จอมยุทธ์ระบบเลเวล ตอนที่ 171
ความโลภ ความโลภคือสิ่งที่ฉันเทียนมีอย่างเปี่ยมล้น
ในจํานวนแก่นอสูรทั้งสองหมื่นเม็ดนั้นย่อมไม่ขาดแคลนแก่นระดับเจ็ด กระทั่งยังมีแก่นระดับเก้า
สมบัติมากมายขนาดนั้น เขาจะปล่อยให้หลุดมือไปงั้นรึ? ให้ตายก็ไม่ยอม!
หากปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้หลุดมือไป ฉุนเทียนก็ไม่ใช่ฉินเทียนแล้ว
หลังเลื่อนขึ้นเป็นขั้นสวรรค์ ฉุนเทียนก็ต้องการแก่นอสูรมากขึ้น จุดตันเถียนของเขาเองก็ได้แข็งแกร่งขึ้น จากพลังสวรรค์ และตอนนี้มันก็สามารถรองรับแก่นอสูรได้ถึงสิบแก่นแล้ว
หรือก็คือ พลังปราณของเขาจะฟื้นฟูวินาทีละหนึ่งพันจุด
แก่นอสูนจํานวนสองหมื่นแก่น นั่นจะเป็นพลังปราณจํานวนมหาศาเพียงใดกัน?
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกคันที่หัวใจยากจะเกา ไม่ลงมือตอนนี้จะลงมือตอนไหน?
“พี่ใหญ่ฉิน ท่านจะลงมือจริงๆ?”
“ใยไม่หารือกับท่านผู้นําก่อนเล่า?”
“การสังหารพวกอัศวินปีศาจถือเป็นโทษร้ายแรง และมันจะทําให้ทั้งเผ่าสุ่มเสี่ยงจะถูกกวาดล้าง”
หลัวเฟิงกําลังหมอบร่างอยู่หลังหินก้อนใหญ่ ในใจหวาดวิตกจนร่างกายสั่นเทาไม่หยุด สายตาที่เต็มไปด้วยความกังวลหันไปมองฉันเทียนที่อยู่ห่างไปไม่ไกล
“งั้นข้าถามเจ้าหน่อย เจ้าเกลียดพวกมันหรือไม่?”
“เกลียด ข้าเกลียดจนเข้ากระดูกดําเลย!”
“ดี งั้นข้าถามอีกข้อ เจ้าต้องการแข็งแกร่งขึ้นหรือไม่?”
“ต้องการ! แม้ตอนหลับฝันข้าก็ต้องการ!”
ฉันเทียนเผยยิ้มบาง เขายกมือตบบ่าหลัวเฟิงก่อนจะกล่าวอย่างจริงจัง “แค่นี้ก็พอแล้ว ติดตามข้า และข้าจะดูแลเจ้าอย่างดี ภายในครึ่งเดือน ข้าจะทําให้เจ้ากลายเป็นนักรบระดับสิบ”
“นะ….นักรบระดับสิบ?!”
หลัวเฟิงหันไปมองฉันเทียนอย่างเหลือเชื่อ ปัจจุบันเขาเป็นนักรบระดับสี่ที่แทบจะช่วยอะไรเผ่าไม่ได้ ก่อนหน้านี้เขารู้สึกตนเพียงไข้ขึ้นเล็กน้อย ดังนั้นจึงอาสาไปเฝ้าเส้นทางถอยจนลงเอยด้วยสภาพปางตายกลับมาและ กลายเป็นที่หัวเราะเยาะ หากว่าเขากลายเป็นนักรบระดับสิบ ผู้ใดจะยังกล้าหัวเราะเยาะเขาอีก?
คิดถึงตรงนี้ สายตาของหลัวเฟิงก็ลุกโชน
สําหรับผู้บ่มเพาะแล้ว พวกเขาล้วนปรารถนาความแข็งแกร่ง
“เชื่อข้า ไม่เป็นไรหรอก” ฉุนเทียนยิ้มบาง จากนั้นก็พลันขมวดคิ้ว สายตาเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นขึ้นมา “มาแล้ว”
ตึงๆ……
อัศวินปีศาจทั้งสิบแปดนายควบแรดสายฟ้าใกล้เข้ามา เกราะหนาหนักที่พวกมันสวมใส่แผ่ซ่านกลิ่นอายอันชั่วร้ายออกมาจนสร้างความอึดอัดแก่ผู้คน
บนถนนสายหลักคละคลุ้งไปด้วยทรายเหลือง
อัศวินปีศาจเปรียบดั่งผู้แทนพระองค์ของราชาหลัวโหว ดังนั้นความแข็งแกร่งของพวกมันย่อมไม่ธรรมดา
ทุกผู้พบเห็นล้วนต้องหลีกทาง หากว่าไม่ ที่รออยู่ก็คือความตายสถานเดียว
ด้วยเหตุนี้เอง หากว่าพวกอัศวินปีศาจปรากฏตัวขึ้น สิ่งมีชีวิตที่อยู่โดยรอบก็จะแตกฮือหลบหนี ไม่กล้าเข้าไปตอแยพวกมัน
แต่นั่นก็ไม่ใช่กับทุกคน…..
เฉินเทียนโคจรพลังสวรรค์เตรียมโจมตี ค่ายกลเจ็ดสังหารพลันปรากฏขึ้นกลางอากาศ ภายใต้การใช้ออกด้วยพลังสวรรค์ พลังของค่ายกลก็แข็งแกร่งกว่าสามเท่า
จู่ๆก็มีค่ายกลปรากฏขึ้นมา พวกอัศวินปีศาจต่างชะงัก เมื่อตั้งสติได้ก็พากันคํารามอย่างดุร้าย
เจ็ดเล่มพลันพุ่งฝ่าอากาศแทงเข้าใส่พวก
เฉินเทียนแค่นเสียงก่อนจะพุ่งตัวออกไป “จงมา” กระบี่ อัศวินปีศาจ
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
ร่างของอัศวินปีศาจเจ็ดตนถูกกระบี่เจ็ดเล่มพุ่งทะลวงจนกลายเป็นกองขี้เถ้า ผลกระทบจากพลังที่หลงเหลือยังก่อให้ฝุ่นทรายม้วนตลบอบอวล
“ขอแสดงความยินดีสําหรับการได้รับแก่นโลหิต……”
“ขอแสดงความยินดีสําหรับการได้รับแก่นโลหิต……”
เสียงแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้นเจ็ดครั้งติดต่อกัน ทั้งหมดล้วนแจ้งถึงการได้รับแก่นโลหิต ตอนนี้ฉันเทียนยืนยันได้แล้วว่าอัศวินปีศาจเหล่านี้มาจากเผ่าปีศาจจริงๆ และอาจจะเป็นพวกปีศาจที่สาบสูญไปเมื่อหลายปีก่อนอีกด้วย
“อย่างที่คิด พวกมันมาจากชนเผ่าปีศาจ”
ฉินเทียนร่อนร่างลงบนพื้นก่อนจะหยุดยืนที่กลางถนนสายหลัก สายตาจ้องมองไปยังหัวหน้าของพวกอัศวินปีศาจเขม็ง
“เจ้าเป็นใคร?”
หัวหน้าอัศวินปีศาจตกตะลึงก่อนจะเอ่ยถามออกไปด้วยน้ําเสียงเคร่งขรึม กลิ่นอายชั่วร้ายแผ่พุ่งออกจากร่างของมัน สายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างฉุนเทียนไม่คลาดเคลื่อน หอกในมือของมันส่งเสียงนิ่งๆพร้อมจะพุ่งจู่โจมได้ตลอดเวลา
“ข้าเป็นใครนั่นไม่สําคัญเท่าเรื่องที่พวกเจ้ามาจากเผ่าปีศาจหรอก” ฉุนเทียนหัวเราะอย่างปลอดโปร่งไร้กังวล “ของที่อยู่ในแหวนมิตินั่นถูกใจข้ามาก หากอยากรอดก็ทิ้งมันไว้ ข้าต้องการสมบัติ ไม่ใช่ชีวิต”
“ฮ่าๆ…….”
หัวหน้าอัศวินปีศาจเงยหน้าหัวเราะราวกับมันไม่ได้ตกใจแม้แต่น้อยที่สมุนทั้งเจ็ดของถูกสังหารไปในพริบตา
“เหอๆ” ฉุนเทียนหัวเราะตอบ เสียงหัวเราะอันบาดหูของอีกฝ่ายทําให้เขาหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว ฉันเทียนเผยยิ้มเย็นเยียบ พลังแห่งความมืดไหลมารวมกันที่ฝ่ามือของเขาก่อนจะพุ่งออกไป
ภายใต้ผลของพลังสวรรค์ ความเร็วในการพุ่งออกไปจึงรวดเร็วกว่าปกติมาก
พลังแห่งความมืดอันคมกริบประดุจใบมีดได้ซัดใส่หน้าอกของอัศวินปีศาจตนหนึ่งจนส่งเสียงกรีดร้องอย่างน่าเวทนา
จุดสีดําจุดเล็กๆค่อยๆขยายขนาดขึ้นจนกลืนกินหน้าอกของมันไปทั้งแถบ
หัวหน้าอัศวินปีศาจพลันหน้าเปลี่ยนสี
เมื่อหอกในมือถูกกวัดแกว่ง กลิ่นอายรอบร่างของมันก็แปรเปลี่ยนไป รอยยิ้มที่เคยปรากฏอยู่บนใบหน้ามา ตอนนี้กลับแทนที่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง
“หาที่ตาย”
อัศวินปีศาจสิ้นายกระตุ้นแรดสายฟ้าให้พุ่งออกไป เกิดเป็นเสียงดังตึงตั้งเป็นทางยาว
“สัตว์ปีศาจ?”
“มาวมาว!” ได้ยินฉุนเทียนตะโกนเรียก มาวมาวก็พุ่งออกมาจากแหวนมิติและเข้าสู่โหมดต่อสู้ทันที
มาวมาวในตอนนี้ไม่ใช่เพียงราชสีห์เนตรโลหิตระดับหกอีกต่อไป ความแข็งแกร่งของมันในเวลา ขึ้นมาก
มาวมาวสะบัดอุ้งเท้า คมมีดสายลมขนาดใหญ่สองสายก็พุ่งออกไป
ขณะที่คมมีดสายลมพ่งตรงออกไปก็ก่อให้เกิดเสียงหวีดหวิวดังขึ้นมา
มองเห็นระลอกคลื่นไร้รูปร่างที่เกิดขึ้นจากเสียงคําราม ฉุนเทียนก็ตกตะลึง “โจมตีด้วยคลื่นเสียง?”
“มันไปเรียนมาจากไหน?”
ร่างต่อสู้ของมาวมาวเองก็สร้างความตกตะลึงให้ฉุนเทียนเช่นกัน ทั่วร่างของมันตอนนี้มีแสงสีทองแผ่ซ่านออกมาเสมือนกําลังสวมใส่เกราะทองคําอยู่
หรือการที่เราเลื่อนเป็นวันสวรรค์ได้จะทําให้มันแข็งแกร่งขึ้น?” ฉุนเทียนประหลาดใจ ระบบสัตว์เลี้ยงคงไม่ใช่แบบนี้หรอกมั้ง?”
ฉินเทียนไม่เข้าใจว่าทําไมมาวมาวถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน มันยกระดับตัวเองด้วยวิธีไหน?
“คิกๆ…”
จู่ๆในศีรษะของเขาก็ปรากเสียงหัวเราะของเด็กทารก จิตใจของฉันเทียนพลันเขม็งตึง เขารีบเพ่งสมาธิไปที่จุดตันเถียน
ไม่ได้มีเพียงแต่มาวมาวที่เปลี่ยนไป
แม้แต่ตัวอ่อนปีศาจก็เกิดการเปลี่ยนแปลง
บนร่างของตัวอ่อนปีศาจสวมใส่ไว้ด้วยเกราะสีโลหิต ร่างของมันยังเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ตัวอ่อนปีศาจหัวเราะคิกคักพลางกลิ้งตัวไปมาอย่างอารมณ์ดี
ฉินเทียนรีบเปิดหน้าต่างระบบตรวจดูสถานะของตัวอ่อนปีศาจ เมื่อได้เห็นรายละเอียดต่างๆแล้ว ฉินเทียนก็ตื่นเต้นขึ้นมา
ตัวอ่อนปีศาจ: วัฏจักรที่ 1
ระดับ: 15
พลังชีวิต: 170,000
ทักษะ: ทักษะควบคุมขั้นสูง
เพิ่มเติม: ที่วัฏจักรที่ 1 ตัวอ่อนปีศาจจะสามารถออกจากร่างผู้เล่นเพื่อโจมตี ,ตัวอ่อนปีศาจมีศักยภาพไร้ขีดจํากัดในการเติบโต
ระดับเพิ่มขึ้น?
และมันกระทั่งวิวัฒนาการ!
ตัวอ่อนปีศาจในตอนนี้มีรูปลักษณ์คล้ายกับเด็กอายุสามสี่ขวบที่มีพลังชีวิตหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นจุด แต่ที่ทําให้ฉินเทียนตื่นเต้นยินดีก็คือ ที่วัฏจักรที่ 1 ตัวอ่อนปีศาจจะสามารถออกจากร่างผู้เล่นเพื่อโจมตี” นี่หมายความว่ามันสามารถออกมาจากตันเถียนของเขาได้!
“ปีศาจน้อย ที่มาวมาวแข็งแกร่งขึ้นนี้เป็นฝีมือเจ้า?” ฉุนเทียนระงับความตื่นเต้นก่อนจะเอ่ยถามออกไปด้วยท่าทางจริงจัง
“มาวมาวอ่อนแอเกินไป หากข้าไม่ช่วยสักเล็กน้อย ในอนาคตมันยังจะเล่นกับข้าได้เหรอ?” ตัวอ่อนปีศาจทําหน้ามุ่ย “ข้านั้นแข็งแกร่งยิ่ง หึๆ…”
“แข็งแกร่งแค่ไหน?”
“ไม่อ่อนแอกว่าเจ้าก็แล้วกัน” ปีศาจน้อยหัวเราะอย่างซุกซน
ฉินเทียนลอบตะลึงอยู่ในใจ ตัวอ่อนปีศาจเติบโตเร็วมาก แต่อย่างไรก็ตาม นี่ก็หมายความว่าเขาจะมีผู้ช่วยอันเข้มแข็งเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่ง นี่จะกลายเป็นไพ่ตายของเขาอีกใบ
ตู้ม…………
ร่องรอยของความวินาศปรากฏอยู่โดยรอบ มีหลุมบ่อบังเกิดขึ้นเกลื่อนกล่น ในเวลาไม่ถึงครึ่งนาที อัศวินปีศาจทั้งสี่ก็ถเปลี่ยนเป็นเศษเนื้อ มาวมาวสะบัดขนสีทองพลางจับจ้องไปยังพวกที่เหลือด้วยดวงตาแดงฉาน จากนั้นมันจึงส่งเสียงคํารามเป็นการประกาศศักดา
“มาวมาวกลับมา”
“ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง ส่งแหวนมิติมา แล้วบิดาจะไว้ชีวิต”
“เจ้าเป็นใครกันแน่?” ในที่สุดหัวหน้าอัศวินปีศาจก็บังเกิดความกลัวขึ้นมา มันจ้องฉุนเทียนขณะที่กลิ่นอายเย็นเยียบเริ่มหลั่งไหลออกจากร่าง “ในเมื่อรู้ว่าพวกเรามาจากเผ่าปีศาจก็จงจากไปเสีย เจ้าแบกรับผลที่ตามมาไม่ไหวหรอก”
พลังชั่วร้ายเริ่มขยายตัวออกไปทั่วบริเวณ
“พลังชั่วร้าย?”
ฉันเทียนหัวเราะก่อนจะส่ายหัว “ให้โอกาสเจ้าไปสองครั้ง เจ้ากลับไม่ไขว่คว้าเอาไว้ คนอย่างเจ้านี้น้า มาถึงหน้าประตูนรกแล้วยังไม่รู้ตัวอีก”
“เป็นปีศาจสินะ งั้นบิดาจะให้เจ้าได้เห็นว่าสิ่งใดกันแน่ที่เรียกว่าปีศาจ….”
ฉันเทียนหัวเราะอย่างชั่วร้าย “เปิดโหมดปีศาจ…..”
แกร่กๆ…..
ไม่ถึงครึ่งลมหายใจ ร่างกายของฉันเทียนก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน สีผิวทั่วร่างกลายเป็นสีแดงกลางหน้า ผากมีเขางอกขึ้นมาอันหนึ่ง ที่แผ่นหลังยังมีปีกคู่ที่ชโลมไปด้วยงอกออกมา กลิ่นอายบนร่างก็เปลี่ยนเป็นชั่วร้ายสุดขั้ว
“นายท่านปีศาจสวรรค์?!”
เหล่าอัศวินปีศาจต่างผงะถอยหลังด้วยความหวาดหวั่น ดวงตาของพวกมันล้วนถูกปกคลุมไปด้วยความกลัว
“เป็นไปได้อย่างไร?”
“นี่มันเป็นไปไม่ได้…”
“เมื่อครั้งสงครามโบราณ ปีศาจสวรรค์ได้ร่วงหล่น แล้วนี่ยังจะมีปีศาจสวรรค์อยู่ได้อย่างไร?”
ฝ่ามือสีแดงหุบกําเข้าหากันขณะที่ปากพ่นลมหายใจคราหนึ่ง หมอกสีแดงอันมีกลิ่นฉุนของโลหิตพลันลอยออกมาตามการระบายลมหายใจนั้น “ฮ่าๆ…….”
ห้วงอากาศเหนือศีรษะขึ้นไปเกิดปรากฏการณ์แสงสีแดงส่องสว่างไม่ต่างจากสีของทะเลเลือด
ปีศาจสวรรค์ จ้าวแห่งการเข่นฆ่า
เมื่อดวงตาสีโลหิตจ้องมองไปยังกลุ่มแสงสีแดงนั้น ห้วงอากาศก็พลันสั่นไหว ฉุนเทียนคํารามอย่างเกรี้ยวกราดคราหนึ่ง แสงสีแดงนั้นก็แผ่อํานาจทําลายล้างอันไร้สิ้นสุดออกมา
ลึกๆ…………..
ตอนต่อไป →