ตอนที่ 156 ผมเป็นเจ้าชายแห่งอารยธรรมพื้นเมือง 11

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

“วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่สนุกจังเลย!” สวี่หลิงอวิ๋นวางมือประกบกันไว้ด้านหลังศีรษะด้วยอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความสุข “ถ้าเกิดพวกเขาได้แต่งงานกัน พวกเขาจะรู้สึกขอบคุณฉันที่เป็นแม่สื่อให้พวกเขาไหมนะ?”

โอคาซีรู้สึกราวกับหัวของเขากำลังจะระเบิด “พอแล้ว ไม่ต้องทำอะไรอีกแล้วมาเริ่มทำเค้กกันเถอะครับ!”

หลังจากที่สวี่หลิงอวิ๋นดึงพลังจิตกลับมา เทตที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็พบว่าเขาได้เดินทางมาถึงบ้านของคุณป้าเสียแล้ว

เขาจ้องมองฮานน่าด้วยสายตารังเกียจ “ทำไมคุณป้าถึงมองผมแบบนั้น? อีกอย่าง ทำไมผมถึงมาที่บ้านของคุณป้าได้?”

ฮานน่ารู้สึกอับอายเล็กน้อย “เอ่อ ไม่ใช่ว่าหลานอยากมากับป้าหรอกเหรอ? ป้าคิดว่ายังไงเราก็ควรถามความเห็นชอบของซีเบลก่อน หลานคิดว่ายังไงล่ะ?”

“อะไรนะ?” เทตยังคงมึนงง และไม่รู้ว่าเกิดเรื่องราวอะไรขึ้น “ความเห็นชอบอะไร? ไม่ว่าผมจะทำอะไร แม่ก็จะเห็นด้วยทั้งนั้น!”

“แล้วผู้หญิงสกุลสวี่อะไรนั้นอีก? ผมบอกป้าแล้วไงว่าผมจะไม่แต่งงานกับผู้หญิงที่หยาบคายพรรค์นั้นเด็ดขาด!”

“ป้าเข้าใจแล้ว” ฮานน่าอับอายเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย แต่การที่ชายหนุ่มมาตกหลุมรักเธอ นั่นทำให้เธอยังคงเขินอายอยู่ และอย่างน้อยน้องสะใภ้ซีเบลก็จะต้องตกอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเพราะเธออย่างแน่นอน

เธอทั้งรู้สึกดีใจ และอับอาย

เทตผู้น่าสงสารยังคงไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ และไม่รู้เลยว่าเพราะอะไรเขาจึงมาลงเอยที่บ้านของคุณป้าแบบนี้

สักพักโทรศัพท์ของเขาก็ส่งเสียงดังขึ้น หน้าจอปรากฏสายเรียกเข้าจากผู้เป็นมารดา

“ฮัลโหล แม่ครับ มีอะไรเหรอ? ผมอยู่ไหนน่ะเหรอ? ตอนนี้ผมอยู่ที่บ้านของคุณป้าครับ!”

เทตถึงกับตกตะลึง “อะไรนะ? ตัดแม่ตัดลูก?!”

เขารู้สึกช็อกเป็นอย่างมาก!

“แม่ครับ! ผม…” ซีเบลที่อยู่ปลายสายได้วางสายลงไปเสียแล้ว! เธอเพียงคิดว่าเธอสามารถหาทางรอดให้กับลูกชายได้ ทว่าลูกชายนอกสมรสกลับตรงดิ่งไปที่บ้านของผู้หญิงคนนั้นโดยตรง!

ไม่มีหนทางไหนช่วยได้แล้ว!

ซีเบลรู้สึกเศร้าใจเกินจะบรรยายได้!

โลกอินเทอร์เน็ตของที่นี่ได้รับการพัฒนาแล้ว และในไม่ช้าเรื่องราวความรักที่ไม่เหมาะสมนี้ก็จะกลายเป็นหัวข้อค้นหาที่ร้อนแรง!

‘บัดซบ นี่คือรักแท้ของจริงสินะ! ทำลายทั้งจริยธรรมและกฎของทางโลกขนาดนี้คงความหมายที่แท้จริงของความรัก!’

‘ฉันอยากไปเห็นรักต่างวัยในจุดนั้นมั่งจัง ไม่รู้เลยว่าความลึกซึ้งพวกนั้นจะเหมือนกับคำพูดของเขาไหม!’

‘ลึกซึ้งกับผีน่ะสิ! นั่นมันคือการอนาจารชัด ๆ!’

‘คอมเมนต์บน คุณไม่รู้หรือไงว่าทั้งคู่ป้ากับหลานคนนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด? แล้วจะอนาจารยังไง? นี่คุณยังเป็นคนหัวโบราณจากศตวรรษที่ผ่านมาอยู่อีกเหรอ?’

‘ใครจะไปเมืองหวางเจียบ้าง? พวกเราไปด้วยกันเถอะ!’

ความรักของทั้งคู่ไม่เพียงแต่จะดึงดูดชนชั้นล่างเท่านั้น แม้แต่ผู้คนจากชนชั้นสูงก็ยังรู้สึกประทับใจอย่างมากเช่นกัน พวกเขาถึงกับส่งนักข่าวลงไปสัมภาษณ์ทั้งคู่เป็นกรณีพิเศษ หากนี่เป็นเรื่องจริง พวกเขาจะได้รับรางวัลเป็นบ้านในเมืองของชนชั้นสูง

ต้องให้พวกเขาอยู่ห่างจากคนโง่เขลาทั้งหลายในเมืองที่ต่ำต้อย เพราะนั่นจะเป็นวิธีที่พวกเขาสามารถยึดมั่นในความรักของพวกเขาเอาไว้ได้ใช่หรือไม่?

เทตไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองจะกลายมาเป็นคนมีชื่อเสียงเช่นนี้ และนี่คือวิธีการที่เขาจะได้เป็นประชากรระดับชนชั้นสูงใช่หรือไม่?

แต่เมื่อเขาย้อนดูรายการถ่ายทอดสด หัวสมองของตัวเองก็แทบจะระเบิดออกมาอีกครั้ง! เขารู้สึกแย่และอยากจะอาเจียนออกมาเมื่อมองดูหญิงชราที่อยู่ด้านข้าง!

“ออกไปจากที่นี่ซะ!”

เทตรู้สึกโกรธฮานน่าเป็นอย่างมาก แต่ทันใดนั้นซีเบลก็ปรากฏตัวขึ้น คว้าตัวเทตเอาไว้และด่าทอ “แกเป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก?!”

“แม่ครับ! ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” เทตจ้องมองแม่ของเขาด้วยความประหลาดใจ ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าแม่จะแตกหักกับเขาจริง ๆ เสียแล้ว! และรู้สึกหวาดกลัวแทบตาย!

“ฉันบอกแกแล้วไงเจ้าลูกชาย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แกกับฮานน่าจะเป็นคู่รักกัน และแกจะไม่ได้รับอนุญาตให้ตีเธออีก อย่าคิดแม้แต่จะปฏิบัติต่อเธอไม่ดี!” ซีเบลตักเตือนอย่างจริงจัง!

“ทำไมครับ?!” เทตจ้องมองแม่ของตนเองอย่างไม่เชื่อสายตา “แม่บอกว่าไม่เต็มใจไม่ใช่เหรอ? แต่แล้วทำไมตอนนี้ถึงเห็นด้วยล่ะครับ?”

“ก็เพราะว่าลูกจะได้เป็นชนชั้นสูงยังไงล่ะ!” หลังจากนั้น เธอก็ทวนย้ำสิ่งที่นายกเทศมนตรีกล่าวเอาไว้ก่อนหน้า “ครอบครับของพวกเราจะได้กลายเป็นชนชั้นสูงหรือไม่นั่นขึ้นอยู่กับลูก! ลูกรัก ลูกคงทำได้ใช่ไหมจ๊ะ?!”

ชนชั้นสูง?!

เทตไม่เคยวาดฝันว่าสักวันหนึ่งเขาจะได้กลายเป็นชนชั้นสูง! ทว่าราคานั้นย่อมแลกมาด้วยกับการที่เขาต้องอยู่ด้วยกันกับหญิงชรา

ไม่สำคัญหรอก ตราบใดที่เขาได้กลายเป็นชนชั้นสูง แล้วหญิงชราคนนี้จะมีปัญหาอะไร? เขาจะต้องกลายเป็นชนชั้นสูงให้ได้ และทำให้หญิงสาวทั้งหลายที่เคยดูถูกดูแคลนเขาต้องเสียใจกับเรื่องนี้!

และเมื่อนักข่าวเข้ามาสัมภาษณ์ ทั้งเทตและฮานน่าต่างทำตัวราวกับว่าพวกเขาทั้งคู่กำลังตกหลุมรักซึ่งกันและกัน มีความรู้สึกลึกซึ้งต่อกัน เหมือนกับคู่เหมาะสมที่สวรรค์สร้างมา!

สวี่หลิงอวิ๋นดูรายการโทรศัพท์ที่สัมภาษณ์ภรรยาผู้แก่ชรากับสามีหนุ่ม ขณะกินขนม ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี “อย่างที่คิดไว้เลย ฉันไม่ได้พูดผิดสักหน่อย คู่รักที่ยอดเยี่ยมคู่นี้มีศักยภาพพอที่จะอยู่ด้วยกันได้”

เพียงเพื่อให้ได้เป็นคนชนชั้นสูงอย่างนั้นเหรอ? สวี่หลิงอวิ๋นหัวเราะ

มันก็จริงอยู่ที่คนเราสามารถกลายเป็นชนชั้นสูงในเมืองชั้นสูงได้ แต่คุณจะทำงานอย่างไรล่ะ? จะหาเลี้ยงครอบครัวยังไง? แค่พึ่งพาบ้านหลังนั้นอย่างเดียวเหรอ?

สวี่หลิงอวิ๋นคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องน่าขัน ทว่าเพื่อนบ้านทั้งหลายต่างรู้สึกอิจฉาริษยา!

“ดูคนพวกนั้นสิ แค่ตกหลุมรักกันก็ได้กลายเป็นชนชั้นสูงแล้ว ทั้งยังมีบ้านอีกต่างหาก! ว่ากันว่าราคาบ้านในเมืองชั้นสูงมีราคาแพงมาก!”

“ก็นั่นน่ะสิ! ขนาดอาจารย์ทั้งหลายในสถาบันวิจัยยังพูดเลยว่าพวกเขาต้องใช้เวลาเก็บเงินค่าแรงมาหลายปีถึงจะซื้อบ้านได้!”

“ฉันไม่คิดเลยว่าฮานน่าจะสามารถก้าวไปถึงระดับนั้นได้ ไม่คาดคิดเลยจริง ๆ หญิงแก่ที่ปล่อยตัวทรุดโทรมคนนั้น นอกจากจะได้เด็กหนุ่มมาเป็นสามีแล้ว เธอยังกลายเป็นชนชั้นสูงอีก หึหึ! แตกต่างอะไรขนาดนี้!”

“ฮึ่ม! เขาเป็นหลานชายของเธอ ถึงเธอจะได้แต่งงานแต่ก็คงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่หรอก! เด็กคนนั้นวัน ๆ ไม่ทำอะไร เอาแต่กินกับนอน อีกทั้งยังเป็นลูกแหง่ของแม่ แล้วยังจะมีความสุขอยู่เหรอ? แต่อย่างน้อยไม่ถูกทุบตีก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี!”

หญิงสาวที่สวมใส่เพชรเยอะเย้ย แม้ว่าในใจจะรู้สึกอิจฉาริษยา!

หากลูกชายของเธอได้เข้าไปเรียนที่สถาบันการศึกษา เธอคงจะต้องหาเงินเพื่อซื้อบ้านของให้ลูกชายของเธอ ไม่เช่นนั้นเขาจะแต่งงานกับลูกสะใภ้ได้อย่างไร?

การแต่งงานกับลูกสะใภ้ที่มาจากชนชั้นสูงจะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาลใช่ไหม? ไม่รู้เลยว่าว่าที่ลูกสะใภ้ในอนาคตจะดูถูกแม่สามีที่ด้อยกว่าหรือไม่?

อาจจะต้องทุกข์บ้างสุขบ้างปะปนกันไป…

ในไม่ช้า ซูเปอร์สตาร์ก็ปรากฏกายขึ้นบนอินเทอร์เน็ต! ภาพลักษณ์ของซูเปอร์สตาร์คนนี้เรียกได้ว่าทั้งหล่อเหลาและมีเสน่ห์เหลือล้น อีกทั้งยังให้ความรู้สึกสูงส่งและความเป็นผู้ดี!

แม้แต่วิกเตอร์ยังต้องหลบไปอยู่ชายขอบ!

“แลนซ์! แลนซ์! แลนซ์!”

หญิงสาวทั้งหลายที่อยู่ด้านล่างเวทีร้องตะโกนอย่างเมามัน ไม่ไยดีว่าเส้นเสียงของพวกเธอจะรับไหวหรือไม่ พวกเธอตะโกนดังลั่นที่สุดเท่าที่พวกเธอจะทำได้!

ชายหนุ่มคนหนึ่งที่งดงามราวกับหยกกำลังยืนอยู่บนเวที ผมที่ยุ่งเหยิงของเขาปกคลุมคิ้วทั้งสอง ผิวขาว ชายหนุ่มผู้นั้นให้ความรู้สึกสง่างามและอ่อนโยนราวกับคำพูดในบทกวี ช่างเป็นสุภาพบุรุษอะไรเช่นนี้!

แลนซ์อมยิ้มเล็กน้อย เพื่อส่งรอยยิ้มนั้นผ่านโทรทัศน์ หญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างหน้าจอโทรทัศน์ถึงกับรู้สึกปลาบปลื้ม จนอดใจไม่ไหวที่จะนอนหลับไปพร้อมกับหน้าจอโทรทัศน์!

“แลนเซล็อตที่ส่วนผสมผสานที่ลงตัวดีแฮะ!” สวี่หลิงอวิ๋นคุยกับโอคาซีที่ยังคงเร่งรีบเขียนโค้ดอยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ “นี่ รีบเปลี่ยนกลับเถอะค่ะ ให้ฉันได้เห็นความหล่อของท่านหน่อยสิคะ ไม่อย่างนั้นฉันกลัวว่าตัวเองจะคิดไม่ซื่อ!”

โอคาซีวางแป้นพิมพ์ในมือลง และจ้องมองเธอโดยไม่กล่าวอะไรออกมา

หลังจากเปลี่ยนรูปร่างของตนเองกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว เขาจึงพบว่าสวี่หลิงอวิ๋นได้ตกอยู่ในสภาวะสมองเสื่อมอีกครั้ง

“ทำไมท่านถึงหมกมุ่นนักล่ะครับ?” โอคาซีลูบผมที่ชี้โด่ชี้เด่ของเธอ “การคิดไม่ซื่อนี่มันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”