บทที่ 191 ไม่มีประโยชน์

เซียวเย่เจ๋อเบะปากทันที เลียนแบบท่าทางของหย่งหนิง พลางเกี่ยวแขนเสื้อของเผยยวนเอาไว้ “แม่ทัพเผย~ ท่านสงสารข้าเถอะนะ ท่านไม่รับข้าไว้ ข้าก็ไม่มีที่นอนแล้วนะขอรับ”

“ข้าไม่หลงกลเจ้าหรอก” ผู้ชายตัวโตมาออดอ้อนเอาอะไรกัน! คิดว่าตัวเองเป็นหย่งหนิงหรืออย่างไร

อาอินยังไม่ใช้ไม้นี้แล้วเลย รู้หรือไม่?

เผยยวนเพิ่งจะปัดมือของเซียวเย่เจ๋อออก เจ้าเด็กนั่นก็หอบผ้าปูที่นอนและเสื่อฟางไปปูที่นอนให้ตัวเองแล้ว

“ข้าสัญญาว่าข้าจะไม่ส่งเสียง ข้าไม่กรนด้วย~” เซียวเย่เจ๋อเริ่มปูที่นอนอย่างตั้งอกตั้งใจ เผยยวนได้แต่คลึงหว่างคิ้วไปมา ก่อนจะหิ้วคอเสื้อของเซียวเย่เจ๋อเพื่อจะลากเจ้าเด็กนี่ออกไป

“แม่ทัพเผย! แม่ทัพเผยข้าจะเชื่อฟังท่านทุกอย่างเลยขอรับ!” เซียวเย่เจ๋อจับเอวของเผยยวนไม่ยอมปล่อย

ทางด้านนี้ จี้จือฮวนอาบน้ำให้อาอินและหย่งหนิงเสร็จแล้ว ก็อุ้มเจ้าตัวหอมทั้งสองคนเข้าไปในห้อง กล่อมพวกนางจนหลับไปแล้วจึงได้ไปที่หน้าประตูห้องของเผยยวน เรียกให้เขารีบไปอาบน้ำ

สุดท้ายกลับเห็นภาพเซียวเย่เจ๋อกับเผยยวนกำลังกอดกันอยู่

“ปล่อยมือ! เจ้าจะปล่อยหรือไม่ปล่อย!?”

“ไม่ปล่อย ไม่ปล่อย ข้าไม่ปล่อย ท่านตีข้าให้ตายข้าก็ไม่ปล่อย!”

“ไม่ปล่อยข้าจะตีเจ้าซะ!” เผยยวนโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ กับคนนอกเขาไม่ได้นิสัยดีเช่นนั้น

จี้จือฮวนยืนพิงประตู “ข้ามา…รบกวนพวกเจ้าหรือไม่?”

เผยยวนชะงักไปทันที เซียวเย่เจ๋อเองก็แข็งค้างไปด้วยเช่นกัน

อึดใจต่อมา ทั้งสองคนก็รีบยืนตัวตรง

เผยยวนมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ช่างยากจะอธิบายได้จริง ๆ

“เจ้าเข้ามากับข้าสักเดี๋ยว” ประโยคนี้จี้จือฮวนพูดกับเผยยวน เผยยวนอึ้งไปชั่วขณะ

เข้า…เข้าไปในห้องของนางหรือ?

ทุกครั้งเขาได้แต่ยืนมองอยู่ด้านนอก ยังไม่เคยได้เข้าไปข้างในเลย

หากคืนนี้ไม่มีเจ้าสุนัขเซียวเย่เจ๋ออยู่ด้วยก็คงจะดี

เซียวเย่เจ๋อยังไม่รู้ว่าตัวเองถูกคนที่ตัวเองเทิดทูนบูชารังเกียจเข้าให้แล้ว อีกทั้งยังจงใจแสดงออกถึงการมีตัวตนอยู่ของตัวเองอย่างจริงจังอีกด้วย “ข้าจะรอท่านกลับมานะขอรับ”

“…” นี่มันคำพูดอะไรกัน? ใครอยากให้เจ้ารอกัน!

เผยยวนกระแทกประตูปิด จากนั้นจึงจัดเสื้อผ้าเล็กน้อยแล้วตามจี้จือฮวนเข้าไปในห้อง และปิดประตูห้องของนางอย่างเบามือ

“สองวันมานี้ที่สร้างบ้าน มือคงมีแผลไม่น้อยเลยใช่หรือไม่ ข้าจะทายาให้”

จี้จือฮวนเปิดกล่องยาน้อยขึ้นมา ในนั้นเต็มไปด้วยไม้พันสำลีและเบตาดีนสำหรับการทำความสะอาดบาดแผลต่าง ๆ รวมถึงปลาสเตอร์ยาที่มีสีสันและลวดลายมากมาย

แม้จะรู้ว่ากล่องยาน้อยนั้นลำเอียงเข้าข้างเผยยวน แต่ถึงขนาดแม้แต่ไม้พันสำลีก็มีหลากหลายแบบกว่าคนอื่น นี่ก็จะชัดเจนเกินไปหน่อยกระมัง

โดยปกติแล้วเผยยวนไม่สนใจบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ ถ้ามีคนบอกว่าจะใส่ยาให้เขา เขาต้องโบกมือและไล่คนกลับไปอย่างแน่นอน

แต่ตอนนี้เผยยวนกลับยื่นมือของตัวเองออกไปอย่างเชื่อฟัง แน่นอนว่าจี้จือฮวนบีบฝ่ามือของเขาเอาไว้ แล้วหยิบแหนบขึ้นมาเพื่อช่วยดึงเสี้ยนไม้ที่ติดอยู่บนมือนั้นออก

เผยยวนมีความสุขอย่างมาก มือภรรยาของเขาช่างนุ่มนิ่มยิ่งนัก เขาชอบมันมาก…

ภายในห้องของเผยยวน เซียวเย่เจ๋อกำลังพิจารณาห้องของเผยยวนด้วยความคาดหวัง และอยากรู้อยากเห็นราวกับสาวน้อยก็มิปาน

หลังจากกลับไปบ้าน เขาก็จะแต่งห้องแบบนี้บ้าง ใช่แล้ว บนผนังก็ต้องแขวนคำว่าโชคดีไว้ด้วย และแขวนพริกพวงหนึ่งไว้ที่ขอบหน้าต่าง

ด้านนอกก็ต้องวางกระเทียม และปลูกผักไว้ที่ใต้หน้าต่าง

เซียวเย่เจ๋อยิ่งคิดก็ยิ่งมีความสุข และสงสัยว่าเหตุใดเผยยวนถึงยังไม่กลับมาอีก จึงอยากไปถามดูว่าจะไปอาบน้ำด้วยกันหรือไม่

สุดท้ายเพิ่งไปถึงหน้าประตู ก็ได้ยินเสียงพูดคุยของคนสองคน

เซียวเย่เจ๋อแนบหูลงไปบนประตู

“เอ๊ะ ของเจ้าใหญ่เกินไปหรือไม่? เช่นนี้แทงเข้าไปจะไม่ทะลุหรือ?”

“ไม่หรอก เจ้าวางใจเถอะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าก็พอ”

“เช่นนั้นก็ได้ แต่ข้าคิดว่าเล็กกว่านี้หน่อยจะดีกว่า”

สีหน้าของเซียวเย่เจ๋อพลันเปลี่ยนไปมา ในความสับสนแฝงไว้ด้วยความอึดอัดเล็กน้อย ในความอึดอัดก็แฝงไว้ด้วยความเหลือเชื่ออยู่สามส่วน ในความเหลือเชื่อก็แฝงไว้ด้วยความรู้สึกสุดจะพรรณนาอีกหลายส่วน

ใหญ่ อะไรใหญ่? เฮอะ แม่ทัพเผยต้องใหญ่อยู่แล้ว

ไม่สามารถจินตนาการต่อได้จริง ๆ ถ้าคิดลึกต่อไป ข้าก็คงไม่ใช่เซียวซื่อจื่อที่บริสุทธิ์อีกแล้ว!!!

ทว่าภายในห้อง…

ในที่สุดเผยยวนก็สนด้ายฝ้ายที่หนาเส้นหนึ่งเข้าไปในรูเข็มได้แล้ว จากนั้นก็แทงลงไปที่ผ้าป่านเนื้อดี “เช่นนี้ก็คงจะแน่นขึ้นแล้ว”

จี้จือฮวนไม่มีพรสวรรค์เรื่องเย็บปักถักร้อย เมื่อก่อนตอนอยู่ค่ายทหารเผยยวนล้วนซ่อมเสื้อผ้าด้วยตัวเอง ดังนั้นเขาจึงนับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ

“คืนนี้ขอบใจเจ้ามากนะ” จี้จือฮวนเก็บอุปกรณ์เย็บผ้ากลับเข้าไป

ด้านนอกประตู เซียวเย่เจ๋อกลับไปที่ห้องด้วยความมึนงง ที่แท้การที่พวกเขาสองสามีภรรยานอนแยกห้องกัน เป็นรสนิยมอย่างหนึ่งอย่างนั้นหรือ!

หมูเหยี่ยวล่าเหยื่อบังเอิญไปจับหนูในป่ากลับมากินพอดี เมื่อเห็นเซียวเย่เจ๋อมันก็วางหนูไว้ที่เท้าของเขา

เซียวเย่เจ๋อขมวดคิ้ว ทำไม! นี่กำลังดูถูกเขาอยู่อย่างนั้นหรือ?

“นี่ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าเป็นของใครกันแน่! วัน ๆ เอาแต่กิน ๆ ๆ กินจนอ้วนเป็นหมูแล้ว เจ้าดูสิว่ามีนกเหยี่ยวล่าเหยื่อตัวไหนที่มีรูปร่างเช่นเจ้าบ้าง?”

เผยยวนเปิดประตูออกมา เห็นนกกับคนกำลังจ้องหน้ากันอยู่พอดี

“เจ้า…เร็วเพียงนี้เชียวหรือ?” เซียวเย่เจ๋อถึงกับสำลักขึ้นมาทันที สายตามองสำรวจร่างกายของเผยยวนหนึ่งรอบ

ดูท่าใหญ่ไปก็ไม่มีประโยชน์ หรือไม่พรุ่งนี้ข้าให้ของบำรุงกับเขาสักหน่อยดีกว่า

เผยยวน “???”

บอกว่าใครเร็วกัน!

เขามองไปที่หนูตายที่อยู่บนพื้นกับหมูเหยี่ยวล่าเหยื่อที่ทำตาโตอยู่ แล้วพูดกับเซียวเย่เจ๋อ “มันเชิญเจ้ากินมื้อดึกน่ะ”

เพื่อยืนยันว่าคำพูดของเผยยวนนั้นเป็นความจริง หมูเหยี่ยวล่าเหยื่อจึงคาบหนูตายยื่นไปข้างหน้าอีกเล็กน้อย ราวกับกำลังจะบอกว่า กินเถอะ ๆ มนุษย์ที่ไม่มีความสามารถในการล่าเหยื่อช่างทำให้มันเป็นห่วงจริง ๆ นี่กำลังสด ๆ อุ่น ๆ อยู่เลย

เซียวเย่เจ๋อไม่สนใจหนูตายตัวนั้นอีก เขารีบตามเผยยวนเข้าไปในห้อง

บนมือของเผยยวนมีปลาสเตอร์ยาแปะเอาไว้หลายแผ่น บวกกับเมื่อครู่ได้เข้าไปในห้องของฮวนฮวน ดังนั้นเขาจึงอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก ทนเซียวเย่เจ๋อหน่อยก็ไม่เป็นอะไร

“เจ้าไปอาบน้ำก่อนเถอะ ข้าต้องอาบคนสุดท้ายและทำความสะอาดห้องน้ำด้วย” เพื่อไม่ให้วันต่อมาเวลาเข้าไปอาบน้ำแล้วลื่นล้มได้ หากจะมอบหมายให้คนอื่นเผยยวนไม่วางใจ โดยเฉพาะคุณชายอย่างเซียวเย่เจ๋อ

เซียวเย่เจ๋อตอนนี้ก็ไม่สะดวกจะถามว่าเขาจะไปอาบน้ำด้วยกันหรือไม่แล้ว

แต่ตอนที่เขาจะออกไปก็ยังได้เอ่ยแนะนำแก่เผยยวนอย่างระมัดระวัง “แม่ทัพเผย”

เผยยวนเงยหน้าขึ้นมองเขา

“คือ…ผู้ชายทำอะไรเร็วไม่ได้หมายความว่าไม่ดี แต่คราวหน้าควรจะใช้ลูกไม้ให้มากหน่อย ท่านต้องสามารถกลับไปนอนที่ห้องได้แน่ และข้าจะสนับสนุนท่านตลอดไปขอรับ” เซียวเย่เจ๋อเอ่ยจบก็วิ่งออกไปพร้อมใบหูที่แดงก่ำ

เพราะเขาเป็นห่วงมากจริง ๆ! พูดเช่นนี้แม่ทัพเผยคงจะไม่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกระมัง

เผยยวนที่นั่งอยู่บนเตียงคิดไม่ออกว่าที่เจ้าเด็กคนนี้พูดหมายถึงอะไร

อะไรที่บอกว่าเขาทำเร็วกัน?

จี้จือฮวนนั่งอยู่บนเตียงได้ยินเสียงเซียวเย่เจ๋อไปเข้าห้องน้ำ นางไม่ได้สนใจและทำงานในมือต่อ นางต้องทำเสื้อในให้ตัวเอง เพราะเสื้อผ้าของคนยุคโบราณนางรู้สึกไม่มั่นใจจริง ๆ

งานเย็บปักถักร้อยของนางนับว่าอ่อนด้อย ไม่ว่ายังไงก็ทำได้ไม่ดี

จี้จือฮวนจ้องมองห้องนี้ด้วยความรู้สึกท้อแท้อยู่ชั่วขณะหนึ่ง มาอยู่ที่นี่นานเพียงนี้แล้ว อีกไม่นานก็จะถึงฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ไม่รู้ว่าป่านนี้จะมีใครพบว่านางตายอยู่ในอะพาร์ตเมนต์หรือยัง

หากวันหนึ่งจู่ ๆ นางหายไปแล้วกลับมาไม่ได้อีกเล่า? ยิ่งผูกพัน ความโหยหาก็ยิ่งมากขึ้น

หากนี่เป็นเพียงความฝัน นางหวังว่าเผยยวนจะสามารถปกป้องบ้านเมืองของเขาได้ เด็กทั้งสามคนสามารถค้นพบอนาคตของตัวเองและไม่เดินตามเส้นทางเดิมอีก