บทที่ 248 ถนนหุ่นไม้

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 248 ถนนหุ่นไม้

บทที่ 248 ถนนหุ่นไม้

เหล่านักบุญ นักบวช ชอบพูดว่าจนทำแต่ความดี อย่าทำชั่ว

ขงจื้อเองก็บอกว่าจงคบกันของวิญญูชน(ผู้มีคุณธรรมและความรู้) แต่จริงๆ แล้วแม้เพียงน้ำเปล่ารสจืดก็ดืมได้ (สื่อถึง แค่เป็นคนธรรมดาก็ไม่ควรคบหาแล้วงั้นหรือ?) การคบหาเพื่อนสักคนไม่ใช่ว่าต้องมีค่าถึงคบหา แต่ต้องเป็นคนที่เคราพกันและกันไม่ใช่งั้นหรือไง?

หากหัวใจสื่อถึงกันแม้ห่างกันพันลี้ก็ไม่นับว่าไกล หากไร้หัวใจต่อให้ใกล้กันก็เหมือนอยู่กันคนละภพชาติ ความหมายคืออะไร! ความรักไม่ได้วัดกันที่ระยะทาง ลูกกตัญญูวัดกันที่การกระทำไม่ใช่คำพูด ญาติพี่น้องไม่จำเป็นต้องเจอปีละครั้ง ไม่จำเป็นต้องมีข้ออ้างเช่นนี้ออกมาเลย

……

ปลายพู่กันตวัดอย่างรวเร็วราวกับมังกรล่องลอย ไม่นานฉู่เหินก็เขียนได้ถึง 10,000 คำ!! เขาเขียนทั้งเรื่องการศึกษานั้นเป็นรากฐานของประเทศ คนรุ่นใหม่เป็นเหมือนกระดูกสันหลังของชาติ หลังจากเขียนมาเกือบครึ่งชั่วโมงในที่สุดเขาก็หยุดเขียนและพักหายใจ เมื่อเขาต้องการตรวจทานอย่างระมัดระวังกระดาษที่เขาเพิ่งเขียนข้อสอบไปเมื่อสักครู่นั้น อยู่ๆไปหายไปซะเฉยๆ

ไม่เพียงเท่านั้นร่างกายของเขาก็ปรากฏแสงสว่างออกมา เมื่อเขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็ปรากฏตัวที่อื่นแล้ว เห็นได้ชัดว่าการทดสอบครั้งแรกเขาผ่านมันมาได้แล้ว

ที่นี่เป็นตรอกยาวที่มีลักษณะเหมือนตรอกเล็ก ๆ และคล้ายกับทางเดินในซอยนี้มีหุ่นไม้ร่างคนหลายสิบหรือหลายร้อยตัว แต่น่าแปลกที่พวกมันปล่อยกลิ่นอายแห่งความตายออกมาด้วย

“ถนนหุ่นไม้” เกือบจะในทันทีฉู่เหินคิดว่าสถานที่แห่งนี้อาจเป็นถนนหุ่นไม้ในตำนาน ตำนานเล่ากันว่าหุ่นไม้เหล่านี้เป็นของในวัดเส้าหลิน ว่ากันว่าพระเหล่านั้นต้องลงเขาผ่านทางข้ามตรอกไม้ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้ลงจากภูเขา วันนี้เขาไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นหุ่นไม้เหล่านี้ดูเหมือนว่ามันจะแข็งแกร่งไม่น้อยเลยจริงๆ

มีป้ายเล็ก ๆ อยู่หน้าหุ่นไม้ ป้ายบอกชัดเจนว่าคุณสามารถผ่านเข้าไปได้หลังจากเอาชนะพวกมัน ฉู่เหินประเมินว่าหุ่นไม้เหล่านี้แต่ล่ะตัวทรงพลังมาก เกรงว่าระดับพลังของพวกมันคงต่ำกว่าตัวเขาเองไม่มากนัก หากเขาโชคดีผ่านไปได้ เขาก็คงจะได้รับบาดเจ็บไม่น้อยแน่ๆ

ดวงตาของฉู่เหินหรี่ลง เขามองหุ่นไม้เหล่านี้อย่างจริงจัง เนื่องจากพวกมันทำมาจากไม้ทั้งหมด งั้นถ้าเขาใช้ไฟที่ตรงข้ามกันไม้น่าจะได้ผลดีที่สุด หลังจากคิดได้เช่นนี้แล้วฉู่เหินก็ไม่ลังเลที่จะปลดปล่อยพลังเปลวเพลิงออกมาจากนั้นทั้งตรอกก็ถูกทะเลเพลิงที่โหมกระหน่ำปกคลุม

เมื่อเพลิงประหลาดเหล่านี้ปกคลุมรอบข้าง หุ่นไม้ก็ถูกไฟเผา ฉู่เหินรู้สึกถึงร่องรอยของความหวาดกลัวจากภายในหุ่นไม้ ร่างสร้างมาด้วยไม้เหล่านี้ดูราวกับว่ากำลังกลัว! มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ

เขาเห็นหุ่นไม้เหล่านี้เริ่มขยับเข้าหากันจากนั้นพวกมันก็รวมร่างเข้าด้วยกัน

ไม่นานนักร่างหุ่นไม้เกือบหนึ่งร้อยตัวก็รวมเข้ากันเป็นหนึ่งเดียว หลังจากมันก็กลายเป็นหุ่นไม้ตัวใหญ่พร้อมปลดปล่อยพลังอันยิ่งใหญ่ออกมา ฉู่เหินตกใจมาก เพราะเขารู้สึกถึงแรงกดดันของพลังครึ่งก้าวสู่ผู้พิชิตดาราจากหุ่นไม้ตัวนี้

หุ่นไม้ที่หลอมรวมกันสูงกว่าสองเมตร มือของมันถือง้าวกรีดนภา ขนาดใหญ่เอาไว้! ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่กลัวทะเลไฟอีกต่อไป หลังจากหยุดลงครู่หนึ่งมันก็กำง้าวกรีดนภาในมือและพุ่งเข้ามาหาฉู่เหิน

ง้าวกรีดนภาขนาดใหญ่ดูทรงพลังมาก เสียงลมฉีกขาดดังขึ้นขณะที่ง้าววาดผ่านลงมาไม่หยุดราวกับสาบานว่าจะไม่หยุดจนกว่าจะทุบฉู่เหินเป็นผง แรงระเบิดฉีกอากาศอย่างรุนแรง มันเกินกว่าพลังครึ่งก้าวสู่ผู้พิชิตดาราธรรมดาเสียอีก

ง้าวกรีดนภายังคงไม่หยุดกวัดเแกว่งและเพิ่มพลังขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ฉู่เหินเสียเปรียบ ฉู่เหินเดาว่าถ้าเขาโดยเข้าสัก 1 ที น่ากลัวว่าเขาคงไม่รอดแน่ๆด้วยฝีเท้าที่นุ่มนวลพริบตาเดียว ร่างกายของเขาก็หายวับหลบการระเบิดได้อย่างรวดเร็ว

เขาถือดาบวงพระจันทร์ไว้ในมือและฟันดาบฟาดขึ้นไปบนฟ้าในทันที คมดาบไม่สนใจพลังป้องกันแม้แต่น้อย มันปะทะกับร่างของหุ่นไม้ด้านหน้าเขาตรง ๆ

ในตอนแรกฉู่เหินคิดว่าหากดาบนี้ถูกฟันลงไป หุ่นไม้จะถูกฟันขาดอย่างไร้ความปราณี แต่เมื่อดาบปะทะเข้ากับร่างของหุ่นไม้ มันก็เกิดเสียงดังขึ้นแต่ฝ่ายตรงข้ามกลับมีเพียงร่องรอยสีขาวจางๆ บนร่างเท่านั้น!

ดวงตาของฉู่เหินกระตุก การป้องกันของหุ่นไม้ตรงหน้าเขาน่าเหลือเชื่อเกินไป ดาบวงพระจันทร์ที่ไร้เทียมทานมาตลอดกลับไม่สามารถตัดมันได้ แสดงให้เห็นชัดว่าการป้องกันของหุ่นไม้นี้สูงเทียมฟ้าขนาดไหน

ในขณะที่ทั้งสองปะทะกัน ฉู่เหินก็ตระหนักได้ว่าถึงแม้หุ่นไม้จะไม่ได้รับความเสียหายทางกายภาพมาก แต่ในช่วงเวลาสั้น ๆ กลับมีช่องว่างเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นในจิตวิญญาณ แต่มันก็กลับคืนสู่สภาพเดิมอย่างรวดเร็ว จนทำให้ฉู่เหินไม่แน่ใจว่าที่เขาเห็นมันเป็นเรื่องจริงหรือไม่

ร่างกายของฉู่เหินหลบหลีกอย่างรวดเร็วและโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขา คราวนี้เขาตั้งใจสังเกตทุกอย่าง ขณะที่ดาบวงพระจันทร์ปะทะเข้าด้านหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าหุ่นไม้นั้นสั่นเบาๆ และหยุดลงไปชั่วขณะ ดูเหมือนว่าการโจมตีจะสร้างความเสียหายให้กับวิญญาณของมันอย่างมาก

ตอนนี้เขาพบจุดอ่อนของมันแล้ว ฉู่เหินก็ลงมือในทันที ในตอนแรกฉู่เหินไม่ได้ใส่พลังทั้งหมดลงไป แต่หลังจากปรับตัวครู่หนึ่ง ฉู่เหินก็เข้าใจจังหวะอย่างสมบูรณ์ หนึ่งคมดาบตามด้วยการระเบิดพลังอย่างรุนแรง ทุกครั้งที่ดาบฟันลงไป อีกฝ่ายจะหยุดชะงักไปช่วงสั้น ๆ

เมื่อความเร็วของดาบของฉู่เหินเพิ่มขึ้น หุ่นไม้ก็ไม่สามารถต้านทานได้อีกต่อไป มันชะงักหยุดอยู่กับที่จนปล่อยให้ฉู่เหินโจมตีฟรีๆ ไม่กี่นาทีฉู่เหินก็ฟันลงไปหลายพันเพลงในตอนนี้เขาเหนื่อยและหอบหายใจอย่างหนักโชคดีของเขาที่หุ่นไม้นี้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีกต่อไป

หลังจากเห็นเช่นนั้นแล้ว ฉู่เหินก็รู้สึกดีไม่น้อยและเอื้อมมือไปแตะรูปปั้นไม้อย่างระมัดระวัง เมื่อตระหนักว่ามันจะไม่สามารถเคลื่อนไหวอีกแล้ว เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาคิดว่ามันจะถอยหลังไปเอง แต่เขาค่อนข้างลังเลใจ เขาไม่เต็มใจที่จะเห็นหุ่นไม้ทรงพลังนี้ถูกโยนทิ้งไว้ที่นี่

อันที่จริงหุ่นไม้นี้เหมือนกับหุ่นเชิดที่เขาทำขึ้นมากทีเดียว ที่แตกต่างก็คือวัสดุการทำ! หากเขามีหุ่นไม้นี้ได้ ในอนาคตมันจะต้องกลายเป็นผู้ช่วยที่ทรงพลังให้เขาอย่างแน่นอน หลังจากคิดเรื่องนี้เขาจึงเริ่มลงมือตรวจสอบ

โครงสร้างโดยรวมของหุ่นไม้ทั้งหมดอยู่ในระดับที่ยอดเยี่ยมมาก แม้แต่

ฉู่เหินก็ยังรู้สึกศพเงินที่เขาทำขึ้นมานั้นแย่ยิ่งกว่ามาก ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวระหว่างทั้งสองคือเป็นไปไม่ได้ที่หุ่นไม้จะสร้างจิตใจของมันขึ้นมาเองได้ สิ่งนี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับวัสดุที่ใช้สร้าง

การเอาสร้างหุ่นไม้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่อย่างแรกเขาต้องกลั่นวิญญาณอีกครั้ง เมื่อเขาคิดถึงครั้งสุดท้ายที่เขากลั่นวิญญาณ เขาก็กลัวขึ้นมา ช่างยุ่งยากจริง ๆ หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่งเขาก็แต่กัดฟัน “ได้ ตายเป็นตาย ฉันจะปล่อยโอกาสนี้ไปไม่ได้!”

เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็ไม่พูดอะไรอีกแล้วนั่งขัดสมาธิลงเริ่มกลั่นวิญญาณออกจากกัน ฉู่เหินเตรียมพร้อมสำหรับความเจ็บปวด เขาไม่คาดคิดว่าการกลั่นวิญญาณคราวนี้จะทำง่ายมากกว่าที่คิดมาก มันไม่มีความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย! หลังจากทำเสร็จ เขารู้สึกว่าเหลือเชื่อมาก!

ในขณะที่เขากำลังคิดเขาก็วางหุ่นไม้ลง “เนื่องจากร่างกายทั้งหมดของนายทำจากไม้ทั้งหมด หลังจากนี้ฉันจะเรียกนายว่า เสี่ยวมู่โถ่ว”

ฉู่เหินตั้งใจจะเก็บเสี่ยวมู่โถ่วเข้าแหวนเก็บของของเขา แต่ที่เขาคิดไม่ถึงก็คือหลังจากที่หุ่นไม้ถูกเขาขัดเกลาแล้ว มันสามารถเข้าไปอยุ่ในจุดตันเถียนได้โดยตรง มันลอยอยู่ภายในตันเถียนด้วยตัวมันเอง มันสามารถดูดซับพลังในตันเถียนเพื่อพัฒนาพลังของตัวเองตัวเองได้

หากมันยังพัฒนาอยู่แบบนี้ มันอาจจะวิวัฒนาการได้ในสักวันหนึ่ง หากเขาใช้เสี่ยวมู่โถ่ว มันจะสามารถใช้แขนของมันราวกับอาวุธวิเศษ หากเวลานั้นมาถึงพลังของมันจะคูณอีกเท่าตัว เนื่องจากมันกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้ความสามารถของมันจะเพิ่มขึ้นอย่างรวกเร็ว

หลังจากแก้ไขปัญหาบางส่วนแล้ว ฉู่เหินก็ตรงไปที่ทางออกของถนนหุ่นไม้ ที่สุดทางของถนนหุ่นไม้นั้นเป็นประตูเหล็ก ประตูเหล็กดูหนักมาก ฉู่เหินลองผลักมันสองสามครั้งมันเปิดไม่ได้ แต่เขารู้ว่าถ้าเขาต้องการผ่านด่านทดสอบนี้เขาต้องเปิดประตูเหล็กให้ได้!