ตอนที่ 182 สนทนายามราตรี

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

ซือ​จู​ยัง​ไม่ได้​ออกเรือน​ ​ตาม​หลัก​แล้วยัง​ถือว่า​นาง​เป็น​คน​ของ​ตระกูล​ซือ​ ​หาก​มีเรื่อง​กับ​ตระกูล​ซือ​ ​นาง​เอง​ก็​หนี​ไม่​พ้น​เช่นกัน

ต้อง​รอดู​ว่า​จวน​เจิ​้​นกั​๋​วกง​จะ​จัดการ​กับ​งานแต่ง​ครั้งนี้​อย่างไร

เวิน​เจิง​ฟัง​อยู่​ข้างๆ​ ​นึกถึง​เรื่อง​ที่​ได้ยิน​มาจาก​จวน​เจียง​ชวน​ป๋อ​ใน​วันนั้น​ขึ้น​มา​ แต่เดิม​เจิ​้​นกั​๋​วก​งก​็​ดูหมิ่นดูแคลน​ตระกูล​ซือ​อยู่​แล้ว​ ​เกิดเรื่อง​ขึ้นกับ​ตระกูล​ซือ​ ​ไม่แน่​ว่า​คนที​่​ดีใจ​ที่สุด​ก็​คือ​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ ​ไม่​โยน​หิน​ถม​ลง​ไป​ใน​บ่อน้ำ​ก็ดี​แค่ไหน​แล้ว​ ​ตระกูล​ซือ​อยาก​ให้​บุตรสาว​แต่ง​เข้าไป​ ​นับเป็น​เรื่อง​ฝันเฟื่อง​!

อย่างไรก็ตาม​ ​ไม่ว่า​เรื่อง​นี้​จะ​เป็น​อย่างไร​ก็​ไม่เกี่ยว​อัน​ใด​กับ​เขา​ ​เขา​ก็​เป็น​แค่​คนที​่​ยืน​ดู​เรื่อง​สนุก​ผู้​หนึ่ง​เท่านั้น

เวิน​จง​ไม่ได้​คิด​อะไร​มาก

ผ่าน​ไป​ไม่​กี่​วัน​ ​ฮ่องเต้​ก็​มี​รับสั่ง​ให้​รับ​องค์​ชาย​ใหญ่​กับ​เฉินลั​่​วก​ลับ​จิง​เฉิง

เนื่องจาก​ได้รับบาดเจ็บ​สาหัส​ ​องค์​ชาย​ใหญ่​จึง​พักฟื้น​อยู่​ที่​บ้าน​ไป​ก่อน​เป็นการชั่วคราว​ ​ส่วน​เฉินลั​่ว​เพียง​ไม่นาน​ก็​ไป​ทำงาน​ที่​กองพล​ทองคำ​แล้ว​ ​ยัง​พา​ผู้ใต้บังคับบัญชา​เก่า​อย่าง​เว​่ย​ไหว​จาก​กองพล​ม้า​ทะยาน​ไป​ที่​กองพล​ทองคำ​ด้วย

องค์​ชาย​รอง​ไม่​อาจ​แสดงความยินดี​กับ​เฉินลั​่​วอ​ย่าง​เปิดเผย​ได้​ ​จึง​เขียนจดหมาย​ให้​เฉินลั​่ว​ฉบับ​หนึ่ง​แทน

สอง​วันนี้​เฉินลั​่ว​ถูก​รายล้อม​ไป​ด้วย​คนที​่​มา​เยี่ยม​อาการป่วย​กับ​คนที​่​มา​แสดง​ความเคารพ​อย่าง​เนืองแน่น​จน​น้ำ​แทบจะ​ซึม​ผ่าน​ไม่ได้​ ​อ่าน​จดหมาย​ของ​องค์​ชาย​รอง​แล้วก็​หัวเราะ​หยัน​ออกมา​ไม่​หยุด​ ​กล่าว​กับ​หลิวจ​้ง​ที่​ติดตาม​อยู่​ข้าง​กาย​เขา​มานา​นว​่า​ ​“​หาก​ข้า​เป็น​ฮ่องเต้​ ​ก็​ดูแคลน​เขา​เช่นกัน​ ​ที่​ฮ่องเต้​โยน​กองพล​ทองคำ​มา​ให้​ข้า​ ​เพราะ​ยกย่อง​ข้า​อย่างนั้น​หรือ​?​ ​เพราะ​ไม่มีทาง​เลือก​ก็​เลย​จำเป็นต้อง​บีบ​จมูก​ยอมรับ​มากกว่า​ ​ฮ่องเต้​ไม่​รอ​ให้​เรื่อง​ของ​องค์​ชาย​ใหญ่​เงียบ​ลง​ก่อน​แล้ว​ค่อย​หา​ข้ออ้าง​จัดการ​ข้า​ก็ดี​เท่าไร​แล้ว​ ​องค์​ชาย​รอง​ยัง​ฝันเฟื่อง​คิด​ว่า​ข้า​จะ​ได้​เลื่อนตำแหน่ง​อีก​!​”

หลิวจ​้ง​เอง​ก็​ไม่รู้​ว่า​ควร​พูด​อะไร​ดี​ ​ได้​แต่​กล่าวว่า​ ​“​หาก​องค์​ชาย​รอง​ได้​เป็น​ฮ่องเต้​จริง​ ​เช่นนั้น​ก็​นับว่า​เป็น​วาสนา​ของ​เหล่า​ขุนนาง​”

เป็นจริง​เช่นนั้น​ ​หาก​ฮ่องเต้​เบาปัญญา​สักหน่อย​ ​คน​เป็น​ขุนนาง​ก็​อิสระ​มากขึ้น

เฉินลั​่ว​ไม่​กล่าว​อะไร​ ​เผา​จดหมาย​ของ​องค์​ชาย​รอง​เสีย​ ​ให้​หลิวจ​้ง​ตอบ​จดหมาย​กลับ​ไป​ให้​องค์​ชาย​รอง​ฉบับ​หนึ่ง​ ​ถาม​องค์​ชาย​รอง​ว่า​มีแผน​การ​อย่างไร

ตอนนี้​องค์​ชาย​รอง​กำลัง​ลำบาก​มาก​จริงๆ

ไม่รู้​ว่า​ซู​เฟย​เหนียง​เหนียง​คิด​อย่างไร​ ​คิด​ว่า​องค์​ชาย​ใหญ่​ถูก​กำจัด​ไป​แล้ว​ ​องค์​ชาย​รอง​ก็​ไม่​เป็น​ที่​โปรดปราน​ของ​ฮ่องเต้​ ​ก็​เลย​คิด​ว่า​โอกาส​ของ​องค์​ชาย​สาม​มาถึง​แล้ว​ ​ระยะนี้​จึง​วิ่ง​วุ่น​วางแผนการ​ไป​ทั่ว​ ​ฮ่องเต้​เอง​ก็​ปิด​ตา​ข้าง​หนึ่ง​ลืมตา​ข้าง​หนึ่ง​ ​ทำให้​องค์​ชาย​รอง​รู้สึก​ไม่พอใจ​และ​ในขณะเดียวกัน​ก็​ไม่สบายใจ​ไป​ด้วย​ ​ถึงกับ​ไป​ปรึกษา​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​ว่า​ควร​บีบบังคับ​ให้​ฮ่องเต้​แต่งตั้ง​ไท่​จื่อ​ให้​จบ​ๆ​ ​ไป​เสีย​เลย​ดี​หรือไม่​ ​อย่างไร​เสีย​อำนาจ​ของ​จวน​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหวก​็​ถูก​เปิดเผย​ไป​แล้ว​ส่วนหนึ่ง​ ​ถูก​ฮ่องเต้​จับจุด​อ่อน​ได้​แล้ว​ ​แทนที่จะ​ถูก​ฮ่องเต้​ลงทัณฑ์​ ​มิสู​้​เป็น​ฝ่าย​จู่โจม​ก่อน​ไป​เลย​ดีกว่า

ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​เอง​ก็​คิด​เช่นนี้

ที่ผ่านมา​นาง​ก็​ไม่​ค่อย​ยกย่อง​ฮ่องเต้​อยู่​แล้ว​ ​รู้สึก​ว่า​เขา​มีพฤ​ติกร​รม​ที่​น่ารังเกียจ​ ​เป็น​สามีภรรยา​กัน​มา​หลาย​สิบ​ปี​ ​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​ฮ่องเต้​เป็น​พวก​อกตัญญู​ ​ความสัมพันธ์​ฉัน​สามีภรรยา​จึง​กลายเป็น​เรื่อง​น่าขัน​ไป​นาน​แล้ว

ฮ่องเต้​จะ​อยู่​หรือ​ตาย​นาง​ล้วน​ไม่สน​ใจ​ ​เพียง​อยาก​ให้​บุตรชาย​ได้​สืบทอด​ตำแหน่ง​เท่านั้น​ ​เพื่อ​ที่ว่า​สิ่ง​ที่​ตระกูลปั​๋​วลง​ทุน​ไปมา​กมาย​หลาย​ปี​จะ​ได้​ไม่​สูญเปล่า​ ​และ​ความโกรธ​เกลียด​ที่​ตน​อดทน​อดกลั้น​มานาน​หลาย​ปี​จะ​ได้​ไม่​ไร้ค​วาม​หมาย

นาง​ไปหา​รือ​กับ​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหว

ชิ่ง​อวิ​๋น​โหวก​ลับ​รู้สึก​ว่ายัง​ไม่ใช่​เวลา​ที่​เหมาะสม​ ​เขา​กล่าว​ ​“​ทุกคน​ล้วน​คิด​ว่า​องค์​ชาย​สาม​มีโอกาส​ ​แต่​เจ้า​กับ​ข้า​ต่าง​รู้ดี​ว่า​ฮ่องเต้​ต้องการ​แต่งตั้ง​องค์​ชาย​เจ็ด​ ​หาไม่​เขา​ก็​คง​ไม่​กระสัน​อยาก​กำจัด​องค์​ชาย​ใหญ่​ขนาด​นั้น​ ​ยัง​ลาก​เฉินลั​่​วลง​น้ำ​ไป​ด้วย​อีก​ ​ซู​เฟย​คง​ดิ้นรน​ไป​ได้​อีกไม่นาน​แล้ว​ ​พวก​เจ้า​ต้อง​สงบใจ​เอาไว้​ให้​ได้​ ​ไม่​อาจ​ตระหนก​จน​ทำ​เสีย​เรื่อง​เอง​…

…​ส่วน​เรื่อง​แอบ​สั่ง​เคลื่อน​กำลัง​ทหาร​ ​ดีร้าย​พวกเรา​ก็​ช่วยชีวิต​องค์​ชาย​ใหญ่​เอาไว้​ได้​ ​ฮ่องเต้​ไม่​อาจ​ไล่​สืบสวน​อย่างเปิดเผย​แน่นอน​…

…​ยิ่งไปกว่านั้น​ก็​คือ​ฮ่องเต้​ไม่​ชอบ​ตระกูลปั​๋ว​ ​ไม่ว่า​พวกเรา​จะ​แอบ​สั่ง​เคลื่อน​กำลัง​ทหาร​หรือไม่​ ​เขา​ก็​ไม่มีทาง​ชอบ​ตระกูลปั​๋​วอ​ยู่​ดี​ ​ในเมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​ไม่​สู้​ทุกคน​ต่าง​คน​ต่าง​อาศัย​ความสามารถ​ของ​ตัวเอง​ ​ดู​ว่า​ผู้ใด​จะ​เป็น​ฝ่าย​ชนะ​”

ตอน​กล่าว​ถ้อยคำ​เหล่านี้​ ​สีหน้า​ของ​ชิ่ง​อวิ​๋น​โหวดู​เด็ดเดี่ยว​มั่นคง​ ​แววตา​เยียบ​เย็น​ ​มี​จิตใจ​ที่​แน่วแน่​ว่า​จะ​เอาชัย​ชนะ​มา​ได้​ ​ทำให้​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​มี​ความเชื่อมั่น​เพิ่มขึ้น​ ​เมื่อ​กลับ​ไป​จึง​บอกอ​งค​์​ชาย​รอง​ว่า​ ​“​ขอ​เพียง​ตระกูลปั​๋ว​ยังอยู่​ ​เจ้า​จะ​ไม่เป็นอะไร​ ​หาก​เจ้า​ระส่ำระสาย​ ​ตระกูลปั​๋ว​ย่อม​ระส่ำระสาย​ด้วย​”

องค์​ชาย​รอง​พยักหน้า​ ​เตรียมตัว​ยืน​ดู​ผู้อื่น​ดิ้นรน​อยู่​ข้างๆ​ ​ด้วย​สายตา​เย็นชา​

ส่วน​อดีต​ผู้บังคับบัญชา​กองพล​ทองคำ​ซ้าย​อย่าง​สือ​เหล่​ยก​ลับ​นำ​ของขวัญ​ราคาแพง​มาก​ล่า​วอำ​ลา​เฉินลั​่ว​ด้วย​รอยยิ้ม​แย้ม

“​คิดไม่ถึง​จริงๆ​!​”​ ​เขา​ลูบ​ศีรษะ​พลาง​กล่าว​ ​“​ข้า​โอ้อวด​ว่า​ตัวเอง​เป็น​ลูกพี่​ใหญ่​ของ​เจ้า​ ​เพียง​ไม่​กี่​วัน​ ​เจ้า​กลับ​โหม่ง​ข้า​ทิ้ง​ไป​เสีย​แล้ว​ ​แต่​เช่นนี้​ก็ดี​เหมือนกัน​ ​ข้า​จะ​ได้​ไป​จาก​เมืองหลวง​ ​ขอ​ตำแหน่ง​แม่ทัพ​ใหญ่​ของก​่​วง​ซี​ได้​ตำแหน่ง​หนึ่ง​ ​ไป​อยู่ก​่​วง​ซีสัก​สอง​สาม​ปี​ ​ไม่แน่​ว่า​ข้า​อาจจะ​มีความสุข​มาก​จน​ลืม​บ้านเกิด​ ​ไม่​กลับมา​อีก​เลย​ก็​เป็นได้​”

เฉินลั​่ว​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​บัดนี้​กองพล​ส่วนพระองค์​ของ​ราชวงศ์​ยุ่งเหยิง​เข้าไป​ทุกที

หาไม่​แล้ว​สือ​เหล่​ยก​็​คง​ไม่​ไป​จาก​เมืองหลวง

ต้อง​รู้​ว่า​ ​น้องชาย​ร่วมอุทร​ของ​เขา​ทำงาน​กับ​เหยี​ยน​เจิ​้ง​ ​ที่​ชายแดน​ของ​หมิ่น​เจ้อ​นั้น​ได้​เสาหลัก​อย่าง​เหยี​ยน​เจิ​้ง​เป็น​ผู้​อารักขา​อยู่​ที่นั่น​ ​ต่อให้​ฮ่องเต้​เลอะเลือน​เพียงใด​ ​ก็​ไม่​อาจ​ละเลย​ศึกสงคราม​ที่​หมิ่น​เจ้อ​ได้

สือ​เหล่​ยส​ลัด​ตัว​ออก​ไป​จาก​ที่นี่​ได้​ ​ย่อม​เป็น​เพราะ​ได้รับ​คำ​ชี้แนะ​จาก​ปรมาจารย์​ข้างบน​ ​เพียงแต่​ไม่รู้​ว่า​คนอื่นๆ​ ​จะ​ฉวยโอกาส​นี้​หนี​ไป​ด้วย​หรือไม่

เฉินลั​่ว​มอบหมาย​งาน​ของกอง​พล​ทั้ง​สี่​ให้​เว​่ย​ไหว​ ​ส่วนตัว​เอง​นำ​ขนม​แป้ง​ย่าง​ของ​ย่าน​ต้า​จ้า​หลาน​กับ​น้ำพริก​ของ​หวัง​เอ้อ​หมา​จื่อ​ไป​ให้​หวัง​ซี

เสียง​ก้อนหิน​กระทบ​หน้าต่าง​ทำให้​หวัง​ซี​ตกใจ​ ​เปิด​หน้าต่าง​ออก​ไป​เห็น​เฉินลั​่ว​แล้ว​อด​บ่น​ไม่ได้​ว่า​ ​“​เจ้า​ทำตัว​ปกติ​บ้าง​ไม่ได้​หรือ​ ​เอาแต่​ปีน​กำแพง​เข้ามา​กลางดึก​เช่นนี้​ ​คนที​่​ไม่รู้​จะ​คิด​ว่า​เจ้า​เป็น​หัวขโมย​!​”

“​มิใช่​เพราะ​กลางวัน​ข้า​ไม่มีเวลา​ว่าง​หรอก​หรือ​”​ ​เฉินลั​่​วก​ล่าว​ ​ยื่น​ขนม​แป้ง​ย่าง​กับ​น้ำพริก​ให้​หวัง​ซี​ ​พลาง​กล่าว​ ​“​ข้า​ยัง​ไม่ได้​กินข้าว​เย็น​ ​เจ้า​อยาก​กิน​เพิ่ม​อีก​สักหน่อย​หรือไม่​ ​น้ำพริก​ของ​หวัง​เอ้อ​หมา​จื่อ​ร้าน​นี้​ข้า​เพิ่ง​ได้ยิน​คนพูด​ถึง​เมื่อ​ครู่​ ​บอกว่า​คน​ผู้​นี้​เป็น​คน​กุ้ย​โจว​ ​ทำอาหาร​อร่อย​มาก​ ​เป็น​สูตร​ที่​สืบทอด​ต่อกัน​มา​หลาย​รุ่น​ ​เพราะ​มีเรื่อง​กับ​คน​ทางโน้น​ก็​เลย​หนี​มา​เปิดร้าน​ที่​เมืองหลวง​ ​ใน​เวลา​สั้น​ๆ​ ​เพียง​ไม่​กี่​ปี​ ​ชื่อเสียง​ก็​เลื่องลือ​ไป​ทั่ว​แล้ว​ ​ร้าน​ของ​เขา​อยู่​ใกล้​กับ​ที่ว่าการ​กองพล​ทองคำ​ ​คนที​่​กองพล​ทองคำ​ไปร​้า​นนั​้น​เป็นประจำ​ ​ข้า​ถึง​ได้​รู้จัก​”

หวัง​ซี​เอา​น้ำพริก​ส่ง​ให้​ไป๋​กั่ว​ ​ให้​นาง​ไป​จัด​ใส่​จาน​มา​เล็กน้อย​ ​ยัง​บอก​ให้​นาง​ไป​ตัก​น้ำแกง​ไก่​กระดูกดำ​ตุ๋น​โสม​คนที​่​ตุ๋น​อยู่​บน​เตา​มา​ให้​เฉินลั​่ว​ด้วย​ ​กล่าว​อีกว่า​ ​“​กิน​ขนม​แป้ง​ย่าง​จะ​ขาด​น้ำแกง​ไป​ได้​อย่างไร​ ​น้ำแกง​นี้​ข้า​ให้​คน​ตุ๋น​อยู่​บน​เตา​มา​เจ็ด​ถึง​แปด​ชั่ว​ยาม​แล้ว​ ​แยก​เนื้อไก่​ออก​หมด​ ​เหลือ​เพียง​น้ำแกง​ใส​เท่านั้น​ ​รสชาติ​อร่อย​สดชื่น​มาก​”

เฉินลั​่​วกับ​หวัง​ซีนั​่​งอยู​่​ใต้​ซุ้ม​องุ่น​ใน​ลานบ้าน​ ​ยก​น้ำแกง​ไก่​มา​แล้ว​ ​ทว่า​เฉินลั​่​วก​ลับ​ไม่ได้​ยก​น้ำแกง​ไก่​ขึ้น​มาดื​่​มเห​มือ​นที​่​เคย​ทำเป็น​ประจำ​ ​แต่​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​ตอน​ข้า​เป็น​เด็ก​ ​มารดา​เข้า​วัง​ทุกๆ​ ​สาม​ถึง​ห้าวัน​ ​ส่วน​บิดา​ ​หนึ่ง​ปี​สี่​ฤดู​เจอ​หน้า​กัน​ไม่​กี่​ครั้ง​เท่านั้น​ ​บ่าวไพร่​ใน​จวน​เป็น​คนดู​แล​ข้า​ ​ข้า​จำได้​ว่า​ตอนนั้น​ข้ามี​บ่าว​ชาย​เด็ก​ผู้​หนึ่ง​อายุ​เพียง​ห้า​ถึง​หก​ขวบ​ ​เขา​ได้รับ​เลือก​ให้​มา​อยู่​ข้าง​กาย​ข้า​ ​ทำ​อะไร​ไม่ดี​ก็​มัก​ถูกห​มัว​มัว​ใน​เรือน​ข้า​อบรม​ ​มารดา​ของ​เขา​จึง​แอบ​มาดู​เขา​อยู่​เสมอ​ ​หาก​มิใช่​เอา​ขนมจาก​ถุง​เสื้อ​ใน​อก​ให้​เขา​ ​ก็​แอบ​เอา​น้ำแกง​มา​ให้​เขา​ ​ทุกครั้งที่​เจอ​หน้า​ยัง​คอย​ปลอบโยน​เขา​ ​บอก​ให้​เขา​ทำตัว​ดี​ๆ​ ​และ​ตั้งใจ​ทำงาน​ ​รอ​โต​ขึ้น​ก็ดี​แล้ว​…

…​ข้า​จึง​เข้าใจ​ว่า​คน​เป็น​พ่อแม่​ควรจะเป็น​เหมือน​นาง​”

คิดไม่ถึง​ว่า​มารดา​ของ​เขา​ไม่เคย​สนใจ​เรื่อง​กิน​ดื่ม​ของ​เขา​ ​ทว่า​ใน​ยาม​คับขัน​กลับ​ช่วย​ออกหน้า​แทน​เขา​ ​ยื้อแย่ง​ตำแหน่ง​ผู้บังคับบัญชา​กองพล​ทองคำ​มา​ให้​เขา

เป็น​เพราะ​ความเข้าใจ​เรื่อง​ความรัก​ของ​คน​เป็น​แม่​ของ​เขา​คับแคบ​เกินไป​ ​เขา​ถึง​ได้​เอาแต่​รู้สึก​ไม่พอใจ

วันนี้​พิจารณา​ดูแล​้ว​ ​ใช่​ว่า​มารดา​ของ​เขา​ไม่​รัก​เขา​ ​เพียงแต่​เป็นการ​รัก​ลูก​ใน​แบบฉบับ​ที่​แตกต่าง​จาก​มารดา​คนอื่นๆ​ ​ก็​เท่านั้น

เขามอง​หวัง​ซี​ ​รู้สึก​พูดไม่ออก​เล็กน้อย​ ​คล้าย​กับ​ว่า​หาก​พูด​ออก​ไป​ ​ก็​เท่ากับ​เขา​ยอมรับ​ว่า​ตัวเอง​ตามื​ดบ​อด​และ​หุนหันพลันแล่น

หวัง​ซีก​ลับ​หันไป​ขยิบตา​ให้​เขา​ ​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ว่า​ ​“​คน​ทั่วไป​มักจะ​ให้​มารดา​เป็น​คนดู​แล​เรื่อง​อาหาร​ ​เสื้อผ้า​ ​ที่อยู่​และ​กิริยามารยาท​ ​แต่​อย่าง​จ่าง​กง​จู่​นั้น​ ​เนื่องจาก​เรื่อง​อาหาร​ ​เสื้อผ้า​ ​ที่อยู่​และ​กิริยามารยาท​ล้วน​มี​คน​คอย​ช่วยเหลือ​อยู่​แล้ว​ ​จึง​ดู​ละเลย​ไป​บ้าง​อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้​ ​แต่​นี่​ก็​ขึ้นอยู่กับ​คน​แต่ละคน​ด้วย​ ​อย่าง​พี่ชาย​ใหญ่​ของ​ข้า​ ​เขา​ชอบ​ให้​คน​ข้าง​กาย​ดูแล​เขา​ด้วยตัวเอง​มาก​เป็นพิเศษ​ ​แต่​อย่าง​พี่ชาย​รอง​ของ​ข้า​ ​หาก​มารดา​ของ​ข้า​ดูแล​เขา​เช่นนั้น​ ​เกรง​ว่า​เขา​ต้อง​ตกใจ​ตาย​เป็นแน่​ ​ต้อง​คิด​ว่า​มารดา​ข้ามี​เรื่อง​อะไร​ต้องการ​ให้​เขา​ไป​ทำให้​ ​หาไม่​แล้ว​เหตุใด​มารดา​ข้า​ต้อง​ลงมือทำ​ด้วยตัวเอง​ ​ทั้งๆ​ ​ที่​เป็นเรื่อง​ที่​พวก​บ่าวไพร่​ก็​ทำได้​…

…​จะ​ว่า​ไป​แล้วก็​น่าขัน​…

…​เพราะเหตุนี้​พี่ชาย​รอง​ของ​ข้า​จึง​ตัดสินใจ​ยัง​ไม่​หมั้น​หมาย​ ​ต้องการ​รอ​ให้​เขา​สอบผ่านจ​วี่​เห​ริน​ ​มี​ความสามารถ​จ้าง​ข้าทาส​บริวาร​ก่อน​ค่อย​แต่งงาน​ ​หาไม่​แต่งงาน​ไป​แล้ว​ภรรยา​ยัง​ต้อง​ทำหน้าที่​ของ​พวก​บ่าวไพร่​ ​เช่นนั้น​เขา​ก็​ไร้​ศักดิ์ศรี​เกินไป​แล้ว​”

เฉินลั​่ว​หัวเราะ​ออกมา

หวัง​ซีก​ล่าว​ ​“​เพราะฉะนั้น​ ​เจ้า​เอง​ก็​ไม่ต้อง​คิดมาก​เกินไป​ ​เช่นนี้​ไม่ดี​หรือ​ ​เจ้า​ดู​จ่าง​กง​จู่​ ​ทั่วทั้ง​จิง​เฉิง​มีสั​กกี​่​คนที​่​ดู​อ่อนเยาว์​ ​อิสร​เสรี​และ​มีความสุข​ได้​เท่า​นาง​”

นี่​นาง​กำลัง​แนะนำ​เขา​อ้อม​ๆ​ ​ว่า​ไม่ต้อง​สนใจ​เรื่องส่วนตัว​ของ​จ่าง​กง​จู่

เฉินลั​่ว​ฟังออก

เขามอง​หวัง​ซีด​้วย​ความประหลาดใจ​เล็กน้อย

สตรี​ส่วนมาก​ต่าง​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​เช่นนี้​น่าละอาย​ ​แต่​หวัง​ซีนับ​เป็น​คน​แรก​ที่​แนะนำ​ให้​เขา​ไม่ต้อง​สนใจ

เขา​คิด​แล้ว​ถาม​ขึ้น​ว่า​ ​“​เพราะเหตุใด​?​”

หวัง​ซีคิด​ว่าที่​เฉินลั​่​วกับ​จ่าง​กง​จู่​ไม่สนิท​สนม​กัน​ ​สาเหตุ​หลัก​ๆ​ ​คงมา​จาก​เรื่องส่วนตัว​ของ​จ่าง​กง​จู่​ ​นาง​อด​กล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​ไม่ได้​ว่า​ ​“​เพราะ​ข้า​คิด​ว่า​คนอื่นๆ​ ​อาจจะ​คิด​เหมือน​จ่าง​กง​จู่​ก็ได้​ ​เพียงแต่ว่า​พวกเขา​ไม่มี​อำนาจ​เหมือน​จ่าง​กง​จู่​ ​แล้วก็​ไม่มี​ความกล้า​เหมือน​จ่าง​กง​จู่​ ​แต่​เจ้า​ดู​ข้า​ ​บ้าน​ข้า​เลี้ยงดู​และ​จัดเตรียม​ทุกอย่าง​ให้​ข้า​ได้​ ​ยัง​กลัว​ข้า​จะ​ได้รับ​ความลำบาก​ ​มีบุ​ตร​ชาย​แล้วก็​ยัง​คิด​จะ​ให้​ข้า​แต่ง​บุตร​เขย​เข้า​บ้าน​อีก​ ​นับประสา​อะไร​กับ​จ่าง​กง​จู่​”

เฉินลั​่ว​ตะลึงพรึงเพริด​ ​ถาม​ว่า​ ​“​บ้าน​เจ้า​ต้องการ​ให้​เจ้า​แต่ง​บุตร​เขย​เข้า​บ้าน​หรือ​”

หวัง​ซี​เม้มปาก​หัวเราะ​ ​กล่าวว่า​ ​“​จะ​เป็นไปได้​อย่างไร​ ​ต่อให้​พี่ชาย​ใหญ่​ข้า​กับ​พ่อ​ข้า​เห็นด้วย​ ​ท่าน​ปู่​ข้า​กับ​ท่าน​ย่า​ข้า​เห็นด้วย​ ​แต่​ท่าน​ปู่​กับ​ท่าน​ย่า​ที่​เป็น​น้อง​ของ​ปู่​ข้า​ ​รวมถึง​ตระกูล​ของ​ว่าที่​สามี​ไม่มีทาง​เห็นด้วย​อย่างแน่นอน​!​ ​นอกจากนี้​ข้า​คิด​ว่า​ตอน​อยู่​กับ​บิดา​มารดา​ยังดี​อยู่​หรอก​ ​แต่​ถ้า​อนาคต​ลูกหลาน​เข้าไป​อยู่​ใน​ลำดับ​วงศ์ตระกูล​ของ​ตระกูล​หวัง​ ​รับ​ส่วนแบ่ง​มรดก​ของ​ตระกูล​หวัง​ ​พี่สะใภ้​ข้า​ย่อม​ไม่​ชอบใจ​อย่างแน่นอน​ ​เหตุใด​ข้า​ต้อง​ทำให้​ครอบครัว​ผิดใจกัน​เพียง​เพื่อ​เงินทอง​ไม่เท่าไร​ด้วย​?​”

“​ตระกูล​ของ​ว่าที่​สามี​ของ​เจ้า​?​”​ ​เฉินลั​่ว​ได้ยิน​แล้ว​พลัน​รู้สึก​กระวนกระวายใจ​ขึ้น​มา​ ​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​บ้าน​เจ้า​มีตัว​เลือก​ที่​เหมาะสม​แล้ว​หรือ​”

หวัง​ซีก​ล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​นัก​ว่า​ ​“​ยาก​ตรงไหน​กัน​?​ ​บ้าน​ข้ามี​ญาติ​ที่มา​เกี่ยวดอง​ด้วย​มากมาย​ ​หา​เอา​จาก​สัก​ตระกูล​ที่​รู้จัก​พื้นเพ​กัน​เป็น​อย่างดี​ก็​ไม่​แย่​นัก​ ​อยาก​แต่งงาน​เมื่อไร​ก็​แต่ง​ได้​ ​เพียงแต่ว่า​มารดา​ข้า​เป็นกังวล​ว่า​ผู้อื่น​จะ​มาด​้วย​เจตนา​ที่ซ่อน​เร้น​ ​แต่​เรื่อง​แต่งงาน​นี้​ ​ผู้ใด​ไม่มี​เจตนา​ซ่อนเร้น​บ้าง​?​ ​หาก​มิใช่​มองหา​คนที​่​หน้าตา​ดี​ ​ก็​มองหา​คนที​่​ครอบครัว​มีส​ถานะ​ทางการเงิน​ดี​ ​หรือไม่ก็​มองหา​คนที​่​มี​การศึกษา​ดี​”

เพราะ​มารดา​ของ​นาง​ได้รับ​ความยากลำบาก​มามาก​เกินไป​ ​จึง​มัก​คิด​ว่า​หา​คน​จิตใจ​บริสุทธิ์​สักหน่อย​ดีกว่า

เฉินลั​่ว​ไม่​พูด​อะไร​ไป​ครู่ใหญ่

หวัง​ซีจึ​งดัน​ชาม​น้ำแกง​ตรงหน้า​เขา​เบา​ๆ​ ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​รีบ​ดื่ม​สักหน่อย​เถอะ​!​ ​แม้น​กล่าวว่า​อากาศ​ยัง​ไม่​ค่อย​หนาวเย็น​นัก​ ​แต่​ก็​ไม่​ร้อน​แล้ว​ ​อีก​ประเดี๋ยว​น้ำแกง​ไก่​ก็​ไม่อร่อย​แล้ว​”​ ​แล้วก็​พูดถึง​ข่าวลือ​ที่นาง​ได้ยิน​มา​ ​“​ทุกคน​ต่าง​พูด​กัน​ว่า​ตระกูล​พวก​เจ้า​จะ​ถอนหมั้น​กับ​ตระกูล​ซือ​ ​เป็นเรื่อง​จริง​หรือ​?​ ​ตระกูล​ซือ​ถูก​ตัดสินโทษ​ให้​ยึดทรัพย์​จริงๆ​ ​หรือ​”

เฉินลั​่​วรวบ​รวม​สติ​ ​ยก​น้ำแกง​ไก่​ขึ้น​มาดื​่​มรวด​เดียว​จน​หมด​เสมือน​ดื่ม​สุรา​ก็​ไม่​ปาน​ ​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​ผู้ใด​จะ​รู้​เล่า​!​ ​มารดา​ข้า​ไม่ได้​สอด​มือ​เข้าไป​ยุ่ง​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​เฉิง​อิง​ ​ทว่า​ตระกูล​ซือ​ถูก​ตัดสินโทษ​ให้​ยึดทรัพย์​จริงๆ​ ​อีก​ไม่​กี่​วัน​ก็​น่าจะ​ถูก​ส่งตัว​มาที​่​เมืองหลวง​แล้ว​”​ ​จากนั้น​เขา​ถาม​อย่างแปลกใจ​ว่า​ ​“​มี​ใคร​พูด​อะไร​ใช่​หรือไม่​ ​หรือ​เพราะ​ซือ​จู​สร้าง​ความวุ่นวาย​อะไร​อีกแล้ว​?​ ​เมื่อก่อน​นาง​ดูหมิ่นดูแคลน​ทุกคน​ ​ทว่า​จู่ๆ​ ​ก็​มาป​ระ​สบ​เคราะห์ร้าย​อย่างกะทันหัน​เช่นนี้​ ​ด้วย​นิสัย​ของ​นาง​ ​ต้อง​ไม่​อาจ​ยอมรับ​ได้​ง่ายๆ​ ​เป็นแน่​…

…​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​น่าจะ​ไม่​ค่อย​เกรงใจ​นาง​แล้ว​ถึง​จะ​ถูก​!​”

……………………………………………………………..