บทที่ 178 คุณตายอย่างมีค่า

หมอเทวดาขอกลับมาเป็นป๊ะป๋า

บทที่ 178 คุณตายอย่างมีค่า

บทที่ 178 คุณตายอย่างมีค่า

เสียงกู่ฉินไพเราะเสนาะหูและกลิ่นหอมของชายังคงติดปลายลิ้น

โจวอี้หลับตาและเอนหลังพิงโซฟา เรียกใช้พลังปราณในร่างกายของเขาอย่างเงียบ ๆ ซ้ำ ๆ เพื่อให้จิตใจสงบขึ้นและขจัดอารมณ์ขุ่นมัวในใจ

การฆ่า!

เขายังไม่ชินกับมันอยู่ดี

แม้คนที่เขาฆ่าจะเป็นศัตรูก็ตาม

เปลือกตาหนักอึ้งทำให้เขาผล็อยหลับไปที่โซฟา

ซีชิงอิ่งกำลังเล่นกู่ฉิน ดวงตาที่สวยงามของเธอกวาดมองโจวอี้เป็นครั้งคราว เมื่อเธอกำลังจะบรรเลงเพลงจนจบ เธอก็ได้ยินเสียงกรนเล็กน้อยของโจวอี้

เผลอหลับ?

ชาหอม ๆ ดนตรีโบราณ และสาวงาม

เขาเผลอหลับไปในสภาพแวดล้อมเช่นนี้?

ชายังหอมไม่พอ? เพลงไม่ดีพอ? หรือว่าเธอยังสวยไม่พอ?

ซีชิงอิ่งรู้สึกทั้งอยากหัวเราะและร้องไห้ เธอลุกขึ้นอย่างนุ่มนวล ย่องไปที่ห้องถัดไป ก่อนจะหยิบผ้าห่มผืนบางกลับมาคลุมร่างของโจวอี้ จากนั้นเธอก็นั่งลงตรงข้ามโจวอี้ นั่งเท้าคางบนโต๊ะน้ำชา สายตาก็ชื่นชมใบหน้าหล่อเหลาอย่างเงียบ ๆ

หลังจากผ่านไปนาน เธอก็ค่อยๆ ส่ายหัวและลุกขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก

หลังจากเห็นถุงชอปปิงที่โจวอี้นำเข้ามาด้วย เธอเดินเข้าไปตรวจสอบก็พบว่ามีเสื้อผ้าอยู่ในนั้น ในขณะที่ด้านบนของแขนเสื้อมีหยดเลือดสีแดง

เสื้อผ้าเปื้อนเลือด?

ซีชิงอิ่งลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองโจวอี้และพบว่าเขายังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น เธอจึงหยิบเสื้อและกางเกงที่อยู่ในถุงออกมา

“ทำไมเลือดเยอะจัง ไม่เหมือนเลือดที่ไหลจากตัวเขาเลย แต่เหมือนกระเด็นมาโดนตัว ก่อนหน้านี้เขาไปรักษาแผลให้ใครมาหรือเปล่า”

“ไม่สิ มีรอยฉีกใต้แขนเสื้อ และยังมีรอยฉีกที่มีเลือดติดอยู่ที่หลังด้วย มันดูเหมือนจะถูกตัดด้วยอาวุธมีคม”

“เขาไปทำอะไรมา?”

ซีชิงอิ่งยัดเสื้อผ้าเปื้อนเลือดของโจวอี้กลับเข้าไปในถุงและกำลังจะออกไปข้างนอก ทันใดนั้นเธอก็พบร่างหนึ่งอยู่ที่ประตู

เขาเป็นชายชราหลังค่อม ถักเปียสวมเสื้อผ้าที่ดูโบราณ มีงูเขียวตัวเล็กพันรอบข้อมือซ้าย และมือขวาถือไม้เท้า

สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือดวงตาสีเข้มและริมฝีปากสีม่วงของเขา

“คุณเป็นใคร?” ซีชิงอิ่งถอยหลังไปสองก้าวและถามอย่างระมัดระวัง

เธอกลัวงูมาก และงูเขียวตัวเล็กนี้ก็แลบลิ้นออกมา ทำให้เธอรู้สึกหนาวไปถึงสันหลัง

อีกฝ่ายไม่ได้เปิดปากพูด แต่ดวงตาที่เย็นชาของเขาจับจ้องไปที่โจวอี้

โจวอี้ตื่นขึ้นมา ถึงเขาจะหลับไปแต่เขาก็จะตื่นทันทีหากมีเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผิดปกติดังขึ้น ตัวอย่างเช่นก่อนที่ซีชิงอิ่งจะคลุมตัวเขาด้วยผ้าห่มผืนบาง เขาตื่นขึ้นมาและหลับไปอีกครั้งหลังจากตัดสินว่าไม่มีอันตราย

“ตื่นแล้วเหรอ แค่ก ๆ” เสียงแหบแห้งดังมาจากปากของต้าเจียงอู เขายกมือขึ้นปิดหน้าอกและไอออกมาเล็กน้อย

“นั่นคุณเองเหรอ”

“รู้จักฉัน?” ต้าเจียงอูหรี่ตา “เรามาคุยเรื่องธุรกิจกันดีไหม”

“อยากให้ผมล้างพิษให้ใช่ไหม” โจวอี้ถาม

“ใช่ ช่วยฉันล้างพิษด้วย ฉันยินดีจ่ายค่ารักษาด้วยสมบัติล้ำค่า” หลังจากที่ต้าเจียงอูพูดจบ เขาก็หยิบแร่สีดำชิ้นหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อแล้วพูดว่า “แร่นี้เป็นหนึ่งในสิบอันดับของแร่ล้ำค่าในโลก มันเป็นสมบัติล้ำค่าที่ผู้แข็งแกร่งหลายคนต่างใฝ่ฝัน”

“ดูเหมือนคุณจะเข้าใจบางอย่างผิดไปนะ” โจวอี้ลุกขึ้น สายตาจ้องมองไปที่แร่แล้วพูดอย่างเฉยเมย “สำหรับพวกนักหลอมสมบัติ แร่ชิ้นนี้คงเป็นสมบัติในฝัน แต่สำหรับนักหลอมยาแบบผม มันก็เป็นเพียงของราคาแพงที่ไม่ได้มีประโยชน์มากนัก”

“ไม่ว่านายจะใช้มันเองหรือขายให้ใคร มันก็คุ้มอยู่ดีไม่ใช่เหรอ แค่แลกกับค่ารักษาให้ฉัน”

“ก็จริง!” โจวอี้พยักหน้า

“นายจะล้างพิษให้ฉันได้ที่ไหน” ต้าเจียงอูถาม

“ที่นี่!” หลังจากโจวอี้พูดจบ เขาก็มองไปที่ซีชิงอิ่งและพูดว่า “ตัวตนของเขาค่อนข้างพิเศษน่ะ ผมจะเชื่อใจคุณได้ไหมถ้าผมจะทำอะไรก็ตามหลังจากนี้”

“ได้!” ซีชิงอิ่งพยักหน้า

“ถ้าอย่างนั้นคุณจะต้องเปลี่ยนพรม” หลังจากโจวอี้พูดจบ เขาก็ชี้ไปที่โต๊ะน้ำชาและพูดกับต้าเจียงอูว่า “นั่งขัดสมาธิบนนั้น แล้วผมจะล้างพิษให้คุณ”

“ได้!” ต้าเจียงอูเดินมานั่งขัดสมาธิบนโต๊ะน้ำชา และมองโจวอี้ก็เดินอ้อมมาข้างหลังเขา

โจวอี้ไม่รีบเร่งที่จะฝังเข็มให้ต้าเจียงอู แต่เอื้อมมือไปจับข้อมือของอีกฝ่ายเพื่อสัมผัสชีพจร

“คุณน่าจะถูกวางยาพิษมาสักระยะแล้ว ถ้าผมเดาถูก คุณน่าจะถูกวางยาระหว่างการประมูลหม้อระงับวิญญาณเมื่อไม่นานมานี้ คุณพึ่งพาการฝึกฝนที่ลึกซึ้งของคุณเพื่อยับยั้งสารพิษและป้องกันไม่ให้สารพิษรุกเข้าสู่อวัยวะภายใน แต่สารพิษในร่างกายของคุณร้ายแรงมาก คุณเริ่มไม่สามารถยับยั้งมันได้แล้ว และมีแนวโน้มว่าจะพ่ายแพ้มัน จริงไหม?” โจวอี้วิเคราะห์

“ใช่!”

“ผมจะฝังเข็มให้คุณตอนนี้เพื่อระบายพิษ อย่าเคลื่อนไหวระหว่างฝังเข็มล่ะ” โจวอี้ออกคำสั่ง

“เข้าใจแล้ว!” ต้าเจียงอูพยักหน้า

โจวอี้เอากล่องไม้ออกมาและหยิบเข็มเงินแทงเข้าไปอย่างรวดเร็วตามจุดต่าง ๆ ที่ร่างกายของต้าเจียงอู เมื่อเข็มเงินแปดเล่มแทงเข้าจุดเรียบร้อย โจวอี้ก็ถือเข็มเงินเล่มสุดท้ายไว้ในมือและแทงเข้าไปในจุดไป่ฮุ่ยของต้าเจียงอู

ต้าเจียงอูตัวสั่น ดวงตาเริ่มพร่ามัว อาการวิงเวียนอย่างรุนแรงปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน

“นี่แก…” ต้าเจียงอูพยายามยกแขนและนิ้วขึ้น เขาหันศีรษะด้วยความยากลำบาก

โจวอี้ก้าวถอยหลังไปสองก้าว สายตาจ้องมองไปที่ชายชรา และพูดอย่างใจเย็นว่า “ครั้งหนึ่งผมเคยสัญญากับคนคนหนึ่งไว้ว่าจะฆ่าคุณทันทีที่ได้พบ ผมคิดว่าคำสัญญานั้นคงยากที่จะทำได้ เพราะโอกาสที่เราจะได้พบกันมันน้อยนัก แต่ใครจะคิดว่าคุณจะเดินเข้ามาหาผมเองซะงั้น”

“ใคร?” การแสดงออกทางสีหน้าของต้าเจียงอูเริ่มบิดเบี้ยว

“ไม่ต้องสนหรอกว่าจะเป็นใคร! แค่รู้เอาไว้อย่างเดียวพอว่าคุณได้ใช้ชีวิตช่วยให้ผมได้ทำตามสัญญานั้นสำเร็จ การตายของคุณมันคุ้มค่าแล้วล่ะ” โจวอี้กล่าวอย่างเย็นชา

ต้าเจียงอูทั้งโกรธและหวาดกลัว หลังจากอาการวิงเวียนรุนแรงขึ้น ร่างกายของเขาก็เริ่มเอียง จากนั้นก็ล้มลงกับพื้น ร่างกายกระตุกและเสียชีวิตทันทีที่กระอักเลือดออกมา

ซีชิงอิ่งจ้องมองฉากที่เกิดขึ้นพลางอ้าปากค้าง

ตาย?

หมอโจวฆ่าคน?

ในโรงน้ำชาของเธอ? ต่อหน้าเธอด้วย?

จู่ ๆ เธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมโจวอี้ถึงถามเธอว่าให้ไว้ใจเขา

โจวอี้มองไปที่ซีชิงอิ่งและพูดอย่างใจเย็นว่า “สิ่งที่ผมพูดกับเขาเป็นความจริง ผมสัญญากับคนที่สำคัญกับผมเอาไว้ว่าถ้าผมเจอชายชราคนนี้ ผมต้องฆ่าเขา”

“คนคนนี้คือใคร?” ซีชิงอิ่งถามขณะพยายามควบคุมอารมณ์ของเธอ

“ผู้ฝึกยุทธ์ที่โหดเหี้ยมในโลกแห่งผู้ฝึกยุทธ์ เขาชอบฆ่าคนเพื่อปล้นสิ่งของมีค่า เขาสามารถทำความชั่วได้ทุกอย่างเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง” โจวอี้กล่าว

“สรุปคือเขาเป็นคนไม่ดี?”

“ใช่!”

ซีชิงอิ่งไม่พูดอะไรอีกต่อไป แต่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและกดหมายเลขและโทรออก หลังจากปลายสายรับโทรศัพท์เธอก็รีบพูดว่า “บอกแขกในโรงน้ำชาว่าวันนี้เราจะปิดร้านเร็ว หลังจากที่แขกออกไปแล้ว ให้พนักงานทุกคนในโรงน้ำชาเลิกงานก่อนเวลาทันที ส่วนคุณเป็นคนสุดท้ายคอยดูไม่ให้มีใครอยู่ที่นี่อีกแล้วค่อยออกไป”

“เข้าใจแล้ว” คำตอบง่าย ๆ นั้นดังออกมาจากโทรศัพท์มือถือ

ซีชิงอิ่งวางสายและมองไปรอบ ๆ ก่อนจะถามว่า “แล้วฉันควรทำยังไงต่อไปดี”

“จะมีคนมาจัดการกับศพนี้เอง เราไม่ต้องทำอะไร”

“อืม!”