บทที่ 171 อาจเป็นได้ 6 (2)

“ท่านนักบวช”

จากนั้นเขาก็ชะงักไป เมื่อเห็นเด็กหญิงน้ำตาคลอเบ้าและจ้องมาที่เขาราวกับเป็นชนวนระเบิด คาร์ลยิ่งสงสัยมากขึ้นว่าเพราะเหตุใดเธอจึงมีท่าทางเช่นนี้

“ท่านนักบวช..ไม่ใช่ว่าพวกเอลฟ์ไม่สนใจข้าวของนอกกายหรอกหรือ?”

คาร์ลชี้ไปที่ทองคำแท่งและถุงใส่เหรียญที่อยู่ในมือของเขา อดิทเริ่มตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง

“เมื่อหลายปีก่อน..ต้นไม้โลกบอกให้พวกเราเริ่มรวบรวมเหรียญเงินพวกนี้..แม้ว่าเราไม่ควรหมกมุ่นกับทางโลกมากเกินไปแต่ต้นไม้โลกก็ยืนยันว่ามันจะมีประโยชน์ต่อเราในอนาคต”

อดิทยิ้มน้อยๆก่อนจะแจ้งข้อความที่ต้นไม้โลกส่งมาถึงคาร์ล

“ต้นไม้โลกปรารถนาที่จะพบท่านยิ่งนัก..ท่านคาร์ล”

ต้นไม้โลกบอกว่าเขาจะยอมทำตามหากเธอเสนอจะให้ทองคำแท่งและเหรียญเงินเพิ่มอีกแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นอย่างที่อดิทคิดไว้

“เป็นความคิดที่ดี..ข้าต้องการพบต้นไม้โลกเช่นกัน..ถ้าอย่างนั้นเราไปกันเลยดีกว่า”

อดิทจึงเริ่มเดินนำเมื่อได้รับคำตอบจากคาร์ล

“ตามข้าน้อยมาได้เลยเจ้าค่ะ”

อดิทรู้สึกได้ถึงร่างของราอนและคาร์ลซึ่งเดินตามหลังเธอมาติดๆในขณะที่หูก็คอยฟังในสิ่งที่ธาตุพูดคุยกัน

– จะบอกว่าเขาเป็นคนสมบรูณ์แบบก็ไม่ใช่และเขายังอ่อนแออีกด้วย..เขาดูน่าสนใจจริงๆ-

ธาตุมันจะสนใจพวกธาตุที่เหนือกว่าตัวเองเท่านั้นแต่ธาตุเหล่านี้กำลังแสดงความสนใจในตัวมนุษย์

อดิทเร่งฝีเท้าของตนเร็วขึ้นและคาร์ลก็เร่งฝีเท้าเพื่อตามเธอให้ทันเช่นกันพวกเขากำลังมุ่งหน้าไปพบกับต้นไม้โลก

จากนั้นคาร์ลก็เริ่มแสดงความสงสัยออกมา

‘มันก็ดูธรรมดานี่นา…’

เขาเห็นต้นไม้แก่ๆต้นหนึ่งอยู่ตรงหน้า มันเป็นต้นไม้ที่สามารถพบได้ตามภูเขาทั่วๆไป

“นี่คือต้นไม้โลก”

อดิทชี้ไปยังต้นไม้ที่อยู่ตรงหน้าคาร์ลทันที

คาร์ลค่อนข้างตกใจกับสิ่งนี้ ต้นไม้ต้นนี้สูงกว่าเขาอย่างน้อยสามเท่าแต่มันก็ยังคล้ายกับต้นไม้ที่พบได้ทั่วไปในป่าแห่งความมืดอยู่ดี หากให้พูดตามตรงเขาคิดว่าต้นไม้ที่อยู่ในสลัมหลังจากที่เขาได้โล่นิรันดร์กาลมาครองยังดูมีมนต์ขลังมากกว่าอีก

‘..ต้นไม้ที่อยู่รอบๆยังดูเหมือนต้นไม้โลกมากกว่า’

ต้นไม้ที่อยู่รอบๆต้นไม้โลกต่างมีลำต้นที่สูงและมีสีน้ำเงินสวยงาม มันล้อมรอบต้นไม้โลกเอาไว้คล้ายกับจะปกป้อง

“ท่านตกใจกับรูปลักษณ์ของต้นไม้โลกหรือไม่เจ้าค่ะ?”

อดิทพูดขึ้นราวกับเดาปฏิกิริยาของคาร์ลออก พวกเอลฟ์ก็เคยตะลึงกับต้นไม้โลกเช่นกันเมื่อมีโอกาสได้เห็นเป็นครั้งแรก

คาร์ลกวาดสายตาไปมองรอบๆก่อนจะพูดสิ่งที่โผล่เข้ามาในหัวออกไปทันที

“มันก็คงเหมือนกับผ้าขี้ริ้วห่อทองกระมัง”

“เป็นจริงอย่างที่ท่านพูด”

อดิทเห็นด้วยกับสิ่งที่คาร์ลพูด เธอค่อยๆสงบใจลงในระหว่างที่เดินทางมายังต้นไม้โลก คาร์ลไม่ได้สนใจกับท่าทางของเธอเมื่อยังคงสำรวจไปรอบๆบริเวณอย่างตั้งใจ ตอนนี้มีเพียงคาร์ล ราอน อดิทและต้นไม้โลกเท่านั้นที่อยู่ในบริเวณนี้

ตอนนั้นเอง

ฟิ้วววว~~~~

ใบไม้ที่อยู่บนต้นเริ่มสั่นไหวแม้จะไม่มีลมพัดเข้ามา

“ท่านคาร์ล!”

จากนั้นอีดิทก็ตะโกนเรียกคาร์ลเสียงดัง

คาร์ลมองเห็นแสงสีฟ้าล้อมรอบตัวอดิทเอาไว้ มันเป็นสีเดียวกับตราของอูฮาเบ็นที่เขาได้เห็นเมื่อก่อนหน้านี้

ในทางตรงกันข้ามอดิทไม่สามารถซ่อนความตกใจของตัวเองไว้ได้เมื่อจ้องมาที่คาร์ล

“ต้นไม้โลก..ต้นไม้โลก..ต้องการจะคุยกับท่านเจ้าค่ะ..ท่านคาร์ล”

“อยากคุยกับข้า?”

“ใช่”

แน่นอนว่าอดิทตกใจมากเพราะนอกจากเธอแล้วก็มีอูฮาเบ็นเพียงผู้เดียวที่ต้นไม้โลกต้องการสนทนาด้วย เธอหันไปพูดบางอย่างกับราอน

“ต้นไม้โลกมีความประสงค์ที่จะพูดคุยกับท่านราอนทีหลัง..เพราะยังมีเวลาอีกนานที่ท่านและต้นไม้โลกจะได้ทำความรู้จักกัน”

“ตกลง!..ข้าเข้าใจแล้ว! ต้นไม้โลก..ยินดีที่ได้รู้จักนะ!”

ฟิ้วววว~~~~

กิ่งไม้ไหวเอนราวกับตอบรับคำทักทายของราอน ดูเหมือนราอนจะมีความสุขมากเมื่อเริ่มม้วนกลิ้งบนพื้นหญ้าข้างๆต้นไม้โลก

“ที่นี่บรรยากาศดีและยังอบอุ่นอีกด้วย..ข้าชอบที่นี่รองลงมาจากบ้านของเรา!”

คาร์ลยิ้มให้กับความเห็นของราอนและเอ่ยถามอดิทขึ้นมา

“แล้วข้าจะคุยกับต้นไม้โลกได้อย่างไร?”

“เพียงแค่หลับตาและตั้งสมาธิ..ท่านก็จะสามารถพูดคุยกับต้นไม้โลกได้”

อดิทชี้ไปที่ลำต้นและคาร์ลก็เดินไปยังจุดนั้นโดยไม่นึกลังเล จากนั้นเขาก็วางฝ่ามือไปที่ลำต้นตามที่นักบวชตัวน้อยแนะนำ

ฟิ้วววว~~~~

ต้นไม้เริ่มสั่นไหวอีกครั้ง

อดิทสังเกตต้นไม้โลกอย่างพิจารณากว่าเดิม มีสิ่งหนึ่งที่ผุดเข้ามาในใจ

‘ข้าไม่อยากเชื่อเลย..ว่ามนุษย์จะทำให้ต้นไม้โลกผู้แสนสงบนิ่งเกิดอาการตกประหม่าได้’

เธออยากรู้ว่าคาร์ลและต้นไม้โลกพูดคุยอะไรกันบ้างแต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะทำเช่นนั้นได้ ดวงตาของเธอหรี่ลงอย่างใช้ความคิดเมื่อจ้องไปที่ชายผมแดง

‘หืม?’

เธอเห็นร่างของคาร์ลสะท้านขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเริ่มขมวดคิ้วมุ่นทั้งๆที่หลับตาอยู่

ตอนนั้นเองที่เสียงของต้นไม้โลกดังเข้ามาในหัวของคาร์ล

-ข้าไม่คิดมาก่อนว่าจะมีมนุษย์อื่นได้รับพลังจากคนบ้าที่เที่ยววางเพลิงคนอื่นไปทั่ว-

วางเพลิง?

น่าจะหมายถึงเจ้าของอัคนีทำลายล้าง

-แต่เจ้าก็รับพลังมาอย่างเต็มปี่ยมและยังมีการเสริมพลังเข้าไปอีกด้วย คาร์ล! เจ้าช่างน่าทึ่งยิ่งนัก!-

‘ฉันเสริมพลังไปตอนไหน?’

คงเป็นเพราะพละกำลังแห่งดวงใจสินะ? คาร์ลนึกถึงพละกำลังแห่งดวงใจที่ช่วยเสริมพลังต่างๆในร่างกายของเขาให้สมดุลก่อนจะเริ่มกังวลกับต้นไม้โลก

‘คาร์ล! เจ้าน่าทึ่งยิ่งนัก!’

‘…มันดูเป็นมิตรมากเกินไป’

ต้นไม้โลกกำลังปฏิบัติต่อคาร์ลอย่างเป็นมิตรและมันดูเป็นมิตรจนน่าสงสัย

ต้นไม้โลกยังคงพูดต่อไป

-ในชีวิตของข้ามีโอกาสได้พบวีรบุรุษมามากมายแต่ข้า..ไม่เคยเห็นวีรบุรุษคนไหนที่ไม่สนใจเรื่องอื่นนอกจากเงินเช่นนี้-

เสียงของต้นไม้โลกฟังดูคล้ายหญิงชราผู้ใจดี

-เขาคิดเพียงว่าตัวเองจะต้องรวยและมีเงินมากๆเท่านั้น! ข้าอาจตายและเกิดใหม่ได้หลายครั้ง..แต่ข้าก็เกือบสลายไปเพราะวีรบุรุษผู้นี้-

น้ำเสียงของต้นไม้โลกดูเหมือนจะโล่งใจเล็กน้อย

-นั่นคือเหตุผลที่ข้าต้องการรวบรวมเงิน..ข้าต้องทำทุกวิถีทางเพื่อยืดชีวิตตนเองออกไป-

ต้นไม้โลกยังคงพูดต่อ

-แต่ข้าไม่รู้มาก่อนว่าเจ้าได้พลังนี้มาครองแล้ว..คาร์ล!ข้าตกใจยิ่งนักจึงสั่งให้อดิทนำเงินเหล่านี้ไปมอบให้เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลุกท่วมพื้นที่-

คาร์ลรู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างเมื่อฟังที่ต้นไม้โลกเอ่ยขึ้น

‘ต้นไม้โลกรู้จักฉันหรือเปล่า?’

ทุกครั้งที่ต้นไม้โลกพูดขึ้นมันให้ความรู้สึกราวกับรู้จักคาร์ลมาก่อน

คาร์ลกำลังอ้าปากจะถามว่าต้นไม้โลกรู้จักเขาหรือไม่ แต่ต้นไม้โลกกับชิงพูดก่อน

-การ์ชาน..สบายดีหรือไม่?-

‘การ์ชาน? หมอผีการ์ชานนะรึ?’

ทันใดนั้นร่างของคาร์ลก็เย็นวาบขึ้น

‘บางที…ธรรมชาติที่การ์ชานพูดถึงบ่อยๆอาจเป็นต้นไม้โลก?’

ต้นไม้โลกยังคงพูดต่อ

-การ์ชานเป็นเด็กที่น่าสนใจ..เขาได้ยินเสียงของข้า-

‘ว้าว’

เขารู้สึกประหลาดใจพอๆกับตกใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้

‘แสดงว่าต้นไม้โลกมีพลังในการมองเห็นอนาคตอย่างนั้นหรือ?’

เสียงอ่อนโยนแต่เน้นหนักของต้นไม้โลกดังขึ้น มันทำให้คาร์ลสะดุ้งโหยงทันที

-คาร์ล!?-

ต้นไม้โลกเว้นจังหวะไปครู่หนึ่งและเอ่ยถามออกมา

-เจ้าเป็นใคร?-

ฟิ้วววว~~~~ ฟรู่!!!

ใบไม้บนต้นเริ่มโบกสะบัดรุนแรง