ตอนที่ 70 รับศิษย์

เมื่อเห็น ‘ผู้อาวุโสหลิน’ กำลังจะเดือดดาล บรรดาผู้อาวุโสหยุดโต้เถียงกันทันที จากนั้นสายตาทุกคู่หันไปมอง ‘ผู้อาวุโสหลิน’ ทันใดนั้นชายชราผมขาวที่นั่งตรงข้ามกล่าว “เฒ่าหลิน เกิดอะไรขึ้น?”

ผู้อาวุโสหลินตบโต๊ะอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่งพร้อมกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “ชายหนุ่มคนหนึ่งไปทดสอบเป็นอาจารย์ยันต์ในสาขาเมืองอาทิตย์อุทัย จากนั้นมันบอกว่าเป็นศิษย์ของข้า ยิ่งกว่านั้น จางหยวนยังเชื่อมันอีก ควรโกรธหรือไม่ล่ะ!”

ผู้อาวุโสทุกคนต่างขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาไม่คาดคิดว่าจะมีคนกล้าแอบอ้างเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสในสมาคม หมายความว่าเขาไม่ได้เกรงกลัวอำนาจของจักรวรรดิต้าฉินเลยงั้นหรือ?

ยิ่งกว่านั้นพวกเขาไม่คาดคิดว่าจางหยวนในสาขาเล็กจะหลงเชื่อโดยง่ายอีก!

“รีบส่งคนไปยังเมืองอาทิตย์อุทัย จับเจ้าคนที่แอบอ้างเป็นศิษย์ของข้า ข้าต้องการเห็นว่ามันเป็นผู้ใดกัน แล้วก็ย้ายจางหยวนไปที่อื่นด้วย ดูเหมือนเขาเฒ่าชราเกินไปแล้ว แค่เด็กหนุ่มคนเดียวก็สามารถหลอกได้!” ผู้อาวุโสหลินสั่งชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้าง

ก่อนหน้านี้ที่เห็นผู้อาวุโสหลินโกรธ ชายหนุ่มรู้สึกตกอกตกใจอย่างมาก แต่เมื่อได้ยินคำสั่ง เขารีบก้มศีรษะรับ จากนั้นรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

“รอก่อน!” ทันใดนั้นชายชราผมขาวตะโกนออกมา “เฒ่าหลิน เหตุการณ์ครั้งนี้มันดูไม่ชอบมาพากลนะ ข้ารู้จักจางหยวนดี เขาเคยเป็นศิษย์ของข้าครั้งหนึ่ง เขาไม่ใช่คนที่ไร้สมองหรอก”

“ไม่ชอบมาพากลงั้นหรือ?” ผู้อาวุโสหลินเอ่ยอย่างหงุดหงิด “ไม่ชอบมาพากลอะไรอีก? พวกท่านทุกคนน่าจะตระหนักดีว่าข้ามีเพียงหลานสาวเท่านั้นที่มีค่าที่สุด ชายหนุ่มคนนั้นเห็นได้ชัดว่ามันใช้ประโยชน์จากชื่อของข้า อันที่จริงข้าก็นับถือในความกล้าดีของเขาที่มาแอบอ้าง! ช่างกล้าดีเสียจริง!”

“เฒ่าหลิน ท่านต้องหัดรู้จักควบคุมอารมณ์บ้าง!” ทันใดนั้นผู้อาวุโสด้านข้างกล่าว “เหตุการณ์นี้มันแปลกมาก หากเขาต้องการได้รับผลประโยชน์จริง เช่นนั้นเขาไม่ควรไปยังสาขาเล็กเพื่อทดสอบ อย่างมากก็ต้องใช้ชื่อท่านเพื่อหลอกลวงผู้อื่นแล้ว แต่เขากลับไปยังสาขาเล็ก นั่นหมายความเขาไม่ได้ต้องการใช้ประโยชน์จากท่านหรอก ยิ่งกว่านั้นคงไม่มีใครกล้ายุ่งกับสมาคมผู้ใช้ยันต์แน่!”

ชายชราผมขาวที่นั่งตรงข้ามผู้อาวุโสหลินรีบกล่าว “ถูกของเฒ่าหวง ยิ่งกว่านั้นจางเหิงเป็นถึงอาจารย์ยันต์ขั้นจิตปฐพี เช่นนั้นมันเป็นไปไม่ได้จะถูกหลอกได้โดยง่าย”

เมื่อกล่าวจบ ชายชรามองไปที่ชายหนุ่มพร้อมกล่าว “จงรวบรวมข้อมูลทั้งหมดของชายหนุ่มคนนั้น!”

ชายหนุ่มโค้งตอบรับชายชราผมขาว “ผู้อาวุโสเฉินโม่ ข้อมูลทั้งหมดของชายหนุ่ม และหนึ่งในยันต์ที่เขาสร้างตอนทดสอบอยู่ในจดหมายขอรับ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นชายชราผมขาวนามเฉินโม่มองไปที่ผู้อาวุโสหลินที่ยังโกรธเกรี้ยวอยู่ “เฒ่าหลิน ตรวจดูข้อมูลในจดหมายก่อน หากมั่นใจว่าไม่รู้จักเขา เช่นนั้นค่อยออกหมายจับก็ได้!”

เมื่อได้ยินคำนั้น เปลือกตาชายหนุ่มข้างผู้อาวุโสหลินกระตุก ‘หมายจับ! ยิ่งกว่านั้นยังเป็นของสมาคมผู้ใช้ยันต์!’

ในเขตแดนใต้ แม้แต่หมายจับของจักรวรรดิต้าฉิน หรือโรงเรียนปราชญ์ ก็ไม่น่าสะพรึงเท่าหมายจับของสมาคมผู้ใช้ยันต์! เพราะเหตุใดงั้นหรือ? เพราะหมายจับของสมาคมผู้ใช้ยันต์นั้นมีรางวัลที่สูงอย่างมาก ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากจักรวรรดิต้าฉิน และหกมหาอำนาจอีกด้วย! ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีใครกล้าหนีจากหมายจับของสมาคมผู้ใช้ยันต์!

“รับชมไปแล้วยังจะได้อะไร?” ผู้อาวุโสหลินกล่าว “ข้าบอกพวกท่านแล้วว่าไม่ได้รับศิษย์อื่นนอกจากเปาเอ๋อ และหากรับศิษย์ ข้าจะไม่บอกพวกท่านให้ดูแลศิษย์ข้างั้นหรือ? ข้า…”

เมื่อได้เห็นผู้อาวุโสหลินหยุดกล่าวกะทันหัน เฉินโม่โบกมือของเขา จากนั้นซองจดหมายบนโต๊ะได้ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือ เขานำจดหมายข้างในออกมาพร้อมอ่านเสียงดัง “หยางเย่ สิบเจ็ดปี จากเมืองทักษิณภิรมณ์ ศิษย์สำนักดาบราชัน…”

ผู้อาวุโสขัดจังหวะเฉินโม่พร้อมถาม “เขาเป็นศิษย์สำนักดาบราชันงั้นหรือ?”

เฉินโม่พยักหน้า “ในจดหมายกล่าวว่าเขาเป็นศิษย์สำนักดาบราชัน และเพิ่งเป็นศิษย์นอกได้ไม่นาน! เฒ่าหลินท่านรู้จักเขาหรือไม่?”

ผู้อาวุโสหลินส่ายหน้า “ถึงแม้ข้าจะอาศัยอยู่ในบริเวณสำนักดาบราชัน ข้าก็ไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นภายในนั้น นอกจากยอดเขาของพวกปรมาจารย์ และตาเฒ่าซุยที่ไปท่องเที่ยวอยู่ที่ไหนสักแห่งตอนนี้ ข้าไม่มีปฏิสัมพันธ์ใดกับใครทั้งนั้น แล้วจะนับประสาอะไรกับศิษย์นอกลึกลับคนนั้นล่ะ!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เฉินโม่โยนจดหมายทิ้ง จากนั้นมองไปที่ชายหนุ่มพร้อมกล่าว “ออกหมายจับเขา ถอนจางหยวนจากตำเเหน่งผู้จัดการด้วย และบอกให้เขามายังเมืองหลวง”

ชายหนุ่มคำนับเฉินโม่ก่อนจะเดินออกไปยังทางออกอีกครั้ง

“หืม?” ทันใดนั้นชายชราที่นั่งข้างเฉินโม่มองไปที่ยันต์ในซองจดหมาย เขาหยิบซองจดหมายพร้อมนำยันต์ออกมา เมื่อเห็นคุณภาพของยันต์ เขากล่าวด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ “มันเป็นยันต์ระดับสูงงั้นหรือ? หืม? มันยังสร้างจากพลังปราณห้าธาตุทองคำด้วย หืม? เคล็ดวิชาของเขาช่างคล้ายคลึงกับของท่านนัก เฒ่าหลิน…”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้อาวุโสทุกคนจึงเดินมาดูด้วยความสงสัย เมื่อพวกเขามองไปที่ยันต์ก็ถึงกับตัวแข็งทื่อไปชั่วครู่

“ยันต์ระดับสูง! มันคือยันต์ระดับสูงของจริง…”

“ระดับขั้นความบริสุทธิ์… แม้กระทั่งยอดฝีมือขั้นปราณสวรรค์ก็ไม่มีพลังปราณล้ำลึกที่บริสุทธิ์ขนาดนี้…”

“วิชานี้ช่างคล้ายคลึงกับของเฒ่าหลินจริง มันดูไม่ค่อยเชี่ยวชาญเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังนับว่าหายากที่จะบรรลุระดับนี้ด้วยวัยเพียงสิบเจ็ด!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้อาวุโสหลินเองก็ไม่อาจทนนั่งได้เช่นกัน เขาได้มองไปที่ยันต์ เมื่อเห็นว่าเป็นยันต์ระดับสูง ผู้อาวุโสหลินถึงกับตกตะลึงพร้อมขมวดคิ้วเพราะมันเป็นวิชาของเขาอย่างแท้จริง!

เมื่อเห็นผู้อาวุโสหลินเดินไปดูยันต์ เฉินโม่รีบกล่าวอย่างร้อนรน “เฒ่าหลิน ท่านบอกว่าเขาไม่ใช่ศิษย์ของท่านใช่หรือไม่? ลองดูสิ มันไม่ใช่วิชาของท่านหรือ? ข้าขอถาม คิดว่านี่หลอกจะหลอกสายตาพวกเราได้หรือ?”

เมื่อได้ยินเฉินโม่ สายตาทุกคู่มองไปยังผู้อาวุโสหลินเช่นกัน ความดูหมิ่น และความโกรธในใจของพวกเขาเห็นได้ชัดเจนยิ่งนัก

ผู้อาวุโสหลินฝืนหัวเราะพร้อมกล่าว “วิชานี้เป็นสิ่งตกทอดของข้าจริง แต่ข้ายืนยันว่าไม่รู้จักชายที่ชื่อหยางเย่ และข้ามีเหตุผลอันใดต้องหลอกพวกเจ้างั้นหรือ?”

เมื่อได้ยินผู้อาวุโสหลิน ความคิดบางอย่างปรากฏขึ้นผ่านดวงตาเฉินโม่ จากนั้นเขาแกล้งหงุดหงิดพร้อมกล่าว “เฒ่าหลิน ท่านไม่รู้จักชายชื่อหยางเย่จริงใช่หรือไม่?”

ผู้อาวุโสหลินพยักหน้า

ความโกรธเกรี้ยวบนใบหน้าเฉินโม่หายไปหมดสิ้นหลังจากเห็นผู้อาวุโสหลินพยักหน้า “เมื่อเขาไม่ใช่ศิษย์ของเจ้า เช่นนั้นข้าจะรับเขาเป็นศิษย์เอง อันที่จริงข้ายังไม่มีศิษย์สักคน!”

“ไร้ยางอายนัก!”

“ข้าเองก็ไม่มีศิษย์เช่นกัน ข้าก็ถูกใจหนุ่มน้อยคนนี้เช่นกัน ข้าตัดสินใจจะรับเขาเป็นศิษย์ ข้าไม่ยอมพวกเจ้าแน่!”

“แล้วพวกเราล่ะ? ข้าเองก็ไม่มีศิษย์เช่นกัน และต้องการรับเขาเป็นศิษย์ด้วย…”

ทันใดนั้นเฉินโม่กล่าว “อืม พวกเจ้าค่อย ๆ หารือกันไปก่อน ข้าคงไม่เข้าไปร่วมด้วย ส่วนการโต้เถียงก่อนหน้านี้ข้าไม่เอาความอะไร พวกเจ้าทุกคนก็จัดการกันเองโดยไม่ต้องรีบร้อน เอาล่ะข้ามีเรื่องที่ต้องไปทำก่อน เช่นนั้นต้องขอลา…” ทันทีที่กล่าวจบ เฉินโม่รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว

ทุกคนถึงกับหยุดชะงัก จากนั้นหนึ่งในชายชรากล่าวขึ้น “บัดซบ! เขากำลังจะไปเมืองอาทิตย์อุทัยเพื่อหาชายหนุ่มคนนั้น เฒ่าเฉินเจ้าเล่ห์นัก! ข้าสัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มคนนั้นตกอยู่ในมือเขาแน่…” ทันทีที่กล่าวจบเขารีบไล่ตามเฉินโม่ไป

ผู้อาวุโสทุกคนเข้าใจในทันที ไม่นานพวกเขาก็รีบร้อนตามออกไปเช่นกัน เพียงชั่วครู่ก็เหลือแค่ผู้อาวุโสอีกคนที่นั่งเงียบมาตั้งแต่ต้นกับผู้อาวุโสหลินในห้องโถง

ผู้อาวุโสหลินตกตะลึงเมื่อเห็นทุกคนรีบร้อนออกไป ในหัวเขารู้สึกสับสนเล็กน้อย

“หลินชาน ท่านดูไม่ค่อยฉลาดนะครั้งนี้!” ทันใดนั้น ผู้อาวุโสอีกคนที่นั่งอยู่กล่าวเปิดขึ้น

“ศิษย์พี่โหว ท่านหมายว่าอะไร?” หลินชานเอ่ยถาม

ผู้อาวุโสโหวส่ายหัวพร้อมกล่าว “พวกเขาหาได้แย่งชิงชายหนุ่มคนนั้นมาเป็นศิษย์เพราะยันต์ระดับสูงไม่ แต่เพราะความสามารถ และพรสวรรค์ที่สูงส่งต่างหาก เขาสามารถสร้างยันต์ระดับสูงได้ด้วยอายุเพียงสิบเจ็ดปี ทั้งยังมีพรสวรรค์ที่กล่าวได้ว่าเป็นอัจฉริยะแม้กระทั่งในสมาคมผู้ใช้ยันต์ของเรา และสิ่งที่สำคัญสุดคือ เขามีพลังปราณห้าธาตุทองคำ แน่นอนว่าแค่พลังปราณห้าธาตุทองคำก็ไม่สามารถทำให้พวกเขาตื่นตระหนกได้ขนาดนั้นหรอก แต่ดูที่ความบริสุทธิ์ของพลังปราณห้าธาตุนี้ ข้าเองยังไม่เคยเห็นมันมาก่อนแม้จะเป็นยอดฝีมือขั้นปราณสวรรค์ก็ตาม และเขายังอยู่แค่ขั้นปราณมนุษย์ ตอนนี้ท่านเข้าใจแล้วหรือยัง?”

หลินชานฝืนยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ข้าเข้าใจตั้งแต่พวกเขารีบไปแล้ว อย่างไรก็ตามข้าบอกทุกคนไปแล้วว่าไม่รู้จักชายหนุ่ม ดังนั้นข้าจะเอาความกล้าที่ไหนไปสู้กับพวกเขา…”

ผู้อาวุโสโหวยิ้มพร้อมกล่าว “ดูวิชาของเขาสิ มันมาจากลายเขียนของพวกเราแน่นอน ลายเขียนของพวกเรามีเพียงหลานสาวข้า หลานสาวท่าน และท่านกับข้าเท่านั้น มันเป็นไปไม่ได้ที่หลานสาวข้าจะสอนคนอื่น และหากเป็นเช่นนั้น นางก็ต้องมาบอกข้าแน่นอน ยิ่งกว่านั้นท่านก็ไม่รู้จักชายหนุ่มคนนั้น มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว วิชาของท่านถูกส่งให้เขาด้วยฝีมือหลานสาวของท่านเอง รีบไปถามนางเรื่องนี้เสีย!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลินชานไขความกระจ่างนี้ได้ทันที ‘ใช่แล้ว ข้าลืมตัวปัญหาของข้าไปได้ยังไง เปาเอ๋อ!? ด้วยนิสัยที่ไม่เกรงกลัวสิ่งใดของนาง มันมีส่วนอย่างมากที่นางจะมอบวิชาของพวกเราให้ผู้อื่น!’

เมื่อนึกได้เช่นนั้น หลินชานรีบใช้ยันต์สื่อสารชั้นยอดติดต่อกับเปาเอ๋อที่อยู่ห่างไกลในสำนักดาบราชัน

เมื่อพวกเขาทุกคนมาถึงยังเมืองอาทิตย์อุทัยเพื่อตามหาหยางเย่ หยางเย่ก็ได้ไปถึงเมืองทักษิณภิรมณ์เรียบร้อยแล้ว