“อาสาม ขอร้องล่ะ คุณอย่าคิดว่าฉันจะอ่อยคุณได้ไหม ฉันไม่ได้หมายความว่าจะอ่อยคุณ!”
ใบหน้าของเฉินฮวนฮวนเต็มไปด้วยความงุนงง
อะไรคือเป็นผู้หญิงของเขา เขากำลังทดสอบเธออีกครั้ง ยังคิดว่าเธออาลัยอาวรณ์ตำแหน่งนายหญิงของตระกูลเฟิงเหรอ
ดูเหมือนว่าไม่ว่าเธอจะอธิบายอย่างไร เฟิงหานชวนก็จะเข้าใจผิดเกี่ยวกับเธอ คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่หลงใหลในเกียรติยศอันจอมปลอมแบบนั้น
“…” มุมปากของเฟิงหานชวนกระตุกขึ้น
ตอนเขาพูดเรื่องจริงจัง ผู้หญิงคนนี้กลับไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น
ในเมื่อเธอฟังไม่เข้าใจ ก็ช่างเถอะ
ดังนั้น เฟิงหานชวนไม่ได้พูดอะไรอีกแม้แต่คำเดียว เขาหันกลับไปตั้งใจขับรถต่อ
ภายในรถกลับสู่บรรยากาศเงียบเชียบอีกครั้ง
เฉินฮวนฮวนแอบหันหน้ากลับไป และเหลือบมองเฟิงหานชวนแวบหนึ่ง ใบหน้าของเขาเรียบนิ่ง ท่าทางจริงจัง กำลังขับรถอย่างตั้งอกตั้งใจ
ดูเหมือนว่า คำอธิบายของเธอเมื่อสักครู่ น่าจะได้รับการยอมรับจากเฟิงหานชวนแล้วใช่ไหม ไม่อย่างนั้น เขาคงไม่เงียบเช่นนี้
หรือว่าเขาขี้เกียจเกินกว่าจะแก้ตัว?
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ถ้าเขาไม่พูดจาไร้มารยาทอีก เธอก็สบายใจแล้ว
ไม่นาน เฟิงหานชวนก็จอดรถที่ประตูของมหาวิทยาลัย A และเอ่ยบอกเสียงเย็น “ถึงแล้ว”
เมื่อคืนเฉินฮวนฮวนนอนไม่ค่อยหลับ เธอจึงใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เมื่อได้ยินเสียงของเฟินหานชวน เธอถึงได้รู้สึกตัว หันไปมองก็เห็นว่ามาถึงหน้าประตูมหาวิทยาลัยแล้ว
ในเวลานี้ หน้าประตูมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยผู้คนเดินเข้าออกกันอย่างขวักไขว่ ดูคึกคักเป็นอย่างมาก
เธอเหลือบมองแบรนด์รถยนต์บนป้ายโลโก้อย่างอดไม่ได้ เธอเม้มริมฝีปากเข้าหากัน เกาหัวแกรกๆ ด้วยความลำบากใจ ก่อนจะเอ่ยบอกเสียงเบา “อาสาม คุณช่วยขับไปข้างหน้าแล้วปล่อยฉันลงที่ปากทางข้างหน้าได้ไหมคะ”
“คุณไม่ได้อยู่มหาลัย A หรือไง” เฟิงหานชวนขมวดคิ้วทันที
“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ ฉันอยู่มหาลัย A ฉันแค่…ถ้าฉันลงรถที่หน้าประตูแล้วคนรู้จักมาเห็น พวกเขาจะเข้าใจผิดได้” เฉินฮวนฮวนกล่าวอธิบายอีกสองสามประโยค
อย่างไรเสียนักศึกษาผู้หญิงบางคนก็ “ทำงานพิเศษ” แบบนั้นข้างนอก และยังมีรถหรูมารับส่งอีกด้วย ถ้าเธอลงจากรถของเฟิงหานชวน เธออาจจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแบบนั้น
เธอยังแคร์ชื่อเสียงของตัวเองอยู่บ้าง เธอเป็นนักศึกษาที่ดีของมหาวิทยาลัย คนอื่นจะเห็นเธอไม่ได้
เฟิงหานชวนมองใบหน้าที่ตีหน้ายุ่งของเฉินฮวนฮวน บวกกับสิ่งที่เธอเพิ่งพูดเมื่อสักครู่ เขายิ่งเข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร
ห่วงโซ่ธุรกิจเช่นนั้นของนักศึกษาหญิง เขาก็รู้จัก ดังนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรมาก สตาร์ทรถแล้วขับไปตรงปากทางข้างทาง
บนทางแยกตรงปากทาง เฉินฮวนฮวนหันมองหน้าหลังแวบหนึ่ง เห็นว่าไม่มีใคร ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ
เธอหันกลับมา ก่อนจะยิ้มจางๆ ส่งให้เฟิงหานชวนแล้วพูดว่า “อาสาม ขอบคุณที่มาส่งฉันที่มหา’ลัยนะคะ”
แม้ว่าระหว่างพวกเขาจะเกิดเรื่องไม่น่าพึงพอใจนัก แต่เฉินฮวนฮวนก็ยังรักษามารยาทพื้นฐานกับเขา
หลังจากกล่าวขอบคุณ เธอเอื้อมมือไปจับประตูรถ เตรียมจะเปิดประตู ทว่าข้อมืออีกข้างหนึ่งของเธอกลับถูกคว้าเอาไว้อย่างไม่ทันตั้งตัว
“เฉินฮวนฮวน ผมจะให้เวลาคุณพิจารณา สามวันพอไหม” เฟิงหานชวนเอ่ยถาม
เฉินฮวนฮวนมองไปที่ใบหน้าเคร่งขรึมของชายหนุ่ม ความฉงนสงสัยปรากฏบนใบหน้าของเธอ เธอถามขึ้นอย่างงุนงง “อาสาม คุณกำลังพูดเรื่องอะไรคะ”
พิจารณาเรื่องอะไรกัน สามวัน?
ทั้งหมดนี้คือเรื่องอะไรกัน
“คุณไม่ใช่ภรรยาของอาเหยี่ยนแล้ว ดังนั้นคุณสามารถเป็นผู้หญิงของผมได้” เฟิงหานชวนยื่นมือออกไป นิ้วเรียวยาวของเขายกคางของเฉินฮวนฮวนขึ้น ก่อนจะกล่าวอย่างเคร่งขรึมด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “จัดการความสัมพันธ์ทั้งหมดของคุณด้วย เมื่อคุณอยู่กับผมแล้ว คุณจะไม่ได้รับอนุญาตให้ติดต่อกับผู้ชายคนอื่นอีก”
ทันใดนั้น ดวงตาของฉินฮวนฮวนเบิกกว้างยิ่งกว่าระฆังทองแดงเสียอีก
ดังนั้น เขาจอดรถกลางทางตอนนั้น สิ่งที่เฟิงหานชวนพูดไม่ได้ดูถูกเธอ แต่เขาตั้งใจจะทำเช่นนั้นจริงๆ อย่างนั้นเหรอ
เขาต้องการเลี้ยงดูเธออย่างนั้นเหรอ
“อาสาม คุณไม่ได้พูดผิดใช่ไหม คุณมีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอคะ คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง พวกผู้ชายเหม็นโฉ่แบบนี้ทุกคนหรือเปล่า” เฉินฮวนฮวนประหลาดใจ และยิ่งโมโหยิ่งขึ้นกว่าเดิม
เธอรู้สึกขุ่นเคืองไม่น้อย เธอกล่าวต่อว่า “ฉันไม่สนหรอกว่าที่คุณเพิ่งพูดไปเป็นเรื่องล้อเล่นหรือเรื่องจริง แต่ฉันบอกคุณไว้เลยว่า ฉันเฉินฮวนฮวนชีวิตนี้จะไม่มีวันเป็นเมียน้อย เพราะว่าฉันเกลียดเมียน้อยที่สุด!”
เดิมทีเฉินเหม่ยเจวียนเป็นเลขาที่ทำงานเก่งและมีความสามารถของคุณแม่ แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะสมคบกับเฉินเจี้ยนหมิน แม้แต่เวลาเกิดของเฉินซินโหรวก็เร็วกว่าเธอตั้งหลายเดือน
ไม่ใช่เมียน้อย แล้วมันคืออะไรล่ะ
“หึ” เฟิงหานชวนหัวเราเย้ยหยันทันที เขาหันไปมองเธอ ก่อนจะพูดจาถากถาง “เธอหมายความว่า ถ้าเป็นแฟนจริงๆ เธอจะยอมใช่ไหม”
สีหน้าของเฉินฮวนฮวนพลันเปลี่ยนไป เธอไม่คิดเลยว่าเฟิงหานชวนยังคงเข้าใจเธอผิด
เขาดูถูกเธอขนาดนี้เชียวเหรอ
“ขอโทษนะคะ แฟนจริงๆ ฉันก็ไม่สนใจหรอก!” เฉินฮวนฮวนคร้านที่จะอธิบายอะไรอีก เธอกล่าวต่ออีกว่า “อาสาม คุณแก่เกินไปแล้ว! ฉันไม่สนใจหรอกค่ะ!”
“เฉินฮวนฮวน คุณ…” ในตอนนี้เอง ใบหน้าของเฟิงหานชวนพลันเปลี่ยนเป็นดำอึมครึมทันที
“ผู้ชายยิ่งอายุมาก ความสามารถแต่ละอย่างก็ค่อยๆ หายไป ดังนั้น คุณมีแฟนเป็นนักศึกษาก็ดูแลไว้ให้ดี! อย่าคิดมากเลย ตอนนี้นักศึกษาผู้หญิงต่างก็ชอบแฟนเด็กแนวลูกสุนัขขี้อ้อน หรือแฟนเด็กแนวลูกหมาป่าที่ดูแบดบอยกันทั้งนั้น เด็กหนุ่มที่เหมือนน้องชายน่ะ คุณไม่เป็นที่นิยมหรอกค่ะ!”
“ดังนั้นอาสาม คุณก็ควรทำดีกับแฟนของคุณไว้นะคะ ผู้หญิงที่ยอมรับคนอายุเยอะแบบคุณได้ หาจากไหนไม่ได้อีกแล้ว!”
แม้ว่าเธอจะเป็นหนี้เฟิงหานชวน แต่เธอบอกว่าจะจ่ายคืนให้เขา เธอไม่ปฏิเสธ
เธอไม่สามารถปล่อยให้เฟิงหานชวนพูดจาดูถูกถากถางเธอ เพียงเพราะเธอเป็นหนี้เขา ดังนั้นเธอจำเป็นต้องตอบโต้ ให้เฟิงหานชวนรู้ตัวว่า เขาไม่ได้เนื้อหอมขนาดนั้น
อย่าคิดว่ามีเงินแล้วยิ่งใหญ่ เขาก็แค่ผู้ชายแก่ที่มีเงินคนหนึ่งเท่านั้นเอง
เธอต้องการให้เขารับรู้ความจริง!
หลังจากที่เฉินฮวนฮวนกล่าวถ้อยคำเหล่านั้นออกไป ใบหน้าของเฟินหานชวนเต็มไปด้วยความสงบนิ่งเย็นเยือก
เฉินฮวนฮวนรู้สึกหวาดกลัวในใจ เธออยากเปิดประตูออกไป แต่กลับพบว่าประตูยังไม่ได้ปลดล็อก เธอจึงเปิดประตูรถไม่ได้
“อาสาม ฉันต้องไปเรียนแล้ว! ถ้ายังไม่ลงรถอีก ฉันกลัวว่าจะสายนะคะ” เฉินฮวนฮวนพยายามปั่นหน้าฝืนยิ้มพูดกับเฟิงหานชวน
เฟิงหานชวนเดือดดาลถึงขีดสุด คำพูดยั่วโทสะประโยคนั้นของเฉินฮวนฮวน ราวกับสายจุดชนวนระเบิด จุดเข้าที่ชนวนระเบิดของเขา
เขาเอื้อมมือไปคว้าตัวเฉินฮวนฮวนเข้ามาหาเขา
เฉินฮวนฮวนปลดล็อกเข็มขัดนิรภัยออกแล้ว และไม่ได้รัดเข็มขัดนิรภัย เธอจึงถูกดึงเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเฟิงหานชวน
เธอยื่นมืออีกข้างหนึ่งออกไปตามสัญชาตญาณ พยายามดันตัวออกจากอ้อมกอดของเขา แต่คิดไม่ถึงด้วยความรีบร้อน มือของเธอที่วางอยู่ตรงนั้น คือต้นขาของเขา
มือของเธออยู่ใกล้กับตรงนั้นมาก
เธอตกใจรีบชักมือออกอย่างรวดเร็ว ทำไมเกิดเรื่องบังเอิญแบบนี้อีกแล้ว!
เฉินฮวนฮวนเงยหน้าขึ้นจะอธิบาย ทว่าชายหนุ่มกลับก้มลงมองเธอพอดี ปลายจมูกของทั้งสองชนกันโดยบังเอิญ ริมฝีปากของพวกเขาห่างกันเพียงหนึ่งมิลลิเมตร
ทั้งสองคนเบิกตากว้าง
เฉินฮวนฮวนกำลังจะหันกลับไป ทว่าเธอกลับถูกมือใหญ่รั้งท้ายทอยของเธอไว้
ทันใดนั้น ความเย็นประทับลงมาบนริมฝีปากของเธอ