บทที่ 177 การออดิชันที่ประสบความสำเร็จ
บทที่ 177 การออดิชันที่ประสบความสำเร็จ
อันตรายที่ซุ่มซ่อนอาจส่งผลร้ายได้ในอนาคต
โจวอี้เคยเป็นนักล่าในภูเขาและป่าที่ห่างไกล เขาระมัดระวังเสมอเวลาล่าเหยื่อ เขาไม่เคยปล่อยให้เหลือเสี้ยนหนามทิ้งไว้ ดังนั้นแม้ว่าพวกศิษย์สายนอกของนิกายดอกบัวขาวที่เหลืออยู่จะไม่ได้มีพิษภัยมาก แต่เขาก็จะไม่ประมาท
“ตรวจสอบให้ผมด้วย ทำได้ใช่ไหม” โจวอี้กล่าวอย่างจริงจัง
“เกรงว่าองค์กรข่าวกรองของตลาดมืดจะมีคนแอบแฝงอยู่” เฉิงฮ่าวลังเล
“ไม่เป็นไร ตัวตนของคุณคือโล่ป้องกันที่ดีที่สุด หากคนจากนิกายเร้นลับมาหาคุณอีก คุณก็ไม่ต้องกังวล มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะบอกพวกเขาว่าคุณต้องการค้นหาศิษย์ของนิกายเดียวกันเพื่อรับยารักษาชีวิตนั่น” โจวอี้กล่าวอย่างใจเย็น
แววตาของเฉิงฮ่าวเป็นประกาย
หลังจากที่โจวอี้เตือนเขา เขาก็ตระหนักได้ว่าตอนนี้เขายังคงเป็นศิษย์ของนิกายดอกบัวขาว มันคงไม่มีปัญหาในการไปตลาดมืดเพื่อสอบถามข่าวของศิษย์นิกายดอกบัวขาวโดยอ้างเหตุผลว่าต้องการตามหายา
“ถ้างั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ผม”
“อืม ระวังตัวด้วย” โจวอี้พยักหน้า จากนั้นเขาเดินจากไป
เมืองภาพยนตร์
หลังจากที่ถังหว่านมาถึงสถานที่ถ่ายทำละครเรื่อง “Crossing the Jianghu” หลายคนก็ให้ความสนใจกับเธอเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้กำกับถังจี้โจวที่ให้การต้อนรับเธอเป็นการส่วนตัวและให้เกียรติเธอมาก
เฉินอันฉีเองก็ได้พบถังหว่าน
นี่เป็นครั้งที่สองที่เธอได้พบกับถังหว่าน เพราะครั้งแรกคือที่คอนเสิร์ตของอู๋หมิ่นหรู
เธอชอบถังหว่านมาก
เธอรู้ดีแก่ใจว่าวงการบันเทิงเป็นเสมือนกรงขนาดใหญ่ที่มีสัตว์ประหลาดและภูตผีปีศาจมากมาย แต่ถังหว่านสามารถอยู่คนเดียวได้และรักษาตัวเองให้บริสุทธิ์อยู่เสมอ ไม่มีเรื่องอื้อฉาว ไม่มีข้อมูลด้านลบที่ยุ่งเหยิง เป็นธารน้ำสะอาดที่หาได้ยาก
แน่นอนว่าเพลงโปรดของเธอคือเพลงของถังหว่าน
“อันฉี ถังหว่านเป็นนักร้องไม่ใช่เหรอ ทำไมเธอถึงมาที่กองถ่ายของเราล่ะ หรือว่าเธอจะมารับบทเป็นนักแสดงนำหญิงลำดับสอง?” หม่าเซียวลี่ถามอย่างสงสัย
“ฉันไม่รู้” เฉินอันฉีส่ายหัว เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “แต่ภาพลักษณ์และอารมณ์ของเธอเหมาะกับการเล่นบทนั้นจริง ๆ”
“ก็ถูก เธอสวยกว่าหลิวเสวียนเสวี่ยน และนิสัยก็ดีกว่าด้วย เหมาะสมจริง ๆ แต่เธอมีทักษะการแสดงเหรอ เธอจะแสดงได้ไหม?” หม่าเซียวลี่ถาม
“คงต้องลองออดิชันก่อน” เฉินอันฉีตอบ
ภายในห้องประชุม
ถังหว่านเพิ่งเสร็จสิ้นการออดิชัน และผลลัพธ์ไม่เพียงทำให้ถังจี้โจวพอใจ แต่ยังทำให้เกาชง แอบพยักหน้าด้วยความพอใจ พวกเขารู้สึกว่าทักษะการแสดงของถังหว่านนั้นน่ายกย่อง
ถังจี้โจวคิดว่าถังหว่านเกิดมาเพื่อเป็นนักแสดง
“ถังหว่าน ขอแสดงความยินดีด้วย” เกาชงยิ้ม “ผมไม่คาดฝันเลยว่าเราจะมีโอกาสได้ร่วมงานกัน”
“โปรดให้คำแนะนำเพิ่มเติมแก่ฉันด้วยนะคะ พี่เกาชง” ถังหว่านยิ้ม
เวลานี้เธอมีความสุขเล็กน้อย เพราะเธอคิดว่าความสามารถที่แท้จริงของเธอในการเอาชนะบทนักแสดงนำหญิงลำดับสองจะทำให้โจวอี้ต้องมองเธอใหม่อย่างแน่นอน เธออยากจะเห็นว่าโจวอี้จะมีสีหน้าที่ยอดเยี่ยมแบบไหนถ้ารู้ว่าเธอสามารถทำได้
ถังจี้โจวพยายามมาอย่างหนักเพื่อเฟ้นหานักแสดงนำหญิงลำดับสองคนใหม่ ดังนั้นเมื่อตอนนี้ได้คนแล้ว เขาจึงพูดขึ้นทันทีว่า “ถังหว่าน วันนี้เธอพักก่อน เราจะให้คุณเริ่มงานพรุ่งนี้! เราจะถ่ายทำที่นี่ประมาณหนึ่งเดือน จากนั้นเราจะไปถ่ายทำที่เมืองอื่นต่อ”
“เริ่มพรุ่งนี้เลยเหรอ” ถังหว่านตกตะลึงและประหลาดใจ
แม้ว่าเธอจะอ่านบทและผ่านการออดิชันแล้ว แต่การเริ่มถ่ายทำในวันพรุ่งนี้ทำให้เธอกังวลเล็กน้อย
“ใช่ เราไม่สามารถชะลอการถ่ายทำบทของนักแสดงนำหญิงลำดับสองได้อีกแล้ว” ถังจี้โจว อธิบาย
“นี่…” ถังหว่านมองไปที่เฉินอ้ายหลินซึ่งมากับเธอด้วย
เฉินอ้ายหลินพาถังหว่านออกไปและถามว่า “อัลบั้มใหม่ของคุณเสร็จเรียบร้อยแล้ว และสิ่งต่อไปที่ต้องทำคือการโปรโมต ถ้าคุณอยู่ที่นี่นานเกินไป มันจะส่งผลกระทบต่อยอดขายอัลบั้มใหม่คุณควรคิดให้ดี ๆ”
“กำหนดวันออกอัลบั้มหรือยัง” ถังหว่านถาม
“ความคิดของผู้อำนวยการหลิวคือเป็นวันที่ 1 มกราคมซึ่งเป็นวันปีใหม่ เพราะงั้นครึ่งเดือนหน้าจึงสำคัญมาก”
ถังหว่านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “คุยกับผู้อำนวยการถัง ยื่นเงื่อนไขว่าฉันต้องมีเวลาว่างในการทำกิจกรรมโปรโมตอัลบั้มใหม่ระหว่างการถ่ายทำด้วย ถ้าเขาตกลง ฉันรับจะรับงานถ่ายละครนี้”
“ถ้าทำแบบนั้น ช่วงนี้คุณจะเหนื่อยมาก” เฉินอ้ายหลินเตือน
“ไม่เป็นไรหรอก!”
ไม่นานหลังจากการเจรจาระหว่างเฉินอ้ายหลินและถังจี้โจว สุดท้ายก็เป็นไปตามความคิดของถังหว่าน เธอจะมีเวลาว่างสองวันต่อสัปดาห์เพื่อโปรโมตอัลบั้มใหม่
ซุนเหมิงมาพบถังหว่านในเวลาเที่ยง
“พี่หว่าน ฉันได้บัตรห้องพักมาแล้ว ตั้งแต่วันนี้เราพักอยู่ในห้องที่ทีมงานจัดเลยไหม” ซุนเหมิงถาม
“เราจะกลับกันก่อน”
“กลับไปไหน? กลับไปที่จินหลิงเหรอ?”
“ใช่”
เธอต้องการทำอาหารให้โจวอี้แม้ว่าทักษะการทำอาหารของเธอจะธรรมดา และแม้ว่าเธอจะรู้ว่าแค่ทำอาหารให้อาจยังไม่สามารถง้อโจวอี้ได้ แต่เธอก็ยังต้องการกลับไปทำอาหารให้เขา
เมืองจินหลิง
ท่ามกลางลมหนาวที่โหมกระหน่ำ โจวอี้สวมเสื้อสเวตเตอร์ขนสัตว์ เขาถือถุงชอปปิงหลายใบเข้าไปในโรงน้ำชาปาซาน จองห้องชงชาแบบสุ่ม และบอกพนักงานร้านว่าอย่ารบกวนเขาหากไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นเขาก็ล็อกประตูจากข้างใน
เขาฆ่าคนมาในวันนี้ เสื้อผ้าของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด
เขาไม่รีบกลับบ้านเพราะกลัวว่าถังเสี่ยวถังและถังเสี่ยวรุ่ยอาจพบคราบเลือดบนร่างกายของเขา ดังนั้นเขาจึงซื้อเสื้อผ้าและไปที่โรงน้ำชาปาซานเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า และอีกอย่างหนึ่งคือเขามาเพื่อรักษาซีชิงอิ่ง
แน่นอนว่าสองเหตุผลนี้ไม่ใช่เหตุผลหลัก
เพราะหลังจากที่เขาฆ่าคน เขายังคงมีอารมณ์ที่ขุ่นมัว
เขาจำเป็นต้องขจัดอารมณ์นี้อย่างช้า ๆ ภายในสภาพแวดล้อมเช่นโรงน้ำชาปาซาน
หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว โจวอี้ก็เอาชุดที่เปื้อนเลือดยัดลงในถุงชอปปิงวางไว้ที่มุมห้อง แล้วขอให้พนักงานสาวเข้ามาชงชาให้เขา
“คุณโจว เจ้านายของเรากำลังชงชาอยู่ เธอบอกว่าถ้าคุณต้องการดื่มชา คุณสามารถขึ้นไปที่ห้องสำนักงานได้” พนักงานหญิงยิ้ม
“ขอบคุณ!” โจวอี้หยิบถุงชอปปิงและไปที่สำนักงานของซีชิงอิ่งที่ชั้นบน
เวลานี้ซีชิงอิ่งกำลังต้มน้ำและเล่นกับใบชา เมื่อเธอได้ยินเสียงเคาะประตู เธอก็หันไปเห็นโจวอี้ที่กำลังเดินเข้ามา
“หมอโจว ช่วงนี้คุณยุ่งหรือเปล่า” ซีชิงอิ่งลุกขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“มีบางอย่างที่เพิ่งได้รับการแก้ไขน่ะ” โจวอี้ยิ้ม
“ดื่มชาร้อนหลังจากแก้ปัญหาได้แล้วจะเป็นวิธีการผ่อนคลายที่ดีที่สุด ฉันชงชาต้าหงเผาให้คุณ คุณค่อย ๆ ดื่มมันนะ”
“คุณไม่จำเป็นต้องชงชาต้าหงเผามาให้ผมตลอดก็ได้นะ ไม่งั้นมันคงหมดสต็อกก่อนที่ผมจะรักษาคุณจนหายขาด” โจวอี้พูดพลางถอดรองเท้า วางถุงช้อปปิ้งไว้ที่ประตู แล้วเดินไปที่โต๊ะน้ำชา