บทที่ 68: พรสวรรค์ระดับแม่ทัพ

ผู้เข้าสอบคนนี้ทําหน้าที่เป็นคําเตือนสําหรับผู้เข้าสอบคนอื่นๆคนอื่นๆ หลังจากที่ ทุกคนเห็นกานกรัทของเขา มันก็ไม่มีใครสร้างปัญหาอีกเลย

ถ้าพวกเขาไม่ผ่าน พวกเขาก็จะยอมรับผลการประเมินด้วยใจจริง มันจะไม่มีใครมาตะโกนโวยวาย พวกเขาจะทําแค่เดินออกจากสนามสอบไปอย่างสลดใจ

ข้อกําหนดสําหรับการสอบครั้งนี้นั้นลดลงไปมาก ดังนั้นมันจึงทําให้นักเรียนที่ผ่านเกณฑ์มาได้แบบฉิวเฉียดนั้นยอมทุ่มทุกอย่างที่มีไปกับการสอบครั้งนี้

และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทําไมข้อกําหนดในการตรวจสอบจึงเข้มงวด

ในห้องควบคุมของสถาบันสอนศิลปะการต่อสู้

ในเวลานี้ ผู้คนจํานวนมากก็กําลังรวมตัวกันในห้องควบคุมโดยประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่จากสํานักงานผู้ตรวจการและเจ้าหน้าที่จากกระทรวงศึกษาธิการ

ฝูเทียนเต๋าอาจารย์ใหญ่ของสถาบันสอนศิลปะการต่อสู้จีซินและประธานสมาคมศิลปะการต่อสู้ฉินหานหยวนก็เข้าร่วมด้วย

“ ท่านประธานฉิน ฉันไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าคุณจะมาถึงที่นี่ในวันนี้” ชายวัยกลางคนที่อ้วนเล็กน้อยพูดกับฉินหานหยวน

“ ผู้อํานวยการเหอ เยาวชนผู้มีพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้ของเมืองตงไห่ทั้งหมดจะมารวมตัวกันอยู่ที่การสอบหลักสูตรศิลปะการต่อสู้ในครั้งนี้ ดังนั้นแล้วฉันจะไม่มาได้ยังไง” ฉินหานหยวนยิ้มและตอบ

“ การตรวจสอบระดับนี้เป็นเพียงกระบวนการคัดกรองเท่านั้น การประเมินการต่อสู้จริงต่างหากที่เป็นกุญแจสําคัญ” ชายที่ถูกเรียกว่าผู้อํานวยการเหอการกล่าว

“ ปีนี้มีคนอ่อนแอหลายคน” ฝูเทียนเต่าขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ชอบสถานการณ์นี้

“ เราไม่มีทางเลือก คุณคงจะได้ยินเกี่ยวกับสถานการณ์ในอีกด้านหนึ่งแล้ว เราจําเป็นต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเติมเต็มกองกําลังใหม่ของเรา ถ้าไม่อย่างนั้น วันหนึ่งสิ่งเลวร้ายก็อาจจะเกิดขึ้นได้” ผู้อํานวยการเหอพูดอย่างช่วยไม่ได้ขณะที่เขาฝืนยิ้มบนใบหน้าของเขา

“ เฒ่าฟู ผู้อํานวยการเหอพูดถูก นี่เป็นสิ่งจําเป็น” ฉินหานหยวนเห็นด้วย

“ ทีม ถึงอย่างนั้นแล้วศิษย์นักสู้ขั้นกลางเหล่านี้จะช่วยอะไรได้บ้างล่ะ? พูดกันตามตรง การมีพวกเขาอยู่ในการสอบนั้นก็มีแต่จะทําให้อัตราผู้เสียชีวิตในการสอบมากขึ้นเท่านั้น”

“ เฮ้อ ทําไมฉันจะไม่เข้าใจเรื่องนี้” ผู้อํานวยการเหอถอนหายใจ “ อย่างไรก็ตาม เรา ก็ได้เพิ่มความปลอดภัยสําหรับการประเมินการต่อสู้จริงในปีนี้ขึ้นถึงห้าเท่าแล้ว เราพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยของนักเรียนของเรา และเราก็ไม่ได้ละเลยในส่วนนี้แต่อย่างใด”

การแสดงออกของฝูเทียนเตอ่อนลง เขาไม่ได้พูดอะไรอีก

“ คุณคิดว่าจะมีผู้มีพรสวรรค์มากแค่ไหนในปีนี้” ผู้อํานวยการเหอเปลี่ยนเรื่องด้วยรอยยิ้ม

ผู้เทียนเต๋และฉินหานหยวนแลกเปลี่ยนสายตากัน “ เราไม่รู้เกี่ยวกับส่วนที่เหลือ แต่เรารู้ว่ามันมีผู้มีพรสวรรค์ระดับแม่ทัพ!”

“ อะไรนะ?” ผู้อํานวยการเหอคิดว่าเขาได้ยินผิด

ระดับแม่ทัพ!

ถ้ามีผู้มีพรสวรรค์ระดับแม่ทัพในนักเรียนกลุ่มนี้จริงๆ อย่างนี้มันก็จะเป็นความสําเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของเขา และในอนาคตเขาก็อาจจะได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้น หรือดีไม่ดี เขาก็อาจจะได้เลื่อนตําแหน่ง!

แค่คิดก็รู้สึกดีแล้ว

“ คุณหลอกฉันรึเปล่า?” มือของผู้อํานวยการเหอสั่นขณะกลืนน้ําลาย

หากมันเป็นเรื่องจริง นี่ก็จะนับเป็นข่าวดีอยางมาก อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่รู้ว่าชายสองคนตรงหน้าเขานี้กําลังพูดความจริงหรือไม่

“ ถ้าไม่เชื่อก็ดูต่อไป” ฉินหานหยวนยิ้ม

อย่าคิดจะฆ่าฉันด้วยความอยากรู้เลย บอกฉันมาเถอะ” ผู้อํานวยการเหอกําลังคลั่ง นี่ เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่ออนาคตของเขา ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะกระวนกระวายใจ

“ แถวที่ 21” สู่เทียนเต่ทนไม่ได้ที่จะเห็นเขาเป็นแบบนี้และส่ายหัว

การเหอก็มองไปที่แถวที่ 8 อย่างรวดเร็ว

เมื่อขอบเขตถูกจํากัดให้เหลือเพียงแถวเดียว มันก็ง่ายขึ้นมากที่จะตามหา ท้ายที่สุดแล้วคนที่มีพรสวรรค์ระดับแม่ทัพนั้นก็จะต้องแตกตางจากผู้อื่นอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ฉินหานหยวนก็กล่าวเสริมว่า “ แต่วันนี้เราเพิ่งมีการตรวจสอบระดับไป ดังนั้นมันก็เป็นไปได้ว่าเด็กคนนั้นจะยังไม่ได้แสดงศักยภาพเต็มที่”

การแสดงออกของผู้อํานวยการเหอหยุดลงในทันที เขาชะงักไปเล็กน้อยขณะถาม “ ทําไมถึงเป็นอย่างนั้น?”

ผู้อํานวยการเหอรู้สึกมึนงง ไม่ใช่ว่าเด็กคนนั้นควรจะพยายามให้เต็มที่ในการทดสอบอย่างนั้นหรอ?

เขาจะได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยที่ดีก็ต่อเมื่อผลงานของเขาดี อย่างงั้นแล้วทําไมเขาต้องซ่อนความสามารถของเขากัน?

“ นั่นก็เพราะเขาจะสามารถเข้ามหาวิทยาลัยที่ดีได้ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ปลดปล่อยศักยภาพเต็มที่ยังไงล่ะ” ฉินหานหยวนอธิบาย

ผู้อํานวยการเหอตกตะลึง แล้วเขาก็คิดอะไรได้บางอย่าง จากนั้นใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยค วามประหลาดใจ “ อย่าบอกนะว่าเขาเป็นนักสู้แล้ว!”

มันมีเพียงนักสู้เท่านั้นที่สามารถเข้ามหาวิทยาลัยที่ดีได้โดยไม่ปล่อยศักยภาพเต็มที่

นั่นก็เพราะการสอบหลักสูตรศิลปะการต่อสู้นั้นมีไว้สําหรับศิษย์นักสู้ ดังนั้นเกณฑ์คะแนนที่ดีที่สุดจึงหยุดอยู่ที่เกณฑ์ของศิษย์นักสู้ขั้นสูง

เทียนเต๋าและฉินหานหยวนยิ้มและเงียบ พวกเขาไม่ตอบผู้อํานวยการเหอ

ถึงกระนั้น ผู้อํานวยการเหอก็รู้สึกมั่นใจในความคิดของเขามาก

นักสู้

นักสู้

มันมีนักสู้ในหมู่ผู้เข้าสอบจริงๆ!

ฮ่าๆๆ

ผู้อํานวยการเหออยากจะหัวเราะออกมาสามครั้งเพื่อระบายความปลื้มปีติของเขา

นักสู้อายุ 17 ปี นี่คือนักเรียนที่กลายเป็นนักสู้ก่อนที่เขาจะเข้าสู่หลักสูตรศิลปะการต่อสู้

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ฝูเทียนเต๋และฉินหานหยวนจะเชื่อว่าผู้เข้าสอบคนนี้มีศักยภาพพอที่จะเป็นนักสู้ระดับแม่ทัพได้

มันหายากมากที่จะหาคนที่สามารถกลายเป็นนักสู้ได้ในวัยนี้

มันอาจมีผู้มีความสามารถบางคนที่สามารถกลายเป็นนักสู้ได้หลังจากที่พวกเขาเข้ามหาวิทยาลัยและเพลิดเพลินกับทรัพยากร

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับชายหนุ่มคนนี้แล้ว สองสิ่งนี้ก็แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

เขาจําได้ว่าเมื่อสองปีที่แล้วเมื่อมีผู้เข้าสอบที่เป็นนักสู้ปรากฏตัวขึ้นระหว่างการสอบศิลปะการต่อสู้ที่จินหลิน แม้แต่ผู้ว่าราชการของจินหลินก็ยังได้รับการแจ้งเตือน

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการของจินหลินเองก็ได้รับผลประโยชน์มากมาย และด้วยเหตุนี้เอง ผู้ว่าราชการจึงภาคภูมิใจในความสําเร็จในขณะที่หลายๆคนต่างก็อิจฉาเขา

* ไม่มีทาง ฉันต้องหาผู้เข้าสอบคนนี้ให้เจอให้ได้” ผู้อํานวยการเหอแอบคิดในใจ

ผู้มีอิทธิพลหลายคนจะให้ความสนใจกับการประเมินการต่อสู้จริงที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง ถ้าเขาสามารถทําให้ผู้เข้าสอบคนนี้สร้างความประหลาดใจให้กับฝูงชนและเปล่งประกายในระหว่างการประเมินการต่อสู้จริงได้ เขาก็จะรู้สึกภาคภูมิใจเช่นกัน

ขณะที่เขากําลังคิดถึงเรื่องนี้ ผู้อํานวยการเหอก็จ้องไปที่หน้าจอที่แสดงการตรวจสอบในแถว ที่ 8 เขาไม่แม้แต่จะกระพริบตา

เขากลัวว่าเขาจะพลาดเด็กผู้มีพรสวรรค์ระดับแม่ทัพไปโดยไม่ได้ตั้งใจ!

แถวที่ 8

“ หวังเต็ง!”

เมื่อผู้ตรวจสอบเรียกชื่อหวังเต็ง ในที่สุดมันก็ถึงคราวที่เขาต้องทําการทดสอบ

เขายืนอยู่หน้าเครื่องตรวจสอบความแข็งแรงและปล่อยหมัดออกไปอย่างสบายๆ

1000 กิโลกรัม

ก่อนหน้านี้ หวังเต็งได้ลองมาก่อนแล้วสองสามครั้ง ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเขาควรจะต้องใช้กําลังมากน้อยเพียงใดเพื่อให้ถึงเกณฑ์ที่กําหนด

ด้วยเหตุนี้เอง เขาจึงสามารถทําเกณฑ์ให้ถึง 1,000 กก. ด้วยหมัดง่ายๆ

ดวงตาของผู้ตรวจสอบเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นหน้าจอของอุปกรณ์ตรวจสอบความแข็งแรง เขามองไปที่หวังเต็งด้วยความตกใจ

นี่คือขีดจํากัดของศิษย์นักสู้

ผู้เข้าสอบที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ถึงขีดจํากัดแล้วจริงๆ เขาหายใจเข้าลึกๆแล้วบันทึกคะแนนอย่างเงียบๆ

หลังจากนั้นหวังเต็งก็เดินไปที่อุปกรณ์ตรวจสอบความเร็วและเริ่มแสดงความเร็วของเขานิ้ว

100 เมตรใน 3 วินาที!

ผู้ตรวจสอบไม่รู้จะพูดอะไร สัตว์ประหลาดตัวนี้มาจากไหน? เขามีพลังมากขนาดนี้ได้อย่างไร?

ขั้นตอนสุดท้ายคือการตรวจร่างกาย

หวังเต็งเข้าไปในเครื่องตรวจร่างกาย หลังจากนั้นไม่นานผลลัพธ์ก็ออกมา

คาร่างกาย 100 คะแนน!

เมื่อเขาเห็นผลนี้ แม้แต่หวังเต็งก็ยังตกตะลึง

เขาสามารถควบคุมความแข็งแกร่งและความเร็วของเขาได้ อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่สามารถควบคุมร่างกายของเขาได้ อุปกรณ์จะให้ค่าอะไรก็ตามที่มันตรวจพบ

ก่อนหน้านี้เขายังคงกังวลว่าค่าร่างกายของเขาจะเกินกว่าค่ามาตรฐานของศิษย์นักสู้ด้วยช่องว่างขนาดใหญ่ และมันจะทําให้เกิดปัญหาที่ไม่จําเป็นสําหรับเขา อย่างไรก็ตามตอนนี้มันก็ดูเหมี อนว่าความกังวลของเขาจะไม่เป็นเรื่องจริง

โอ้ใช่แล้ว อุปกรณ์ตรวจสอบร่างกายของศิษย์นักสู้นั้นวัดได้สูงสุดที่ 100คะแนน ดังนั้นมันจึงไม่สามารถให้คะแนนเขามากกว่านี้ได้

ขณะที่เขากําลังคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้ตรวจสอบสองคนที่อยู่ด้านข้างก็ชําเลืองมองกันและกันเมื่อเห็นค่าร่างกายของเขา

ค่าร่างกาย 100 คะแนน

ถึงขีดจํากัดทั้งสามอย่าง

ทั้งสองคนเคยชินกับมันแล้ว แต่พวกเขาก็ยังคงลังเลเล็กน้อย พวกเขาไม่รู้ว่าพวกเขาควรจะประกาศผลนี้หรือไม่

ผู้ตรวจสอบคุยกันโดยใช้สายตาของพวกเขาแล้วมองไปที่อุปกรณ์

“ อุปกรณ์ทั้งสามน้ํางานผิดปกติรึเปล่า?”

“ นั่นเป็นไปไม่ได้ มันไม่มีทางที่ทั้งสามเครื่องนี้จะทํางานผิดปกติพร้อมๆกัน”

ผู้เข้าสอบที่อยู่เบื้องหลังหวังเต็งเห็นว่าเขาทําการตรวจสอบเสร็จแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้ตรวจสอบก็ยังไม่ได้เปิดเผยผลลัพธ์แม้หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงเริ่มรู้สึกสงสัยและกระซิบพูดคุยกัน

“ เกิดอะไรขึ้น?”

“ เครื่องเสียหรอ?”

“ เขาโกงหรือเปล่า?

* อย่าโง่ไปหน่อยเลย แกคิดว่าเขาจะยังได้อยู่จุดนี้หรอถ้าเขาโกง”

ผู้คนเริ่มสังเกตเห็นสถานการณ์นี้มากขึ้นเรื่อยๆ และนั่นก็ทําให้ผู้ตรวจสอบทั้งสองมีค วามกังวลเล็กน้อย

โชคดีที่มีเสียงมาจากหูฟังที่พวกเขาสวมอยู่

“ รายงานผลตามที่เห็น”

“ รับทราบ!”

ผู้ตรวจสอบทั้งสองมองหน้ากัน มันมีความประหลาดใจในสายตาของพวกเขา แม้แต่หน่วยงานระดับสูงก็ยังยืนยันผลลัพธ์นี้ ดูเหมือนว่าผู้เข้าสอบคนนี้จะบริสุทธิ์จริงๆ

ใช่แล้ว ความแข็งแกร่งของเขานั้นเป็นของจริง!

“ หวังเต็งความแข็งแกร่ง 1,000 กิโลกรัม ความเร็วสามวินาที ร่างกาย 100!”

* ผ่าน!”

ว้าว!

ทันทีที่ผู้ตรวจสอบประกาศเสร็จสิ้น ทั้งห้องโถงก็กลายเป็นโกลาหล

“ ล้อเล่นรึเปล่าเนี่ย!”

“ ความแข็งแกร่งทั้งสามของเขามาถึงขีดจํากัดสูงสุดของศิษย์นักสู้ได้อย่างไรกัน?”

“ หวังเต็งคือใครกัน? ทําไมฉันไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเขามาก่อน!”

“ เขาโกงรึเปล่า?”

“ ฉันไม่คิดอย่างนั้น ผู้ตรวจสอบจะไม่ได้ประกาศผลในทันที พวกเขาจะต้องยืนยันให้แน่ชัดก่อน ดังนั้นเนื่องจากพวกเขาได้ประกาศออกมาแล้ว เพราะงั้นมันก็น่าจะเป็นเรื่องจริง!”

“ งั้นถ้าเขาไม่โกง งั้นนั่นก็เป็นความแข็งแกร่งของเขาจริงๆอย่างงั้นหรอ?”

“ ยืม ถ้าอย่างงงั้นมันก็มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวแล้วล่ะที่เหลืออยู่ ติดสินบน!”

ในทันทีที่ทุกคนจ้องมองไปที่หวังเต็ง เสียงสนทนาก็ดังขึ้นทั่วห้องโถง

ศิษย์นักสู้ขั้นสูงทั้งหมดจากโรงเรียนต่างๆ เริ่มให้ความสนใจหวังเต็งเป็นพิเศษ

ในตอนแรก ศิษย์นักสู้ขั้นสูงเหล่านี้นั้นต่างก็แอบแข่งขันกันเองอย่างเงียบๆ ทว่าอยู่ๆการประกาศของหวังเต็งก็ได้กระทืบพวกมันซะจมดิน

ความรู้สึกนี้อ้ากก!

ความรู้สึกต่างๆต่างก็ปรากฏขึ้นในใจของศิษย์นักสู้ขั้นสูง เปรี้ยว ขม หวาน เผ็ด

โดยเฉพาะศิษย์นักสู้ขั้นสูงจากโรงเรียนมัธยมตงไห่ พวกเขาทั้งหมดจ้องไปที่หวังเต็งเพื่อดูว่ามันใช่หวังเต็งตัวจริงรึเปล่า?

พวกเขาเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของนายน้อยหวังที่ขี้เล่นและอวดดีมาก่อน และนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทําไมพวกเขาถึงพบว่าผลลัพธ์นี้มันค่อนข้างไม่น่าเชื่อ

“ เขาคือหวังเต็งคนนั้นจริงๆหรอ?”

หลี่หรงเฉิงรู้อยู่แล้วเกี่ยวกับความสามารถของหวังเต็ง กระนั้นมันก็ไม่สามารถเก็บความโกรธและความอัปยศของมันเอาไว้ได้ ในตอนแรกมันต้องการที่จะแข่งกับหวังเติ้งเพื่อให้ทุกคนรู้ว่าใครเหนือกว่าใครในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย

อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุด มันก็ถูกหวังเต็งทิ้งห่างไม่เห็นฝุ่น

ในอีกด้านหนึ่ง ดวงตาของหลินซัวหานก็เปิดกว้างขณะที่เธอจ้องไปที่หวังเต็งซึ่งอยู่ค่อนข้างไกลด้วยความไม่เชื่อ “ ผู้ชายคนนี้แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยหรอ?”

ทุกคนที่รู้หรือไม่รู้จักหวังเต็งต่างก็มีสีหน้างุนงงบนใบหน้าของพวกเขา พวกเขาไม่เชื่อและปฏิเสธที่จะเชื่อ ผลลัพธ์นี้มันเหมือนกับระเบิดนิวเคลียร์ และทุกคนก็ตกตะลึงกับการระเบิด

หวังเต็งยืนอยู่ตรงนั้นและรู้สึกอึดอัดมาก เขาจ้องไปที่ผู้ตรวจสอบทั้งสองคนอย่างโกรธจัด

ในตอนแรก มันก็มีเพียงคนรอบข้างเท่านั้นที่รู้ผลลัพธ์ที่ผู้ตรวจสอบประกาศ อย่างไรก็ตามพอถึงคิวเขา พวกเขาก็กลับส่งเสียงประกาศดังราวกับบ้านไฟไหม้

ฉันเพื่อนเล่นแกหรอ..?