บทที่ 206 โทรศัพท์จากเจ้าหย้าหนาน

ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก

บทที่ 206 โทรศัพท์จากเจ้าหย้าหนาน

บทที่ 206 โทรศัพท์จากเจ้าหย้าหนาน

“ตึง!”

หมัดของอู๋ฝานต่อยเข้าใส่ใบหน้าของหลี่ปิงอย่างรุนแรง

เดิมนั้นหลี่ปิงคิดว่าด้วยกำลังของตนเอง เขาจะสามารถต้านทานการโจมตีของอู๋ฝานได้ ทว่าก็เห็นชัดว่าเขาประเมินกำลังของตนเองเกินตัว และปรามาสกำลังของอีกฝ่ายเกินไป ตอนที่ชายหนุ่มต่อยใส่ เขาคิดว่าจะสามารถสกัดรับหมัดได้อย่างง่ายดาย

ทว่าหมัดของหลี่ปิงที่ใช้ยกเพื่อป้องกันกลับย้อนมาเล่นงานตนเอง ชั่วพริบตานั้นวงรอยช้ำสีดำก็ปรากฏบนตาขวาของเขา พร้อมกับเป่งบวมอย่างรวดเร็ว

เพียงแต่การบุกของอู๋ฝานไม่ได้จบลงที่ตรงนี้ ตอนที่หมัดของหลี่ปิงเคลื่อนออกไปเล็กน้อย อีกหนึ่งการโจมตีของชายหนุ่มก็มาถึง และครั้งนี้หมัดของเขาก็ปะทะเข้าใส่ตาซ้ายของหลี่ปิง เป็นเหตุให้ดวงตาทั้งสองข้างบวมเป่งเท่ากัน เรียกได้ว่าเป็นภาพน่ารับชมประหนึ่งสมบัติประจำชาติ

“ตึง!”

อู๋ฝานไม่ปล่อยหลี่ปิงไปง่าย ๆ เขาต่อยใส่หน้าอกของฝ่ายนั้นอีกครั้งหนึ่ง ดวงตาของหลี่ปิงแทบจะถลนออกจากเบ้า เขารู้สึกราวกับหัวใจถูกบดขยี้ทุบตี คล้ายจะหยุดเต้นไปหลายวินาทีเลยด้วยซ้ำ! หน้าอกในเวลานี้รู้สึกแน่นจุก ดวงดาวเริ่มปรากฏขึ้นในดวงตา

“ตึง!”

“แก๊ก!”

อู๋ฝานต่อยหมัดใส่หลี่ปิงอีกครั้งหนึ่ง ทางด้านหลี่ปิงและคนรอบข้างนั้น เมื่อครู่ต่างก็ได้ยินเสียงกระดูกหักกันอย่างชัดเจน หลี่ปิงแผดเสียงร้องโหยหวนออกมา ขณะที่ผู้คนรอบข้างต่างรู้สึกตัวชาวาบ พร้อมกับเสียวฟันเพราะเสียงร้องแหลมนี้

หลังการโจมตีครั้งนี้ หลี่ปิงไม่อาจยืนนิ่งเฉยได้อีก เขาถอยเท้าไปสามถึงสี่เมตร สุดท้ายก็ล้มลงไปกองกับพื้นอย่างแรง ไม่นานก็ทำส่งเสียงร้องโอดโอยอยู่บนพื้น เพราะไม่อาจลุกขึ้นได้อีก

หากอู๋ฝานตั้งใจจริงกว่านี้ การจะทำให้หลี่ปิงสลบในหมัดเดียวหรือไม่ก็เล่นงานจนพิการนั้นทำได้ไม่ยาก เพราะตอนนี้พละกำลังของเขาห่างไกลเกินกว่าที่อีกฝ่ายจะเปรียบเทียบได้ แม้จะเป็นตอนนี้ที่ตัวเขาไม่ได้สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันเต็มชุดก็ตาม

อู๋ฝานยืนอยู่ตำแหน่งเดิม สายตาเฉยชาทอดมองหลี่ปิงที่ยังคงส่งเสียงร้องอยู่บนพื้น สุดท้ายจึงเอ่ยขึ้น “บอกแล้วไง ว่าถ้าฉันลงมือ นายก็ไม่มีโอกาสได้ลงมือ”

ก่อนหน้านี้กลุ่มคนที่มารายล้อมรับชมต่างคิดว่าอู๋ฝานคุยโวไม่รู้จักประมาณตนเอง แต่หลังจากได้เห็นชายหนุ่มลงมือกับตาของพวกเขาเอง จึงได้รู้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้คุยโว แต่พูดเรื่องจริงออกมาทั้งสิ้น!

แม้พูดตอนนี้จะทำให้ดูอวดดีไปบ้างก็ตาม ทว่าอู๋ฝานก็ทำได้จริงดังเช่นที่ว่า การโจมตีของเขา หลี่ปิงไม่อาจทำได้แม้ป้องกัน นับประสาอะไรกับการจะตอบโต้สวนกลับ

หลี่ปิงไม่มีแก่ใจจะปฏิเสธคำพูดของอู๋ฝาน การลงมือของอีกฝ่ายทำให้เขาได้รับบาดเจ็บหนัก ตอนนี้ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะยืนขึ้นแล้วด้วยซ้ำ ที่ทำได้ก็มีเพียงแผดเสียงร้องต่อไป

“เมื่อกี้พวกคุณก็น่าจะได้ยินกันหมดแล้ว เขาพูดด้วยตัวเองด้วยซ้ำ บาดเจ็บก็ต้องโทษตัวเองล่ะนะ” อู๋ฝานเอ่ยขึ้น ขณะมองฝูงชนที่เข้ามารับชม

ผู้คนรอบ ๆ พยักหน้าตอบรับโดยไม่รู้ตัว

อู๋ฝานที่พอใจกับคำตอบจึงหันกลับและจากไป

ทว่าก่อนที่อู๋ฝานจะก้าวเท้าไปไกล กลับมีคนเรียกเขาเอาไว้

“รอเดี๋ยว!”

อู๋ฝานหันกลับมองยังคนพูดก่อนจึงถาม “ครับ? อยากออกหน้าแทนเขาเหรอ”

“ไม่ใช่ครับ” หลังได้ยินคำพูดของอู๋ฝาน อีกฝ่ายจึงส่ายศีรษะตอบ ก่อนจะพูดว่า “ผมเผิงหย่วนกวง เป็นผู้จัดการของที่นี่ ไม่นานมานี้เพื่อนของผมเพิ่งจัดสังเวียนมวย เลยอยากทราบว่าคุณอู๋สนใจจะเข้าร่วมไหมครับ”

“นัดต่อยมวย? ไม่สนใจครับ” อู๋ฝานตอบ

อู๋ฝานไม่สนใจเรื่องเหล่านี้ ปัจจุบันเขากำลังหาทางพัฒนาร้านอาหารและเลเวลในโลกอีกฝั่งหนึ่ง อีกทั้งยังต้องทำฟาร์มอีก ดังนั้นจึงไม่เหลือเวลาให้ไปสนใจสิ่งอื่นใด ถ้าเมื่อครู่หลี่ปิงไม่เข้ามาทำให้เขาต้องเสียเวลา ตนยังคร้านจะคุยกับอีกฝ่ายด้วยซ้ำ

“คุณอู๋ อย่ารีบปฏิเสธแบบนั้นสิครับ” เผิงหย่วนกวงตอบกลับ “ที่สังเวียนมวยมีนักมวยมากมายมาเข้าร่วม แทบจะเรียกได้ว่าจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ใช่เพียงแค่คนในประเทศนะครับ และผู้ชนะยังจะได้รับรางวัลเป็นเงินก้อนโตอีกด้วย”

“ไม่ใช่เรื่องที่ผมสนใจเลยครับ” อู๋ฝานตอบกลับ “น่าจะลองไปเสนอคนอื่นดูนะครับ”

พูดจบ อู๋ฝานก็หันกลับและจากไป โดยไม่ใส่ใจกับผู้จัดการคนนั้นอีก

ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนที่อู๋ฝานยังขาดเงิน เขาอาจจะหยุดคิด ทว่าตอนนี้ตัวเขามีเงินมากมายแล้ว ทั้งยังไม่ได้ขาดแคลนเงินทองแต่อย่างใด ร้านอาหารก็ใกล้เปิดทำการ เขาเชื่อว่าช่วงเวลานี้คือเวลาของธุรกิจ ดังนั้นหากชายหนุ่มจะไม่สนใจเรื่องนัดต่อยมวย ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

เผิงหย่วนกวงยังพยายามเกลี้ยกล่อมอู๋ฝาน ทว่าเขาปฏิเสธอย่างหนักแน่น จนสุดท้ายอีกฝ่ายจึงทำได้เพียงต้องยอมรามือ

อู๋ฝานใช้เวลาที่ยิมเกือบสองชั่วโมง ทุกคนในที่นั้นพยายามหลบเลี่ยงชายหนุ่ม อย่างไรพวกเขาก็ได้เห็นกับตาแล้วว่าพละกำลังของอู๋ฝานเป็นเช่นไร เรียกได้ว่าแทบไม่มีใครกล้าที่จะขมวดคิ้วใส่อีกฝ่ายเลยสักคนด้วยซ้ำ

ส่วนทางด้านหลี่ปิง อีกฝ่ายถูกหามส่งโรงพยาบาล อู๋ฝานทราบในพละกำลังตนเองดี เขาไม่ได้ทุ่มสุดแรงอะไร ทว่าหลี่ปิงก็คงยังต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกสักสิบวัน หรืออาจจะครึ่งเดือน ไม่ก็นานกว่านั้น

หลังออกจากยิม อู๋ฝานก็เดินทางไปที่ร้านอาหาร

ทางฝั่งภัตตาคารกำลังเตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการอยู่ โดยร้านจะเปิดอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้

ใจของอู๋ฝานกำลังคาดหวัง อย่างไรเขาก็ลงทุนเป็นเม็ดเงินอันมหาศาล อีกทั้งมันยังเกี่ยวข้องกับความก้าวหน้าของตัวเขาในอนาคตด้วย

ขณะที่อู๋ฝานกำลังตรวจสอบรายละเอียดของร้านว่ามีอะไรที่อาจจะหลุดรอดสายตาหรือไม่ เขาก็ได้รับสายโทรเข้าที่ทำให้ต้องประหลาดใจ

“เถ้าแก่เจ้า?” เพียงแค่อู๋ฝานรับสาย เขาก็เผยน้ำเสียงประหลาดใจเล็กน้อยออกมา “เถ้าแก่เจ้ามีอะไรหรือเปล่าครับ? หรือว่าพร้อมส่งมอบเงินแล้ว?”

อีกฝ่ายที่โทรมานั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจ้าหย้าหนาน เถ้าแก่ที่อู๋ฝานค้าขายไม้ชิงชังด้วยก่อนหน้านี้

ทว่าหลังอู๋ฝานเอ่ยจบ ปลายสายกลับเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

อู๋ฝานตระหนักว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น ดังนั้นจึงเอ่ยคำถาม “เถ้าแก่เจ้า เป็นอะไรไปครับ?”

“คุณอู๋ ถ้ามีเวลาเมื่อไหร่คงต้องรบกวนมาพูดคุยเรื่องการโอนร้านกันแล้วค่ะ” เจ้าหย้าหนานลดเสียงเบาบอกผ่านโทรศัพท์

โอนร้าน?

มันจะต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้น

ครั้งก่อนที่ตกลงกัน มีเงื่อนไขหนึ่งระบุว่าหากเจ้าหย้าหนานไม่สามารถจ่ายเงินค่าสินค้าแก่อู๋ฝานภายในเวลาสองเดือนได้ ตอนนั้นร้านของเธอจะต้องถูกใช้เป็นหลักทรัพย์ เพื่อขายจ่ายแทนให้แก่เขา

ตอนนี้เจ้าหย้าหนานเอ่ยถึงประเด็นดังกล่าวขึ้นมา เห็นได้ชัดว่าเธออับจนหนทางจะหาเงินมาจ่ายค่าสินค้าให้แก่อู๋ฝาน อีกฝ่ายไม่สามารถทำตามข้อตกลงที่เจรจาไว้ตอนแรกได้

“เถ้าแก่เจ้า จากกำหนดการสองเดือนก็ยังมีเวลาอยู่นะครับ คุยกันตอนนี้ออกจะเร็วเกินไปหน่อยนะครับ?” อู๋ฝานเอ่ยถาม

ไม่ใช่ว่าอู๋ฝานไม่ต้องการครอบครองหน้าร้านดังกล่าว เขาครอบครองทรัพยากรไม้เป็นพื้นที่กว้างใหญ่ในป่าด้านหลังของหมู่บ้านเร้นลับ จึงมองว่าตนเองก็ควรมีหน้าร้านค้าไม้เป็นของตนเองสักแห่ง

ทว่าอู๋ฝานก็ทราบว่าเจ้าหย้าหนานมีความรักและความผูกพันกับร้านดังกล่าวเป็นอย่างมาก เขาไม่อยากช่วงชิงเอาของรักของคนอื่นมาถึงขนาดนั้น

“ไม่เร็วเกินไปเลยค่ะ ฉันไม่มีทางหาเงินมาจ่ายได้จริง ๆ ค่ะ” เจ้าหย้าหนานตอบกลับเสียงเบาอย่างสิ้นหวัง ดูอับจนหนทางไม่น้อย “เฟอร์นิเจอร์ล็อตก่อนหน้านี้เกิดปัญหาขึ้น ฉันไม่มีเงินเหลือพอที่จะทำกิจการแล้วค่ะ”