ครั้นมองภาพมายาอีกครั้ง เขาก็พบว่ามีลำแสงของเศษเสี้ยววิญญาณอยู่ข้างใน

ส่วนรูปลักษณ์ของเศษเสี้ยววิญญาณถึงขั้นคล้ายกับหยางอวิ๋นยิ่งนัก!

“วิญญาณที่กลับชาติมาเกิดหรือ?”

ลู่หยวนพลันกล่าวขึ้น จากนั้นมุมปากก็ยกขึ้นตาม

หยางอวิ๋น นี่คือที่พึ่งของเจ้างั้นหรือ?!

ตอนนี้วายร้ายเข้าใจเรื่องราวของของหยางอวิ๋นแล้ว เจ้าหมอนี่น่าจะเป็นหนึ่งในวิญญาณกลับชาติมาเกิดของบุคคลทรงพลัง ซึ่งตอนนี้เขาได้สูญเสียความทรงจำ

พลังที่อีกฝ่ายสามารถใช้ได้ในตอนนี้ คือการบ่มเพาะในชาติที่แล้ว

กลายเป็นว่ารากฐานการบ่มเพาะนี้มาพร้อมกับการกลับชาติมาเกิด ทำให้พลังลดลงไปมาก ประกอบกับรากฐานการบ่มเพาะในตอนนี้ช่างตื้นเขิน จึงทำได้เพียงใช้ภาพมายาของเศษเสี้ยววิญญาณเท่านั้น

ตอนนี้เขาค้นพบภูมิหลังของหยางอวิ๋นแล้ว ไม่จำเป็นต้องเก็บมันไว้อีกต่อไป!

หอคอยอสูรสวรรค์ในจิตเทวะของลู่หยวนปรากฏขึ้นทันที มันเริ่มกลับมามีชีวิตราวกับว่าอยากลิ้มรสภาพมายาของเศษเสี้ยววิญญาณนี้

ลู่หยวนปลอบประโลมมัน “ไม่ต้องห่วง หลังจากนี้ข้าจะให้เจ้ากินจนเต็มอิ่มเลย!”

หยางอวิ๋นย่อมไม่รู้ว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์ล่วงรู้ความลับนี้แล้ว เขาจดจ่อกับการระดมพลังทุกอณูของร่างกายเพื่อชูหอกขึ้น กวัดแกว่งไปหากระบี่ยักษ์ที่ฟาดลงมา

ภาพมายากวัดแกว่งหอกเช่นกัน ความว่างเปล่ารอบข้างถูกสับเป็นชิ้น ๆ ทันที พลังแก่กล้าทั้งสองเข้าปะทะกันอีกครั้ง

ตูม!!

ทั่วทั้งสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์สั่นสะเทือน เกิดการระเบิดขนาดใหญ่และแทบจะกระจายไปทั่วทั้งแดนมัชฌิม หลายคนที่มีรากฐานการบ่มเพาะต่ำรู้สึกเจ็บหน้าอก พร้อมโลหิตหลั่งออกมาจากรูทวารทั้งเจ็ด แสงสว่างสีขาวสาดส่องทั่วฟ้า สำนักมายาศักดิ์สิทธิ์เกือบทั้งหมดส่องสว่างเจิดจ้า

อาจารย์สำนักแทบทุกคนสัมผัสได้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ แต่ไม่มีใครรีบมาดูด้วยตัวเอง การประมือเป็นเรื่องที่รับได้ในสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าจะรุนแรงแค่ไหน แต่หากเป็นเพียงความขัดแย้งระหว่างศิษย์เท่านั้น พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องลงมือ

แต่อาจารย์สำนักจำนวนมากก็ยังอดไม่ได้ที่จะส่งศิษย์ที่ไว้วางใจให้รีบรุดมาทางนี้

แสงสว่างวูบไหว ภาพมายารอบข้างทั้งหมดถูกกวาดล้าง กลิ่นอายที่เป็นของทั้งสองหายไปเช่นกัน มีเพียงสองร่างที่กระเด็นออกไปคนละทิศคนละทาง

ร่างของลู่หยวนวูบไหว เขาพุ่งฝ่าพลังระเบิดอันรุนแรงออกไปรับเซียวเทียนกลางอากาศ

ทว่าหยางอวิ๋นไม่ได้รับการปฏิบัติเหมือนกัน มีสองสามคนพยายามจะเข้ามาพยุงให้ แต่พวกเขาไม่อาจปกป้องตัวเองจากพลังระเบิดอันมหาศาลได้ ทำให้ตอนนี้พวกเขาสิ้นสติจนไม่สามารถคว้าผู้นำที่อยู่กลางอากาศได้ทัน

ตึง!!

ร่างของหยางอวิ๋นกระแทกพื้นอย่างรุนแรงจนโลหิตไหลออกจากมุมปาก

“พรวด!”

หยางอวิ๋นกระอักโลหิตออกมาจากลำคอ เขาหอบหายใจอย่างหนัก และพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อรวบรวมพลังวิญญาณที่เหลืออยู่ในร่างกาย

ความรู้สึกไม่ยินยอมเริ่มก่อตัวขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

ทั้งที่ใช้ท่าที่แข็งแกร่งที่สุดโจมตีแท้ ๆ แต่กลับทำได้เพียงเสมอกับเซียวเทียนงั้นหรือ?!

เป็นไปได้อย่างไร?!

เขาจำได้ชัดเจนว่า ก่อนจะมาที่สำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ จวี้ตู๋เซียผู้เป็นอาจารย์บอกเขาอย่างจริงจังยิ่งว่า เจตจำนงหอกที่อยู่กับตัวคือพลังแห่งสวรรค์

เมื่อใช้พลังนี้ ยอดฝีมือขั้นเดียวกันไม่อาจเทียบเทียม ยอดฝีมือขั้นสูงกว่าไม่อาจต้านทาน

แต่การบ่มเพาะของเซียวเทียนผู้นี้ไม่ได้ดีเท่าข้า!

แต่ข้าทำได้เพียงเสมอกับอีกฝ่ายอย่างนั้นหรือ?!

หรือว่าจวี้ตู๋เซียผู้เป็นอาจารย์จะโกหก?!

พลังในตัวข้าไม่ใช่พลังที่สามารถสั่นสะเทือนโลกา แต่เป็นเพียงมรดกธรรมดาอย่างนั้นหรือ?