ตอนที่ 215 ขอแต่งงาน

สามีข้า คือพรานป่า

ตอนที่ 215 ขอแต่งงาน

หลินห์เฝ้าฝันถึงการได้ร่วมใช้ชีวิตกับสาวงามผู้ นั้นในอนาคต เขายกยิ้มออกราวกับคนบ้า
หลังจากกลับมาถึงห้องของตน หลินหูไม่มี สมาธิจะอ่านหนังสือใด เขาเพียงคิดถึงใบหน้าง ดงามของหยุนเถียนเถียน ชายหนุ่มเขวี่ยงหนังสือ ทิ้งพร้อมซุกตัวในผ้าห่มอย่างขวยเขินจนกระทั่ง ผล็อยหลับไป

เขาเคยเจอหญิงงามมากมายในซ่องโสเภณี แต่เมื่อเทียบกับหยุนเถียนเถียนแล้ว มันช่างต่าง กันราวฟ้ากับเหว

หวงฉือย่องมาแอบดูลูกชายเงียบ ๆ และเห็นว่าลูกชายกําลังนอนขลุกอยู่บนเตียงแทนที่จะเป็นโต๊ะหนังสือ เมื่อเห็นเช่นนั้น หวงฉือจึงคิดว่าลูกชายคงเหนื่อยจากการเดินทางมาทั้งวัน นางเลยเดินออกไปหาพี่สะใภ้ที่เป็นแม่สื่อแทน

แต่การที่จะไปขอความช่วยเหลือ จะให้ไปมือเปล่าคงจะไม่ดี นางจึงไปหยิบไข่จากตู้หลังบ้านสิบฟองติดไม้ติดมือไปด้วย

แต่ด้วยความรู้สึกไม่ค่อยเต็มใจ นางจึงนําไข่ออกไปห้าฟอง…

แม่สื่อฮัวผู้เป็นพี่สะใภ้นั้นรู้สึกดูถูกน้องสะใภ้คนนี้อยู่แล้ว แต่นางก็ยังเต็มใจที่จะช่วย เพราะต้องการค่าตอบแทนที่มากขึ้น แม้ภายนอกนางจะชื่นชมหลินหูดีเพียงใด แต่ภายในก็ยังลอบดูถูกเขาอยู่ดี เขาเป็นเพียงบัณฑิตไร้ผลงาน กว่าจะมีชื่อเสียงคงต้องใช้เวลาสร้างมันอีกหลายปี

“พี่สาว อยู่บ้านหรือเปล่า?”

แม่สื่อฮัวเดินไปหาด้วยรอยยิ้มพร้อมกับสะบัดพัด “อยู่ ข้าอยู่นี่!”

เมื่อนางเดินออกมาเห็นหวงฉือถือของกํานัลในมือมาด้วย รอยยิ้มบนใบหน้าจึงกว้างขึ้น “ดูสิ พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน มาที่นี่ไม่จําเป็นต้องมีมารยาทหรอก”

นางเอ่ยถ้อยคําที่สุภาพแต่ก็แฝงด้วยความประชดประชันเล็กน้อย จากนั้นแม่สื่อฮัวหยิบของขวัญดูและพบว่าในตะกร้านั้นเป็นไข่เพียงห้าฟอง ใบหน้าของนางถึงกับเปลี่ยนเป็นแข็งที่อ
น้องสะใภ้ผู้นี้ยังคงขี้เหนียวอยู่วันยังค่ํา

อย่างไรก็ตาม แม้ยุงจะตัวเล็กจ้อย แต่มันก็ยังมีเนื้อ กล่าวคือยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
“ท่านพี่ ครั้งนี้ต้องรบกวนท่านอีกแล้ว ช่วยถามแม่นางผู้นั้นถึงการตัดสินใจที่แท้จริงที่เกิด ถึงแม้ช่วงนี้ครอบครัวของเราค่อนข้างลําบาก แต่บัณฑิตนั้นไม่อาจหาได้ง่าย ๆ หากนางพลาดจากครอบครัวเราไป บางทีอาจจะหาที่ไหนไม่ได้อีก”

แม่สื่อฮั่วพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแต่คํากล่าวแฝงด้วยความเหยียดหยาม “ไม่ต้องกังวลหรอก ข้าจะไปถามให้ อย่างไรก็ตามข้าเป็นเพียงแม่สื่อ เท่านั้น นางคงจะไม่ไว้ใจข้านัก ทําไมเจ้าถึงไม่ไปกับข้าด้วยเลยล่ะ?”

ขณะนั้นเอง หวงจื๊อก็ได้ตระหนักถึงความเย็นเยือกของนายพรานผู้นั้นขึ้นมา เมื่อคิดว่าจะได้เจอกับพรานผู้นั้น นางถึงกับเย็นสันหลังวาบ

“ข้า… ข้าคงไม่ไปหรอก อย่างไรท่านก็เป็นแม่สื่อและยังเป็นคนของตระกูลหลิน แค่เป็นตัวแทนให้เราก็พอ”

แม่สื่อฮัวทําหน้าเคร่งขรึมพร้อมเก็บพัดของนาง “นั่นมันไม่ถูกต้อง แม่สื่อก็คือแม่สื่อ เปรียบไม่ได้กับคนที่เป็นแม่แท้ ๆ อย่างไรก็ตาม เจ้าก็ต้องไปด้วยตัวเองไม่ช้าก็เร็ว ไม่รู้หรอกว่าเจ้าหวาดกลัวสิ่งใด แต่พวกเขาก็แค่ดูใจกันอยู่ไม่ใช่คู่สมรส นางจะได้แต่งงานหรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับนายพราน”

หวงจือกัดฟันเล็กน้อยและรู้สึกหน้าชา นางครุ่นคิดถึงภาพหลังจากที่แม่นางผู้นั้นย้ายเข้ามาในบ้าน นางจะได้ไม่ต้องทํางานหนักอีกต่อไป

เช่นนั้นนางจึงตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว

“เอาล่ะ ข้าจะไปกับท่านในรุ่งสางพรุ่งนี้”

แม่สื่อฮัวพยักหน้า “เรื่องนี้เจ้าจะต่อว่าข้าไม่ได้หรอกนะ ผู้คนย่อมต้องพบหน้าค่าตากันเป็นธรรมดา เราต้องแสดงความจริงใจสักหน่อย”

หวงจือกัดฟันและผงกหัว ตอนนี้นางรู้สึกผิดเล็กน้อย หากหญิงผู้นั้นแต่งเข้ามาในตระกูล เช่นนั้นนางก็ยังอยู่ในความดูแลของแม่สามีอยู่ไม่ใช่หรือ? เวลานั้นหวงฉือไม่เชื่อว่าจะไม่มีการกระทบกระทั่งเกิดขึ้น แล้วหญิงสาวผู้นั้นที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลจะแข็งกร้าวเพียงใดกัน?

ส่วนทางด้านหยุนเถียนเถียน นางเพียงมอบน้ําหนึ่งถ้วยให้ชายหนุ่มผู้นั้น แม้ชื่อจะค่อนข้างคุ้นเคยยิ่ง แต่สุดท้ายแล้วนางก็มิได้หลงไปกับรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายแม้แต่น้อย

เวลานี้ นางกําลังยุ่งอยู่กับการเตรียมกุ้งฉางตรงสวนหลังบ้านไว้สําหรับเก็บเสบียงที่แลกมาจากเสี่ยวเถา

เมื่อเก็บกวาดทุกอย่างเสร็จแล้ว เสียงประตูถูกเคาะได้ดังขึ้นก่อนที่นางจะเข้าไปทําความสะ อาดต่อ

หยุนเกียนเถียนถึงกับถอนหายใจยาว ตอนนี้หยุนเคอคงจะขึ้นไปบนภูเขาเพื่อตามหาความสําราญที่เขาชื่นชอบแล้วมิใช่หรือ?

ทันทีที่นางเปิดประตู แม่สื่อฮัวเดินเข้ามาพร้อมกับพัดในมือ และด้านหลังมีหวงฉือที่พยายามกวาดสายตาไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง

เมื่อแรกเห็นใบหน้าอันงดงามของหยุนเถียนเถียน หวงฉือเผยท่าที่อิจฉาขึ้นมาทันที เป็นสาวบ้านนอกแต่กลับมีหน้าตางดงาม เกรงว่าคงจะเป็นหายนะมากกว่าพรจากสวรรค์

ยิ่งไปกว่านั้น นางยังนึกถึงท่าทีของลูกชายของตนเมื่อคืนก่อนได้ แม้แต่ตอนรับประทานอาหาร เขายังยกยิ้มราวกับคนบ้า

เมื่อเห็นเห็นใบหน้าอันงดงามตรง ๆ เช่นนี้ นางจึงเข้าใจทุกอย่างทันที ลูกชายหน้าโง่ของตนจะหักห้ามใจไม่ให้หลงเสน่ห์อีกฝ่ายได้อย่างไร

นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่สบอารมณ์ แต่เมื่อนึกถึงสินสอดขึ้นมา หวงจือจึงเผยรอยยิ้มอีกครั้ง
แม่สื่อฮัวสะบัดพัดพร้อมเดินเข้ามากล่าว “แม่นางหยุน เจ้าได้คําตอบของตัวเองแล้วหรือยัง? ตอนนี้ตระกูลหลินกําลังรอคําตอบของเจ้าอยู่”

ใบหน้าของหยุนเวียนเถียนกระตุกทันที แม่สื่อฮัวไม่เข้าใจภาษาของมนุษย์เลยหรืออย่างไร? นางกระทําโจ่งแจ้งเพียงนั้น แต่กลับไม่เข้าใจว่านางปฏิเสธไปแล้วงั้นหรือ?

“ท่านป้าต้องล้อเล่นเป็นแน่ ผู้หญิงที่ดีไม่อาจแต่งงานกับสามีหลายคนได้ ตอนนี้ข้ากับพี่หยุนแต่งงานอยู่ร่วมชายคาเดียวกันแล้ว ข้าไม่อาจเจรจาเรื่องแต่งงานกับผู้อื่นได้อีก ท่านป้าโปรดปฏิเสธให้ข้าเถิด”

หวงฉือคิดว่าเรื่องจะไปได้สวย แต่กลับถูกปฏิเสธ จึงทําให้นางรู้สึกรังเกียจเด็กสาวผู้นี้ไม่น้อย

นางเริ่มควบคุมอารมณ์ไม่ได้และวกกลับไปที่ประเด็นเดิม “แม่นางหยุนควรใช้ตามองผู้อื่นบ้าง ไม่ว่านายพรานผู้นั้นจะเก่งกาจเพียงใด เขาก็เป็นเพียงนายพรานเถื่อน ๆ คนหนึ่ง เมื่อเขาตาย เจ้าก็จะได้แค่เงินเลี้ยงดูเล็กน้อยเท่านั้น แต่ลูกชายข้านั้นต่างออกไป เขาเป็นบัณฑิต หลังจากสิ้นการสอบครั้งหน้า เขาก็จะได้เป็นนักปราชญ์เต็มตัว!”

“เจ้าเป็นเพียงหญิงอายุน้อย อีกทั้งยังไม่มีผู้ใหญ่อยู่รอบกาย เจ้าคงไม่เข้าใจว่าความประเสริฐของนักปราชญ์เป็นเช่นไรหรอกสินะ?”

หยุนเถียนเถียนพึงตระหนักได้ว่า คนที่มาเคาะประตูเมื่อวานก็คือหลินหู แล้วแววตาที่เขาจับจ้องนางก็ทําให้รู้สึกอึดอัดใจไม่น้อยเลย

“ป้าฮัว ท่านน้าผู้นี้คือ…”

แม่สื่อฮัวกระตุกมุมปากอย่างไม่พอใจ น้องสะใภ้ช่างมีนิสัยเลวทรามแย่เสียจริง ตอนนี้แม่นางหยุนยังไม่ได้แต่งเข้าตระกูล เราย่อมต้องเกลี้ยกล่อมอย่างสุภาพ แต่นี่กลับทําให้นางอุ่นเคืองโดยงั้นหรือ?