บทที่ 201 ดูนี่สิครับ! หัวหน้า! (1)

สูตรโกงฉบับเด็กเรียน

บทที่ 201 ดูนี่สิครับ! หัวหน้า! (1)

หลังจากตรวจผู้ป่วยเสร็จแล้ว พานเซี่ยงเหนียนก็นัดทุกคนมาคุยกัน “ผมขอประชุมบางอย่างหน่อยนะครับ”

ทุกคนมองหน้ากันอย่างสับสน วันนี้หัวหน้าแผนกเป็นอะไรไป

ในแผนกทวารหนักมีนักศึกษาแพทย์ฝึกงานจำนวนมาก ซึ่งแพทย์แต่ละคนจะรับหน้าที่ดูแลนักศึกษาหนึ่งถึงสองคน เมื่อทุกคนได้ยินว่าหัวหน้าแผนกต้องการเรียกประชุมก็รีบมารวมตัวกันที่ห้องทำงาน

พานเซี่ยงเหนียนมองผู้คนที่มารวมตัวกัน “วันนี้ผมอยากจะคุยกับทุกคนเกี่ยวกับการล้างแผลน่ะครับ”

เหอเสี่ยวหมิงได้ยินก็เกิดสงสัยขึ้น ล้างแผลเหรอ

จู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ถึงตอนที่หัวหน้าพานและซ่งเจี๋ยไปคุยกันส่วนตัว ที่ซ่งเจี๋ยดูไม่ค่อยยินดีนักก็คงเป็นเพราะแบบนี้

เพราะไป๋เยี่ยหรือเปล่า

เพราะว่าตอนนี้ไป๋เยี่ยรับหน้าที่เป็นคนล้างแผลให้กับผู้ป่วยของซ่งเจี๋ย หัวหน้าแผนกจึงมองว่าการให้ไป๋เยี่ยล้างแผลนั้นเป็นปัญหา

พานเซี่ยงเหนียนเอ่ยขึ้น “สิ่งที่ผมจะบอกพวกคุณในวันนี้คือ ในแผนกศัลยกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแผนกทวารหนักของเรา ที่แม้ว่าโดยปกติจะมีการผ่าตัดธรรมดาๆ ไม่ใช่การผ่าตัดใหญ่อะไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเฝ้าดูอาการของผู้ป่วยหลังจาการผ่าตัดเป็นรายวัน”

พานเซี่ยงเหนียนถามต่อ “เอาละ หมอซ่ง คุณลองบอกผมมาหน่อยว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเฝ้าดูอาการหลังผ่าตัด”

ซ่งเจี๋ยพยักหน้า “หลังการผ่าตัด การฟื้นตัวของผู้ป่วยมีความสำคัญมาก ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกี่ยวข้องกับการขูดหนองและล้างแผล รวมถึงการสังเกตแผลเพื่อป้องกันไม่ให้อาการแย่ลงและช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น”

พานเซี่ยงเหนียนพยักหน้า “เพราะฉะนั้นเราห้ามมองข้ามเรื่องการล้างแผลนะครับ ถึงแม้ว่าการล้างแผลจะเป็นเรื่องง่าย แต่ก็เป็นหนึ่งในทักษะพื้นฐาน วันนี้ผมได้ลงมาตรวจเคสเอง และพบว่าหลายๆ เคสมีอาการดีขึ้นเร็วมาก ซึ่งเคสเหล่านั้นก็เป็นของหมอซ่ง”

“ผมพยายามที่จะปรับปรุงขั้นตอนการผ่าตัดให้มีประสิทธิภาพมาโดยตลอด แต่ตอนนี้ผมได้พบกับปัญหาแล้ว นั่นก็คือปัญหาเรื่องการล้างแผล การล้างแผลมีส่วนช่วยในการทำให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้นอย่างมาก ทำให้แผลหายเร็วขึ้นด้วย เพราะฉะนั้น หลังจากนี้เป็นต้นไป ทุกคนจะต้องแลกเปลี่ยนความรู้และผลัดกันตรวจสอบเคสให้บ่อยขึ้น แล้วเราจะจัดการอภิปรายเกี่ยวกับการล้างแผลขึ้นอีกครั้งหนึ่งนะครับ”

พานเซี่ยงเหนียนพูดต่อ “ตอนนี้ก็ลองแลกเปลี่ยนกันกับไป๋เยี่ยไปก่อนนะครับ”

ทุกคนพากันงง ไป๋เยี่ยเหรอ

ใครคือไป๋เยี่ย

วิทยากรรับเชิญจากข้างนอกเหรอ

ไป๋เยี่ยเองก็ดูจะสับสนไม่น้อย นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ให้มาคุยกับฉันเนี่ยนะ

“วันนี้ผมได้ตรวจเคสที่ไป๋เยี่ยเป็นคนล้างแผล และพบว่าแผลของพวกเขาหายเร็วกว่าผู้ป่วยรายอื่นๆ ยังไงนี่ก็เป็นทักษะพื้นฐานที่ใช้กันประจำ ช่วงนี้ก็ลองศึกษากันดูนะครับ หลังจากวันชาติ เราจะมีการอภิปรายกันเรื่องวิธีการรักษาแบบใช้หนังยางรัด”

พานเซี่ยงเหนียนพูดจบก็เดินออกไปทันที ก่อนที่จู่ๆ เขาจะนึกอะไรขึ้นได้จึงหันหลับมาทางไป๋เยี่ย “ไป๋เยี่ย ตามมาดูการผ่าตัดบ่ายนี้ด้วยล่ะ”

ดวงตาของไป๋เยี่ยเป็นประกาย เขาคิดว่าเขาจะไม่ได้เห็นการผ่าตัดเสียอีก!

ทว่าโอกาสมาถึงแล้ว!

หลังจากที่หัวหน้าแผนกออกไป ซ่งเจี๋ยก็เดินมาตบไหล่ไป๋เยี่ย “ใช้ได้นี่นา งั้นต่อไปคุณก็เป็นคนล้างแผลแทนผมนะ ตั้งใจศึกษา ตั้งใจสะสมประสบการณ์เข้าไว้ วันจันทร์หน้ามีบรรยายนะ”

ไป๋เยี่ยไม่กังวลเรื่องการบรรยายมากนัก เพราะตอนนี้ทักษะการล้างแผลของเขาอยู่ที่เลเวลสาม ซึ่งถือเป็นระดับผู้เชี่ยวชาญ เขาจึงพูดสิ่งที่ฟังดูเป็นมืออาชีพได้มากขึ้นไปด้วย

แพทย์หลายคนมักจะละเลยขั้นตอนการล้างแผล เพราะคิดว่าการผ่าตัดคือขั้นตอนที่สำคัญที่สุด

ทั้งที่จริงๆ แล้วการล้างแผลก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญสำหรับการฟื้นตัวของผู้ป่วย อันที่จริงไป๋เยี่ยเองก็ไม่ได้คิดว่าการล้างแผลสำคัญมากต่อการฟื้นตัวของผู้ป่วย จริงๆ แล้วไป๋เยี่ยไม่ได้เป็นคนค้นพบปัญหานี้ แต่เป็นพานเซี่ยงเหนียนที่ชี้ประเด็นให้เขาเห็น กล่าวได้ว่าความช่างสังเกตของเขานั้นน่าประทับใจมาก

ไป๋เยี่ยมีขุมทรัพย์อยู่ในมือ ทว่าเขากลับมีความเข้าใจต่อมันที่จำกัด ในขณะที่คนอย่างพานเซี่ยงเหนียนเป็นคนฉลาดที่ค้นหาขุมทรัพย์จนเจอ

ทว่าไป๋เยี่ยก็ยังคงมีไฟอยู่บ้าง ช่วงนี้เขาจึงไปรอล้างแผลอยู่บ่อยๆ ทั้งพยายามอัปเลเวลทักษะล้างแผลให้ขึ้นเลเวลสี่โดยเร็ว พร้อมกับทำภารกิจล้างแผลสองร้อยครั้งให้เสร็จ เพื่อที่เขาจะได้รับรางวัลเร็วๆ

ไป๋เยี่ยยังคงเฝ้ารอชุดอุปกรณ์ล้างแผลพิเศษระดับกลางอยู่เสมอ

ประมาณบ่ายสามโมง ซ่งเจี๋ยก็ขึ้นมาหาไป๋เยี่ย “มาถึงเร็วจัง หยิบเวชระเบียนมาด้วยนะ เดี๋ยวเราจะลงไปด้วยกัน”

ไป๋เยี่ยใช้เวลาตอนเที่ยงไปกับการอ่านเคสผู้ป่วย พร้อมทั้งจำตัวชี้วัดต่างๆ ที่สำคัญไว้

ซ่งเจี๋ยถามขึ้น “เข้าใจโรคแล้วเหรอ”

ไป๋เยี่ยพยักหน้า “ครับ น่าจะเข้าใจมากขึ้นแล้ว”

ซ่งเจี๋ยส่ายหัว “ในฐานะแพทย์ สิ่งที่คุณต้องทำคือเข้าใจอาการของผู้ป่วยของคุณให้ดี ไม่ใช่มาบอกว่าน่าจะ เพราะว่าระหว่างการผ่าตัดอาจจะเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นได้ เราต้องคิดเผื่อไว้ด้วย”

“แม้จะเป็นแค่การผ่าตัดริดสีดวง แต่อาการก็รุนแรงเอาเรื่องอยู่ เพราะเป็นริดสีดวงแบบผสมระยะที่สามที่อุดช่องทางทวารหนักไว้ วันนี้เราต้องผ่าเป็นวงกลม หัวหน้าอาจจะขอให้คุณช่วยผูกไหมด้วย คุณคิดว่าจะทำได้ไหม”

การผ่าตัดเป็นวงกลมเป็นวิธีการที่ใช้ในการผ่าริดสีดวงชนิดรุนแรง ซึ่งจะผ่าแผลออกเป็นทรงกลมและทำการเย็บลำไส้หลังผ่าตัด ส่วนเรื่องการผูกไหมนั้น ไป๋เยี่ยค่อนข้างมั่นใจมาก ทว่า…เขาก็มีเพียงแค่ความมั่นใจเท่านั้น ไม่ได้มีการฝึกฝนมาก่อนแต่อย่างใด

หลังจากที่เดินเข้าไปในห้องผ่าตัดและสวมชุดผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว ไป๋เยี่ยก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาเล็กน้อย จึงกุมมือตนเองไว้ที่อกอย่างทำอะไรไม่ถูก

เพราะเมื่อสวมชุดและถุงมือแล้วจะห้ามสัมผัสอย่างอื่นต่อ

ตอนนี้ได้ฉีดยาชาให้ผู้ป่วยที่นอนอยู่บนเตียงแล้ว การผ่าตัดจะถูกดำเนินการโดยหัวหน้าพานและอาจารย์ซ่งเจี๋ย โดยมีไป๋เยี่ยเป็นผู้ช่วยของพวกเขา

พวกเขาใช้เครื่องมือในการทำให้ตุ่มริดสีดวงทวารโผล่ออกมาด้านนอก หัวหน้าพานพิจารณาสถานการณ์ตรงหน้าอย่างระมัดระวังแล้วหันไปพูดกับซ่งเจี๋ย “คุณมาทำดีกว่า แต่อย่าลืมผ่าออกให้หมดนะ ผมกลัวว่าต่อไปจะกลับมาเป็นอีก พอผ่าออกหมดแล้วก็เย็บลำไส้…”

หลังจากเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว ซ่งเจี๋ยก็พร้อมลงมือเต็มที่ พยาบาลในห้องผ่าตัดนับอุปกรณ์ผ่าตัดจนครบถ้วนแล้วก็เริ่มส่งอุปกรณ์ต่างๆ ให้ซ่งเจี๋ยตามที่เขาต้องการ

ทว่าจู่ๆ ไป๋เยี่ยก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ

[ค้นพบฉากที่จำลองได้ ต้องการคัดลอกหรือไม่]

ไป๋เยี่ยถึงกับผวา ฉากอะไร อะไรคือฉากที่จำลองได้

ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ถึงสิทธิพิเศษของสมาชิกวีไอพีเลเวลสาม นั่นก็คือห้องแล็ปที่จำลองสถานการณ์ในชีวิตจริงได้ จากนั้นจึงนำฉากนั้นมาทำการทดลองต่างๆ เป็นการฝึกฝนจนบรรลุผลสำเร็จ แต่เพราะว่าก่อนหน้านี้ไป๋เยี่ยไม่เคยเจอกับฉากที่จำลองได้มาก่อน เขาจึงไม่เคยได้ใช้มันเลย ในเมื่อตอนนี้ใช้ได้แล้ว ทำไมเขาจะปล่อยให้โอกาสหลุดมือไปล่ะ!

ไป๋เยี่ยคิดได้ดังนั้นก็รีบเปิดใช้งานทันที

[ติ๊ง! การจำลองฉากต้องเสียค่าใช้จ่าย คุณต้องการจำลองหรือไม่ การจำลองครั้งนี้มีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 10,000 หยวน]

ไป๋เยี่ยนิ่งไป หนึ่งหมื่นหยวน

แล้วเอากลับมาใช้ซ้ำได้ไหมล่ะ

[ติ๊ง! การทดลองจำลองนี้ใช้ได้โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง คุณต้องการจำลองหรือไม่]

ไป๋เยี่ยดีใจมากที่เขานำแบบจำลองนั้นกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ ถือว่าคุ้มกับเงินหนึ่งหมื่นหยวนที่เสียไป เพราะคงไม่มีใครที่ไหนยอมให้ไป๋เยี่ยมาฝึกผ่ากับคนเป็นๆ หรอก อย่างไรเสีย การผ่าตัดก็ต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

จำลอง!

[ติ๊ง! กำลังจำลอง…10%…50%…90%…100%! จำลองสำเร็จ! คลิกที่ฉากจำลองเพื่อเข้าใช้งาน]

ไป๋เยี่ยเห็นปุ่มเปิดใช้งานฉากเสมือนจริงปรากฎขึ้นบนหน้าจอ เมื่อลองคลิกดูก็มีตัวเลือกปรากฎขึ้นมา

[2017-9-27-15: 35: โปรดตั้งชื่อ]