รัฐบาลได้มอบอำนาจการตัดสินใจทั้งหมดเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองzให้กับหลิงเทียน

ดังนั้นถ้าหากต้องเลือกว่าจะเอาบริษัทให้มาจัดการโครงการนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นบริษัทของครอบครัวอันที่จะถูกพิจารณาเป็นบริษัทแรก หลังจากนั้นถึงจะปล่อยโอกาสให้บริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆ

การรวมกลุ่มในครั้งนั้น ก็เพื่อที่จะแจกแจงงานของโครงการนี้

ถ้าหากยังตกลงอะไรกันไม่ได้ ก็คงจะต้องเป็นบริษัทของครอบครัวฮั่วที่มารับในส่วนของหัวข้อใหญ่ไป และที่เหลือก็จัดการตามความเหมาะสม

แค่นี้มันก็ดีพอแล้ว

ถึงแม้ว่าหลี่รอซีจะไม่ได้พูดออกมาอย่างชัดเจน แต่หยางจื่อหยิมก็รู้ว่าครอบครัวหลี่ต้องการเก็บเค้กชิ้นนี้ไว้แต่เพียงผู้เดียว

ครอบครัวหยางและครอบครัวมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมานาน และจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์นี้ก็คือการทำการค้าร่วมกัน

ดังนั้นหยางจื่อหยิมจึงไม่ได้หวังอะไรกับโครงการนี้

หลี่รอซีทำท่าทางงอแงเป็นเด็กๆอยู่ข้างๆสักพัก จากนั้นก็เดินจากไป

หยางจื่อหยิมกลับเข้ามาในงาน มองเห็นประธานหลิงกำลังดื่มเหล้ากับกลุ่มคนที่รวมงาน

ฮั่วเทียนหลันนั่งอยู่อีกด้าน เขาแกว่งแก้วไวน์ในมือ ราวกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่

หยางจื่อหยิมจึงเดินไปหาฮั่วเทียนหลัน จากนั้นก็นั่งลง

เขารู้สึกได้ว่า เขากำลังถูกจ้องด้วยสายตาที่จริงจัง

“ประธานฮั่ว มีข้อเสนอการซื้อขาย ไม่ทราบว่าคุณจะสนใจไหม? ” หยางจื่อหยิมพูดออกมานิ่งพร้อมกับมองไปที่หน้าของฮั่วเทียนหลัน

ฮั่วเทียนหลันถอนหายใจ ค่อยๆอ้าปากแล้วตอบกลับไปว่า “ไม่สนใจ”

“คุณไม่สนใจ แต่ฉันก็จะพูด สำหับโครงการในครั้งนี้ ครอบครัวของฉันและครอบครัวหลี่มีความสนใจมาก ดังนั้นเมื่อถึงเวลาพวกเราจะแสดงออกให้เต็มที่ ขอให้คุณไว้หน้ากันบ้างนะ!”

ประโยคที่หยางจื่อหยิมพูดออกมา ทำให้ฮั่วเทียนหลันรู้สึกว่ามันน่าขัน

เขามองหยางจื่อหยิมที่มีท่าทางที่มั่นใจ เขาจึงคิดว่าหยางจื่อหยิมบ้าไปแล้วหรือป่าว

“ฉันนับถือความมั่นใจของคุณ”

หยางจื่อหยิมหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วก็ข้ามเรื่องนี้ไป เพราะเรื่องนี้สำหรับเขามันไม่ได้สำคัญอะไร

เขายังคงมีความคิดที่เหมือนเดิม ตอนนี้เหมือนฮั่วเทียนหลันกำลังทรมานชีวิตของเขา เขาอยากจะแย่งของสิ่งนั้นกลับมา

“ช่วงนี้ที่เมืองzมีข่าวลือระหว่างมู่เหว่ยและอันหรัน ฉันได้ดูมาหมดแล้ว ไม่ใช่ว่าคุณกำลังสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับอันหรันอยู่หรือ? วันนี้ฉันจะบอกคุณเอาไว้ ฉันชอบอันหรันจริงๆ และเพื่อสิ่งนั้น ฉันจะแย่งอันหรันกลับคืนมาจากคุณให้ได้!”

หยางจื่อหยิมบอกให้ฮั่วเทียนหลันปล่อยอันหรันได้แล้ว เขาไม่ได้พูดเล่น แต่เขาพูดออกมาด้วยความจริงใจ

“เอ๊ะ? ประธานหยางอยากโดนสวมเขา? ”

ฮั่วเทียนหลันพูดออกมาอย่างไม่แยแสด้วยน้ำเสียงที่มีความประชดประชัน

หยางจื่อหยิมเจ็บจี๊ดตรงที่หัวใจ และสมองของเขาก็นึกไปตอนที่อันหรันกำลังดิ้นทุรนทุรายออกจากอ้อมแขนของฮั่วเทียนหลัน

เขากำหมัดแน่น แล้วพูดออกมาด้วยเสียงโทนต่ำ “ฉันไม่อนุญาตให้นายพูดจาแบบนี้กับอันหรัน!”

ฮั่วเทียนหลันยิ้มออกมาอย่างเย็นชา และก็ลุกออกมาจากห้องนั้น

ในสายตาของเขา หยางจื่อหยิมเป็นเพียงแค่เศษขยะ

อันหรันได้รับของขวัญหนึ่งชิ้นที่ส่งมาจากอเมริกาฯ

เป็นสุนัขตัวเล็กๆน่ารักตัวหนึ่ง ที่จางหยาส่งมาจากต่างประเทศ

ตอนที่อันเฮายังมีชีวิตอยู่ จางหยาได้ซื้อสุนัขให้เขาเลี้ยงสองตัว เป็นเพศผู้ และเพศเมีย

ต่อมาสุนัขตัวเมียตั้งครรภ์ และอันเฮาก็ยังไม่ได้ตั้งชื่อ

แต่เขาดันกลับมากจากไป ก่อนที่สุนัขตัวนี้จะคลอดออกมา

อันหรันมองไปที่ลูกสุนัขตัวนี้ เธอยื่นมือออกไป ทำให้ลูกสุนัขเลียมาที่มือของเธออย่างมีความสุข

อันหรันจึงตั้งชื่อให้กับสุนัขตัวนี้ว่า ดาหลาง ตอนแรกเธอคิดชื่อไว้ให้แล้วหลายตัว แต่ว่ากลับมีมันแค่ตัวเดียว

อันหรันอุ้มดาหลาง จั๊กจี้มันเบาๆ ดาหลางนอนอยู่บนพื้นอย่างสบายตัว ไม่นานมันก็หลับไป

สำหรับสมาชิกใหม่ ป้าDingก็ชอบมันเหมือนกัน

ดาหลางเชื่องมาก และเรียนรู้ทุกอย่างเร็ว

แต่โดยธรรมชาติของมันแล้ว มันชอบกัดสิ่งของต่างๆ

สิ่งของทุกชิ้นในบ้านถูกมันกัดโดยไม่มีข้อยกเว้น

อันหรันโกรธและจับมาออกมาข้างนอกหลายครับ และคิดว่าจะใส่ตะกร้อครอบปากให้มัน

แต่คิดไปคิดมา ถ้าหากพ่อแม่ของเธอที่มองมาจากบนฟ้า ในดาหลางในสภาพที่ต้องใส่ตะกร้อครอบปาก คงจะสงสารมันน่าดู

เหมือนว่าฮั่วเทียนหลันจะพอรู้เรื่องเกี่ยวกับสมาชิกใหม่ของบ้านตัวนี้ แต่เขาก็ยังไม่เคยกลับมาที่คฤหาสน์

วันนี้ตอนกลางวัน อันหรันกำลังกางกระดาษวาดเขียนยาวสองเมตรลงบนพื้น เพื่อที่จะร่างรายละเอียดเค้าโครงเกี่ยวกับแต่งงานของฉีหลาน

แต่ดาหลางก็เข้ามาก่อกวนอยู่เรื่อยๆ เหยียบย่ำไปบนแผนกระดาษ แถมยังกัดจนเละเทะ

ซึ่งนี่ทำให้สมองของอันหรันที่กำลังสับสนอยู่ ยิ่งปวดหัวขึ้นไปอีก

ในที่สุดดาหลางก็เลิกมาก่อกวน แต่ก็ไม่รู้ว่ามันไปทำอะไรอยู่ อันหรันจึงใช้เวลาในช่วงนี้รีบทำงาน

แต่ผ่านไปไม่ถึงห้านาที เธอก็ได้ยินเสียงเห่าของดาหลาง

นั้นทำให้อันหรันตกใจ ดาหลางไม่เคยส่งเสียงร้องแบบนี้

เธอจึงรีบวิ่งออกไปดู ไม่นานก็ถึงที่มาของเสียง

ที่ทางเดินเข้าบ้าน เธอเห็นดาหลางกำลังเห่าอย่างเสียงดัง บ๊อค บ๊อค !!!

มันรีบวิ่งมาขวางทางเข้าประตู ยิ่งคนที่อยู่ตรงหน้าเดินเข้ามาใกล้เท่าไหร่ มันก็จะยิ่งเห่าดังมากขึ้นเท่านั้น

มันเห่าจนจะหมดแรง

อันหรันมองไปที่สีหน้าตึงเครียดของชายคนนั้น ด้วยความตื่นตกใจ เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปอุ้มดาหลางขึ้นมา ลูบหัวเบาๆพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “เขาคือสมาชิกของครอบครัวของเรา คุณคิดจะทำอะไร?”

อันหลางเงียบเสียงลง และเริ่มสะอื้นพร้อมกับมองไปที่อันหรัน จึงทำให้อันหรันใจแทบจะสลาย

และในตอนนั้น ก็มีเสียงที่เย็นชาดังออกมาว่า “ใครอนุญาตให้เธอเอาสุนัขเข้ามาเลี้ยงในบ้าน?”

เหมือนกับหัวใจของอันหรันตกลงมาที่พื้น เธอรู้ว่านี่มันไม่ดี เธอเกิดความลังเลไม่รู้จะตอบคำถามนี้ยังไง

ผู้ชายคนนี้แพร่ออร่าที่เยือกเย็น และสายตาที่แหลมคม ทำให้อันหรันรู้สึกว่าร่างกายของเธอกำลังถูกทำร้าย

“เอ๊ะ?” เมื่อเขาเห็นอันหรันไม่ยอมพูดอะไรออกมา ความอดทนของฮั่วเทียนหลันก็เริ่มจะหมดลง

“ฉันเลี้ยงมันเอง!”