คุณหนู​พาน​ต้อง​ไป​แล้ว​หรือ​?

หวัง​ซีฟัง​แล้ว​รู้สึก​เศร้า​เล็กน้อย​ ​แต่​ยังคง​ตอบรับ​คำเชิญ​ของ​นาง​อย่าง​ยินดี​ ​มารดา​ของ​คุณหนู​พาน​เดินทาง​มา​จิง​เฉิง​ ​แม่​ลูก​ได้​พบ​หน้า​กัน​อีกครั้ง​ถือเป็น​เรื่อง​น่ายินดี

อย่างไรก็ตาม​ ​เนื่องจาก​คุณหนู​พาน​ต้อง​ไป​แล้ว​ ​พวก​นาง​จึง​มีเรื่อง​ต้อง​คุย​กัน​มากมาย​ ​เช่น​จะ​ย้ายออก​ยาม​ใด​ ​ต้อง​ช่วย​อะไร​หรือไม่​ ​ย้าย​ไป​อยู่​ที่ไหน​ ​และ​งานแต่ง​กับ​ตระกูล​หลิว​จะ​จัด​ขึ้น​เมื่อไร​เป็นต้น

แต่เดิม​คุณหนู​พาน​ก็​มา​จิง​เฉิง​ด้วย​เรื่อง​ดอง​กับ​ตระกูล​หลิว​ ​ฉะนั้น​เรื่อง​ออกเรือน​จึง​เป็นเรื่อง​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ ​นาง​ตอบคำถาม​ของ​หวัง​ซี​และ​ฉัง​เคอ​ทีละ​ข้อ​ๆ​ ​ด้วย​ความ​ขัดเขิน​ ​ทันใดนั้น​มีเสียง​อึกทึก​หนึ่ง​ดัง​เข้ามา​จาก​ด้านนอก​ ​เสียงดัง​จน​กลบ​บทสนทนา​ของ​พวก​นาง​จน​หมด

หวัง​ซี​ขมวดคิ้ว​ ​ส่ง​ไป๋​กั่ว​ไปดู​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​ไป๋​กั่ว​กลับมา​รายงาน​ว่า​ ​“​ที่​สวน​หิมะ​งาม​ ​คุณหนู​ซือ​บอกว่า​ต้องการ​ย้ายออก​ไป​ ​โหวฮู​หยิน​ได้รับ​คำสั่ง​จาก​ท่าน​โหว​มาช​่วย​คุณหนู​ซือ​ย้ายบ้าน​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​เอง​ก็​มาด​้วย​ ​แต่​ผู้ใด​จะ​รู้​ว่า​ตานห​มัว​มัว​ที่​ล่วงหน้า​ไป​เก็บกวาด​จวน​ตระกูล​ซือ​กลับมา​บอกว่า​ ​จวน​ตระกูล​ซือ​ถูก​ศาล​ต้า​หลี​่​ปิดทาง​เอาไว้​ ​ไม่​อนุญาต​ให้​คน​เข้า​อาศัย​ชั่วคราว​ ​บ่าวไพร่​ที่​เคย​รับใช้​อยู่​ที่​จวน​ตระกูล​ซือ​ก็​ถูก​มัด​แล้ว​พาตัว​ไป​ที่​ศาล​ซุ่น​เทียน​ ​รอ​ศาล​ต้า​หลี​่​ตัดสินโทษ​ ​หาก​คุณหนู​ซือ​ย้ายออก​ไป​ในเวลานี้​ ​คง​ไม่มี​ที่​ให้​พัก​แม้แต่​ที่​เดียว​ ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ได้ยิน​แล้ว​เป็นลม​หมดสติ​ ​สวน​หิมะ​งาม​จึง​วุ่นวาย​กัน​หมด​ ​โหวฮู​หยิน​กำลัง​ให้​คน​ไป​เชิญ​หมอ​หลวง​มา​ ​ท่าน​โหว​เอง​ก็​มาถึง​แล้ว​ ​กำลัง​หารือ​กัน​อยู่​ว่า​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี​!​”

รวดเร็ว​ปานนี้​เชียว​?

เพิ่งจะ​ได้ยิน​ว่า​ตระกูล​ซือ​ถูก​คน​ฟ้องร้อง​ ​บ้าน​หลัง​ใหญ่​ของ​ตระกูล​ซือ​ใน​จิง​เฉิง​ก็​ถูก​ปิดทาง​เข้า​แล้ว

หวัง​ซี​ ​คุณหนู​พาน​และ​ฉัง​เคอ​ต่าง​มองหน้า​กัน

คุณหนู​พาน​อด​รู้สึก​ยินดี​ไม่ได้​ ​กล่าวว่า​ ​“​โชคดี​ที่​ข้า​กำลังจะ​ย้ายออก​ไป​แล้ว​ ​หาไม่​เกิดเรื่อง​วุ่นวาย​เช่นนี้​ขึ้น​ ​ครอบครัว​พวก​ข้า​ก็​ช่วย​อะไร​ไม่ได้​ ​คงมี​แต่​ทำให้​คน​รู้สึก​กระอักกระอ่วน​ใจ​แล้ว​”

มิใช่​ว่า​ช่วยไม่ได้​หรอก​กระมัง​ ​รอง​เสนาบดี​หลิว​เป็น​ขุนนาง​ใหญ่​ขั้น​สาม​บน​ ​ทั้ง​ยัง​เป็น​ขุนนาง​ฝ่ายบุ๋น​ ​หาก​ยินดี​ช่วยเหลือ​ ​เรื่อง​อื่น​ไม่กล้า​เอ่ยถึง​ ​แต่​ไป​สืบ​ข่าว​เล็ก​ๆ​ ​น้อย​ๆ​ ​มา​ให้​ย่อม​เป็นไปได้

แต่​เหตุใด​ตระกูล​พาน​ต้อง​ช่วย​ตระกูล​ซือ​ด้วย​เล่า​?

ระหว่าง​ญาติพี่น้อง​ก็​ต้อง​มี​การไปมาหาสู่​ ​มี​ใกล้ชิด​มี​เหินห่าง

หวัง​ซี​เข้าใจ​ดี​ ​กล่าวว่า​ ​“​หรือว่า​ ​พวกเรา​อย่า​เพิ่ง​รวมตัวกัน​เลย​ดีกว่า​ ​รอ​เจ้า​ย้าย​ไป​บ้าน​ใหม่​ ​อย่างไร​พวก​ข้า​ก็​ต้อง​ไป​แสดงความยินดี​กับ​เจ้า​อยู่​แล้ว​ ​มิสู​้​พวกเรา​ค่อย​รวมตัวกัน​ตอนที่​พวก​ข้า​ไป​แสดงความยินดี​กับ​เจ้า​ ​พวก​ข้า​เอง​ก็​จะ​ได้​ถือโอกาส​ไปดู​บ้าน​ใหม่​ของ​เจ้า​ด้วย​”

คุณหนู​พาน​เอง​ก็​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​ย้ายบ้าน​ของ​นาง​นั้น​ย้ายออก​เร็ว​ได้​แต่​จะ​ช้า​ไม่ได้​ ​จึง​พยักหน้า​รับคำ​แล้ว​รีบ​กลับ​ไปหา​รือ​เรื่อง​ย้ายบ้าน​ก่อนกำหนด​กับ​คน​ข้าง​กาย​ที่​สวน​ร่ม​วสันต์

พานห​มัว​มัว​คน​ข้าง​กาย​โหวฮู​หยิน​เร่ง​เข้ามา​หา​ ​เห็น​คุณหนู​พาน​เก็บ​ข้าวของ​เกือบ​เสร็จ​แล้วก็​สงบใจ​ขึ้น​มาก​ ​รีบ​กล่าวว่า​ ​“​โหวฮู​หยิน​บอกว่า​ให้ท่า​นอ​อก​จาก​จวน​วันนี้​เลย​เจ้าค่ะ​ ​อย่า​เพิ่ง​พิถีพิถัน​เรื่อง​เป็น​วัน​มงคล​หรือไม่​ ​สลัด​ความเกี่ยวข้อง​กับ​ตระกูล​ซือ​ได้​ถือเป็น​เรื่องสำคัญ​กว่า​อะไร​ทั้งหมด​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​ท่าน​ยัง​ไม่ได้​แต่ง​เข้า​ตระกูล​หลิว​ ​ใต้เท้า​หลิว​เอง​ก็​หา​ใช่​คน​ใจกว้าง​อะไร​ ​หากฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ขอร้อง​มาถึง​ท่าน​จริงๆ​ ​มี​แต่​จะ​ทำให้​ท่าน​ลำบากใจ​เท่านั้น​”

คุณหนู​พาน​ได้ยิน​ถ้อยคำ​นี้​แล้ว​ ​คิด​ว่า​ตอนนี้​จวน​หย่ง​เฉิง​โหวกำ​ลัง​วุ่นวาย​ ​จึง​ไม่​อยาก​รบกวน​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ ​นาง​แจ้ง​พี่ชาย​ให้​ทราบ​คำ​หนึ่ง​ ​จากนั้น​ไป​เรียก​รถม้า​ที่เชื่อถือได้​ตาม​ถนน​มา​เอง​โดยตรง​ ​แล้วก็​เริ่ม​ขนของ​ออก​ไป​ทันที

หวัง​ซีกับ​ฉัง​เคอ​ได้รับ​ข่าว​แล้ว​รู้สึก​ว่า​ออกจาก​จวน​อย่าง​รีบร้อน​เช่นนี้​อย่างไร​ก็​คง​ไม่​ค่อย​สะดวก​นัก​ ​จึง​พา​คน​มาช​่วย​และ​นำ​อาหาร​มา​ให้​ ​คุณหนู​พาน​ซาบซึ้งใจ​เหลือ​จะ​กล่าว​ ​ตอน​จากไป​ยัง​เขียน​ที่อยู่​บ้าน​ใหม่​ฉบับ​หนึ่ง​ให้​ทั้งสอง​คน​ ​จับมือ​หวัง​ซีกับ​ฉัง​เคอ​เอาไว้​กำชับ​กับ​พวก​นาง​ไม่​หยุด​ว่า​ถึง​เวลา​ต้อง​ไป​เล่น​ที่​บ้าน​นาง​ด้วย

ทั้งสอง​คนรับ​ปาก​ยิ้ม​ๆ​ ​ได้​เจอ​กับ​คุณชาย​พาน​ที่มา​รับน้อง​สาว​ที่​หน้า​ประตู

คุณชาย​พาน​มอง​หวัง​ซีที​่​งดงาม​ประหนึ่ง​บุปผา​ล้ำค่า​แล้ว​ดวงตา​เป็นประกาย​ ​รอ​จน​รับน้อง​สาว​ขึ้นรถ​ม้ามา​แล้ว​ ​อด​ถาม​ไม่ได้​ว่า​ ​“​สตรีที​่​สวม​ชุด​สีแดง​เมื่อ​ครู่​เป็น​ใคร​หรือ​ ​ใช่​คุณหนู​สกุล​หวัง​ท่าน​นั้น​หรือเปล่า​”

หลังจาก​มาถึง​จิง​เฉิง​เขา​ก็​เรียนหนังสือ​อยู่​ที่​สำนัก​ศึกษา​หลวง​ ​ไม่​ค่อย​ได้มา​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​เท่าไร​นัก​ ​อีกทั้ง​ชาย​หญิง​มี​ระยะห่าง​ ​จึง​ไม่เคย​เจอ​หวัง​ซี​มาก​่อน

คุณหนู​พาน​พยักหน้า

คุณชาย​พาน​กล่าว​ ​“​นาง​หมั้น​หมาย​หรือยัง​”

“​ยัง​!​”​ ​คุณหนู​พาน​ตอบ​ ​มอง​พี่ชาย​ของ​ตัวเอง​อย่าง​ระแวดระวัง

พี่ชาย​ของ​นาง​หมั้น​หมาย​แล้ว

คุณชาย​พาน​ตี​ศีรษะ​ของ​น้องสาว​ตัวเอง​แรง​ๆ​ ​ฝ่ามือ​หนึ่ง​ ​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​เห็น​ว่านา​งกับ​เจ้า​เข้ากันได้ดี​ ​อีกทั้ง​หน้าตา​ก็​งดงาม​ ​ข้ามี​สหาย​ร่วม​ชั้น​ผู้​หนึ่ง​เป็น​คน​ไม่เลว​เลย​ ​ทั้ง​ยัง​ไม่ได้​หมั้น​หมาย​ ​จึง​คิด​ว่า​อาจ​ช่วย​เป็น​พ่อสื่อ​ให้​เขา​สักครั้ง​หนึ่ง​ได้​ก็​เท่านั้น​”

คุณหนู​พานรี​บก​ล่าว​ ​“​เจ้า​อย่า​พูดเหลวไหล​ไป​เชียว​ ​ครอบครัว​คุณหนู​หวัง​เป็น​คหบดี​ร่ำรวย​ของ​สู่​จง​ ​ย่อม​ไม่เห็น​คน​ทั่วไป​อยู่​ใน​สายตา​ ​เจ้า​อย่า​กลายเป็น​ว่า​เป็น​พ่อสื่อ​ไม่สำเร็จ​ ​ตรงกันข้าม​กลายเป็น​ศัตรู​แทน​ก็แล้วกัน​”

คุณชาย​พาน​ได้ยิน​แล้วก็​ยิ่ง​สนใจ​ ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​ลอง​จับคู่​ดูแล​้ว​ ​สหาย​ร่วม​ชั้น​ของ​ข้า​ผู้​นี้​ก็​ไม่​แย่​ ​อย่างไร​ก็​ไม่​ทำให้​คุณหนู​หวัง​ลำบาก​อย่างแน่นอน​ ​เจ้า​รอ​ไป​ก่อน​ ​ข้า​ไป​หยั่งเชิง​ดูก่อน​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​อีกที​”

คุณหนู​พานรู​้​สึก​ไม่เหมาะสม​นัก​ ​แต่​ก็​โน้มน้าว​คุณชาย​พาน​ไม่สำเร็จ​ ​จึง​ตัดสินใจ​ว่า​รอตอ​นที​่​หวัง​ซี​มา​เป็น​แขก​ที่​บ้าน​ค่อย​เตือน​นาง​สัก​ประโยค​หนึ่ง​ ​หาก​สหาย​ร่วม​ชั้น​ของ​พี่ชาย​นาง​ท่าน​นี้​เป็น​คน​ไม่เลว​จริงๆ​ ​ก็​ใช่​ว่า​จะ​เป็นไปไม่ได้

สอง​พี่น้อง​ต่าง​คน​ต่าง​อยู่​กับ​ความคิด​ของ​ตัวเอง​ไป​ตลอดทาง​ที่​เดินทาง​ไป​บ้านเช่า​แห่ง​ใหม่​ ​กว่า​ที่ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จะ​ฟื้น​ขึ้น​มา​และ​นึกถึง​ตระกูล​ฝั่ง​สามี​ของ​คุณหนู​พาน​ก็​ถึง​เวลา​จุด​โคมไฟ​ยาม​เย็น​ ​คุณหนู​พาน​ย้ายออก​ไป​เรียบร้อย​แล้ว

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​โกรธ​จน​ตัวสั่น​ ​เรียก​โหวฮู​หยิน​เข้ามา​ต่อว่า​ ​“​เจ้า​มัน​คน​ใจดำ​ ​กลัว​พวก​ข้า​ไปหา​ประโยชน์​จาก​เจ้า​ ​หาก​มิใช่​พวก​ข้า​ ​ตระกูล​พาน​ของ​พวก​เจ้า​จะ​มี​วันนี้​ได้​หรือ​ ​ไม่​แปลกที่​ตอนนั้น​ตระกูล​พวก​เจ้า​ตกต่ำ​แล้ว​ไม่มีใคร​ยื่นมือ​เข้ามา​ช่วย​สัก​คน​ ​ที่แท้​ก็​เพราะ​เป็น​คน​ไร้ค​วาม​ละอาย​นี่เอง​…​”

ด่า​ตอกหน้า​ไป​หนึ่ง​คำรบ​ ​ทั้ง​ยัง​ด่า​ต่อหน้า​บ่าวไพร่​อีกด้วย​ ​ด่า​จน​โหวฮู​หยิน​หน้าแดง​ก่ำ​ ​อยาก​กระโดด​น้ำตาย​เสีย​ให้​รู้แล้วรู้รอด​ ​เป็น​นาย​หญิง​สาม​ที่​คิด​ว่า​ตอน​เกิดเรื่อง​งานแต่ง​ของ​ฉัง​เคอ​โหวฮู​หยิน​เคย​ยื่นมือ​มาช​่วย​เหลือ​ไว้​ ​นาง​จึง​ออก​ไป​ช่วย​ห้าม

นาง​ยก​เม็ด​บัว​ต้ม​น้ำตาลกรวด​ใส่​รังนก​ถ้วย​หนึ่ง​เข้ามา​นั่ง​ข้าง​เตียงฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ ​กระซิบ​กล่าว​โน้มน้าว​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​สงบใจ​ลง​ก่อน​ ​เรื่อง​ที่​คุณหนู​พาน​ย้ายบ้าน​นั้น​นาง​กำหนด​วัน​ไว้​นาน​แล้ว​ ​ผู้ใด​จะ​คิด​ว่าวัน​ย้ายบ้าน​ของ​คุณหนู​พาน​จะ​ตรง​กับ​วันนี้​พอดี​ ​ถึง​ได้​เกิด​ความเข้าใจผิด​เช่นนี้​ขึ้น​ ​พานฮู​หยิน​ยัง​ตั้งใจ​เอาไว้​ว่า​จะ​มาคา​รวะ​ท่าน​ใน​อีก​สอง​สาม​วันนี้​อยู่​เลย​ ​ท่าน​ต่อว่า​พี่สะใภ้​ใหญ่​เช่นนี้​ ​จะ​ให้​พานฮู​หยิน​เอาหน้า​ไป​ไว้​ที่ไหน​?​ ​ท่าน​อายุ​มาก​ ​โกรธ​มาก​ๆ​ ​ไม่ได้​แล้ว​ ​กิน​ขนมหวาน​สักหน่อย​ก่อน​ ​มีเรื่อง​อะไร​ ​ค่อย​นั่งลง​มาคุ​ยกับ​พี่สะใภ้​ใหญ่​ดี​ๆ​ ​ดีกว่า​ ​พี่สะใภ้​ใหญ่​อยู่​กับ​ท่าน​มานาน​หลาย​ปี​มีตอน​ไหน​บ้าง​ที่นาง​พูด​คำ​ว่า​ ​‘​ไม่​’​ ​ต่อหน้า​ท่าน​?​”

กล่าว​จบ​ ​ยัง​ส่งสายตา​ให้​ซือห​มัว​มัว​ครั้งหนึ่ง​ ​เป็น​สัญญาณ​บอก​ให้​ซือห​มัว​มัว​ช่วย​โน้มน้าวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ด้วย​อีก​แรง

ซือห​มัว​มัว​กลับ​ตกใจ​จน​เบื้อ​ใบ้​ไป​แล้ว

นาง​กำลัง​คิด​อยู่​ใน​ใจ​ว่า​ ​ตระกูล​ซือ​นั้น​ถือเป็น​ตระกูล​ที่​ดี​เป็นลำดับ​ต้นๆ​ ​เดินทาง​มา​ได้​อย่างราบรื่น​ไม่เคย​ประสบ​กับ​ปัญหา​มาก​่อน​ ​ทว่า​จู่ๆ​ ​ก็​เหมือน​เรือ​ลำ​ใหญ่​พลิกคว่ำ​ ​ทำเอา​นาง​ไม่รู้​จะ​ทำ​อย่างไร​ดี

โชคดี​ที่นาง​ตามฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​มาที​่จ​่​วน​หย่ง​เฉิง​โหว​ ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ยัง​แข็งแกร่ง​ปลอดภัย​ดี​ ​นาง​ถึง​ได้สติ​คืน​กลับมา​ ​กล่าว​โน้มน้าวฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​อย่าง​ไม่​ค่อย​ได้ใจ​ความ​นัก

ส่วนฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​นึกถึง​คำ​ที่​บอกว่า​ พานฮู​หยิน​ยัง​ตั้งใจ​เอาไว้​ว่า​จะ​มาคา​รวะ​ท่าน​ ประโยค​นั้น​ขึ้น​มา​ ​รู้สึก​ว่า​ไม่​อาจ​บีบคั้น​โหวฮู​หยิน​มากเกินไป​ ​ในที่สุด​ความโกรธ​ก็​คลาย​ลง​ ​กล่าว​กับ​โหวฮู​หยิน​ประโยค​หนึ่ง​อย่าง​ไม่กระตือรือร้น​แต่​ก็​ไม่​เย็นชา​ว่า​ ​“​ข้า​โกรธ​จน​เลอะเลือน​ไป​”​ ​ถือเป็น​การ​ขอโทษ​แล้ว​ ​แต่​ใน​ใจ​ของ​โหวฮู​หยิน​กลับ​เย็นชา​ ​รู้สึก​ว่า​แม่​สามี​กับ​สะใภ้​อย่างไร​ก็​คือ​แม่​สามี​กับ​สะใภ้​ ​ต่อให้​ดี​เพียงใด​ก็​หา​ใช่​แม่​ลูก​แท้ๆ​ ​ความขุ่นเคือง​ที่​มีต​่อฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​จึง​เบาบาง​ลง​เล็กน้อย

เมื่อ​กลับ​ไป​นาง​ก็​พรั่งพรู​กับ​หย่ง​เฉิง​โหว​ว่า​ ​“​ข้า​ทำ​เพื่อ​ผู้ใด​เล่า​?​ ​ก็​ทำ​เพื่อ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ของ​พวกเรา​ทั้งสิ้น​ ​ถึงแม้​ตระกูล​หลิว​จะ​เป็น​ญาติ​ที่มา​เกี่ยวดอง​ด้วย​ ​แต่​หลานสาว​ของ​ข้า​ยัง​ไม่ได้​แต่ง​เข้าไป​ ​สายสัมพันธ์​ยัง​เบาบาง​ ​พวกเรา​เป็น​เช่นนี้​ ​ไม่รู้​ว่า​จะ​ถูก​ตระกูล​ซือ​ลาก​เข้าไป​ติดร่างแห​ด้วย​หรือไม่​ ​เมื่อถึง​วันที่​ต้อง​ใช้​สายสัมพันธ์​ ​มิใช่​ว่า​ต้อง​เก็บ​เอาไว้​ให้​พวกเรา​ใช้​เอง​หรอก​หรือ​ ​หาก​มอบให้​ตระกูล​ซือ​ใช้​ไป​ในเวลานี้​แล้ว​ ​อนาคต​เวลา​ที่​พวกเรา​อยาก​ไป​ขอให้​ผู้อื่น​ช่วยเหลือ​อีก​จะ​ทำ​อย่างไร​”

สอง​วันนี้​หย่ง​เฉิง​โหว​เห็น​คน​เข้าออก​ราชสำนัก​มากมาย​มหาศาล​ ​เขา​หวาดกลัว​จน​ตัวสั่น​ ​กลัว​ว่า​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​จะ​พลิกคว่ำ​ ​คว้า​เชือก​สัก​เส้น​ได้​ก็​คว้า​เชือก​ ​คว้า​ฟางข้าว​ได้​ก็​คว้า​ฟางข้าว​ ​ไม่​ขุ่นแค้น​ที่​ตระกูล​ซือ​ทำให้​เขา​ลำบาก​ไป​ด้วย​ก็ดี​แค่ไหน​แล้ว​ ​ยัง​คิด​จะ​ให้​ช่วย​ตระกูล​ซือ​อีก​ ​อย่า​แม้แต่​จะ​คิด​เลย

ด้วยเหตุนี้​พอ​เขา​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​แสยะ​ยิ้ม​เย็น​พลาง​กล่าว​ ​“​เรื่อง​นี้​เจ้า​ไม่จำเป็น​ต้อง​สนใจ​ ​ด้านฮู​หยิน​ของ​ญาติ​ผู้​พี่​ก็​ไม่ต้อง​รับ​เข้า​บ้าน​ ​บอก​ไป​ว่าฮู​หยิน​ผู้​ไม่สบาย​ ​ช่วงนี้​จึง​ไม่​รับแขก​”

โหวฮู​หยิน​สงบใจ​ลง​ได้​ ​มุม​ปาก​แต้ม​ยิ้ม​พลาง​ถาม​ว่า​ ​“​เช่นนั้น​คุณหนู​ซือ​เล่า​?​ ​คง​ไม่​อาจ​ให้​ย้ายออก​ ​หาไม่​แล้ว​พวกเรา​จะ​กลายเป็น​ตัว​อะไร​ไป​แล้ว​ ​ยัง​มีเรื่อง​งานแต่ง​ของ​คุณหนู​ซือ​อีก​ ​ต่อให้​เป็น​พระราช​โองการ​จาก​วัง​หลวง​ ​แต่​เจิ​้​นกั​๋​วก​งก​็​มิได้​กิน​หญ้า​ ​ไม่รู้​ว่า​จะ​ยัง​เป็นไปได้​หรือไม่​…​”

หย่ง​เฉิง​โหว​เอง​ก็​กำลัง​ปวดหัว​กับ​เรื่อง​นี้​อยู่​ ​เขา​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​มี​ความเห็น​อะไร​หรือไม่​”

โหวฮู​หยิน​ครุ่นคิด​ ​กล่าวว่า​ ​“​ให้​คุณหนู​ซือ​ไปดู​แล​อาการป่วย​ของฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ดี​หรือไม่​ ​ตอนที่​นาง​เพิ่ง​มาถึง​ใหม่​ๆ​ ​ก็​พัก​อยู่​ที่​เรือนฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​มิใช่​หรือ​ ​นาง​จะ​ได้​อยู่​เป็นเพื่อนฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ด้วย​พอดี​”

ทั้งสอง​คน​ต่าง​เข้าใจ​ความหมาย​ของ​คำ​ว่า​ ​‘​อยู่​เป็นเพื่อน​’​ ​นั้น​ดี

หย่ง​เฉิง​โหว​เห็นด้วย

เรื่อง​นี้​จึง​ถูก​กำหนดให้​เป็นไปตาม​นั้น​ ​โหวฮู​หยิน​ออกหน้า​ไปล่อ​หลอก​ให้​ซือ​จู​ไปดู​แลฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​สัก​สอง​สาม​วัน​ ​ฉวยโอกาส​นั้น​ขน​หีบ​สัมภาระ​ของ​ซือ​จู​ไป​ที่​เรือนฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ด้วย​ ​กว่า​ซือ​จู​จะ​รู้ตัว​ ​โหวฮู​หยิน​ก็​ให้​สตรี​ร่าง​สูงใหญ่​กำยำ​ไป​จับตาดู​พวก​นาง​เอาไว้​แล้ว​ ​ยัง​กล่าว​ด้วยว่า​ ​“​คุณหนู​หวัง​เป็น​คน​ออก​เงิน​ค่า​ซ่อมบำรุง​สวน​หิมะ​งาม​ ​ก่อนหน้านี้​วางแผน​เอาไว้​ว่า​จะ​ติดตั้ง​ท่อนำ​ความร้อน​ของ​เรือน​หลัก​ให้​ครบถ้วน​ ​แต่​เพราะ​คุณหนู​มาถึง​ก่อน​ ​และ​คุณหนู​หวัง​เอง​ก็​ถูกใจ​ทัศนียภาพ​ของ​สวน​ร่ม​หลิว​ ​ถึง​ได้​หยุด​ติดตั้ง​ไป​ก่อน​ ​นี่​ก็​เข้า​ฤดูใบไม้ร่วง​แล้ว​ ​หาก​ยัง​ไม่​ติดตั้ง​ท่อนำ​ความร้อน​อีก​เกรง​ว่า​คง​ไม่ทันการ​ ​คุณหนู​มา​อยู่​กับฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​สัก​สอง​สาม​วัน​ ​จะ​ได้​ให้​คนงาน​มาติด​ตั้ง​ท่อนำ​ความร้อน​ด้วย​พอดี​”

ซือ​จู​โกรธ​จน​ไม่​พูด​อะไร​ไป​ครู่ใหญ่

แต่​มา​อาศัย​อยู่​ใต้​ชายคา​ผู้อื่น​ ​ท่าน​หวง​ของ​ตระกูล​ซือ​ท่าน​นั้น​ก็​หา​ตัว​ไม่​เจอ​ ​ไม่รู้​ว่า​หนี​ไป​แล้ว​หรือ​กลับ​ไป​ที่​อวี​๋​หลิน​ ​หาก​นาง​ไม่​ทำตาม​ที่​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​จัดเตรียม​ไว้​แล้ว​จะ​ทำ​อะไร​ได้

ฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​กลัว​บุตรชาย​จะ​ไล่​ซือ​จู​ออก​ไป​ ​บัดนี้​ซือ​จูมา​อยู่​ข้างๆ​ ​ตัวเอง​ได้​ ​นาง​รู้สึก​ว่า​เป็นเรื่อง​ที่​ดี​ ​จึง​อารมณ์ดี​ขึ้น​มา​หลาย​ส่วน

กลับเป็น​เวิน​จง​ว่าที่​สามี​ของ​ฉัง​เคอ​ ​เมื่อ​ได้ยิน​ว่า​เกิดเรื่อง​กับ​ตระกูล​ซือ​ก็​แอบ​ส่ง​บ่าว​ชาย​คนสนิท​มาถาม​ไถ่​นายท่าน​สาม​ ​ถาม​ว่า​มี​อะไร​ที่​เขา​พอ​จะ​ช่วยเหลือ​ได้​หรือไม่

นายท่าน​สาม​ทั้ง​พึงพอใจ​ใน​ความมีน้ำใจ​และ​ตรงไปตรงมา​ของ​ว่าที่​บุตร​เขย​ผู้​นี้​ ​ทั้ง​กลัว​ว่าว​่า​ที่​บุตร​เขย​จะ​ไม่รู้​จัก​หนัก​เบา​แล้ว​ให้​ความช่วยเหลือ​จริงๆ​ ​รีบ​เรียก​เวิน​จง​มาหา​ ​เล่า​ความสัมพันธ์​ของ​ทั้งสอง​ตระกูล​ให้​เขา​ฟัง​อย่าง​อ้อม​ๆ​ ​สุดท้าย​ยัง​กล่าว​ด้วยว่า​ ​“​เจ้า​เป็น​รุ่น​เด็ก​ ​อย่างไร​ก็​หมุน​ไป​ไม่​ถึงคราว​ของ​เจ้า​ต้อง​ออกหน้า​ ​หาก​มี​คน​ไปหา​เจ้า​ ​เจ้า​แสร้งทำ​เป็น​ไม่รู้​ก็​พอ​ ​ให้ผลัก​ทุกอย่าง​มาที​่​ข้า​”

เวิน​จง​พยักหน้า​หงึกๆ​ ​เมื่อ​กลับ​ถึงที่​ทำการ​ก็ได้​รับ​ข่าว​ว่า​เฉินลั​่ว​ได้​ดำรงตำแหน่ง​เป็น​ผู้บังคับบัญชา​ของกอง​พล​ทองคำ​ทั้ง​สี่​กองพล​เพียง​คนเดียว

นี่​เป็นเรื่อง​ที่​ไม่เคย​มีมาก​่อน

เขา​ปาก​อ้า​ตาค้าง

สหาย​ร่วม​ที่ทำงาน​ข้าง​กาย​เขา​กลับ​กล่าว​ขึ้น​อย่าง​อิจฉา​ว่า​ ​“​หนึ่ง​คน​สั่งการ​ได้​ทั้ง​สี่​กองพล​!​ ​ปีนี​้​เขา​ยัง​ไม่ได้​เข้า​พิธี​สวม​กวน​เลย​นี่​นา​!​ ​ช่าง​สม​กับ​ที่ว่า​เอา​คน​เทียบ​คน​ก็​มี​แต่​ทำให้​คน​โมโห​ ​เอา​ของ​เทียบ​ของ​ก็​มี​แต่​หล่น​หาย​ไป​ทั่วทุก​ที่นั่น​จริงๆ​!​”

เวิน​เจิง​หัวเราะ​แต่​ไม่ได้​วิจารณ์​อะไร

ตอนนี้​คน​ของกอง​พล​ขนนก​ต่าง​กำลัง​กังวลใจ​กัน​ว่า​ฮ่องเต้​จะ​จัดการ​กับ​พวกเขา​อย่างไร

แม้น​กล่าวว่า​พวกเขา​ปฏิบัติตาม​คำสั่ง​โดย​ดู​จาก​ตรา​พยัคฆ์​ ​และ​คำสั่ง​นั้น​ก็​เพื่อ​ช่วยชีวิต​องค์​ชาย​ใหญ่​ ​แต่​กลายเป็น​ว่า​ฮ่องเต้​ไม่ได้​เป็น​คน​ส่ง​ตรา​พยัคฆ์​นั้น​มา​ ​เกิด​การละ​เมิด​ข้อห้าม​ครั้ง​ใหญ่​ ​ทว่า​เวิน​จง​ไม่ได้​กังวล​เท่าไร​นัก​ ​เขา​เป็น​เพียง​ทหาร​ตัวเล็ก​ๆ​ ​คน​หนึ่ง​ใน​กองพล​ขนนก​เท่านั้น​ ​และ​มี​เจียง​ชวน​ป๋อ​เป็น​ขุนเขา​ให้​พึ่ง​ ​เขา​คิด​ว่า​ตน​ไม่น่า​จะ​มีปัญหา​อะไร

เขา​ฟัง​คำ​นินทา​อยู่​ข้างๆ​ ​อีก​ครู่หนึ่ง

ประเดี๋ยว​ทุกคน​ก็​พูดว่า​เฉินลั​่ว​มี​วาสนา​ดี​ ​นอกจาก​ได้​เกิด​เป็น​หลานชาย​ของ​ฮ่องเต้​แล้ว​ ​บัดนี้​ยัง​ช่วยชีวิต​องค์​ชาย​ใหญ่​เอาไว้​อีก​ ​ขุนนาง​ฝ่ายบุ๋น​เหล่านั้น​ต่าง​พูด​กัน​ว่า​เขา​จงรักภักดี​ ​เป็นตัว​อย่าง​ขุนนาง​ของ​คนรุ่นใหม่​ ​ประเดี๋ยว​ก็​พูดว่า​เฉินลั​่ว​ต้อง​ได้​สืบทอด​ตำแหน่ง​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ซื่อ​จื่อ​อย่างแน่นอน​ ​“​ว่าที่​ภรรยา​ของ​เฉิน​อิง​คือ​หญิงสาว​จาก​ตระกูล​ซือ​ ​บุตรสาว​ของ​ขุนนาง​ต้องโทษ​จะ​เป็น​ซื่อ​จื่อฮู​หยิน​ได้​อย่างไร​ ​นอก​เสีย​จาก​ว่า​เจิ​้​นกั​๋​วกง​จะ​ทำลาย​งานแต่ง​ ​แต่งาน​แต่ง​นี้​ฮ่องเต้​กับ​ฮองเฮา​เป็น​ผู้​พระราชทาน​ให้​ ​จัดการ​ไม่​ง่าย​เลย​!​”

…………………………………………………………………….