บทที่ 75: เตรียมตัวและเริ่ม!

หวังเต็งและหลินซัวหานเตรียมตัวที่บริเวณรอ

มันง่ายที่จะบอกว่าหลินซัวหานและหยางเจี้ยนนั้นค่อนขางอ่อนด้อยในเรื่องการต่อสู้ พวกเขาเหวี่ยงอาวุธในมือเล่นไปมา อย่างไรก็ตาม มันไม่มีรูปแบบแต่อย่างใด

เมื่อถึงเวลา ทั้งสองคนก็เริ่มประหม่าเหมือนกับนักเรียนคนอื่นๆ

มีนำม่สามารถตําหนิพวกเขาได้เช่นกัน เสียงคํารามอันโกรธเกรี้ยวของสัตว์กลายพันธุ์และฉากที่น่าสยดสยองหลังจากนั้นได้ทําให้เกิดการกระตุ้นอย่างใหญ่หลวงต่อหัวใจของผู้เข้าสอบ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อสัตว์กลายพันธุ์ต้องการที่จะพุ่งออกจากรั้วเหล็ก เจตนาอันชั่วร้ายในสายตาของมันนั้นสามารถเห็นชัดเจน มันปฏิบัติต่อผู้เข้าสอบราวกับเป็นอาหาร

ผู้เข้าสอบเหล่านี้เป็นเหมือนดอกไม้เล็กๆและหญ้าอ่อนในหอคอยงาช้าง

พวกเขาไม่เคยสัมผัสกับการถูกทุบตีหรือความโหดร้ายของกฎแห่งป่ามาก่อน

และแม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินถึงความโหดเหี้ยมและความน่ากลัวของสัตว์กลายพันธุ์ผ่านช่องทางต่างๆมาแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่เคยรู้สึกถึงมันโดยตรง

ใครจะเข้าใจได้ว่ามันน่ากลัวเพียงใดหากไม่ลองไปสัมผัสเอง

“ เธอสบายดีไหม?” หวังเต็งอดไม่ได้ที่จะถามเมื่อเขามองไปที่การแสดงออกของหลินซัวหาน

พูดตามตรง มันคงเป็นเรื่องยากสําหรับเธอที่จะต่อสู้กับสัตว์กลายพันธุ์เมื่อดูจากความสามารถของเธอ

“ ไม่เป็นไร!” หลินซัวหานกัดฟันและบังคับตัวเองให้สงบ

“ ตอนแรกฉันคิดว่าฉันจะสามารถเผชิญกับการประเมินการต่อสู้จริงได้โดยไม่มีความเกรงกลัว แอย่างไรก็ตาม ตอนนี้ฉันก็กําลังรู้สึกกลัวเล็กน้อย” หยางเจี้ยนกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น

“ ไม่เป็นไรที่จะกลัว ดูซิ ใครๆก็เป็น” หวังเต็งชี้ไปที่คนอื่นๆรอบตัวพวกเขา

“ แม้แต่โจวหวู่และเหอม่านหรงก็ยังกังวล โอเค ตอนนี้ฉันรู้สึกดีขึ้นบ้างแล้วล่ะ” หางเจี้ยนถอนหายใจยาวด้วยความโล่งใจเมื่อเห็นสีหน้าของเหล่าศิษย์นักสู้ขั้นสูง

“ เฮ้อ…”

“ แล้วทําไมคุณถึงดูไม่กังวลเลย”

“ นั่นก็เพราะฉันสามารถกําจัดสัตว์กลายพันธุ์เหล่านี้ได้ด้วยหมัดเพียงหมัดเดียว ดังนั้นแล้วมันจะไปมีอะไรที่ฉันต้องกังวลกัน?” หวังเต็งกล่าวอย่างใจเย็น

“ จริงจัง? สัตว์กลายพันธุ์เหล่านั้นมีผิวหนังที่หนามาก และแม้ว่าความแข็งแกร่งของคุณจะอยู่ที่ 1,000 กิโลกรัม แต่คุณก็อาจจะไม่สามารถฆ่าพวกมันได้ด้วยการชกเพียงครั้งเดียว” เห็นได้ชัดว่าหยางเจี้ยนไม่เชื่อเขา

“ นายคิดว่าหมัดของนายเป็นปืนใหญไง?” หลินซัวหานก็พูดอย่างรังเกียจเช่นกัน

“ ทําไมไม่มีใครเชื่อฉันเมื่อฉันพูดความจริง” หวังเต็งรู้สึกพูดไม่ออก

ทั้งสามคนก็คุยกันแบบสบายๆ หลังจากเวลาผ่านไปได้ไม่นาน ความกังวลใจของทั้งสองก็เริ่มคลี่คลายลง

“ ทุกคน…”

สายตาของผู้เข้าสอบเลื่อนไปที่แท่นสูงเมื่อได้ยินเสียงอันดังก้อง เจ้าหน้าที่ผู้แนะนําการแจกจ่ายเครื่องแบบรบกําลังพูดกับผู้เข้าสอบ

“ การประเมินการต่อสู้จริงกําลังจะเริ่มต้นขึ้น ฉันจะประกาศกฎการสอบเดี๋ยวนี้!”

“ประการแรก การประเมินการต่อสู้จริงจะเริ่มเวลา 10.00 น. และสิ้นสุดเวลา 06.00 น. ของวันพรุ่งนี้ นั่นหมายความว่าพวกคุณจะต้องอยู่ในป่าต้นน้ําแห่งนี้เป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืน”

เมื่อพวกเขาได้ยินดังนั้น สีหน้าของผู้เข้าสอบก็เปลี่ยนไป

หนึ่งวันและหนึ่งคืน!

ป่าต้นน้ํานั้นเต็มไปด้วยอันตราย ถึงกระนั้นพวกเขาก็จะต้องอยู่ที่นี่เป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนอย่างงั้นหรอ?

เจ้าหน้าที่ไม่สนใจความโกลาหลของผู้เข้าสอบด้านล่างและพูดต่อ

“ ในช่วงเวลานี้ คุณก็จะต้องหาอาหาร น้ํา และที่พักสําหรับคืนนี้”

“ ในขณะเดียวกัน หากคุณต้องการสอบผ่าน คุณก็จะต้องฆ่าสัตว์กลายพันธุ์อย่างน้อยห้าตัว นี่คือจํานวนขั้นต่ํา และยิ่งคุณฆ่าสัตว์กลายพันธุ์ได้มากเท่าไหร่ และระดับของสัตว์กลายพันธุ์สูงขึ้นเท่าใด คุณก็จะได้รับคะแนนมากขึ้นเท่านั้น และด้วยวิธีนี้ ในอนาคตคุณก็จะมีทางเลือกที่ดีกว่า”

“ เราจะดูแลป่าทั้งหมดโดยใช้กล้องดาวเทียมตลอดระยะเวลาสอบ และพวกคุณทุกคนก็จะมีอุปกรณ์สื่อสารอยู่ในเครื่องแบบรบของคุณ”

“ มันสามารถติดตามตําแหน่งของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนอยู่ภายใต้การเฝ้าระวัง”

“ ระดับและจํานวนของสัตว์กลายพันธุ์ที่คุณฆ่าจะถูกบันทึกไว้ทั้งหมด มันจะถูกเปลี่ยนเป็นคะแนนและอัปเดตในข้อมูลของคุณ”

“ อย่างไรก็ตาม คุณก็จะต้องฆ่าสัตว์ร้ายตัวนั้นด้วยตัวเอง คนอื่นไม่สามารถช่วยคุณได้ ไม่อย่างนั้นจะถือว่าโกง และคุณก็จะถูกตัดสิทธิ์จากการสอบ”

“ นอกจากนี้ก็โปรดจําไว้ว่านักเรียนไม่ได้รับอนุญาตให้ขัดคอกันเองระหว่างการประเมินการต่อสู้จริง อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมีการแข่งขันระหว่างพวกคุณทุกคน… คุณไม่เพียงแต่ต้องป้องกันสัตว์กลายพันธุ์เท่านั้น แต่คุณยังต้องระวังผู้เข้าสอบคนอื่นๆด้วย”

“ มันมีปุ่มฉุกเฉินบนอุปกรณ์สื่อสาร”

“ เราได้จัดศิษย์นักสู้ผู้มีประสบการณ์มากมายในป่านี้ มีนักสู้สามคนเอาไว้ด้วย”

“ เมื่อคุณกดปุ่มฉุกเฉิน พนักงานที่อยู่ใกล้ที่สุดก็จะรีบไปยังตําแหน่งของคุณโดยอาศัยตําแหน่งในจีพีเอสของคุณในทันที

“ การสอบศิลปะการต่อสู้นั้นสําคัญ แต่ชีวิตของคุณก็สําคัญยิ่งกว่า จําไว้ว่าอย่าทําอะไรที่เกินกําลัง และนั่นคือทั้งหมดที่ฉันอยากจะพูด”

ผู้เข้าสอบมีสีหน้าไม่ดีเมื่อได้ยินกฎเกณฑ์ มันเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่

การประเมินการต่อสู้จริงนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก

มันท้าทายยิ่งกว่าที่ทุกคนคิด และมันก็อันตรายกว่าที่พวกเขาคิดไว้มาก หลายคนถึงขั้นอยากจจะปาอาวุธทิ้งในทันที

“ ถ้าคุณอยากจะยอมแพ้ คุณก็สามารถก้าวมาข้างหน้าแล้วไสหัวไปได้เลย” เจ้าหน้าที่พูดอย่างใจเย็น

ผู้เข้าสอบได้แลกเปลี่ยนสายตากัน ในท้ายที่สุด ผู้หญิงคนหนึ่งก็ได้ยืนขึ้น

“ ฉัน… ฉันต้องการออกไป”

เมื่อเธอพูดประโยคนี้เธอก็สะอื้นร่ําไห้

มันง่ายที่จะคาดเดาว่าเธอเจ็บปวดแค่ไหนในการตัดสินใจครั้งนี้

ผู้เข้าสอบหลักสูตรศิลปะการต่อสู้นั้นต้องทํางานหนักมากกว่าจะมาถึงจุดนี้ โดยเฉพาะผู้เข้าสอบจากครอบครัวธรรมดา ครอบครัวของพวกเขาอาจจะดิ้นรนเป็นอย่างมากเพื่อหาทรัพยากรมาให้พวกเขา

แต่ตอนนี้เธอก็ได้ยอมแพ้แล้ว!

นักเรียนบางคนตกใจ ขณะที่คนอื่นๆรู้สึกซับซ้อนในใจและเข้าใจความรู้สึกของเธอ พวกเขารู้สึกราวกับว่าพวกเขาได้รับการปลดปล่อยจากภาระอันยิ่งใหญ่

และเนื่องจากมีคนเป็นผู้นําแล้ว ดังนั้นมันจึงมีผู้ตาม

หลังจากผ่านความผิดหวัง ความเจ็บปวด และการดิ้นรน นักเรียนบางคนก็ตัดสินใจแบบเดียวกันและเลือกที่จะยอมแพ้

มันมีความหวังน้อยเกินไป

ในตอนแรกพวกเขาต้องการที่จะต่อสู้เพื่อความหวังอันน้อยนิด แต่ถ้าพวกเขาจําเป็นจะต้องเสี่ยงชีวิตเพื่อสิ่งนี้ หัวใจที่ขี้ขลาดของพวกเขาก็ไม่ยอมให้พวกเขาทํา

ผ่านไปครู่หนึ่ง ผู้เข้าสอบที่เลือกที่จะยอมแพ้ก็ยืนอยู่ห่างออกไปในอีกมุมหนึ่ง และมันก็มีมากกว่าสองถึงสามร้อยคน

“ มีใครอีกไหมที่อยากจะยอมแพ้”

เจ้าหน้าที่ถาม เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าไม่มีผู้เข้าสอบคนอื่นออกมาอีกแล้ว เขาจึงพูดต่อ

“ ถ้าอย่างนั้นผู้เข้าสอบที่เหลือก็จะถูกสุ่มแยกออกเป็นสิบทีม คุณจะเข้าไปในปาจากทางเข้าต่างๆ”

เจ้าหน้าที่บางคนก้าวออกมาข้างหน้าเพื่อจัดระเบียบพวกเขา ผู้เข้าสอบที่คุ้นเคยกันถูกแบ่งออกเป็นสิบทีม ภายใต้การนําของเจ้าหน้าที่ พวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังทางเข้าต่างๆ

หวังเต็งอยู่ตรงกลางทีม มันมีใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยอยู่รอบตัวเขา

หลินซัวหานและหยางเจี้ยนอยู่ในทีมอื่น ดังนั้นเขาจึงมองไม่เห็นพวกเขาอีกต่อไป เขาหวังว่า พวกเขาจะสามารถผ่านการประเมินได้อย่างปลอดภัย

ไม่นานหลังจากนั้น ทีมของหวังเต็งก็มาถึงทางเข้า

หลังจากรอที่นั่นครู่หนึ่ง ผู้นําทีมก็มองดูนาฬิกาและพูดว่า “ ใกล้จะถึงเวลาแล้ว เอาล่ะ เข้าไปได้และก็ขอให้ทุกคนโชคดี”

เขาส่งสัญญาณให้ยามเปิดประตูโลหะ จากนั้นก็อนุญาตให้ผู้เข้าสอบเข้าไป

นักเรียนทุกคนจําสิ่งที่เจ้าหน้าที่พูดก่อนหน้านี้ได้

มันมีการแข่งขันกันระหว่างผู้เข้าสอบ และพวกเขาก็จําเป็นต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้ดี เพราะมนุษย์นั้นคาดเดาไม่ได้ และมันก็ไม่มีใครกล้าที่จะดูถูกประโยคนี้

ดังนั้นในวินาทีที่พวกเขาเข้าไปในป่า พวกเขาจึงแยกทางกันและมุ่งหน้าไปในทิศทางที่ต่างกัน

หวังเต็งเลือกที่จะเข้าไปในส่วนลึกของป่าฝน เขาสวมนวมชกมวยแล้วและถือดาบอยู่ในมือ

ถึงแม้เขาจะบอกว่าการสอบนี้ง่ายมากสําหรับเขา แต่เขาก็ไม่ได้โง่ เขาจะไม่ละเลยการคุ้มกันของเขาไปแน่นอน

มันมีต้นไม้สูงและเขียวขจีรายรอบเขา และพื้นดินก็ถูกปกคลุมไปด้วยใบไม้แห้งที่ร่วงหล่นกลิ่นเหม็นของใบไม้ที่เน่าเปื่อยพร้อมกับกลิ่นหอมสดชื่นของหญ้าและใบไม้โชยเข้าจมูกของเขา

โฮก….

เสียงคํารามของสัตว์ร้ายดังขึ้นทีละตัวจากระยะไกล

ในตอนนี้การประเมินการต่อสู้จริงได้เริ่มขึ้นแล้ว!