ตอนที่ 183 เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

เสน่ห์รักคุณหนูต่างสกุล

จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ไม่​ค่อย​เกรงใจ​นาง​แล้ว​จริงๆ​ ​อย่างไรก็ตาม​ ​ดีร้าย​ก็​ยัง​มีฮู​หยิน​ผู้เฒ่า​ให้การ​สนับสนุน​อยู่​ ​ถึงแม้​ใน​บรรดา​บ่าวไพร่​ของ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​อาจมี​บางคน​ที่​วิสัยทัศน์​คับแคบ​ ​แต่​สุดท้าย​แล้วก็​กินข้าว​ของ​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ ​ขอ​เพียง​จวน​หย่ง​เฉิง​โหว​ยังอยู่​ใน​อำนาจ​ไม่ได้​ล้ม​ลง​ ​พวก​นาง​ก็​ไม่กล้า​พูดจา​เหลวไหล​ตามอำเภอใจ​ ​จึง​ยังคง​ยัง​ปฏิบัติ​กับ​ซือ​จู​อย่าง​ให้เกียรติ​ ​ไม่​ต่าง​อะไร​กับ​ยาม​ปกติ

ตัว​หวัง​ซี​เอง​มี​ความสงสัย​เล็กน้อย​ ​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​ข้า​ได้ยิน​ไป๋​กั่ว​เล่า​ว่า​ ​ก่อนหน้านี้​ตระกูล​ซือ​ไม่พอใจ​เรื่อง​หมั้น​หมาย​ระหว่าง​ซือ​จู​กับ​เฉิน​อิง​เป็นอย่างมาก​ ​ยัง​มี​ข่าวลือ​ไม่​ค่อย​ดี​กระจาย​ออกมา​ด้วย​ ​แต่​เมื่อ​หลาย​วันก่อน​กลับ​มี​คน​ของ​ตระกูล​ซือ​แอบ​มา​พบ​ซือ​จู​เป็นการ​ส่วนตัว​ ​ฟัง​จาก​ความหมาย​นั่น​แล้ว​ ​อยาก​ให้​ซือ​จู​ไป​ขอความช่วยเหลือ​จาก​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ ​ดู​ว่า​ทำให้​โทษเบา​ลง​ได้​หรือไม่​ ​ให้​ลดตำแหน่ง​หรือ​ให้​ออกจาก​ราชการ​ย่อม​ได้​ทั้งสิ้น​ ​อย่า​เนรเทศ​หรือ​ส่ง​ไป​อยู่​ชายแดน​ก็​พอ​”

เนรเทศ​หรือ​ส่ง​ไป​อยู่​ชายแดน​ล้วน​ต้อง​ไป​ที่​ที่​กันดาร​ ​ห่างไกล​เป็น​พัน​ลี้​ทั้งสิ้น​ ​ง่าย​ต่อ​การ​เกิดเหตุ​ร้าย​เป็นพิเศษ​ ​ขุนนาง​ต้องโทษ​จำนวนมาก​ล้วน​ตาย​ตก​ระหว่าง​เดินทาง​กัน​ทั้ง​ครอบครัว

เฉินลั​่ว​แสยะ​ยิ้ม​เย็น​พร้อมกับ​พยักหน้า​ ​กล่าวว่า​ ​“​พ่อ​ข้า​ไม่มีทาง​ช่วย​พูด​ให้​ตระกูล​ซือ​แม้แต่​ประโยค​เดียว​เป็นแน่​ ​เรื่อง​ถอนหมั้น​นั้น​ไม่​อาจ​พูด​ได้​ ​ต้อง​ดู​ว่า​จะ​มี​คน​สอด​มือ​เข้ามา​ยุ่ง​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​เฉิน​อิง​หรือไม่​”

หวัง​ซี​ถอนหายใจ

นาง​ไม่​ชอบ​ชะตา​ชีวิต​เช่นนี้​เลย​ ​ถูก​คนแปลกหน้า​ควบคุม​ ​ถูก​คน​ไม่รู้​จัก​ก่อกวน​ ​ราวกับว่า​แม้แต่​ความ​เป็นความ​ตาย​ของ​ตัวเอง​ก็​ยัง​ไม่​อาจ​ตัดสินใจ​เอง​ได้

น้อย​นัก​ที่​เฉินลั​่​วจะ​ได้​เห็น​หวัง​ซีดู​หดหู่​เช่นนี้​ ​เขา​อด​ถาม​ไม่ได้​ว่า​ ​“​เจ้า​เป็น​อะไร​ไป​หรือ​”

หวัง​ซีคิด​แล้ว​เล่า​ความรู้สึกนึกคิด​ของ​ตัวเอง​ให้​เฉินลั​่ว​ฟัง​ ​กล่าวว่า​ ​“​ก็​เหมือน​ฤดู​มรสุม​เดือน​สี่​เดือน​ห้า​ ​คล้าย​หายใจไม่ออก​ก็​ไม่​ปาน​”​

เฉินลั​่ว​ได้ยิน​แล้ว​นิ่งงัน​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​กล่าว​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​ข้า​ไม่เคย​คิด​เช่นนี้​มาก​่อน​!​ ​บางครั้ง​เพราะ​เป็น​เช่นนี้​ถึง​ได้​รู้สึก​ไร้ค​วาม​หมาย​”

“​ฉะนั้น​ข้า​ถึง​อยาก​กลับ​สู่​จง​!​”​ ​หวัง​ซีนึก​ถึง​ความรัก​ที่​ผู้อาวุโส​ใน​บ้าน​มี​ให้​นาง​แล้ว​ยู่​ปาก​ออกมา​ ​ด้วยเหตุนี้​สีหน้าท่าทาง​จึง​ดู​น่ารักน่าเอ็นดู​มาก​เป็นพิเศษ​ ​“​จิง​เฉิง​ไม่สนุก​เลย​สักนิด​”​ ​แม้น​กล่าว​เช่นนี้​ ​แต่​นาง​ก็​ไม่​อาจ​ปฏิเสธ​ว่านา​งอยู​่​จิง​เฉิง​ก็​จริง​ ​แต่​ก็​ไม่​ค่อย​ไป​สถานที่​อะไร​มากมาย​ ​“​บางที​อาจ​เป็น​เพราะ​จิง​เฉิง​ไม่ใช่​เขตแดน​ของ​ข้า​ ​ข้า​ยัง​ไม่​ค้นพบ​สถานที่​ดี​ๆ​ ​แล้วก็​ไม่เคย​ไป​ด้วย​ ​น่าเสียดาย​ ​หาก​กลับ​สู่​จง​คง​ไม่ได้​กิน​เนื้อ​แกะ​อร่อย​ๆ​ ​ได้​ทุกที่​ทุกเวลา​แล้ว​”

นางน้ำ​ลาย​สอ​เล็กน้อย

เฉินลั​่ว​มอง​ดวง​หน้า​แจ่มใส​มีความสุข​ของ​นาง​ ​อยาก​ถาม​นาง​เหลือเกิน​ว่า​ ไม่​กลับ​สู่​จง​ได้​หรือไม่​ แต่​เมื่อ​ทบทวน​ความคิด​ดังกล่าว​ ​อย่างไร​เขา​ก็​ไม่​อาจ​พูด​ประโยค​ดังกล่าว​ออกมา​ได้

จิง​เฉิง​สำหรับ​คน​ไม่มี​อำนาจ​อยู่​ใน​มือ​อย่าง​พวกเขา​เหล่านี้​ ​ก็​เหมือน​ปกคลุม​ด้วย​กระดาษ​หนัง​วัว​หนึ่ง​ชั้น​จริงๆ​ ​ต่อให้​มีความสุข​เพียงใด​ก็​เป็นได้​แค่​ความสุข​ที่​หลอกตัวเอง​เท่านั้น​ ​ไม่​อาจ​เหมือน​อยู่​สู่​จง​ ​ที่​ภูเขา​สูง​ห่างไกล​จาก​ฮ่องเต้​ ​พูดคุย​หรือ​หัวเราะ​เสียงดัง​อย่างไร​ก็ได้

เมื่อ​คิด​เช่นนี้​แล้ว​ ​เขา​รู้สึก​เศร้าใจ​เหลือเกิน

หวัง​ซี​ไม่​ชอบ​ ​นาง​ยัง​มีส​ถาน​ที่หนึ่ง​ให้​วิ่งหนี​ไป​ได้​ ​ส่วน​เขา​ถ้า​ไม่​ชอบ​ ​ไม่มี​ที่​ให้​วิ่งหนี​ได้​เลย​แม้แต่​ที่​เดียว

หรือ​เขา​ต้อง​เป็น​เช่นนี้​ไป​ชั่วชีวิต​?

คนที​่​ชอบ​ก็​ไม่กล้า​ชอบ​ ​สิ่ง​อยาก​พูด​ก็​พูด​ออกมา​ไม่ได้​ ​ของ​ที่​อยากได้​ก็​ไม่​อาจ​ยื่นมือ​ออก​ไป​ฉวย​ไว้​…​เหมือน​มี​ก้อนหิน​วางซ้อน​กัน​เป็นชั้นๆ​ ​อยู่​กลาง​หน้าอก​ ​เฉินลั​่ว​พลัน​รู้สึก​รับ​ไม่​ค่อย​ไหว​แล้ว

ความตาย​นับ​พัน​นับ​หมื่น​ ​ก็​แค่​ต้องตาย​ครั้ง​เดียว​ ​เหตุใด​เขา​ต้อง​บังคับ​ฝืน​ตัวเอง​กับ​เรื่อง​ที่​ยัง​ไม่​เกิดขึ้น​ด้วย​?

เขา​มีชีวิต​เพื่อ​อะไร​?​ ​มีความหมาย​อะไร​?

เฉินลั​่​วลุก​ขึ้น​มา​อย่าง​ฉับพลัน​ ​เดิน​วน​ไป​ตาม​ซุ้ม​องุ่น​หนึ่ง​รอบ

หวัง​ซีก​ล่า​วอ​ย่าง​สงสัย​ว่า​ ​“​เจ้า​กิน​อิ่ม​แล้ว​หรือ​ ​น้ำพริก​นี้​รสชาติ​ดีมาก​ ​ไม่​เสียแรง​ที่​เป็น​มังกร​ระห่ำ​ข้ามน้ำข้ามทะเล​มา​ ​ยืน​อยู่​ใน​จิง​เฉิง​อย่างมั่นคง​ได้​ ​หาก​เจ้า​รู้สึก​ว่า​เผ็ด​เกินไป​ ​ข้า​ให้​ไป๋​กั่ว​ไป​ยก​น้ำพริก​หวาน​ที่​บ้าน​ข้า​ทำ​ขึ้น​มา​เอง​ให้​เจ้า​สัก​จาน​หนึ่ง​ ​รสชาติ​เปรี้ยว​ๆ​ ​หวาน​ๆ​ ​มี​ความ​เผ็ด​แซม​สาย​หนึ่ง​ ​ช่วย​ให้​เจริญอาหาร​ยิ่ง​ ​ส่วน​น้ำพริก​นี้​ของ​เจ้า​ทิ้ง​เอาไว้​ที่นี่​ ​เจ้า​มาค​ราว​หน้า​ ​ข้า​จะ​ให้​แม่ครัว​ผัด​หมู​หั่น​เต๋า​รส​เผ็ด​ให้​เจ้า​สัก​จาน​หนึ่ง​ ​เจ้า​ชอบ​กิน​หมู​หั่น​เต๋า​มาก​มิใช่​หรือ​ ​ยัง​ทำ​ขนม​แป้ง​ทอด​ไส้​เนื้อ​ให้​เจ้า​ได้​ด้วย​”

เฉินลั​่ว​หยุด​ฝีเท้า​ลง​ ​หัวเราะ​ออกมา​ใน​ทันใด

ถึง​รู้​ว่า​มารดา​ใช้​วิธี​ของ​ตัวเอง​มาป​กป​้​อง​ตน​ ​แต่​เขา​ยังคง​ชอบ​ที่​ทุกๆ​ ​วัน​มี​คน​มาถาม​ไถ่​เขา​เรื่อง​กิน​เรื่อง​ดื่ม​ ​มา​เอา​ใส่ใจ​ดูแล​เรื่อง​อาหาร​และ​เครื่องนุ่งห่ม​ของ​เขา​อยู่ดี

เฉินลั​่​วก​ล่า​วอ​ย่าง​ที่​ใจ​นึก​ว่า​ ​“​ดี​เลย​!​ ​ถ้า​เจ้า​ชอบ​ ​ตอน​มาค​ราว​หน้า​ข้า​จะ​เอา​น้ำพริก​มา​ให้​อีก​ ​หรือไม่ก็​ ​เจ้า​อยาก​เรียน​ทำ​หรือ​ไม​ ​หาก​เจ้า​อยาก​เรียน​ ​ข้า​จะ​หาวิ​ธี​ทำให้​หวัง​เอ้อ​หมา​จื่อ​สอน​เจ้า​”

“​อย่า​เลย​ดีกว่า​!​”​ ​หวัง​ซีก​ล่าว​ยิ้ม​ๆ​ ​“​เป็น​สูตร​เอาไว้​ทำมาหากิน​ที่​สืบทอด​ต่อกัน​มา​ของ​ผู้อื่น​ ​เจ้า​ทำ​เช่นนี้​ ​ก็​เหมือน​ไป​แย่ง​ชาม​ข้าวของ​ผู้อื่น​มา​อย่าง​ไม่ต้องสงสัย​ ​เช่นนี้​ต่าง​อะไร​กับ​การ​ปลิด​ชีพ​ผู้อื่น​เล่า​?​ ​อย่า​ให้​กลายเป็น​ว่า​ต้อง​ได้ชื่อ​เป็น​คนชั่ว​ร้าย​เพียง​เพื่อ​ของกิน​คำ​หนึ่ง​เลย​”

“​แต่​มนุษย์​บน​โลก​ใบ​นี้​ ​ก็​อยู่​เพื่อ​กิน​ดื่ม​สอง​คำ​นี้​มิใช่​หรือ​”​ ​เฉินลั​่​วก​ล่าว​เสียง​เบา

หวัง​ซี​ได้ยิน​ไม่ชัด​ ​ถาม​ว่า​ ​“​เจ้า​พูด​อัน​ใด​นะ​”

“​เปล่า​!​”​ ​เฉินลั​่​วก​ลับ​มานั​่ง​ลง​ใต้​ซุ้ม​องุ่น​อีกครั้ง​ ​เมื่อ​กิน​ขนม​แป้ง​ย่าง​ที่​เขา​เอา​มา​หมด​แล้วก็​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​อากาศ​เย็น​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​แล้ว​ ​เจ้า​ควร​สร้าง​ห้อง​อุ่น​สัก​ห้อง​ถึง​จะ​ดี​”​

ต่อไป​เขา​ก็​จะ​ได้มา​ขอ​ข้าว​กิน​บ่อยๆ

หวัง​ซี​ไม่ได้​คิดมาก​ขนาด​นั้น​ ​ยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​วางใจ​เถิด​ ​วาง​เตาไฟ​เตา​หนึ่ง​เอาไว้​ ​รับประกัน​ว่า​เจ้า​ไม่​แข็ง​ตาย​แน่นอน​”

ทั้งสอง​คน​ชวน​กัน​คุย​ไม่รู้จบ​ ​ล้วนแล้วแต่​เป็นเรื่อง​ใน​ชีวิตประจำวัน​ทั้งสิ้น​ ​ทว่า​กลับ​ทำให้​เฉินลั​่​วรู​้​สึก​สงบ​และ​มั่นคง

เขา​ออกมา​จาก​เรือน​หวัง​ซีก​็​เลี้ยว​ไป​ยัง​เรือน​พัก​ของ​จ่าง​กง​จู่​ ​กล่าวว่า​ ​“​เรื่อง​คุณหนู​หวัง​ท่าน​อย่า​เพิ่ง​เข้าไป​ยุ่ง​ ​บ้าน​พวกเรา​เป็น​เช่นนี้​ ​ท่าน​อยาก​ทำให้​ผู้อื่น​ตกต่ำ​ไป​กับ​พวกเรา​ด้วย​หรือ​?​”

จ่าง​กง​จู่​ได้ยิน​แล้ว​ไม่​ชอบใจ​ ​กล่าวว่า​ ​“​เจ้า​รู้​ว่า​พวกเรา​จะ​ตกต่ำ​?​ ​หาก​เป็น​เช่นนี้​แล้ว​นาง​ยัง​ยินดี​ติดตาม​เจ้า​ ​นั่น​ถึง​แสดงว่า​นาง​ชอบ​เจ้า​จริงๆ​”

“​ข้า​ไม่รู้​ว่า​พวกเรา​จะ​ตกต่ำ​หรือไม่​”​ ​เฉินลั​่​วก​ล่าว​ ​“​และ​ข้า​ไม่​คิด​ว่า​ต้อง​ร่วมทุกข์ร่วมสุข​ด้วยกัน​ก่อน​ถึง​จะ​เป็นความ​รักแท้​ ​ข้า​เพียง​ไม่​อยาก​ให้​เรื่องราว​ซับซ้อน​ไปมา​กก​ว่านี​้​ ​เรื่อง​อื่น​พวกเรา​มาหา​รือ​ด้วยกัน​ดี​ๆ​ ​ได้​ ​ยกเว้น​เพียง​เรื่อง​นี้​เรื่อง​เดียว​เท่านั้น​ที่​ไม่ได้​”

สอง​แม่​ลูก​แยกย้าย​กัน​ไป​อย่าง​ไม่สบอารมณ์

จ่าง​กง​จู่​บ่น​กับ​ชิง​กู​ที่​รับผิดชอบ​เวร​กลางคืน​ว่า​ ​“​มี​คน​เป็น​บุตรชาย​เช่น​เขา​ด้วย​หรือ​ ​ข้า​ไม่ได้​ทำ​เพื่อ​เขา​หรือ​อย่างไร​ ​เขา​ถึง​ไม่รู้​จัก​ซาบซึ้ง​กับ​สิ่ง​ที่​ข้า​ทำเลย​ตั้งแต่​เด็ก​จน​โต​”

ชิง​กู​ได้​แต่​โน้มน้าว​จ่าง​กง​จู่​ว่า​ ​“​คุณชาย​รอง​โต​แล้ว​ ​มี​ความคิด​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ​นี่​มิใช่​เรื่อง​ดี​หรือ​เจ้า​คะ​ ​หาไม่​แล้ว​ใน​ราชสำนัก​มี​จิ้งจอก​เฒ่า​มากมาย​ปาน​นั้น​ ​มิ​เท่ากับ​ว่า​จับ​คุณชาย​รอง​ไป​ฉีก​กิน​ได้​หรือ​”

จ่าง​กง​จู่​ไม่ได้​กล่าว​สิ่งใด​ ​ปล่อย​ให้​ชิง​กู​ปรนนิบัติ​นาง​นอนลง​เสร็จ​แล้ว​ถึง​ได้​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​เจ้า​ว่า​ ​เหตุใด​เฉิน​อวี​๋​ถึง​ยัง​ไม่มี​ความ​เคลื่อน​อะไร​?​ ​เขา​คง​ไม่ได้​คิด​ว่า​เขา​ไม่​เอ่ย​แล้ว​ข้า​จะ​ไม่​ไล่​สืบสวน​หรอก​กระมัง​ ​ตอนนั้น​เขา​รับปาก​ข้า​ต่อหน้า​ฝ่า​บาท​แล้ว​ว่า​จะ​แต่งตั้ง​หลิน​หลาง​เป็น​ซื่อ​จื่อ​ ​เขา​คง​ไม่ได้​กลับ​ถึง​จวน​แล้ว​รู้สึก​เสียดาย​ภายหลัง​ขึ้น​มา​หรอก​กระมัง​”

ชิง​กูรู​้​สึก​ว่า​มี​ความเป็นไปได้​จริงๆ​ ​เพียงแต่​ไม่​อาจ​กล่าว​ออกมา​ตรงๆ​ ​ได้​แต่​กล่าวว่า​ ​“​วันนี้​ดึก​แล้ว​ ​มีเรื่อง​อะไร​ก็​คง​ต้อง​รอ​ให้​ถึง​พรุ่งนี้​แล้ว​ค่อย​ว่า​กัน​อีกที​ ​ท่าน​พักผ่อน​ก่อน​เถิด​!​ ​พรุ่งนี้​ข้า​ค่อย​หาวิ​ธี​ไป​สืบ​ข่าว​”

จ่าง​กง​จู่​ ​“​อืม​”​ ​เสียง​หนึ่ง​แล้ว​หลับตา​นอน

เพียงแต่ว่า​เช้าตรู่​วันรุ่งขึ้น​ ​จ่าง​กง​จู่​แต่งกาย​เรียบร้อย​ ​พา​องครักษ์​ที่​สนิท​ที่สุด​ออกจาก​บ้าน​ไป​ด้วย​เพียง​สอง​คน​ ​กว่า​ชิง​กู​และ​คนอื่นๆ​ ​จะ​รู้​ว่า​จ่าง​กง​จู่​เข้า​วัง​ ​ก็​เป็นช่วง​บ่าย​ของ​วัน​ดังกล่าว​ตอนที่​เจิ​้​นกั​๋​วก​งก​ลับ​มาจาก​ที่ทำการ​แล้ว

ชุ่ย​กู​กล่าว​ ​“​นี่​จ่าง​กง​จู่​ไป​พบ​ฮองเฮา​เหนียง​เหนียง​หรือ​ ​เหตุใด​ถึง​ไม่​พา​คน​ไป​ด้วย​อีก​สัก​สอง​สาม​คน​?​”

นาง​กับ​ชิง​กูรับ​ใช้​จ่าง​กง​จู่​มาตั​้ง​แต่​เด็ก​ ​บัดนี้​ก็​เป็น​ข้า​ราชสำนัก​สตรี​ฝ่ายใน​ที่​มียศ​มีตำ​แหน่ง​ ​ข้าง​กาย​มีนา​งกำ​นัล​คอย​ปรนนิบัติ​รับใช้​ ​จ่าง​กง​จู่​จึง​ไม่ได้​ใช้งาน​พวก​นาง​ทุก​เรื่อง

ชิง​กู​มอง​ชุ่ย​กู​ครั้งหนึ่ง​ ​ไม่ได้​กล่าว​สิ่งใด

เจิ​้​นกั​๋​วก​งก​ลับ​พุ่ง​เข้ามา​อย่าง​เดือดดาล​ ​กล่าว​เสียง​ดุดัน​ว่า​ ​“​จ่าง​กง​จู่​เล่า​?​ ​นาง​ยัง​ไม่​กลับ​จวน​อีก​หรือ​”

ชิง​กู​กับ​ชุ่ย​กู​ต่าง​ตกใจ​เป็นอย่างมาก

ถึงแม้​เจิ​้​นกั​๋​วก​งกับ​จ่าง​กง​จู่​ไม่ได้​เป็น​สามีภรรยา​ที่​กลมเกลียว​กัน​ ​ทว่า​เบื้องหน้า​ต่าง​ยังคง​มี​ความระแวดระวัง​ตัว​อยู่​บ้าง​ ​นี่​นับเป็น​ครั้งแรก​ที่​พวก​นาง​ได้​เห็น​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ปกปิด​ความโกรธ​ของ​ตัวเอง​ไม่ได้​เช่นนี้

ทั้งสอง​ก้าว​ออกมา​ทำความเคารพ​อย่าง​พร้อมเพรียงกัน​ ​กำลังจะ​พูด​ ​เจิ​้​นกั​๋​วก​งก​็​ตะโกนเรียก​ขึ้น​มาก​่อ​นว​่า​ ​“ฝู​หยวน​ ​เจ้า​ออกมา​เดี๋ยวนี้​ ​อย่า​คิด​ว่า​ข้า​ไม่รู้​ว่า​เจ้า​เป็น​คน​ทำ​เรื่อง​นี้​ ​เจ้า​มี​ความสามารถ​ทำ​ ​ก็​ต้อง​มี​ความสามารถ​ยอมรับ​ด้วย​ ​จะ​หลบ​ไป​ทำไม​?​”

ชิง​กู​กับ​ชุ่ย​กูรี​บก​้า​วอ​อก​มา​ขวาง​เอาไว้​ ​โน้มน้าว​เสียง​อบอุ่น​ว่า​ให้​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ไป​นั่ง​ใน​โถง​รับรอง​ก่อน​ ​พวก​นาง​จะ​ไป​ตาม​จ่าง​กง​จู่​มา​ให้

เจิ​้​นกั​๋​วกง​แสยะ​ยิ้ม​เย็น​ ​ยื่น​แขน​ออก​ไป​หมาย​จะ​ผลัก​ทั้งสอง​คน​ ​กลับ​มีเสียง​ของ​จ่าง​กง​จู่​ดัง​มาจาก​ข้าง​กาย​เขา​ว่า​ ​“​ท่านกั​๋​วกง​จะ​ทำ​อะไร​ ​ที่นี่​คือ​จวน​จ่าง​กง​จู่​ ​หา​ใช่​จวน​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ของ​พวก​เจ้า​!​ ​ท่านกั​๋​วก​งอยาก​แสดงอำนาจ​บารมี​ ​ก็​เชิญ​ไป​ที่​จวน​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ ​อย่า​ทำให้​พื้นที่​จวน​จ่าง​กง​จู่​ของ​ข้า​ต้อง​แปดเปื้อน​”

เจิ​้​นกั​๋​วกง​ได้ยิน​แล้ว​โกรธจัด​ ​หมุน​กาย​ไป​ชี้​จ่าง​กง​จู่​พลาง​กล่าว​ ​“​เจ้า​อย่า​อาศัย​ว่า​เจ้า​เป็น​จ่าง​กง​จู่​แล้ว​จะ​ทำ​อะไร​ก็ได้​ ​ข้า​ขอบ​อก​เจ้า​ ​องค์​หญิง​แต่ง​ผู้​ต่ำ​ศักดิ์​กว่า​ ​กฎ​บ้าน​สำคัญ​เท่า​กฎ​แผ่นดิน​ ​นี่​คือ​สิ่ง​ที่​จักรพรรดิ​ไท่​จง​บัญญัติ​ไว้​ ​เจ้า​กล้า​ไม่​เคารพ​กฎ​ของ​บรรพบุรุษ​หรือ​”

“​ตอน​ใด​ที่​ข้า​ไม่​เคารพ​กฎ​ของ​บรรพบุรุษ​?​”​ ​สีหน้า​ของ​จ่าง​กง​จู่​ก็​ไม่น่า​ดู​มาก​เช่นกัน​ ​กล่าวว่า​ ​“​เพราะ​ข้า​เคารพ​กฎ​ของ​บรรพบุรุษ​มากเกินไป​ ​ถึง​ได้​ตก​มา​อยู่​ใน​สถานการณ์​เช่นนี้​ ​เฉิน​อวี​๋​ ​เจ้า​ไม่จำเป็น​ต้อง​เอ่ยถึง​สิ่ง​ที่​ไม่มี​เหล่านั้น​ ​เจ้า​มาหา​ข้า​ที่นี่​ ​ก็​เพื่อ​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​เฉิน​อิง​ ​ข้า​ไม่​กลัว​ที่จะ​บอก​เจ้า​ตามตรง​ ​ไม่ผิด​ ​ข้า​เป็น​คน​สอด​มือ​เข้าไป​ยุ่ง​เรื่อง​งานแต่ง​ของ​เขา​เอง​…

…​เจ้า​อย่า​ลืม​ว่า​เจ้า​เคย​รับปาก​ข้า​ต่อหน้า​เสด็จ​พี่​ของ​ข้าว​่า​จะ​ขอ​แต่งตั้ง​เฉินลั​่ว​เป็น​ซื่อ​จื่อ​…

…​แต่​แล้ว​หนังสือ​ขอ​แต่งตั้ง​อยู่​ที่ใด​เล่า​?…

…​เจ้า​กล้า​ทำ​ก่อน​ ​ข้า​ก็​กล้า​ทำตาม​…

…​ในเมื่อ​เจ้า​ไม่ยอม​ขอ​แต่งตั้ง​เฉินลั​่ว​เป็น​ซื่อ​จื่อ​ ​เช่นนั้น​ข้า​ก็​จะ​ให้​เฉิน​อิง​แต่ง​ซือ​จู​เข้ามา​ ​ข้า​เอง​ก็​อยาก​ดูเหมือน​กัน​ว่า​ ​หลังจากที่​เขา​มี​ภรรยา​เอก​เป็น​บุตร​ของ​ขุนนาง​ต้องโทษ​แล้ว​ ​จะ​เป็น​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ซื่อ​จื่อ​ได้​อย่างไร​…

…​แน่นอน​ ​เจ้า​เอง​ก็​ไป​เจรจา​ต่อรอง​กับ​เสด็จ​พี่​ของ​ข้า​ต่อไป​ได้​โดย​การ​ฆ่า​เฉินลั​่ว​เสีย​ ​แต่​เจ้า​ต้อง​คิด​คำนวณ​ให้​ดี​ ​ต้อง​สังหาร​ข้า​ไป​ด้วย​อีก​คน​ ​หาไม่​แล้ว​ต่อให้​เฉินลั​่ว​ตาย​ ​เฉิน​อิง​มี​ภรรยา​เอก​เช่น​ซือ​จู​ ​ข้า​ก็​ถวาย​ฎีกา​ต่อ​ฮ่องเต้​ได้​ ​อาจจะ​รับ​บุตรบุญธรรม​ผู้​หนึ่ง​มาสื​บท​อด​จวน​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ ​หรือ​อาจจะ​ทำให้​จวน​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ไร้​บรรดาศักดิ์​ไป​เสีย​…

…​ตั้งแต่​ก่อตั้ง​แผ่นดิน​มีกั​๋​วกง​สิบ​ท่าน​ ​บัดนี้​เหลือ​เพียง​สาม​ท่าน​เท่านั้น​…

…​ข้า​คิด​ว่า​ ​ไม่ว่า​ผู้ใด​ได้​เป็น​ฮ่องเต้​ ​ย่อม​ยินดี​ที่​ข้า​ถวาย​ฎีกา​เช่นนี้​ขึ้นไป​”

เจิ​้​นกั​๋​วกง​ได้ยิน​แล้ว​พลัน​อ่อนข้อ​ลงมา​ ​กล่าว​อย่าง​ขอร้อง​ว่า​ ​“​ใช่​ว่า​ข้า​ไม่​อยาก​ขอ​แต่งตั้ง​เฉินลั​่ว​เป็น​ซื่อ​จื่อ​ ​แต่​ระยะนี้​มีเรื่อง​มากมาย​เกินไป​ ​นอกจากนี้​เฉิน​อิง​ก็​เป็น​บุตรชายคนโต​จาก​ภรรยา​เอก​ ​ตลอด​หลาย​ปี​ที่ผ่านมา​ ​เขา​เข้าใจ​มาต​ลอด​ว่า​ตัวเอง​จะ​ได้​เป็น​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ซื่อ​จื่อ​ ​ต่อให้​เจ้า​ไม่เห็น​แก่​หน้า​ข้า​ ​แต่​สุดท้าย​แล้ว​เจ้า​ก็​เห็น​เฉิน​อิง​เติบโต​ขึ้น​มา​ ​ถือเป็น​เกียรติ​ครั้งสุดท้าย​ที่​เจ้า​จะ​มอบให้​เขา​ใน​ฐานะ​เป็นมา​รดา​ผู้​หนึ่ง​ ​ให้​ข้า​ได้​คุย​กับ​เฉิน​อิง​ให้​เรียบร้อย​ก่อน​ ​แล้ว​ค่อย​ถวาย​ฎีกา​ขอ​แต่งตั้ง​เฉินลั​่​วก​็​ยัง​ไม่​สาย​”

จ่าง​กง​จู่​ยิ้ม​หยัน​ ​กล่าวว่า​ ​“​ในเมื่อ​เจ้า​อยาก​ให้​เฉิน​อิง​เป็น​ซื่อ​จื่อ​ ​เช่นนั้น​เจ้า​จะ​แต่ง​กับ​ข้า​เพื่อ​อัน​ใด​ ​สายเลือด​ของ​ราชวงศ์​มีเกียรติ​สูงสุด​ ​เขา​ที่​เป็น​บุตรชายคนโต​จาก​ภรรยา​เอก​ผู้​หนึ่ง​ข่ม​ได้​หรือ​ ​สิ่งเลวร้าย​ที่​เจ้า​กระทำ​ ​เหตุใด​ต้อง​ให้​ข้ามา​เก็บกวาด​ความวุ่นวาย​ให้​เจ้า​ด้วย​”

แม้น​กล่าว​เช่นนี้​ ​แต่​สุดท้าย​แล้ว​น้ำเสียง​ของ​นาง​ก็​อ่อน​ลง​ไม่น้อย

เจิ​้​นกั​๋​วกง​รู้​ว่า​เรื่อง​นี้​คง​นับว่า​ผ่านพ้น​ไป​ได้​แล้ว

เขา​จึง​กล่าว​ถ้อยคำ​ขอโทษ​ขอ​โพย​อีก​สอง​สาม​ประโยค​ ​เสร็จ​แล้ว​ถึง​ได้​จากไป

ชิง​กู​กับ​ชุ่ย​กู​โกรธ​จน​แทบ​ทนไม่ไหว​ ​กล่าวว่า​ ​“​จ่าง​กง​จู่​ ​ครั้งนี้​ท่าน​ก็​จะ​ปล่อยไป​เช่นนี้​หรือ​เจ้า​คะ​?​”

“​จะ​เป็นไปได้​อย่างไร​”​ ​จ่าง​กง​จู่​จับจ้อง​เงา​หลัง​ของ​เจิ​้​นกั​๋​วกง​ ​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​ยัง​ไม่รู้​ว่า​เขา​มีพฤ​ติกร​รม​น่ารังเกียจ​เพียงใด​ ​เมื่อก่อน​ก็​เพียง​แก่งแย่ง​ที่หนึ่ง​หมู่​สาม​เฟิน​ผืน​หนึ่ง​เท่านั้น​ ​แต่​ครั้งนี้​เขา​กลับ​ไม่สน​ใจ​สัมพันธ์​ระหว่าง​บิดา​บุตร​แล้ว​ ​สามีภรรยา​ครึ่ง​ๆ​ ​กลางๆ​ ​อย่าง​พวก​ข้า​นี้​ ​ยาม​มี​หายนะ​มา​จวนตัว​ควรจะ​ต่าง​คน​ต่าง​โบยบิน​ถึง​จะ​ถูก​”

ชิง​กู​กับ​ชุ่ย​กู​ได้ยิน​แล้ว​ไม่กล้า​แม้แต่​จะ​หายใจ​เสียงดัง

ผล​ปรากฏ​ว่าวั​นรุ​่ง​ขึ้น​มีพ​ระ​ราชโองการ​ประกาศ​ออกมา​จาก​วัง​หลวง​ ​บอกว่า​ซือ​จู​ ​‘​มีคุณ​ธรรม​ความสามารถ​ ​กิริยามารยาท​งดงาม​ ​เป็น​ที่รัก​ของ​พี่น้อง​’​ ​เป็น​คู่​ที่​เหมาะสม​ของ​เฉิง​อิง​ ​ให้​ซือ​จู​กับ​เฉิน​อิง​แต่งงาน​กัน​ใน​วันที่​สิบ​เดือน​สิบเอ็ด

…………………………………………………………………………………….