ผู้พิทักษ์แดนเหนือ มาร์เกรฟแห่งโรเซนเบิร์ก จอร์จ ฟอน โรเซนเบิร์ก
ปฏิทินเอ็มไพร์: ปี 1506 เดือนที่ 3 วันที่ 1
เทือกเขาเเบล็คป้อมปราการพิสุทธ์
ในตอนดึก.
นายทหารรีบมาหาข้าและรายงาน
“ท่านแม่ทัพ พวกเรากำลังถูกโจมตี! แม่มดตอนนี้กำลังถล่มกำแพงอยู่!”
ศัตรูกำลังโจมตีเข้ามา
ด้วยประโยคเดียว ข้าไปหยิบฝักและใบดาบขึ้นมาแล้วมุ่งไปที่ยอดของปราการในทันที
“เกิดอะไรขึ้นวะ?”
ทหารไม่สามารถให้คำตอบได้อย่างถูกต้องและชี้ไปบนท้องฟ้า ทันทีที่ข้ามองขึ้นไป ได้เห็นแม่มดทะยานผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน แสงจันทร์ถูกหมู่เมฆและหิมะปกคลุมไว้ ทำให้ยากต่อการมองเห็นร่างของมันอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ข้าสามารถบอกได้ว่าจำนวนแม่มดมีประมาณ 20 คน แม่มดได้ทิ้งวัตถุลงบนกำแพง
“อะไรกำลังถูกทิ้งลงมา……”
มันคือหัว เป็นหัวแบบเดียวกับที่เคยเห็นครั้งสุกท้ายที่ถูกยิงโดยเครื่องยิงหิน เเต่ตอนนี้มันกำลังตกลงมาเหมือนลูกเห็บด้วยมือของแม่มด ศีรษะของมนุษย์ซึ่งถูกเเผดเผาด้วยเปลวเพลิงกำลังเข้าปกคลุมกำแพง
— ฮี่…….ฮรี้รรรรรรร !
พวกทหารได้ลดตัวลงพร้อมสั่นกลัว พวกทหารเชื่อว่าแม่มดได้ทำพิธีสาปแช่งพวกเขา เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องจากพวกทหาร ข้าก็ได้หรี่ตาลง
“……”
ทำไมกัน
ถึงขนาดฟันฝ่าพายุหิมะมา ทำไมพวกมันถึงบุกปราการมาเพื่อเเค่จะทิ้งหัวศพกัน?
ถึงมันอาจจะเป็นวิธีที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพในการลดขวัญกำลังใจฝ่ายเรา แต่ด้วยเวลาแบบนี้คิดยังไงการทำเช่นนี้มันก็แปลกๆ มันเป็นช่วงเวลากลางคืน หากพวกมันจะทำทำไมไม่ทำไปพร้อมกับการปิดล้อมป้อมปราการเล่า มันจะไปมีความหมายอะไรถ้าเเค่เพื่อทิ้งหัวที่ไร้ชีวิตลงมากัน?
ขณะขมวดคิ้ว ข้าได้ออกคำสั่ง
“ส่งนักเวทย์ทั้งหมดขึ้นไป”
กองทัพผู้วิเศษทางอากาศของเราก้าวขึ้นไปบนขอบกำเเพงและบินขึ้นไปบนท้องฟ้ายามราตรี
สิ่งหนึ่งที่ผู้วิเศษทางอากาศกลัวที่สุดคือการต่อสู้ในความมืดมิดของราตรี อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นโอกาสอันดีที่ พวกจำนวนแม่มดที่อยู่ข้างพวกมันมีเเค่ 20 คน และจอมเวทย์ฝ่ายเรามีเกือบ 30 คน เราสามารถเอาชนะพวกมันได้เเน่
การต่อสู้อันดุเดือดเต็มไปทั่วท้องฟ้า มีแม่มดถูกยิงด้วยหน้าไม้ เสียงกรีดร้องเเผดออกมาขณะที่พวกเธอได้ล่วงลง แม่มดที่จับไม้กวาดไม่ได้เเล้ว ได้ร่วงลงไป ศีรษะของพวกนางตกกระแทกพื้นจนเเตก
เสียงหัวแตกดังก้องมาจากด้านล่างของกำเเพงปราสาท เหมือนไก่ฟ้าที่ล้มลงเมื่อถูกนักล่าฆ่า แม่มดถูกสอยลงมาทีละคนๆ เเต่เพราะไม่มีแหล่งกำเนิดแสงที่ด้านล่างซึ่งแม่มดได้ตกลงมา มันจึงดูเหมือนหลุมมืดสู่นรก มองไม่เห็นศพและมีเพียงเสียงหัวแตกที่ดังก้องออกมา แม้ทหารจะออกมาสู้อย่างเต็มกำลัง เเต่พวกแม่มดก็ไม่หนีไปไหน
ในขณะนั้นเอง รู้สึกราวกับกระแสไฟฟ้าได้ไหลผ่านร่างกายของข้า
“……!”
เป็นแบบนี้นี่เอง
พวกมันกำลังเตรียมการเพื่อถอยทัพ
เพื่อให้กองทหารของพวกมันถอนกำลังออกไปได้ เพียงทำให้ได้รับเวลามากขึ้นในการล่าถอย พวกมันเลยส่งแม่มดออกมา โดยการโยนหัวพวกที่ตายมาข่มขู่เรา ในขณะที่เรากำลังพัลวันกับแม่มดและกำลังกังวลเกี่ยวกับการลอบโจมตียามวิกาล กองกำลังของศัตรูเองก็มีแนวโน้มจะถอยทัพกลับไปอีกด้านหนึ่งของขอบฟ้ายามค่ำคืนเเล้ว
“ท่านเเม่ทัพ ระวัง!”
นายทหารตะโกน
มีแม่มดสองคนกำลังเข้ามาหาข้า
รู้สึกข้าตกใจที่เเม่มดลดเพดานบินลงมาอย่างกะทันหัน หน้าไม้ยิงลูกศรที่โหลดเก็บไว้ออกมา หัวของแม่มดคนหนึ่งโดนลูกศรปักเข้าไป เเต่อย่างไรก็ตาม แม่มดอีกคนยังมีชีวิตอยู่ และเข้ามาหาข้านขณะที่ข้าได้ชักดาบออกมา
“ฮึบ!”
เสียงโลหะชนกันอย่างรุนแรง ข้าได้ยกดาบยาวขึ้นมาและเข้ารับการฟันของแม่มดไว้ได้
แม้ว่าร่างกายของแม่มดจะเล็กกว่าข้ามาก แต่ความแข็งแกร่งของพวกนางก็ไม่ได้น่าประทับใจนัก แต่การโจมตีเพียงครั้งเดียวซึ่งรวมเอาแรงที่สะสมจากการบินไว้ด้วยไม้กวาดของเธอก็มีพลังรุนเเรงได้
ข้าพลิกตัวกลับด้านตามแรงที่ซัดเข้ามา แม่มดก็เหวี่ยงตัวเองใส่ข้าทันที เนื่องจากแม่มดเข้ามาใกล้ข้า ในขณะที่กำลังประดาบกันอยู่ พวกทหารที่อยู่รอบๆ เราไม่สามารถเข้ามาใกล้ได้เลย
“อ่าฮะ! อะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะ—!”
แม่มดปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
รูปลักษณ์ของนางดูราวกับเด็กที่เพิ่งจะอายุมากกว่า 10 ขวบ
มีลูกศรปักอยู่ที่หน้าอกของหญิงสาวผมสีบลอนด์แพลตตินั่ม ทุกครั้งที่เธอเหวี่ยงดาบ เลือดจะไหลออกมาจากบาดแผลของเธอ นั่นน่าจะเจ็บปวดพอที่จะทำให้คนเป็นบ้าได้ แต่แม่มดก็หัวเราะออกมา เพื่อไม่ให้แม่มดมีโอกาสร่ายมนตร์ ข้าจึงต้อนเธอด้วยดาบ จากนั้นในขณะที่มีช่องว่างข้าก็ต่อยไปที่ท้องของแม่มดด้วยหมัดซ้ายของตัวเอง
“—อุ๊บ’ ฮาาา”
ไม่สามารถต้านทานการโจมตีของข้าได้ แม่มดถูกต่อยกระเด็นออกไป
ร่างของแม่มดลอยข้ามกำแพงและตกลงไปที่ด้านล่าง
หน้าไม้ติดอยู่ที่ขอบกำเเพงเริ่มยิงลงไปข้างล่าง เสียงได้เงียบสงบลงไปทันทีในบริเวณที่ลูกศรยิงเข้าไป แม่มดไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง เเต่เพราะข้าไม่ได้ยินเสียงหัวที่แตก ข้าเลยเดาว่านางน่าจะสามารถหลีกเลี่ยงความตายรอดมาได้
“ท่านแม่ทัพ ได้รับบาดเจ็บไหมครับ!?”
“มองมาที่ข้าก่อนเเล้วค่อยถามได้ไหม? ข้ายังไม่แก่จนถึงจุดที่เด็กจะทำอะไรข้าได้หรอก”
ข้าเก็บดาบเข้าฝัก
ในท้องฟ้ายามค่ำคืนอันห่างไกล แม่มดที่รอดชีวิตออกมาได้กำลังหลบหนี ดูเหมือนว่าแม่มดหกหรือเจ็ดใน 20 คนเสียได้ชีวิตไป เมื่อเห็นว่าเงาที่หลบหนีออกไปได้มีจำนวนน้อยนิด ข้าก็รู้สึกสมเพซขึ้นมา
“กองกำลังทั้งหมด จงเปิดประตูป้อมปราการและเข้าโจมตี! กองทหารของศัตรูกำลังวางแผนที่จะถอยทัพในขณะที่ใช้แม่มดเป็นแพะรับบาปเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจไปจากพวกเรา จงเป่าแตรซะ!”
หลังจากขับไล่แม่มดออกไปได้ พวกทหารก็ร้องลั่น นักเวทย์ยิงลูกไฟขึ้นไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะ
ในคืนที่เมฆครึ้มนี้ การระเบิดของลูกไฟสามารถมองเห็นได้เต็มตา พวกทหารได้รับอิทธิพลจากแสงจ้า ทหารของเราลืมเรื่องความหนาวเย็น ลืมความตาย และเดินผ่านประตูออกไป ผู้บังคับกองร้อยและผู้ช่วยกำลังวิ่งไปรอบๆบริเวณที่มืดมิดเพื่อจัดระเบียบแถว ข้าขี่ม้าขาวออกไปข้างหน้า
ไม่ต้องสงสัยเลย
หลังจากได้ยินว่ากองกำลังโจมตีหลักของพวกมันพ่ายแพ้ไป จอมมารเลยวางแผนถอยทัพกลับไปยังดินแดนปีศาจ
เพราะพวกมันไม่มีความมั่นใจในการเผชิญหน้ากับพวกเราเเล้วและก็ไม่มีความมุ่งมั่นที่จะยืนหยัดสู้ต่อ เเละยังโทษกองทัพหน่วยอื่นที่พ่ายแพ้ไปเเล้วอีก พวกมันจึงตั้งใจที่จะถอยทัพกลับไปทั้งหมด
“จงตามข้ามา!”
ไม่ควรเสียเวลาไปมากกว่านี้อีกเเล้ว
ถ้า ดันทาเลี่ยน สามารถถอยทัพออกไปได้อย่างปลอดภัย มันก็ไม่ใช่ชัยชนะของข้าน่ะสิ ชัยชนะมันจะกลายเป็นของเจ้าหญิงจักรพรรดิคนเดียวเท่านั้น
เพราะจากเจ้าหญิงแห่งจักรวรรดิชนะ กองทหารของศัตรูจึงถอยทัพไป หากข้าเป็นได้เเค่คนดูอยูที่นี่ ข้าคงกลายเป็นเพียงคนโง่เขลาที่สูญเสียป้อมปราการทมิฬไปและสามารถเอามันกลับมาได้เพียงเพราะเจ้าหญิงจักรพรรดิเป็นคนกำชัยในสงคราม หากแบบนั้นไป สงครามครั้งนี้จะจบลงอย่างสมบูรณ์มันจะกลายเป็นชัยชนะของเจ้าหญิงจักรพรรดิ์เเน่ๆ ซึ้งเรื่องแบบนั้นมันไม่ควรที่จะเกิดขึ้น!
ต้องมีใครสักคนขัดขวางการขึ้นเป็นผู้นำของเจ้าหญิงจักพรรดิให้ได้ ถ้าหากทำไม่ได้ล่ะก็ลูกตะกั่วเล็กๆมันจะนำพากลายเป็นน้ำท่วมเมื่อใดก็ได้ เมื่อเจ้าหญิงจักรพรรดิะปลดบัลลังก์ของพระราชบิดาของตัวเองเพื่อชื่อเสียงอันรุ่งโรจน์ และเธอก็จะกวาดล้างพี่ชายของเธอด้วยเหตุแห่งชัยชนะนี้เเน่ๆ ในสถานการณ์ที่เข้าข้างเธอแบบนี้ มันจะไปมีใครเล่ากล้าจะประณามเธอได้? หากไม่มีใครสามารถทำได้เเล้ว ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากข้าเท่านั้นที่จะหยุดยั้งนางได้
เพราะนั่นเป็นหน้าที่ของขุนนาง
เพราะนั่นคือภารกิจของข้าในฐานะโรเซนเบิร์ก
เพื่อความสงบสุขของจักรวรรดิ และการแก้แค้นของข้า จอมมาร ดันทาเลี่ยน เเกจะต้องตายอยู่ใน ภูเขาเเบล็ค คืนนี้..