ตอนที่ 216 ตื่นตระหนก

สามีข้า คือพรานป่า

ตอนที่ 216 ตื่นตระหนก

“กลายเป็นว่าป่าหวงเองงั้นหรือ เด็กน้อยคนนี้ไม่ใช่โง่งม อย่างน้อยก็ทราบความละอาย! ท่านบัณฑิต เด็กน้อยผู้นี้อับโชคยิ่งนัก ขอเชิญท่านป้ากลับแล้ว”

หยุนเวียนเถียนเพียงกล่าวออกไปอย่างเด็ดขาด อย่างไรแล้วนางไม่คิดจะโต้เถียงกับคนตรงหน้า แต่ในประโยคเหล่านี้กลับแสดงการปฏิเสธอย่างชัดเจน

หวงฉืออดไม่ได้ที่จะโกรธเกรี้ยว บุตรชายของนางตกหลุมรักหญิงสาวผู้นี้ได้อย่างไรกัน? อีกทั้งตอนนี้นางยังกล่าววาจาดูถูกลูกชายของตน มันไม่ใช่การตบหน้านางงั้นหรือ?

“แม่นางหยุน เจ้าเป็นเพียงเด็กสาวไร้พ่อและแม่ตายตกไป แน่นอนว่าเจ้าไม่คู่ควรกับลูกชายของข้าสักนิด แต่เป็นเพราะลูกชายข้าหลงรักเจ้าสุดหัวใจและเขาคงไม่อาจล้มเลิกได้ เช่นนี้ข้าจึงคิดมาสู่ขอเจ้า แต่หากเจ้าคิดเหยียดหยามเขาเช่นนี้ เจ้าก็ไม่คู่ควรกับเขาอย่างแท้จริง จากนี้ไปข้าจะสั่งให้เขาเลิกเพ้อฝันถึงเจ้าเสียที”

หลังจากได้ฟังประโยคนี้ หยุนเสียนเถียนก็ยิ่งมั่นใจว่าบัณฑิตที่มาขอน้ำกินเมื่อวานนี้คือบุตรชายของหวงฉือตรงหน้า

ท่านป้า เป็นคนมีศีลธรรมย่อมดีกว่ารอบรู้และฉกฉวยผลประโยชน์จากผู้อื่น หากให้ข้าคาดเดาเป็นบุตรชายของท่านที่มาเคาะประตูข้าและขอน้ำดื่ม ข้ายังสงสัยไม่น้อยว่าบัณฑิตที่ไหนจะไร้ซึ่งมารยาทเช่นนี้ อ้อ ปรากฏว่าเขาเป็นลูกชายที่ท่านสั่งสอนมานั่นเอง!”

“เขาเคาะประตูบ้านข้าด้วยตนเอง แล้วยังใช้สายตาแทะโลมมองหญิงสาวที่กำลังจะแต่งงาน! ช่างเป็นบัณฑิตที่ยอดเยี่ยมอะไรเช่นนี้ อีกทั้งวันรุ่งขึ้นแม่ของเขายังมาสู่ขอหญิงสาวผู้นั้นถึงบ้านช่างยอดเยี่ยมนัก! ข้าไม่แปลกใจเลยหากลูกชายของท่านจะครองชีวิตโสดไปตลอดชีวิตโดยหากรรยาข้างกายไม่ได้!”

เดิมที่หวงฉือคิดว่าเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าคงรับมือไม่ยากนัก เพราะนางอายุไม่มาก แต่อีกฝ่ายกลับกล่าววาจาฉะฉานและไร้ซึ่งความอ่อนน้อมได้อย่างหน้าตาเฉย

“เหตุใดแม่นางหยุนจึงกล่าววาจาเสียดสีเช่นนี้? พวกเราล้วนมาที่นี่เพื่อแสดงความจริงใจในการสู่ขอ แต่เจ้ากลับบอกว่าข้าคิดไม่ซื่องั้นหรือ?”

หยุนเถียนเถียนเผยรอยยิ้มเคืองโกรธ ก่อนจะกล่าวโต้คนไร้ยางอายตรงหน้า “แล้วสิ่งที่ท่านป้ากล่าวนั้นจริงใจหรือไร? เหตุใดจึงคิดกล่าวว่าข้าไม่คู่ควรกับลูกชายของท่าน คำพูดนี้หมายความว่าอย่างไรกัน? อีกทั้งที่บอกกล่าวว่าลูกชายท่านจดจำข้าจนเก็บไปเพ้อฝัน ไร้สาระทั้งเพ! ข้ากับเขาไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกัน อีกทั้งท่านก็ยังไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเราเมื่อวานนี้แม้แต่น้อย”

“อย่าคิดทำลายชื่อเสียงผู้ใดเลย! แต่ดูเหมือนนี้จะเป็นตัวตนที่แท้จริงของตระกูลหลิน ขอเชิญป้าหวงกลับเถิด อย่าให้เรื่องบาดหมางทำให้ท่านบัณฑิตผู้นั้นเสื่อมเสียเลย อีกทั้งท่านป้ายังเป็นแม่สื่อได้อีกในอนาคต แต่จงไปหาสตรีอื่นเถิดเพราะข้าคนนี้แต่งงานแล้ว!”

บังเอิญว่าวันนี้หยุนเคอจับไก่ฟ้าได้สองตัวและคิดว่าจะกลับบ้านเพื่อตุนไก่กับเห็ด ดังนั้นเขาจึงรีบขึ้นไปบนภูเขาแต่เช้าและต้องการเชือดไก่พวกนี้ด้วยตนเอง ทั้งหมดก็เพื่อไม่อยากให้มือเรียวของเด็กสาวต้องแปดเปื้อน

ทันทีที่เขาเดินเข้ามาในบ้านพร้อมไก่ฟ้าสองตัวเขาก็พลันได้พบกับศัตรูที่หมายมั่น นั่นคือแม่สื่อที่มารุกรานเมื่อสองสามวันก่อน ส่วนอีกคนคือหวงฉือจากหมู่บ้านข้าง ๆ !

หัวใจของเขาพลันบีบรัดพร้อมภาวนาในใจว่าอย่าให้เถียนเฉียนหลงกลพวกนาง!

แต่ใครจะทราบว่าหัวใจที่เต้นแรงเมื่อครู่กลับผ่อนคลายลงและเริ่มดีดดิ้นอย่างตื่นเต้น

หยุนเกียนเถียนเรียกหาเขาพร้อมทักทายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “พี่หยุนกลับมาแล้ว! ท่านป้าทั้งสองไม่ทราบสถานการณ์ของเรา ข้าพบอกว่าแต่งงานแล้วเป็นร้อยครั้ง แต่พวกเขาก็ไม่คิดฟังแล้วยังมากล่าวสู่ขอข้าในวันนี้อีก!”

“เมื่อไหร่เราจะแต่งงานกันเสียที่? ข้าไม่รู้ว่าใครทำให้ทั้งสองกล้าหาญเช่นนี้ พวกเขาดูถูกว่าข้า ไร้พ่อซึ่งแม่ไม่คู่ควรกับลูกชายเขาด้วยซ้ำ!”

ท่าทางฟ้องร้องของหญิงสาวตรงหน้าทำให้หัวใจของหยุนเคอเต้นแรงขึ้นมาอย่างยินดี

“ดูเหมือนว่าพวกเจ้าได้รับบทเรียนไม่เพียงพองั้นหรือ? ออกไปจากบ้านข้าเดี๋ยวนี้ หรือต้องการให้ข้าโยนออกไป?!”

เมื่อเห็นท่าทางโหดร้ายของหยุนเคอ หวงฉือจดจำเรื่องเสือสิงห์ที่ถูกขู่ไว้ได้ทันที หรือว่าเขาคิดจะเอาเสือมาปล่อยในบ้านของนาง? เช่นนี้ไม่ ดีแน่ควรจะรีบออกจากที่นี่โดยเร็ว

ทว่าแม่สื่อฮัวกลับไม่เข้าใจ นางก้าวไปด้านหน้าก่อนจะกล่าวกับหยุนเคอ “นายพรานหยุนแม้ว่าเจ้าจะเก่งกาจแต่ก็ไม่อาจครอบครองหัวใจ นางได้เจ้าไม่มีวันพานางไปสู่ความรุ่งโรจน์! นางมีโอกาสที่จะได้รุ่งเรืองแต่กลับต้องมาติดแหงกอยู่ในบ้านหลังเล็กกับเจ้าที่นี่ เจ้าควรจะตักน้ำใส่กะโหลกเสียบ้าง!”

เส้นเลือดปูดโปนขึ้นบนหน้าผากของหยุนเคอชัดเจน เขาขว้างไก่ฟ้าสองตัวออกจากมืออย่าง เหี้ยมโหดก่อนจะหยิบไม้กวาดพร้อมกับชี้หน้าแม่สื่อฮัวอย่างไม่เกรงกลัว

ขณะถูกด้ามไม้กวาดชี้หน้า ทั้งสองพลันอกสั่นขวัญแขวนอย่างถึงที่สุด

ร่างกายของแม่สื่อฮัวและหวงฉือสั่นสะท้าน ไม่กล้าแม้แต่ขยับตัว

หยุนเคอเค่นเสียงเย็นชา “จะออกไปดี ๆ หรือไม่?”

หวงฉือกรีดร้องอย่างตื่นตระหนกก่อนจะวิ่งไปที่ประตู ส่วนแม่สื่อฮัวหวาดกลัวยิ่งกว่า นางไม่อาจก้าวขาได้แม้เพียงครึ่งก้าวด้วยซ้ำ

ทันทีที่ทั้งสองออกจากประตูไป พวกเขาถึงกับหลั่งน้ำตาออกอย่างไม่อาจกลัน นั้นคือนายพรานบนภูเขางั้นหรือ? หากไม่บอกกล่าวคงคิดว่าเป็นเสือสิงห์แน่!

ครั้นหยุนเสียนเถียนเห็นทั้งสองออกไปแล้วใบหน้าของนางพลันผ่อนคลายขึ้น จากนั้นจึงหันไปยิ้มหวานให้หยุนเคอ “โชคดีที่เจ้ากลับมา ไม่อย่างนั้นข้าก็อับจนหนทางยิ่ง พวกนางช่างดื้อด้านและรับมือได้ยากจริง ๆ”

หยุนเคอทอดสายตาแห่งความรักให้กับหญิงสาวตรงหน้าโดยไม่รู้ตัวพร้อมกับลอบคิดภาย ในใจข้าต้องทำให้นางเข้าใจว่าข้ารู้สึกเช่นไรและให้นางรู้ว่าข้าจะอยู่เคียงข้างเสมอ!”

ทว่าหยุนเถียนเถียนกลับเหลือบเห็นไก่ฟ้าสองตัวที่เขาถือเข้ามาก่อนหน้า มันถูกขว้างทิ้งไว้ตรงมุมห้องราวกับขยะ นางจึงรีบหันไปสนใจมันโดยไม่เห็นแววตาแห่งความรักของเขาแม้แต่น้อย

“หยุนเคอ เจ้าช่างรู้ใจข้าเสียจริง วันนี้ข้าเพียงคิดว่าจะกินไก่ตุ้นและเห็ดเท่านั้น ซึ่งเห็ดที่ข้าขึ้นไปเก็บบนภูเขาพร้อมกับชาวบ้านคนอื่น ๆ เริ่มใช้ได้แล้วงั้นเราไปทำซุปไก่กันเถอะ!”

หยุนเกียนเถียนกล่าวพร้อมกับเดินเข้าครัวไปต้มน้ำ

หยุนเคอรีบเอื้อมมือไปหยุดนางไว้ก่อนจะกล่าวออก “ข้าจะจัดการไก่เอง เจ้าเป็นหญิง ไม่ควรจะยุ่งกับเลือดสกปรก

หยุนเสียนเถียนหันกลับไปหาเขา ในที่สุดนางก็ได้เห็นแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนานั้นหญิงสาวรีบก้มหน้าลงด้วยความประหม่า ใบหน้าแดงกลามไปถึงหู นางยื่นไก่คืนให้เขาก่อนจะ เร่งเท้าเข้าครัว

หยุนเคอจับจ้องเด็กสาวร่างบางตรงหน้าที่ กำลังเขินอาย เขาจึงยิ้มออกมาอย่างพอใจ หรือ ว่าเขาควรจะโกนหนวดเคราพวกนี้ออกกันนะ… อย่างไรแล้วหน้าตาของเขาก็ไม่เลวร้าย มันจะถูกตาต้องใจนางบ้างหรือไม่?

หยุนเสียนเถียนยังคงนั่งอยู่ในห้อง นางนั่งเหม่อลอยบนเก้าอี้เป็นเวลานาน เพราะยังใจเต้นแรงกับฉากเมื่อครู่ไม่หาย

เกิดอะไรขึ้นกันแน่? ภพที่แล้วนางไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน แต่ตาหนวดคนนั้นทำให้นางใจเต้นไม่เป็นจังหวะได้อย่างไรกัน?

ดูเหมือนว่านางจะครองความโสดมานานเกินไป จึงไม่อาจแยกแยะความหล่อเหลาออกจากความอัปลักษณ์ได้ หนวดเคราเพิ่มแถมยังรกรุงรังเช่นนั้นน่ะหรือสามารถทำให้นางใจเต้นไม่เป็นจังหวะ!