บทที่ 163 เจ้าอีกแล้วงั้นหรือ?
สมองของ หยางเว่ย ในตอนนี้มันกลวงไปหมด เขายืนมึนงงไม่ได้ยินอะไรและไม่รับรู้ อะไรทั้งสิ้น
ในทางกลับกัน ซูอัน กลับค่อนข้างไม่พอใจกับปฏิกิริยาของ หยางเว่ย เฮ้ เฮ้ เฮ้ เจ้าจะยอมแพ้ง่ายไปหน่อยไหม? เจ้าให้คะแนนความโกรธข้าแค่ไม่เท่าไหร่เอง!
จากนั้นถึงแม้ว่า ซูอัน จะเหยียบย่ำ หยางเว่ย ต่อไปโดยการเฉลยพร้อมกับอธิบายคำตอบของคำถามที่เหลืออยู่ หยางเว่ย กลับให้คะแนนความโกรธเพิ่มมาอีกแค่เพียงไม่กี่ร้อยเท่านั้น ซึ่งดูจากรูปการณ์แล้วตอนนี้จิตใจของ หยางเว่ย น่าจะพังทลายไปเรียบร้อย
“นี่เขาไม่เข้าใจคำถามแม้แต่ข้อเดียวจริง ๆ ! อาจารย์หยางไม่ไร้ความสามารถไปหน่อยหรือ?”
“เขามักจะทำตัวราวกับตัวเองรู้ไปซะทุกเรื่อง แต่จริง ๆ แล้วเขามันก็ดีแต่ปากเท่านั้นเอง!”
“เหอะ อาจารย์แบบนี้ ทางสถาบันเอาเขามาสอนพวกเราได้ยังไงกัน? ความรู้เพียงแค่นี้ของเขามันจะไม่ทำให้พวกเรายิ่งตกต่ำตามเขาไปด้วยงั้นเหรอ?”
…
เสียงวิจารณ์ของนักศึกษาโดยรอบเป็นเหมือนดั่งมีดที่แทงเข้าไปในหัวใจของ หยางเว่ย จนในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวและตะโกนอย่างบ้าคลั่งก่อนจะวิ่งออกจากห้องเรียนไปโดยใช้มือปิดหูไว้ ไม่ว่าใครจะตะโกนใส่เขาอย่างไร เขาก็ยังคงวิ่งต่อไปไม่หยุด ในตอนนี้เขาต้องการออกจากที่เลวร้ายแห่งนี้ไปให้เร็วที่สุด
มันน่าขายหน้าเกินไป! เขาคิดว่าเขาสามารถเหยียบย่ำ ซูอัน ได้อย่างง่ายดาย แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าเขาจะเป็นฝ่ายที่ถูกเหยียบย่ำแทน? หลังจากเหตุการณ์นี้ มันไม่มีทางที่เขาจะกล้าเสนอหน้ามาที่สถาบันจันทร์กระจ่างอีกแน่นอน
สำหรับอาจารย์ที่ไม่สามารถตอบคำถามใด ๆ ของนักศึกษาของเขาได้ เขาจะต้องกลายเป็นตัวตลกของทุก ๆ คนที่เห็นหน้าเขาอย่างแน่นอนไม่ใช่แค่ใน เมืองจันทร์กระจ่าง แต่ยังรวมถึงมณฑลข้างเคียงอีกด้วย!
“ลูกพี่ ท่านช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ!” เว่ยสั่ว รีบวิ่งมาข้างเพื่อนวดไหล่ของ ซูอัน
แม้แต่นักศึกษาคนอื่น ๆ ก็รีบเข้ามาหาซูอันเช่นกันเพื่อประจบประแจงโดยการรินน้ำชา ให้หรือเอาของว่างมาให้เขา
ถึงแม้ว่า ซูอัน จะไม่เก่งกาจทางด้านการบ่มเพาะ แต่ด้วยความสามารถทางคณิตศาสตร์เช่นนี้ เขาจะต้องมีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้าแน่นอน ดังนั้นมันจะเป็นการดีที่สุดที่พวกเขาจะ ผูกมิตรกับซูอันเอาไว้ในตอนนี้
ทางด้านของ ฉู่ฮวนเจา ก็อยากจะวิ่งเข้าไปหาพี่เขยของนางเช่นกัน แต่รอบตัวของ ซูอัน มีฝูงชนอยู่หนาแน่นเกินไปจนนางไม่สามารถแทรกตัวเข้าไปได้เลย ท้ายที่สุดนางก็กระทืบเท้าเดินออกไปพร้อมกับสบถอย่างหงุดหงิด “ไอ้พวกสอพลอเอ๊ย!”
สีหน้าของ จี้เสี่ยวซี เวลานี้ก็เปลี่ยนเป็นตื่นเต้นกับความสำเร็จอันน่าประทับใจของ ซูอัน แต่ในขณะเดียวกัน นางก็กังวลกับ ซูอัน ด้วยเช่นกัน เขาจะไม่เดือดร้อนเหรอที่ล่วงเกินอาจารย์ของสถาบันแบบนี้?
ริมฝีปากของ เพ่ยเหมียนหมาน เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มซึ่งมันน่าเย้ายวนจนผู้ชายที่อยู่รอบ ๆ ตัวนางต่างตกอยู่ในภวังค์จนหน้ามืดตามัว “ก่อนหน้านี้ข้ายังรู้สึกผิดหวังอยู่หน่อย ๆ ที่ต้องตัดสินใจทำข้อตกลงกับชายผู้นี้ แต่ตอนนี้มันดูเหมือนว่าข้าคงสามารถใช้ประโยชน์จากเขาได้บ้างล่ะนะ”
ไม่ไกลนัก เจิ้งตาน สามารถมองเห็นปฏิกิริยาของทั้ง ฉู่ฮวนเจา เพ่ยเหมียนหมาน และจี้เสี่ยวซี ได้อย่างชัดเจน ซึ่งมันทำให้นางรู้สึกตกใจ นางเคยคิดว่าความสัมพันธ์ของ ซูอัน กับผู้หยิงเหล่านี้เป็นเพียงแค่ข่าวลือ แต่ในตอนนี้ดูเหมือนว่ามันน่าจะเป็นเรื่องจริงแล้วสิ ซูอัน มีเสน่ห์ดึงดูดผู้หญิงที่โดดเด่นเหล่านี้ได้อย่างไร?
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงตะโกนดังขึ้น “พวกเจ้ามาทำอะไรกันที่นี่แทนที่จะกลับไปเข้าห้องเรียน? พวกเจ้ากำลังรวมตัวกันก่อกบฏต่อสถาบันงั้นหรือไง?”
เมื่อสิ้นเสียง ชายวัยกลางคนหัวล้านก็เดินเข้ามาพร้อมกับไม้บรรทัดคู่ใจ แน่นอนว่าคน ที่เพิ่งพูดจะเป็นใครคนอื่นไม่ได้นอกจากอาจารย์คุมกฎสถาบันผู้เถรตรงลู่เต๋อ!
ฝูงชนแยกทางโดยพร้อมเพรียงกันเพื่อเปิดเส้นทางให้ ลู่เต๋อ เดินผ่านไปถึง ซูอัน ที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่วงท่าราวกับเป็นราชาผู้เย่อหยิ่ง แถมยังมีเพื่อนนักศึกษาคนอื่น ๆ คอยรินช้าและป้อนขนมเข้าปากให้
ภาพนี้มันทำให้ ลู่เต๋อ ขมวดคิ้วแน่นยิ่งขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นว่าซางหลิวอวี้ อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเช่นกัน หน้านิ่วคิ้วขมวด ของเขาก็คลายลงในทันที “อา อาจารย์ซางก็อยู่ที่นี่ด้วยงั้นเหรอ? ว่าแต่มันเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้? ข้าเห็นหยางเว่ยรีบวิ่งออกไปพร้อมกับสีหน้าที่ดูไม่ได้ ข้าเรียกเขาตั้งหลายรอบแต่เขาไม่ตอบอะไรข้าเลยสักคำ”
“เขาคงจะรู้สึกอับอายน่ะ”ซางหลิวอวี้ ตอบกลับพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย จากนั้นนางอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อย่างรวดเร็ว
“เจ้าอีกแล้วงั้นเหรอ!” สายตาของ ลู่เต๋อ ที่เมื่อครู่มองไปที่ซางหลิวอวี้ อย่างอ่อนโยน แปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวทันทีเมื่อเขาหันไปทาง ซูอัน!
กลิ่นอายความกดดันมหาศาลหลั่งไหลออกจากร่างกายของ ลู่เต๋อ ส่งผลให้ เว่ยสั่ว และคนอื่น ๆ ถอยห่างออกไปทันทีจนไม่มีใครกล้าที่จะอยู่เคียงข้าง ซูอัน อีกต่อไป
พอถึงเวลาเผชิญกับปัญหาไอ้เด็กพวกนี้มันรีบถอยทำอย่างกับไม่รู้จักข้าเลยเชียวนะ! ซูอัน ก่นด่าในใจ จากนั้นเขาจ้องมองไปที่ ลู่เต๋อ อย่างสงบและพูดว่า “เป็น หยางเว่ย ที่เริ่มเรื่องก่อน และอีกอย่างเป็นเขาเองที่เป็นคนเสนอการเดิมพันนี้ตั้งแต่แรก ทำไมตอนนี้ท่านกลับหาว่าข้าเป็นตัวสร้างปัญหาซะอย่างนั้นล่ะท่านอาจารย์ลู่?”
“เจ้าลืมกฎของสถาบันของเราแล้วงั้นเหรอ? หนึ่งในกฎที่สำคัญที่สุดของสถาบันก็คือเหล่านักศึกษาจะต้องเคารพอาจารย์ผู้สอน ไม่ว่าเจ้าจะมีความสามารถแค่ไหน หากเจ้าไม่มีความเคารพ ผู้อาวุโสกว่า ท้ายที่สุดเจ้าจะกลายเป็นภัยคุกคามต่อโลกเมื่อเจ้าออกจากสถาบัน!” ลู่เต๋อ เอ่ยขึ้น ด้วยสีหน้าดุดัน
“ข้าเกรงว่าข้าคงจะไม่เห็นด้วยกับคำพูดของท่าน ถึงแม้ว่านักศึกษาควรจะเคารพอาจารย์ผู้สอนก็จริง แต่มันก็ควรอยู่บนพื้นฐานที่ว่าอาจารย์ผู้นั้นต้องเป็นคนที่เป็นแบบอย่างที่ดีด้วย แต่สถานการณ์เมื่อครู่ หยางเว่ยจงใจพุ่งเป้าหาเรื่องข้าด้วยเหตุผลส่วนตัว บุคคลเช่นนั้นควรค่าแก่การให้นักศึกษายกย่องจริง ๆ งั้นหรือ ท่านอาจารย์ลู่?” ซูอัน ตอบด้วยการขมวดคิ้ว
“แต่เขาก็ยังคงเป็นอาจารย์ผู้สอนของเจ้า! ต่อให้เขาจะประพฤติตัวไม่เหมาะสม เจ้าก็ควรปล่อยให้สถาบันตรวจสอบเรื่องนี้ นักศึกษาเช่นเจ้าจะมาจัดการกับเขาด้วยตัวเองแบบนี้ได้ยังไง!” เมื่อเห็นว่า ซูอัน ยังคงกล้าที่จะต่อล้อต่อเถียง ลู่เต๋อ ก็โกรธมากขึ้น
“ท่านหมายความว่าอย่างไรที่บอกว่าข้าจัดการกับเขาด้วยตัวเอง? การเดิมพันของเรานั้นเป็นการตกลงใจกันอย่างยุติธรรม ทุกคนที่อยู่ที่นี่สามารถเป็นพยานได้” ซูอันกล่าวขณะที่เขาชี้ไปที่นักศึกษารอบ ๆ “และยิ่งไปกว่านั้น เพื่อความเป็นธรรมมากและทำให้การเดิมพันนี้ถูกต้องมากขึ้น ข้ายังเชิญอาจารย์ซางให้มาเป็นสักขีพยานอีกต่างหาก”
ซางหลิวอวี้พยักหน้าเห็นด้วย “เป็นเช่นนั้นจริงอาจารย์ลู่ อาจารย์หยางก็เห็นด้วยเช่นกัน”
“อาจารย์ซาง ท่านอย่าหลงกลเด็กคนนี้ง่าย ๆ จะดีกว่า!” ลู่เต๋อ ยิ้มให้ซางหลิวอวี้ก่อนจะหันกลับมาหา ซูอัน ด้วยสีหน้าที่เข้มงวด “ข้าได้ยินว่าเจ้าเป็นนักเสี่ยงโชคใช่ไหม? เจ้ารู้หรือเปล่าว่า กฎหลักสิบประการของสถาบันเราคือไม่อนุญาตให้เล่นการพนัน แต่ก่อนหน้านี้เจ้ากลับเดินเข้าไปเล่นพนันในบ่อนโกยเงินอย่างเปิดเผย จนทำให้เกิดความโกลาหลไปทั้งเมือง เจ้ารู้หรือไม่ว่าการกระทำแบบนั้นของเจ้ามันสร้างชื่อเสียงด้านลบให้กับสถาบันของเราขนาดไหน? ข้ายังไม่ได้ลงโทษเจ้าในเรื่องนั้นเลย แต่วันนี้เจ้ากลับมาเดิมพันกับอาจารย์ในสถาบันอีกงั้นเหรอ? ฮึ่ม! วันนี้ข้าขอประกาศเอาไว้เลยว่าสถาบันของเราไม่ต้องการนักพนันอย่างเจ้าที่นี่ หลังจากวันนี้เจ้าควรจะอยู่แต่ในตระกูลฉู่และไม่ต้องกลับมาเรียนที่นี่อีก!”