บทที่ 181 ความลับแห่งสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา

บทที่ 181 ความลับแห่งสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

บทที่ 181 ความลับแห่งสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

ทุกคนประจบสอพลอลู่หยวนกันยกใหญ่เหมือนตัวตลก ต่างคนต่างกดให้ตัวเองดูต่ำเตี้ยยิ่ง จนผู้ไม่เกี่ยวข้องที่มารับชมความสนุกเผยสายตาเหยียดหยันออกมา

แต่คนเหล่านี้ไม่ได้สนใจสายตาดูถูกเหล่านั้น ตอนนี้ความสนใจทั้งหมดของพวกเขาอยู่ที่บุตรศักดิ์สิทธิ์

ขนาดคนอย่างหยางอวิ๋นยังตายตกภายใต้เงื้อมมือของชายผู้นี้ หากพวกเขาถูกเกลียดขี้หน้าขึ้นมาคงถูกบดขยี้ไม่ต่างจากบี้มด

ลู่หยวนเบือนสายตาหนี ไม่คิดเก็บเรื่องคนเหล่านี้มาใส่ใจ ก่อนจะย่างเท้าเดินจากไปไกล

เมื่อเขาจากไป ชุดของเหล่าผู้ประจบสอพลอก็แทบจะชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ แต่ยังคงโล่งอก ในใจต่างเฉลิมฉลองที่รอดชีวิตมาจากภัยพิบัติได้

“พวกเจ้า…”

เสียงลุ่มลึกพลันดังขึ้นด้านหลังจนพวกเขารีบหันไปมอง ก่อนจะเห็นกันเม่ากำลังเดินเข้ามาพร้อมโล่กระบี่ในมืออย่างเชื่องช้าและจิตสังหารปรากฏในดวงตา

ผู้ชายคนหนึ่งตื่นตัวทันที ก่อนก้าวถอยหลังครึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว “จ… เจ้าไม่ต้อง”

ยังไม่ทันกล่าวจบประโยค ร่างของกันเม่าพลันพุ่งมาอยู่ตรงหน้าชายผู้นั้น เขาฟาดหอกขนาดใหญ่ ผ่าครึ่งร่างกายอีกฝ่ายเป็นสองส่วน

โลหิตสาดกระเซ็นย้อมชุดของผู้ใช้โล่กระบี่ให้กลายเป็นสีชาด โลหิตบางส่วนย้อมใบหน้าโหดเหี้ยมของเขา ประกอบกับดวงตาคู่นั้นที่ราวกับจะกลืนกินผู้คนเข้าไป ไม่ต่างจากราชันแห่งนรกปรากฏกาย

คนที่เหลือหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาพยายามขัดขืน แต่ขาของพวกเขาอ่อนแรงจนไม่สามารถย่างก้าวออกไปได้

“ทำไมเจ้าอยากฆ่าข้า?!”

“ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ ทำไมต้องฆ่าพวกข้าด้วย?!”

กันเม่ายิ้มหยันยามควงโล่กระบี่ขนาดใหญ่ จนโลหิตสีแดงสดถูกสลัดออกไป

“เจ้าพวกคนสารเลว ทรยศบุตรศักดิ์สิทธิ์แท้ ๆ แต่ยังอยากมีชีวิตอีกงั้นหรือ?!”

“ท่านบุตรศักดิ์สิทธิ์ไม่ฆ่าพวกเจ้า นั่นก็เพราะเลือดของพวกเจ้ามันสกปรก ไม่ควรค่าที่จะมาเปรอะเปื้อนมือของนายท่าน!”

หลังจากนั้น พลังในร่างของกันเม่าพลันลึกล้ำขึ้น ปราณกระบี่นับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามาจากด้านข้าง ลอยขึ้นฟ้าอย่างอหังการ และปิดล้อมทุกคนเอาไว้อย่างสมบูรณ์

เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!

สิ้นเสียงปราณกระบี่โหมกระหน่ำ เหลือเพียงซากศพทิ้งไว้เบื้องหลัง

กันเม่าหันหลังกวาดสายตามองทุกคนในกลุ่มเทียน ก่อนจะแทงกระบี่ขนาดใหญ่ลงบนพื้น เสียง ‘ตึง’ ดังขึ้น ทั่วพื้นที่สั่นสะเทือน

เสียงลุ่มลึกดังมาจากลำคอของกันเม่า “ในอนาคต หากพวกเจ้ากล้าทรยศกลุ่มเทียน ท่านผู้นำเซียว หรือแม้กระทั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ ข้ากันเม่าจะขอถวายชีวิต พลิกฟ้าตามล่าสังหารให้สิ้น!”

สมาชิกกลุ่มเทียนเหล่านั้นที่ยืนอยู่กลางอากาศส่ายหน้าคนแล้วคนเล่า กล่าวซ้ำไปมาว่า ‘ไม่กล้า’

ผ่านไปสักพักทุกคนก็แยกย้าย หลายคนช่วยเข็นเสวียนเทียนชวนกลับยอดเขาวิถีเร้นลับ

หนึ่งในศิษย์คนหนึ่งสับสนยิ่ง ดังนั้นเขาจึงถามว่า “ศิษย์พี่ ท่านได้อะไรจากการทำนาย ถึงออกมาในวันนี้จนร่างกายต้องแบกรับมากขนาดนี้?”

เสวียนเทียนชวนบ่มเพาะอยู่ในวิถีเร้นลับมาหลายปี ที่ร่างกายทรุดไปส่วนใหญ่ก็เพราะผลจากศาสตร์พยากรณ์

ทันทีที่เขาคำนวณวันตายด้วยพลังดาราจักร มันจะเป็นการยั่วยุวิถีแห่งสวรรค์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนเป็นไข้หลายสิบวัน กระทั่งโอสถก็ต่างไม่มีประโยชน์

แต่การสอดแนมความลับสวรรค์เช่นนั้น ทำให้ถึงขั้นสาหัสเหมือนวันนี้ เขาเจ็บไข้อยู่ไม่น้อย กระอักโลหิตออกมาเป็นครั้งคราว แม้กระทั่งร่างกายก็ไม่อาจหยุดสั่นเทาได้

ศิษย์พี่ใหญ่แห่งยอดเขาเร้นลับหลับตา เหงื่อรินไหลจากหน้าผากอย่างต่อเนื่อง

เมื่อศิษย์คนนี้คิดว่าอีกฝ่ายจะไม่ตอบแล้ว เสวียนเทียนชวนกลับเปิดปากแล้วกล่าวออกมาว่า “ข้าทำนายมาแล้ว 9,999 ครั้งเพียงเพื่อพยากรณ์ชะตาของลู่หยวน แต่การทำนายเหล่านี้กลับให้ผลลัพธ์เพียงอย่างเดียว”

ความสนใจของทุกคนถูกดึงดูด ความสงสัยและความตกตะลึงก่อเกิดขึ้นในใจ

สำหรับชะตาของคนธรรมดา เสวียนเทียนชวนเพียงต้องทำการทำนายครึ่งวันก็ได้ผลลัพธ์แล้ว แต่กับโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ จำเป็นต้องทำนายหลายสิบครั้ง หรือหลายร้อยครั้ง จึงจะได้ผลลัพธ์มา

ต้องทราบก่อนว่า วันตายของยอดฝีมือต้องใช้การทำนายเพียง 999 ครั้ง จึงจะทำนายได้อย่างแม่นยำ

นับเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินจำนวน 9,999 ครั้ง!

ความรู้สึกพรั่นพรึงผุดจากก้นบึ้งของหัวใจ

การทำนาย 9,999 ครั้ง เอาไว้ใช้กับวิถีแห่งสวรรค์หรืออย่างไร?!

ท่ามกลางสายตาของทุกคน เสวียนเทียนชวนปรับลมหายใจ ก่อนจะกล่าวคำที่เหลือออกมาว่า “ผลลัพธ์ของการทำนาย ล้วนออกมาเป็น ‘ความลับแห่งสวรรค์’”

ความประหลาดใจฉายในสายตาของทุกคน วิถีเร้นลับที่พวกเขาเรียนรู้มา มาจากการสอนสั่งของบรรพชนเสวียน สิ่งที่พวกเขากำลังสอดแนมจะเป็นความลับสวรรค์

ทุกสรรพสิ่งเหมือนกับการลอกรังไหม เพื่อแสวงหาความรู้หนึ่งถึงสองอย่าง นั่นคือวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ศาสตร์นี้

ด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ในวิถีเร้นลับ ต่อให้เป็นความลึกลับของสวรรค์ ก็ยังมีความสามารถตรวจสอบได้ ไม่ว่าโชคชะตาของราชวงศ์ การเกิดและดับของสำนัก รวมถึงความเป็นความตายของบุคคลก็ย่อมไม่ใช่ปัญหา

เสวียนเทียนชวนเชี่ยวชาญวิถีลึกลับมาตั้งแต่เกิด เขาเคยคำนวณมานับไม่ถ้วน เขาสามารถคำนวณแม้กระทั่งวันตายของยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างแม่นยำ

แต่ผลที่ได้จากลู่หยวน กลับเป็นคำว่า ‘ความลับแห่งสวรรค์’ หรือ?!

หากไม่ใช่สัตว์ประหลาดก็เป็นตัวตนที่พวกเขาไม่สามารถสอดแนมได้ แถมตัวตนนั้น แม้แต่แผ่นดินหยวนหงนี้ก็ไม่สามารถขัดขืนได้!

เสวียนเทียนชวนเม้มริมฝีปาก วันนี้เขาถ่อสังขารมาชมการต่อสู้ระหว่างลู่หยวนและหยางอวิ๋น พอจะทราบว่าทั้งสองต้องสู้จนตัวตายในวันนี้เป็นแน่

ชายบนรถเข็นอาจจะคาดเดาไว้แล้วเช่นกันว่าเจ้าหนุ่มหยางผู้นี้พ่ายแพ้จนถึงแก่ความตาย

เพียงแต่ว่า หยางอวิ๋นผู้นี้มีโอกาสมหาศาล มีโชคชะตาที่ยิ่งใหญ่ มีพลังวิถีแห่งสวรรค์หนุนหลัง จึงไม่น่าจะตายได้โดยง่าย หากใครบางคนใช้กำลังฆ่าขึ้นมา จะต้องประสบกับทัณฑ์แห่งสวรรค์

ทว่า… หยางอวิ๋นตายต่อหน้าต่อตาในวันนี้ แถมลู่หยวนเป็นคนฆ่าเองกับมือ ถึงกระนั้นวิถีแห่งสวรรค์ก็ไม่ลงมือ

เสวียนเทียนชวนในตอนนี้เชื่อสนิทใจว่า ลู่หยวนผู้นี้คือ ‘ความลับสวรรค์’ เป็น ‘ตัวแปร’ ไร้ที่สิ้นสุด

แม้กระทั่งวิถีสวรรค์ยังไม่สามารถทำอะไรลู่หยวนได้ แต่เขาเสวียนเทียนชวนยังคงทำตัวอาจหาญ จนถึงขั้นทำนายอีกฝ่ายถึง 9,999 ครั้งติดต่อกัน เขาช่างไม่ระวังตัวเอาเสียเลย!

ศิษย์พี่ใหญ่แห่งยอดเขาวิถีเร้นลับยกมือขึ้น ให้คนอื่นหยุดนิ่ง และโน้มร่างกายลงมาฟังคำสั่ง

“รับคำสั่งข้า นับแต่นี้ไป ศิษย์ยอดเขาวิถีเร้นลับห้ามต่อต้านลู่หยวน หากทำได้ก็ร่วมมือกับเขาเสีย”

ทันทีที่กล่าวเช่นนี้ออกมา ทุกคนต่างตกตะลึง “ศิษย์พี่ รู้หรือไม่ว่าท่านพูดอะไรออกมา?!”

“ลู่หยวนดูถูกบรรพชนเสวียนนะ แล้วยังจะมาให้พวกข้าเคารพเขา จนถึงขั้นร่วมมือกับเขาเชียวหรือ?!”

หลายคนคิดว่าศิษย์พี่ใหญ่เสียสติไปแล้ว

เสวียนเทียนชวนไม่รีบร้อน “ข้าขอถามเจ้าหน่อย ตามวิสัยของท่านอาจารย์ หลังจากเก็บตัวเสร็จแล้ว ท่านจะทำอะไร?”

หลายคนครุ่นคิดสักพัก ตอบพร้อมกันว่า “ทำนาย!”

บรรพชนเสวียนถูกลู่หยวนดูถูก หลังจากเก็บตัวแล้ว นางต้องเกลียดเขามากเป็นแน่ สิ่งแรกที่ต้องทำคือคำนวณวันตายของเขา!

“ถูกต้อง ท่านอาจารย์จะต้องคำนวณ แล้วส่งข่าวมาหาพวกเราแน่นอน เพื่อให้พวกเราไปจัดการ สะสางปัญหากับลู่หยวน”

“แต่อาจารย์สำนักเก็บตัวมาหลายวันแล้ว ข้ามั่นใจเลยว่า อาจารย์สำนักยังคงทำการคำนวณอยู่ แม้จะยิ่งใหญ่ในศาสตร์นี้เพียงไหน แต่อาจารย์สำนักกลับตรวจไม่พบอะไร”

“ที่จริงอาจารย์สำนักน่าจะรู้อยู่แก่ใจแล้วว่า ชะตาของลู่หยวนคนนี้ไม่ได้อยู่ในแผ่นดินหยวนหงแม้แต่นิดเดียว แถมไม่ได้อยู่ภายใต้วิถีแห่งสวรรค์อีก พวกเราที่เหมือนกับกบก้นบ่อ ย่อมไม่มีทางคำนวณได้”

“ลู่หยวน อยู่เหนือกว่าวิถีแห่งสวรรค์ไปแล้ว การเป็นศัตรูกับเขา เท่ากับรนหาที่ตาย!”