ตอนที่ 289 โฉมสะคราญ (1)
“ชอบหรือไม่” จวินอู๋เสียเอ่ยถามขึ้นมาทันที น้ำเสียงที่เย็นชาของนางดูเพ้อฝันมากเมื่ออยู่ในห้องใต้ดินที่มืดมิด
เคอฉังจวีอ้าปากด้วยสีหน้าบ้าคลั่ง เขาไม่ได้ยินสิ่งที่จวินอู๋เสียพูดเลย เขาจ้องไปที่เงาสะท้อนของตัวเองอย่างใจจดใจจ่อและยื่นมือออกมาเช็ดรอยเลือดบนใบหน้าของตัวเองอย่างระมัดระวัง
ใบหน้าที่งดงามนี้ไม่ควรมีจุดบกพร่องแม้แต่เล็กน้อย
เคอฉังจวีหมกมุ่นอยู่กับเงาสะท้อนของตัวเอง เขาค่อยๆ เช็ดรอยเลือดบนใบหน้า
ทันใดนั้นใบหน้างดงามที่สะท้อนฉายอยู่บนผิวน้ำก็เกิดรอยแตกปรากฏขึ้นบนใบหน้า ผิวบางบนใบหน้าของเขาค่อยๆ ปริแตกออกจากกัน และมีเลือดจำนวนมากพุ่งออกมาจากรอยแตกบนใบหน้านั้น
“อ๊ะๆๆ ไม่ๆๆ” เคอฉังจวีมองใบหน้างดงามที่เขาเพิ่งจะได้รับค่อยๆ แตกร้าวต่อหน้าต่อตาของตัวเอง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขายังคงคร่ำครวญและปิดรอยแตกด้วยมือทั้งสองข้างของเขา เขาพยายามทำให้รอยแตกกลับมาผสานกันเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป ใบหน้าของเคอฉังจวีเหมือนหนังกลองที่ตึงจนถึงขีดสุดจนไม่สามารถทนต่อความตึงนั้นได้อีก จึงทำให้ผิวหนังบนใบหน้าของเขาเริ่มแตกออกจากกัน
ใบหน้าของเคอฉังจวีเต็มไปด้วยรอยแตกราวกับว่าเขาถูกฟันหลายสิบครั้งซึ่งดูน่ากลัวมาก
เคอฉังจวีเสียสติไปแล้ว เขาพยายามรักษาใบหน้าของเขาอย่างสุดความสามารถ และในใจของเขาไม่เคยหวาดกลัวเช่นนี้มาก่อน
ใบหน้างดงามเยี่ยงนั้นจะถูกทำลายได้อย่างไร
ไม่ได้!
ข้ายอมไม่ได้!!!
“เจ้าให้ข้ากินอะไรลงไป” เคอฉังจวีหันศีรษะและจ้องไปที่จวินอู๋เสีย การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อเขากลืนเม็ดยากร่อนกระดูกเม็ดนั้นลงไป
จวินอู๋เสียกอดอกแล้วมองไปที่เคอฉังจวีด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าบอกว่านั่นเป็นเม็ดยากร่อนกระดูกของเจ้าไม่ใช่รึ”
เคอฉังจวีหยุดชะงักไปทันที เดิมทีเขาคิดว่าเม็ดยาที่จวินอู๋เสียป้อนให้เขานั้นเป็นเม็ดยากร่อนกระดูกจริงๆ เพราะทั้งรูปลักษณ์และกลิ่นล้วนเหมือนกับเม็ดยากร่อนกระดูกไม่ผิดเพี้ยน
แต่ตอนนี้เขาไม่มีความคิดที่ไร้เดียงสาแบบนี้อีกต่อไปแล้ว
เม็ดยานั้นมีผลอย่างชัดเจนในร่างกายของเขา และนี่ไม่ได้เกิดจากเม็ดยากร่อนกระดูกอย่างแน่นอน
“แท้จริงแล้วมันคืออะไร เจ้าให้ข้ากินอะไรลงไปกันแน่ ใบหน้าของข้า เอาใบหน้าของข้าคืนมา” เคอฉังจวีปิดใบหน้าและจ้องไปที่จวินอู๋เสีย เลือดสีแดงสดค่อยๆ ไหลออกมาจากช่องว่างของนิ้วมือเขาอย่างต่อเนื่องและยังมีชิ้นเนื้อบางๆ ไหลออกมาพร้อมกับเลือดด้วย
จวินอู๋เสียกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า
“โฉมสะคราญ”
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ” เคอฉังจวีหยุดชะงักไป เขาไม่เคยได้ยินชื่อเม็ดยานี้มาก่อน
“ข้าตั้งชื่อเม็ดยานี้ว่า ‘โฉมสะคราญ’ ไม่ว่าคนที่อัปลักษณ์เพียงใด ขอแค่กลืนมันลงไปก็สามารถมีใบหน้าที่งดงามได้” จวินอู๋เสียหรี่ตาลงด้วยรอยยิ้มสว่างสดใสราวกับพระอาทิตย์ในเดือนมีนาคม “แต่ว่าความงามนี้ดำรงอยู่แค่ช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น”
สั้นมากเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น
เคอฉังจวีมองไปที่จวินอู๋เสียอย่างเหลือเชื่อ เขาไม่เคยคิดเลยว่ายาพิษที่จวินอู๋เสียนำออกมานั้นมิใช่เม็ดยากร่อนกระดูก แต่เป็นเม็ดยาโฉมสะคราญที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน…
และผลจากเม็ดยาโฉมสะคราญนี้ถือว่าเป็นภัยพิบัติใหญ่หลวงสำหรับเขา
“เอาใบหน้าของข้าคืนมา… เอาคืนมาให้ข้า…” ความเจ็บปวดบนใบหน้าของเขาเริ่มชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ เคอฉังจวีชักเกร็งกระตุกทั้งตัวและล้มลงกับพื้น สองมือของเขาไม่สนใจใบหน้าอีกต่อไป เขาพยายามคลานไปหาจวินอู๋เสียด้วยสภาพผมเผ้ากระเซอะกระเซิงและใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยเปื้อนเลือดซึ่งไม่เหลือความเย่อหยิ่งเหมือนตอนที่อยู่จุดสูงสุดของยอดเขาเร้นเมฆาเมื่อวานอีกเลย
“ข้าจะให้ทุกอย่างที่เจ้าต้องการ ขอแค่เจ้าเอาใบหน้าของข้าคืนมาให้ข้า…ขอแค่เจ้าเอามันคืนมาให้ข้า…” เคอฉังจวีไม่เคยหวาดกลัวแบบนี้มาก่อน กว่าเขาจะได้ใบหน้างดงามที่เขาใฝ่ฝันมาทั้งชีวิตมันไม่ง่ายเลย แต่ใบหน้าที่ได้รับหลังจากถูกทำลายในชั่วพริบตากลับอัปลักษณ์ยิ่งกว่าในอดีตเสียอีก
หลังจากที่ได้สัมผัสกับใบหน้างดงามแล้ว เขาจะทนกับใบหน้าอันน่ากลัวนี้ได้อย่างไร
……
ตอนที่ 290 โฉมสะคราญ (2)
จวินอู๋เสียมองลงไปที่เคอฉังจวีที่คลานอยู่ใต้ฝ่าเท้าของนาง ดวงตาที่หรี่ลงของนางสะท้อนความเย็นชาออกมาและนางก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า
“นั่นมิใช่ใบหน้าของเจ้า”
“ไม่ นั่นเป็นของข้า มันเป็นของข้า ได้โปรดคืนมันให้ข้า เจ้าต้องการอะไรข้าสามารถให้เจ้าได้ทุกอย่าง ต่อไปข้าจะเชื่อฟังเจ้าทุกอย่าง ได้โปรด” เคอฉังจวีเงยหน้าขึ้นมองด้วยความยากลำบาก น้ำตาและเลือดไหลลงมารวมกัน ไม่มีส่วนไหนบนใบหน้านั้นที่เป็นผิวหนังที่ดีและผิวหนังที่หลุดออกจากกันก็ติดอยู่บนผิวเนื้อและค่อยๆ ไหลลงมาพร้อมกับเลือด
จวินอู๋เสียละสายตาและขยับขาทันทีที่เคอฉังจวีจะแตะโดนชายเสื้อของนาง นางก้าวเท้าไปทางเฉียวฉู่ที่มีอาการหนัก
“กลืนมันลงไป” เม็ดยาหนึ่งเม็ดปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของจวินอู๋เสีย
เฉียวฉู่ไม่มีความลังเลแม้แต่เล็กน้อย เขารับมาแล้วกลืนเข้าไปในท้องของเขาทันที ทันใดนั้นความเจ็บปวดทั่วร่างกายของเขาที่เกิดจากควันพิษก็หายไปในทันที นอกจากใบหน้าที่ขาวซีดแล้ว เขาก็ไม่มีอาการอื่นใดอีก
“เจ้าจะอยู่บนนั้นจนถึงเมื่อไหร่” จวินอู๋เสียกวาดสายตาไปรอบๆ และเหลือบมองไปที่ฮวาเหยาที่ถูกแขวนอยู่บนกำแพง
ฮวาเหยาหลับตาลงและสูดลมหายใจเข้าเล็กน้อย จากนั้นร่างของเขาก็กระตุกและหลุดออกมาจากพันธนาการเหล่านั้น
ทันทีที่เขาลงถึงพื้น จวินอู๋เสียก็โยนเม็ดยาให้เขาหนึ่งเม็ด
ฮวาเหยากลืนมันลงไปทันทีโดยไม่ลังเล และรู้สึกได้ว่าอาการไม่สบายภายในร่างกายได้หายไปแล้ว ฮวาเหยาดึงเหล็กที่ติดอยู่บนร่างกายของตัวเองออกและกล่าวกับจวินอู๋เสียว่า “ขอบใจเจ้ามาก”
หลังจากทั้งสองคนกำจัดพิษเสร็จแล้ว พวกเขาจึงคิดที่จะดูสภาพของเคอฉังจวี
เคอฉังจวีที่นอนอยู่บนพื้นชักกระตุกตลอดเวลา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยและสภาพของเขาช่างน่าสังเวชอย่างยิ่ง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อเมื่อเขาเห็นฮวาเหยาและเฉียวฉู่กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมหลังจากกลืนเม็ดยาของจวินอู๋เสียลงไป เขาอ้าปากเหมือนต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ความเจ็บปวดรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้เขาต้องปิดปาก และฟันของเขาก็กระทบกันอย่างแรงจนทำให้เขากัดลิ้นของตัวเองขาด
เลือดจำนวนมากพุ่งออกมาจากปากของเคอฉังจวี และเลือดที่เต็มปากของเขาก็สำลักเข้าไปในปอดตามการหายใจของเขา
เขาพยายามจับหน้าอกของตัวเองและความเจ็บปวดจากการหายใจไม่ออกของเขาทำให้ร่างกายของเขาชักกระตุกหนักมากขึ้น
จวินอู๋เสียและทั้งสองคนยืนเงียบๆ อยู่ด้านข้าง และเฝ้ามองเคอฉังจวีค่อยๆ ก้าวสู่ความตายทีล่ะก้าวๆ…
จนกระทั่งวินาทีสุดท้ายก่อนที่เขาจะเสียชีวิต ดวงตาของเคอฉังจวีก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวังและไม่ยินยอม
หากจวินอู๋เสียไม่ให้เขาเห็นใบหน้าที่งดงามของเขาก่อนที่เขาจะเสียชีวิตและไม่ให้ความหวังเขา เขาอาจจะไม่มีความรู้สึกแบบนี้ แต่ทั้งๆ ที่เขาได้รับสิ่งที่เขาหวังมาทั้งชีวิตแล้วแต่กลับถูกทำลายทีละนิดต่อหน้าต่อตาเขา
หากไม่เคยสัมผัสกับความสุขบนสรวงสวรรค์ ก็คงไม่รู้ซึ้งถึงความทุกข์ทรมานในขุมนรกอเวจี
สัตว์ร้ายสีดำที่นั่งอยู่ด้านข้างเลียอุ้งเท้าของมัน ความชั่วร้ายของเจ้านายยังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน
ยิ่งสิ่งที่ศัตรูใส่ใจและยิ่งให้คุณค่ามาก นางก็จะบดขยี้และทำลายมันต่อหน้าต่อตาพวกเขาทีล่ะนิด
มันเลวร้ายมากจริงๆ
เคอฉังจวีเสียชีวิตแล้ว เขาจากไปด้วยความสิ้นหวังและไม่ยินยอม เขาเสียชีวิตโดยที่ตาไม่ปิด ใบหน้าสุดท้ายที่เขาจากไปคือใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยเปื้อนเลือดที่ไม่สามารถใช้คำว่าอัปลักษณ์มานิยามได้
เฉียวฉู่จ้องไปที่สภาพการตายของเคอฉังจวีแล้วกลืนน้ำลายลงอย่างช้าๆ เขาเหลือบมองจวินอู๋เสียด้วยความหวาดกลัว
“น้องเสีย เม็ดยาโฉมสะคราญนี้…เจ้าเป็นคนหลอมมันขึ้นมาเองหรือ” มันน่ากลัวมาก
การที่ผลักคนลงเหวอย่างฉับพลันเป็นเรื่องที่น่าสลดใจยิ่งกว่าการใช้มีดฟันคออีกฝ่ายตรงๆ เสียอีก
“ข้ายังมีอีก เจ้าอยากลองหรือไม่” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วแล้วหยิบเม็ดยาโฉมสะคราญออกมาแล้วยื่นมันให้กับเฉียวฉู่
ใบหน้าของเฉียวฉู่ขาวซีดและรีบส่ายหัวปฏิเสธในทันที