บทที่ 164 ไป๋ซู่ซู่

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 164 ไป๋ซู่ซู่

คำพูดนี้ทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่จากฝูงชนโดยรอบ ไม่มีใครนึกเลยว่า ลู่เต๋อ จะลงโทษ ซูอัน รุนแรงขนาดนี้ถึงขั้นไล่ออกจากสถาบันทันที

ด้วยตำแหน่งของ ลู่เต๋อ ที่เป็นอาจารย์คุมกฎของสถาบันเขาจึงมีอำนาจพอที่จะไล่นักศึกษาคนไหนก็ได้ หากนักศึกษาผู้นั้นทำผิดกฎจริง ๆ

หงซิงอิง ที่ซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มฝูงชน หัวเราะเยาะเย้ยชอบใจ ฮ่า! เป็นไงล่ะไอ้เวรซูอัน เจ้าชอบทำตัวหยิ่งผยองนักใช่มั้ย? เห็นไหมล่ะในที่สุดตอนนี้ผลกรรมทั้งหลายมันก็ตามเจ้าทันแล้ว! นับจากนี้เจ้าจะต้องเผชิญกับความอับอายที่ถูกไล่ออกจากสถาบันและยิ่งไปกว่านั้นตระกูลฉู่ เป็นตระกูลที่ให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของตัวเองมากที่สุด ข้ารับประกันได้เลยว่าหลังจากนี้เมื่อ นายท่าน และ นายหญิง รู้เรื่องเข้า พวกเขาจะไม่มีทางปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ แน่นอน!

เมื่อสองวันก่อน หงจง ได้เตือนเขาให้ควบคุมตัวเองเพื่อไม่ให้พ่อของเขาต้องถูกตำหนิ หงซิงอิง จึงตัดสินใจที่จะหยุดยุ่งกับซูอันและมุ่งความสนใจไปที่การบ่มเพาะแทน

อีกคนหนึ่งที่มีความสุขไม่ต่างอะไรกับ หงซิงอิง ก็คือ หยวนเหวินตง เขาเป็นบุคคลที่โดดเด่นและสูงส่งในสถาบันมาโดยตลอด เขาเป็นที่เคารพนับถือจากหลาย ๆ คน ก่อนหน้านี้เขาหวังว่าเรื่องการทะลวงระดับไปสู่ระดับ 5 มันจะกลายเป็นเรื่องฮือฮาครั้งใหญ่ของสถาบันซึ่งทำให้เขายิ่งถูกเคารพมากขึ้นไปอีก แต่ท้ายที่สุดมันก็จบลงด้วยการถูกทำลายโดย ซูอัน

เขาคงไม่รู้สึกคับแค้นขนาดนี้ถ้าเขาแพ้ผู้บ่มเพาะที่แข็งแกร่งกว่า แต่ในวันนั้นเขากลับโดน ซูอันเหยียบย่ำด้วยปากอันแหลมคมและใช้ให้ เพ่ยเหมียนหมาน มากำราบเขาซะราบคาบซึ่งมัน ทำให้เขารู้สึกอัปยศเป็นอย่างมากที่ในวันนั้นเขาไม่สามารถทำอะไรขยะประจำเมืองผู้นี้ได้เลย!

อันที่จริงในวันนี้เมื่อเขาเห็น ซูอัน นั่งไขว่ห้างอย่างจองหองบนเก้าอี้ เขารู้สึกอยากจะก้าวออกไปสั่งสอนบทเรียนให้กับฝั่งตรงข้ามเหมือนกัน แต่แล้วก่อนที่เขาจะออกไปเขาบังเอิญ เหลือบไปเห็นว่า เพ่ยเหมียนหมาน ก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน ประสบการณ์จากความพ่ายแพ้ครั้งก่อนที่นางฝากเอามันจึงทำให้แรงจูงใจของเขาลดลงทันที เขาสามารถเดาได้เลยว่าถ้าเขาก้าวออกไป ซูอัน คงไม่ลังเลที่จะเรียกผู้หญิงคนนี้ออกมาอีกรอบอย่างไร้ยางอายทันที ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียง รั้งตัวเองไว้

ในขณะที่เขารู้สึกอึดอัดกับเรื่องทั้งหมด การมาของ ลู่เต๋อ ก็ทำให้สถานการณ์พลิกผันไปแบบไม่คาดคิด ซึ่งมันไล่ความรู้สึกหนักอึ้งในอกของเขาออกไป

ในขณะเดียวกัน ซูอัน ก็สังเกตเห็นคะแนนความโกรธแค้นจาก หงซิงอิง และ หยวนเหวินตง เช่นกัน ไอ้สองคนนี้มันดื้อด้านเหมือนแมลงสาบจริง ๆ แต่ช่างเถอะ ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาไปสนใจ สองคนนี้!

แต่แล้วก่อนที่เขากำลังจะตอบกลับคำพูดของ ลู่เต๋อ จู่ ๆ ฉู่ฮวนเจา ก็ก้าวออกมาข้างหน้าและพูดแทนเขาซะก่อน

“อาจารย์ลู่ ท่านทำแบบนี้มันเกินไปหน่อยแล้ว! ท่านไล่พี่เขยของข้าออกจากสถาบันแบบนี้ได้ยังไง? ก่อนหน้านี้ที่พี่เขยของข้าเล่นพนันเขาก็ไม่ได้เล่นการพนันในสถาบันสักหน่อย และนอกจากนี้ การเดิมพันที่เขาทำกับอาจารย์คณิตศาสตร์ มันสามารถถือได้ว่าเป็นการพนันที่ไหน? และอีกอย่างคนที่เสนอการเดิมพันมันคือหยางเว่ย ดังนั้นคนที่ท่านควรจะลงโทษมันก็คือหยางเว่ยไม่ใช่หรือไง?” ฉู่ฮวนเจา พูดขึ้นเสียงดังด้วยใบหน้าแดงก่ำ

ซูอัน ชูนิ้วโป้งให้นาง ดูเหมือนน้องภรรยาผู้นี้จะห่วงใยข้าจริง ๆ อย่างน้อย ๆ การที่ข้าโดนนางใช้แส้ฟาดเมื่อตอนนั้นมันก็ไม่เปล่าประโยชน์เลยจริง ๆ

ลู่เต๋อ ตอบกลับอย่างสงบต่อ ฉู่ฮวนเจา ที่กำลังแสดงสีหน้าไม่ยินยอม “แน่นอนว่าข้า ต้องลงโทษคนที่เสนอเดิมพันก่อนอยู่แล้ว การที่อาจารย์ผู้สอนเสนอการเดิมพันต่อนักศึกษาเป็นการส่วนตัวเป็นการทำผิดกฎอย่างร้ายแรง ข้าประกาศตรงนี้เลยว่าต่อจากนี้ไปหยางเว่ยจะถูกไล่ออกจากสถาบันจันทร์กระจ่าง เอาล่ะ เจ้ามีอะไรจะพูดอีกไหม?”

การแจ้งปลดหยางเว่ยอย่างกะทันหันเช่นนี้สร้างความโกลาหลครั้งใหญ่ให้กับฝูงชนอีกรอบ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้หยางเว่ยจะวางเดิมพันกับซูอันเอาไว้ว่าถ้าเขาแพ้เขาจะลาออกจากสถาบัน แต่ต้องรู้เอาไว้ว่ามันเป็นสัญญาปากเปล่า ซึ่งถ้าหาก หยางเว่ย หน้าหนาพอ เขาก็ยังสามารถเลือกที่จะกลับมาสอนในสถาบันได้ต่ออย่างไร้ยางอาย

อย่างไรก็ตาม หลังจากการประกาศเช่นนี้ของ ลู่เต๋อ มันทำให้เรื่องราวทุกอย่างมันเปลี่ยนไปในทันที เพราะตอนนี้มันหมายความว่า หบางเว่ย ถูกสถาบันไล่ออกอย่างเป็นทางการแล้ว หยางเว่ย จะไม่สามารถกลับมาได้อีก และมีแนวโน้มว่าต่อไปจะไม่มีสถาบันอื่นในมณฑลกล้าจ้างเขาด้วย

ถึงแม้ว่าจะได้ยินเช่นนี้ ฉู่ฮวนเจา ก็ยังคงอยากจะพูดเถียงต่อไปอีกเพื่อประท้วง แต่ ลู่เต๋อ กลับจ้องเขม็งไปที่นางและกล่าวว่า “พูดถึงเรื่องนี้ข้าก็นึกบางเรื่องขึ้นมาได้ คุณหนูรองฉู่ ก่อนหน้านี้ท่านได้สมรู้ร่วมคิดกับไอ้คนผู้นี้หลอกข้าที่ทางเข้าสถาบันเมื่อไม่กี่วันก่อน ข้ายังไม่ได้คิดบัญชี กับท่านเลย ท่านจำได้หรือเปล่า?”

เมื่อเห็นดวงตาอันเฉียบคมของ ลู่เต๋อ ฉู่ฮวนเจา ก็ก้มหน้าลงไม่กล้าพูดอะไรต่อ ไม่ว่าอย่างไรนางก็ยังเป็นเด็กอยู่ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกลิ่นอายที่เข้มงวดของ ลู่เต๋อ นางจึงพบว่ามันยากที่จะ ดื้อดึงต่อไป

ในทางกลับกัน เมื่อได้ยินประโยคนี้ ซูอัน ก็เข้าใจแล้วว่าทำไม ลู่เต๋อ ถึงอยากเล่นงานเขานัก ที่แท้มันก็เป็นเพราะเรื่องเมื่อตอนนั้นนี่เอง! ปั๊ดโธ่ ไอ้คนผู้นี้มันจะไม่เจ้าคิดเจ้าแค้นไปหน่อย หรือไงกัน?

ซ่างหลิวอวี้ พ่นลมหายใจและพูดแทรกแซงขึ้นด้วยท่าทางที่เย็นชาเล็กน้อย “ถ้ายึดตามคำพูดของอาจารย์ลู่ งั้นข้าก็ควรจะถูกลงโทษด้วยในฐานะพยานการเดิมพันของพวกเขาด้วย จริงไหม?”

“อาจารย์ซาง นั่นไม่ใช่ความตั้งใจของข้า ข้าเข้าใจว่าที่ท่านมาเป็นพยานนั้นก็เพราะท่านแค่พยายามจะรักษาความยุติธรรมในการเดิมพันเอาไว้ ดังนั้นท่านจึงถูกตัดสินว่าไม่มีความผิดใด ๆ” ลู่เต๋อ พยายามยิ้มให้หล่อที่สุดในขณะที่ตอบคำถามของซางหลิวอวี้เพียงแต่ว่าหัวล้านของเขามันกลับทำให้เขาดูไม่มีเสน่ห์เอาซะเลย

“ชิ!” ฝูงชนเดาะลิ้นของพวกเขาทันที

แต่แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าวิจารณ์การกระทำของ ลู่เต๋อ

“ไอ้หยา อาจารย์คุมกฎลู่ นี่ท่านกำลังแสดงให้ทุกคนที่นี่เห็นตัวอย่างของความหมายของคำว่า ‘สองมาตรฐาน’ ใช่ไหม?”

ซูอัน กะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความประหลาดใจ เสียงนั้นนุ่มนวลและอ่อนหวาน พูดตามหลักเหตุผลแล้ว มันควรจะเป็นเสียงของหญิงสาวที่งดงาม แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกว่ามันมีบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับเสียงนี้

ด้วยดวงตาที่เฉียบคมของเขา เขาสังเกตเห็นคิ้วของ ลู่เต๋อ กระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินประโยคเมื่อครู่ ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่นักศึกษาชายหลายคนก็กลืนน้ำลายด้วยสีหน้าหวาดกลัว ร่างบางของพวกเขาเริ่มสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้

แต่ในทางกลับกันบรรดานักศึกษาหญิงกลับแสดงท่าทางปกติราวกับผู้ที่มาถึงไม่มีพิษมีภัยอะไร

กลิ่นน้ำหอมลอยมาตามลม จนตลบอบอวลไปทั่วห้องเรียน ซูอัน อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่า กลิ่นน้ำหอมนี้มาจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงของเมืองรึเปล่า?

หลังจากนั้น ร่างผอมบางร่างหนึ่งก็เดินเข้ามาอยู่ในวิสัยทัศน์ของ ซูอัน คนผู้นี้สวมเสื้อคลุม สีขาว ผมยาว คิ้วสวย ดวงตาสีดอกพีช ผิวหน้าเนียนละเอียดอ่อน ถ้าคนคนนี้ไม่ใช่ผู้ชาย เขาจะต้องมีผู้ไล่ตามเขานับไม่ถ้วนอย่างแน่นอน

ในแง่ของรูปลักษณ์ ซูอัน รู้สึกว่ามีเพียงคนเดียวที่สามารถเทียบเทียมกับคนผู้นี้ได้ก็คือ เซี่ยซิว อย่างไรก็ตาม แม้ว่า เซี่ยซิว จะมีรูปลักษณ์ที่เหมือนผู้หญิง แต่นิสัยและท่าทางของเขาก็เป็นผู้ชาย ทำให้ไม่มีใครกังขาในเพศของเขา

อย่างไรก็ตาม ผู้ชายที่เพิ่งปรากฏตัวผู้นี้กลับแสดงท่าทีคล้ายกับผู้หญิงซึ่งมันทำให้แยกแยะได้ยากจริง ๆ ว่าเขาเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่ ไม่ว่าจะเป็นวิธีที่เขากอดอกแบบผู้หญิงหรือแม้กระทั่งวิธีที่เขาส่ายก้นไปมาขณะเดิน ซึ่งมันทำให้ทุกคนที่เห็นเช่นนี้สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของผู้หญิงออกมาจากเขา

“คนผู้นี้เป็นใครกัน?” ซูอัน พึมพำออกมาอย่างไม่รู้ตัวด้วยความอยากรู้มากกว่าคนผู้นี้เป็นใครกัน?

โชคไม่ดีที่ตอนนี้ เว่ยสั่ว หนีหายไปไหนแล้วไม่รู้ ดังนั้นมันจึงไม่มีใครให้ข้อมูลนี้แก่เขา อย่างไรก็ตาม จู่ ๆ ซางหลิวอวี้ ก็แอบกระซิบคำตอบกับเขาว่า “เขาคือ ไป๋ซู่ซู่ อาจารย์ที่รับผิดชอบบทเรียนการบ่มเพาะในสถาบัน ชั้นเรียนสีเหลืองของเจ้ามีคาบเรียนการบ่มเพาะน้อยมากและเจ้าก็เพิ่งเข้ามาเรียนได้ไม่กี่วันดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่เจ้าจะไม่รู้จักเขา”

“ไป๋ซู่ซู่…” ซูอัน อดไม่ได้ที่จะทวนชื่อเพราะชื่อนี้สำหรับผู้ชายมันเป็นชื่อที่ค่อนข้างแปลก

“ไอ้หยา~” ลู่เต๋อเลียนแบบน้ำเสียงผู้หญิงแบบเดียวกับที่ ไป๋ซู่ซู่ เอ่ยเมื่อครู่ก่อนที่จะ ถ่มน้ำลายออกมาอย่างดูถูกเหยียดหยาม “ในฐานะผู้ชาย เจ้าช่วยทำตัวให้เหมือนผู้ชายสักหน่อย จะได้ไหมทำไมถึงชอบทำตัวน่ารังเกียจแบบนี้อยู่เรื่อย ๆ ? เจ้ารู้ไหมว่าเจ้าทำให้ข้าขนลุกทุกครั้งที่เห็นหน้าของเจ้า!”

“เมื่อครู่เจ้ายังปฏิบัติต่อน้องซ่างอย่างอ่อนโยนอยู่เลย เหตุใดตอนนี้เจ้ากลับพูดกับข้าอย่างหยาบคายได้ถึงขนาดนี้ล่ะท่านอาจารย์ลู่?” ไป๋ซู่ซู่ บ่นขึ้นพลางแสดงสีหน้า ‘เขินอาย’ “หรือว่าท่านคิดว่าข้าอ่อนหวานเทียบกับน้องซ่างไม่ได้? หน้าตาของข้างดงามสู้นางไม่ได้จริง ๆ เหรอ?”

“อุแหวะะะ~”

ในที่สุดฝูงชนที่อยู่รอบ ๆ ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปและรีบแยกย้ายกันไป

แม้แต่รอยยิ้มที่ไร้กังวลของซางหลิวอวี้ ก็ดูแข็งทื่อเล็กน้อยเมื่อได้ยินเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่า นางรู้สึกย่ำแย่นิดหน่อยเมื่อถูกเอาไปเปรียบเทียบ

สีหน้าของ ลู่เต๋อ เปลี่ยนเป็นมืดหม่นราวกับถ่าน “ไป๋ซู่ซู่ อย่ามาวุ่นวายเรื่องที่เจ้าไม่เกี่ยวข้อง ไสหัวไปซะ!”

“โอ้ยโหยว! ดูที่ท่านพูดเข้าสิ!” ไป๋ซู่ซู่ ยกมือโบกผ้าเช็ดหน้าไปมา ซึ่งมันคล้ายกับท่าทีของนางคณิกาในซ่องที่มักใช้เรียกลูกค้า “พวกเขาเป็นนักศึกษาของข้าด้วย แล้วนี่จะไม่ใช่เรื่องของข้า ได้ยังไง?”

ซูอัน เบิกตากว้างด้วยความตระหนัก มันชัดเจนเลยว่า ไป๋ซู่ซู่ ผู้นี้ไม่ถูกกับ ลู่เต๋อ แน่นอน ดูเหมือนว่านับจากนี้เขาคงจะต้องพึ่งพาคนผู้นี้ให้ต่อกรกับ ลู่เต๋อ แทนเขา!

อย่างไรก็ตาม เมื่อเขานึกไปถึงเรื่องพฤติกรรมแปลก ๆ ของ ไป๋ซู่ซู่ เขาก็อดไม่ได้ที่จะ กลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่ เป็นไปได้ไหมที่ผู้ชายคนนี้ชอบผู้ชาย? งั้นข้าจะทำอย่างไรดีถ้าเขาอยากได้ข้าไปปรนเปรอ?