บทที่ 23 ยังอาลัยอาวรณ์ตำแหน่งนายหญิงของตระกูล

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

“อาสาม แบบนี้…ไม่ดีมั้ง” เฉินฮวนฮวนปฏิเสธอย่างนิ่มนวล

เรื่องน่าอายที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ทำไมเฟิงหานชวนไม่รู้สึกละอายใจเลยแม้แต่น้อย

เขาไม่รู้สึกผิดกับแฟนสาวของตัวเองสักนิดเลยเหรอ

“ไม่ดียังไง เราจะได้คุยกันสะดวก” เฟิงหานชวนยังคงกล่าวอย่างเรียบเฉย

เราจะได้คุยกันสะดวก…

ประโยคนี้ ทำให้เฉินฮวนฮวนรู้สึกเย็นวาบไปทั่วแผ่นหลัง หวาดกลัวจนตัวสั่น

“อาสาม แฟนของคุณก็อยู่มหาลัยA นะ ตอนนี้คุณมีแฟน ที่นั่งข้างคนขับควรเป็นที่นั่งของแฟนคุณนะคะ กฎข้อนี้ ฉันจึงนั่งข้างคนขับไม่ได้ค่ะ”

เฉินฮวนฮวนกล่าวอย่างมีเหตุผล ความจริงทุกคำทุกประโยคของเธอกำลังเตือนเฟิงหานชวน เตือนสติว่าเขามีแฟนแล้ว อย่าทำอะไรออกนอกลู่นอกทางอีก

“อย่าพูดจาไร้สาระ” สีหน้าของเฟิงหานชวนเคร่งขรึมมาก เขาปิดประตูที่นั่งด้านหลัง และเปิดประตูรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับ

จากนั้น เขาก็จับมือของเฉินฮวนฮวน และลากเธอไปนั่งบนที่นั่งข้างคนขับ

เฉินฮวนฮวนถอยหลังกลับไม่ได้แล้ว สุดท้ายเธอทำได้เพียงขึ้นไปนั่งบนรถอย่างเชื่อฟัง นั่งลงบนที่นั่งข้างคนขับ

เธอคาดเข็มขัดนิรภัย และนั่งเบียดชิดริมประตู จนแทบจะหนีจากที่นั่งข้างคนขับหลายพันไมล์

เฟิงหานชวนเดินอ้อมไปด้านหน้ารถ เมื่อเปิดประตูรถทางฝั่งคนขับ เขาก็เห็นท่าทางเช่นนั้นของเฉินฮวนฮวน อารมณ์โมโหพลันพลุ่งพล่านขึ้นในใจ

เธอรังเกียจเขาขนาดนี้เชียวเหรอ

หรือว่า เธอยังคิดเรื่องตำแหน่งนายหญิงของตระกูลเฟิง ดังนั้นเธอจึงอยากอยู่ห่างจาก ‘อาสาม’

เฟิงหานชวนยิ่งคิดเขาก็ยิ่งโกรธ คิดไม่ถึงว่าตัวเองรู้สึกอะไรบางอย่างกับผู้หญิงคนนี้เข้าแล้ว เมื่อคืนเขายังจูบเธออย่างดุเดือดด้วยความหุนหันพลันแล่น

เมื่อนึกถึงตรงนี้ เฟิงหานชวนก็เหยียบคันเร่ง และขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว

เฉินฮวนฮวนสะดุ้งตกใจ รีบคว้าที่จับไว้แน่น หัวใจเต้นตึกตักด้วยความตื่นกลัว

รถขับออกไปได้สักพัก ทว่าภายในรถกลับเงียบเชียบอย่างมาก ไม่มีใครปริปากเอ่ยอะไรทั้งสิ้น

ในใจของเฉินฮวนฮวนรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก เขาบอกว่าต้องการคุยกับเธอไม่ใช่เหรอ

เธอคิดว่าเฟิงหานชวนจะขอโทษเธอ ใครจะรู้ว่าเขาทำหน้าตาย ราวกับเธอติดหนี้เขา

ทว่า เมื่อคิดดูแล้ว ความจริงเธอก็ติดหนี้เขาหนึ่งแสนหยวน และเขายังช่วยเธอเอาไว้ นับว่าเธอเป็นหนี้บุญคุณเขาแล้ว

  

“อาสาม ฉัน…” เฉินฮวนฮวนเอ่ยปาก เธอรวบรวมความกล้าพูดออกมาไป “เงินที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันจะพยายามคืนคุณให้เร็วที่สุด แต่เพราะฉันเป็นหนี้คุณ คุณจะมาทำกับฉันแบบนี้ไม่ได้…”

เมื่อเฟิงหานชวนได้ยิน มุมปากของเขาก็กระตุกขึ้น

 

ผู้หญิงคนนี้คิดว่าเขาให้เธอขายตัวเพื่อชดใช้หนี้เหรอ

เขากำลังจะเอ่ยปากไป โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ในรถก็สั่นขึ้นมา

“อาสาม โทรศัพท์…” เฉินฮวนฮวนชี้ไปที่โทรศัพท์มือถือของเฟิงหานชวน

  

เฟิงหานชวนใส่หูฟังบลูทูธแล้วรับสาย เสียงอ่อนเสียงหวานก็เข้ามาในหูของเขาทันที

“คุณชายสาม ฉันเยว่เอ่อร์นะคะ ฉันโทรหาคุณเวลานี้ ไม่รบกวนคุณใช่ไหมคะ” หลิ่วเยว่เอ่อร์หัวเราะอย่างเหนียมอาย

“มีอะไรครับ” เขาเอ่ยถามอย่างเรียบเฉย

“ฉันจะถามคุณว่า ตอนเย็นคุณว่างไหมคะ ฉันลงมือทำกับข้าวเอง คุณมาที่ซีเจียวได้ไหมคะ ฉันอยากเชิญคุณมาทานข้าวค่ะ” หลิ่วเยว่เอ่อร์อดรนทนรอไม่ไหวที่จะเอ่ยถาม

  

“ตอนเย็น…” เฟิงหานชวนเหลือบมองหญิงสาวที่อยู่ข้างๆ เขาโดยไม่รู้ตัว และเฉินฮวนฮวนก็กำลังจ้องเขาอยู่เช่นกัน

หลิ่วเยว่เอ่อร์เห็นว่าเฟิงหานชวนลังเลไม่ยอมตอบ เธอใช้เสียงอ่อนเสียงหวานพูดทันที “คุณชายสาม เรื่องคืนนั้นทำฉันกลัวจนถึงตอนนี้อยู่เลยค่ะ คุณไม่ต้องกังวลนะคะ ฉันแค่เชิญคุณมาทานข้าว ไม่ได้มีความหมายอย่างอื่นเลยค่ะ แค่อยากนั่งคุยกันเท่านั้น บางทีฉันอาจจะลดความกลัวลงได้บ้าง”

คิ้วของเฟิงหานชวนขมวดเข้าหากัน และเอ่ยตอบ “ได้ครับ”

เรื่องนี้เป็นความผิดของเขาเอง ดังนั้นเขาไปพบหลิ่วเยว่เอ่อร์ ก็เป็นเรื่องที่สมควรทำ

ก่อนหน้านี้ เขายังวางแผนจะรับผิดชอบ แต่ว่า…

ไม่รู้ว่าทำไม เขาไม่รู้สึกอะไรกับหลิ่วเยว่เอ่อร์เลยแม้แต่น้อย บางทีอาจเป็นฤทธิ์ของยาในคืนนั้น

แต่เขาทำร้ายหลิ่วเยว่เอ่อร์ ดังนั้นเขาก็ต้องชดเชยให้เธออย่างสุดความสามารถ

  

“จริงเหรอคะ ขอบคุณมากเลยค่ะ คุณช่างเป็นคนดีจริงๆ ถ้าเป็นคนอื่น ฉันคงต้องทนทรมานอยู่คนเดียว…คุณชายสาม คุณช่างเป็นคนดีเหลือเกิน…” หลิ่วเยว่เอ่อร์กล่าวอย่างน่าสงสาร ราวกับหญิงสาวที่โดนทำร้ายอย่างแสนสาหัส

  

ทว่าฟังดูเหมือนว่า ทำให้คนกระอักกระอ่วนใจ น่าสงสารเกินไป ผลลัพธ์จึงตรงกันข้ามกับที่คาดหวังไว้ไปหน่อย

“งั้นเจอกันตอนเย็นนะครับ” เฟิงหานชวนพูดจบ ใบหน้าฉายแววหงุดหงิดแวบหนึ่ง จากนั้นเขาก็วางสาย

แม้ว่าเฉินฮวนฮวนจะไม่ได้ยินสิ่งที่คนปลายสายพูด แต่คำตอบของเฟิงหานชวนคือ “ตอนเย็นได้ครับ” หรือ “เจอกันตอนเย็นนะครับ” แค่ฟังก็รู้ว่าเป็นสายจากแฟนสาวของเขา

  

“อาสาม ตอนเย็นคุณมีนัดเหรอคะ” เฉินฮวนฮวนถามขึ้น และกล่าวต่อว่า “ขอให้มีความสุขกับการเดทค่ะ!”

  

“อันที่จริงโรงเรียนของเรา ไม่ต้องกลับหอพักตอนเย็นก็ได้นะ ทางหอพักไม่ตรวจ ดังนั้นคุณกับแฟนจะค้างคืนข้างนอกก็ได้ ยังไงพวกคุณก็โตๆ กันหมดแล้ว ถูกไหม!” เธอกล่าวเสริมอีกสองสามประโยค

เธอต้องการเตือนสติเฟิงหานชวน ในเมื่อเขามีแฟนแล้ว ตอนเย็นพวกเขายังสามารถค้างคืนด้วยกันได้ ถ้าอย่างนั้นเขาควรใช้เวลากับแฟนสาวของเขา อย่าคิดออกนอกลู่นอกทาง

ทว่า เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้จากเฉินฮวนฮวน ใบหน้าของเฟิงหานชวนก็ดำอึมครึมขึ้น

ผู้หญิงคนนี้ อยากให้เขาไปค้างคืนกับผู้หญิงคนอื่นจริงๆ ใช่ไหม

หรือว่า เธอไม่รู้สึกหึงสักนิดเลยเหรอ

ตอนนี้ เฟิงหานชวนเริ่มสงสัยเสน่ห์ของตัวเองอย่างจริงจัง

เขาจอดรถตรงข้างทาง ก่อนจะตวาดเสียงดังลั่น “เฉินฮวนฮวน!”

เฉินฮวนฮวนงุนงงกับการหยุดรถอย่างกะทันหันของเฟิงหานชวน คิ้วของเธอขมวดเข้าหากัน เธอเม้มริมฝีปาก ก่อนจะเอ่ยถามอย่างระแวดระวัง “อาสาม คุณเป็นอะไรเหรอคะ”

  

“คำก็อาสามอีกคำก็อาสาม หรือว่าคุณยังนึกถึงตำแหน่งนายหญิงของตระกูลเฟิงอยู่?” ใบหน้าของเฟิงหานชวนปรากฏอาการเย้ยหยัน

สีหน้าของเฉินฮวนฮวนพลันเปลี่ยนไปทันที เธอไม่คิดว่าเฟิงหานชวนจะดูถูกเธออีก

  

“อาสาม คำนี้หมายถึงฉันเคารพคุณ! คุณแก่กว่าฉันตั้งหลายปี หรือว่าจะให้ฉันเรียกชื่อคุณ? เฟิงหานชวน เฟิงหานชวน ฉันเรียกคุณว่าเฟิงหานชวนอีกคำก็เฟิงหานชวนแบบนี้ คุณชอบไหมล่ะ”

เฉินฮวนฮวนรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก และกล่าวต่อว่า “อีกอย่าง ก่อนหน้านี้เราเคยคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอ รอให้นายท่านกลับมา ฉันจะออกไปจากบ้านของตระกูลเฟิง ฉันจะไม่อาลัยอาวรณ์ตำแหน่งนายหญิงของตระกูลเฟิง”

“ดี ในเมื่อคุณพูดแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นคุณต้องเข้าใจให้ดี ตอนนี้คุณไม่ใช่นายหญิงของตระกูลเฟิงแล้ว คุณเป็นเพียงผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในบ้านของตระกูลเฟินชั่วคราวเท่านั้น” เฟิงหานชวนกล่าวด้วยคำพูดเฉียบคม

  

“ฉันรู้ค่ะ คุณไม่ต้องเตือนฉันหรอก” เฉินฮวนฮวนเข้าใจเป็นอย่างดี

ดังนั้น ตอนนี้เธอกำลังตำหนิเฟิงหานชวน ไม่ต้องพูดถึงต้องว่าเขาเป็นอาของเฟิงเฉินเหยี่ยน แต่เน้นย้ำว่าเขามีแฟนแล้ว คำพูดและการกระทำของเขาอย่ามากเกินไป

“เฉินฮวนฮวน คุณเต็มใจที่จะไปจริงๆ เหรอ” เฟิงหานชวนจ้องเธออย่างไม่วางตา มุมปากของเขายกยิ้มอย่างเย้ยหยัน

  

ครั้งนี้เฉินฮวนฮวนแทบจะอาเจียนเป็นเลือดจริงๆ เธออ้าปากกำลังจะเอ่ยโต้แย้ง เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มกลับดังขึ้นอีกครั้ง

“ความจริง ผมให้โอกาสคุณได้อีกครั้งนะ มาเป็นผู้หญิงของผม”