บทที่ 167 เฮ่อเหลียนเวยเวยลงสนาม

องค์ชายสาม หยุดไล่ตามข้าเสียที!

ทาง​ด้าน​หนึ่ง​ ​ทุกคน​ยังคง​ตก​อยู่​ใน​ความ​เงียบ​ ​และ​ไม่​สามารถ​เอา​ตัวเอง​ออกจาก​อาการ​ตกตะลึง​จาก​การ​ประลอง​ใน​รอบ​ที่แล้ว​ได้

แต่​อีก​ด้าน​หนึ่ง​นั้น​ ​เฮ่อ​เหลียน​เวย​เวย​กระโดด​ขึ้นไป​ยืน​อยู่​บน​เวที​เรียบร้อย​แล้ว

อาจารย์​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​เวที​มอง​ภาพ​นั้น​ด้วย​สายตา​เหม่อลอย​ ​ราวกับ​เพิ่ง​ฟื้น​คืนสติ​จาก​การ​ประลอง​ใน​รอบ​ที่ผ่านมา​ได้​เพียง​เล็กน้อย​เท่านั้น​ ​เขา​ถึงกับ​ตกใจ​ ​และ​รีบ​จัด​แว่นตา​ด้วย​ความรีบร้อน​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​พร้อมกับ​ประกาศ​เสียงดัง​ฟัง​ชัด​ออกมา​ว่า​ ​”​การ​ประลอง​ลำดับ​ที่หนึ่ง​ ​ผู้ชนะ​คือ​หอ​สามัญ​!​ ​การ​ประลอง​ใน​ลำดับ​ที่สอง​เป็นการ​ประลอง​สาขา​อาวุธ​ ​ขอให้​ศิษย์​ที่​เป็นตัวแทน​ของ​หอ​ชั้นเลิศ​เตรียมตัว​ขึ้น​เวที​ด้วย​”

“​ในเวลานี้​ ​แรงกดดัน​ไป​ตก​อยู่​ที่​หอ​ชั้นเลิศ​เสีย​แล้ว​”​ ​ร่าง​ของ​คน​คน​หนึ่ง​ลุกขึ้น​ยืน​ก่อน​จะ​หันไป​มอง​ทาง​อาจารย์​ไป๋​ ​จากนั้น​จึง​นั่งลง​อีกครั้ง​ด้วย​ใบหน้า​ที่​สงบ​เยือกเย็น​ ​”​การ​ประลอง​ครั้งนี้​สำคัญ​ต่อ​ทั้ง​การแข่งขัน​ ​แม้​ก่อนหน้านี้​พวกเขา​จะ​เลือก​ตัวแทน​ฝีมือ​ฉกาจ​เพื่อ​ต่อกร​กับ​คู่ต่อสู้​เอาไว้​แล้วก็​ตาม​ ​แต่​พวกเขา​จะ​ต้อง​เปลี่ยนตัว​อย่างแน่นอน​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​บรรดา​ศิษย์​ใหม่​ของ​หอ​ชั้นเลิศ​รู้สึก​ตื่นตระหนก​กับ​การ​โจมตี​ใน​รอบ​ที่ผ่านมา​ไม่น้อย​เลย​ทีเดียว​ ​ยิ่ง​ที่ๆ​ ​พวกเขา​ยืน​อยู่​นั้น​สูง​เพียงใด​ ​ยาม​ที่​ตกลง​มาก​็​จะ​ยิ่ง​เจ็บ​มาก​เท่านั้น​ ​สิ่ง​ที่เกิด​ขึ้น​ในเวลานี้​นับว่า​สร้าง​ผลกระทบ​ได้​อย่างใหญ่หลวง​ทีเดียว​ ​แต่​คง​ไม่เป็นไร​กระมัง​ ​ทุก​หอ​ต่าง​ก็​มีหัว​ใจหลัก​ของ​กลุ่ม​อยู่​ ​หัวใจ​หลัก​ของ​หอ​ชั้นเลิศ​จะ​เป็น​ใคร​ไป​ไม่ได้​นอก​เสีย​จาก​มู่​หรง​ฉาง​เฟิง​ ​เจ้า​คน​สกุล​ไป๋​นั่น​จะ​ต้อง​ส่ง​มู่​หรง​ฉาง​เฟิ​งอ​อก​มา​อย่างแน่นอน​ ​ไม่ใช่​เพียง​เพราะ​พวกเขา​ต้องการ​ที่จะ​ชนะ​ ​แต่​เพื่อ​สิ่ง​ที่​สำคัญ​ยิ่งกว่านั้น​ ​นั่น​คือ​การ​เรียกขวัญ​กำลังใจ​ของ​หอ​ชั้นเลิศ​กลับคืน​มา​ ​มิฉะนั้น​หาก​พวกเขา​ไม่​สามารถ​เอาชนะ​การ​ประลอง​ใน​รอบ​นี้​ไป​ได้​อย่างสวยงาม​แล้ว​ล่ะ​ก็​ ​มัน​อาจจะ​ส่งผล​ร้าย​ต่อ​ผู้เข้าแข่งขัน​ใน​สาขา​โหราศาสตร์​เอา​ได้​ ​เพราะ​ไม่ว่า​ศิษย์​ผู้​นั้น​จะ​มีฝีมือ​โดดเด่น​เพียงใด​ ​เมื่อถึง​เวลา​ที่​ขึ้นไป​สู้​บน​เวที​จริง​ ​ผู้​ที่​เป็น​ฝ่าย​นำ​ถึง​จะ​สามารถ​ควบคุมสถานการณ์​บน​เวที​ได้​ ​นั่น​จึง​นับว่า​เป็นเรื่อง​ที่​สำคัญ​อย่างยิ่ง​เช่นกัน​”​

การ​วิเคราะห์​ของ​คน​คน​นี้​ถูกต้อง

หลังจากที่​อาจารย์​ท่าน​นั้น​พูด​จบ​ ​อาจารย์​ไป๋​ก็​ลุกขึ้น​ยืน​ ​”​ท่าน​ผู้ตัดสิน​ ​หอ​ของ​ข้า​ขอ​เปลี่ยนตัว​ผู้เข้าแข่งขัน​”

ใน​การ​ประลอง​ ​แต่ละ​หอมี​โอกาส​เปลี่ยนตัว​ผู้เข้าแข่งขัน​ได้​เพียง​ครั้ง​เดียว​เท่านั้น

ดังนั้น​หอ​อื่นๆ​ ​จึง​เตรียม​ศิษย์​ตัวสำรอง​เอาไว้​เพื่อให้​สามารถ​เปลี่ยน​ได้​ตลอดเวลา​ตามแต่​สถานการณ์​ของ​การ​ประลอง​ ​และ​สามารถ​เปลี่ยนตัว​ผู้เข้าแข่งขัน​ได้​ใน​เวลา​ที่​เหมาะสม

นี่​เป็นเรื่อง​ที่อยู่​ใน​การคาดการณ์​ของ​ทุกคน

อาจารย์​ไป๋​ย่อม​ส่ง​มู่​หรง​ฉาง​เฟิง​ลง​สู่​สนาม​แทน

เสี้ยว​หน้า​อัน​หล่อเหลา​ของ​มู่​หรง​ฉาง​เฟิ​งดู​เหมือน​จะ​ไม่ได้​เป็นกังวล​เลย​แม้แต่น้อย​ ​พร้อมกันนั้น​เขา​ก็​ปลด​ปลอกแขน​ถ่วง​น้ำหนัก​ออกจาก​ข้อมือ​ของ​ตน​ ​ท่าทาง​ของ​เขา​นั้น​ช่าง​โดดเด่น​สะดุดตา​เสีย​จน​ทำให้​ศิษย์​หลาย​คน​ของ​หอ​ชั้นเลิศ​ถึงกับ​รู้สึก​ว่า​เลือด​ลม​ของ​ตน​กำลัง​เดือด​ปุด​ๆ​!

“​เจ้า​เห็น​หรือเปล่า​!​ ​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​มู่​หรง​ซื่อ​จื่อ​จะ​สวม​ปลอกแขน​ถ่วง​น้ำหนัก​เอาไว้​ที่​ข้อมือ​ ​นั่น​ก็​หมายความว่า​ตอนที่​เขา​ประลอง​กับ​หอ​ชั้นเยี่ยม​ ​เขา​ใส่​ปลอกแขน​ถ่วง​น้ำหนัก​อยู่​น่ะ​สิ​!​”

“​โอ้​ ​สวรรค์​!​ ​ตอนที่​เขา​เผชิญหน้า​กับ​หอ​ชั้นเยี่ยม​ ​ความ​รวดเร็ว​ใน​การ​ประกอบ​อาวุธ​ของ​เขา​ก็​ยัง​เร็ว​ถึง​เพียงนั้น​แล้ว​ ​ข้า​นึกไม่ออก​เลย​จริงๆ​ ​ว่า​หลังจาก​เขา​ถอด​ปลอกแขน​ถ่วง​น้ำหนัก​ออก​ ​มัน​จะ​เป็น​อย่างไร​!​”

เสียงอุทาน​และ​คำสรรเสริญเยินยอ​นั้น​ย่อม​เป็นเรื่อง​ที่​มู่​หรง​ฉาง​เฟิ​งคุ​้น​เคย​มา​แต่ไหนแต่ไร​ ​บน​ใบหน้า​ของ​เขา​มี​ความหยิ่ง​ผยอง​ปรากฏ​ขึ้น​อย่างชัดเจน​ ​แม้​เขา​จะ​ปกปิด​มัน​ได้ดี​พอตัว​ ​แต่​มุม​ปากของ​เขา​ก็​ยัง​เผย​ความพอใจ​ออกมา

อาจารย์​ไป๋​ลูบ​เครา​ของ​ตน​ ​และ​กลับ​สู่​ความเยือกเย็น​ดังเดิม​ ​เขา​เชื่อ​ว่า​ตราบใดที่​มี​มู่​หรง​ฉาง​เฟิ​งอยู​่​ ​พวกเขา​จะ​ไม่มีวัน​พ่ายแพ้​!

ใน​การ​ประลอง​รอบ​ที่แล้ว​ ​พวกเขา​เพียงแค่​ไม่รู้​จัก​คู่ต่อสู้​ดี​พอ​เท่านั้น

ใน​การ​ประลอง​รอบ​นี้​ ​พวกเขา​ถึงกับ​ใช้​คำ​ว่า​ ​’​รู้​เขา​รู้​เรา​’​ ​ได้​เลย​ด้วยซ้ำ​ ​คู่ต่อสู้​ของ​พวกเขา​มีชื่อเสียง​กระฉ่อน​ไป​ทั่วทั้ง​เมืองหลวง​ ​ไม่​เพียงแค่​ใน​ฐานะ​ของ​ขยะ​ไร้ค่า​ ​แต่​ยัง​ใน​ฐานะ​ของ​คนที​่​เอาแต่ใจ​ ​ระงับ​สติอารมณ์​ไม่ได้​ ​หยาบคาย​ ​และ​ยโส​โอหัง​ ​สำหรับ​มู่​หรง​ฉาง​เฟิง​แล้ว​ ​นาง​เอง​ก็​ไม่​ต่าง​อะไร​ไป​จาก​เถาวัลย์​ที่​รัด​เขา​เอาไว้​ ​และ​ไม่ยอม​ปล่อย​เขา​ไป

ไม่ว่า​ศิษย์​คนใด​จาก​หอ​ชั้นเลิศ​ก็​สามารถ​จัดการ​กับ​คน​เช่นนี้​ได้​ทั้งนั้น​!

แต่​ก็​เป็นไปตาม​ที่​ร่าง​นั้น​ได้​พูด​ไว้​ ​เพียงแต่​ครั้งนี้​สาเหตุ​ที่​อาจารย์​ไป๋​เลือก​มู่​หรง​ฉาง​เฟิง​ลง​สู่​สนาม​นั้น​ไม่ใช่​แค่​เพื่อให้​เขา​นำชัย​ชนะ​มา​ให้​ ​แต่​สิ่ง​ที่​สำคัญ​กว่านั​้​นคื​อการ​ให้​เขา​นำ​เกม​คืน​มาต​่าง​หาก​!

“​ตอนนี้​ข้า​จะ​ประกาศ​กติกา​สำหรับ​การ​ประลอง​ลำดับ​ที่สอง​”​ ​อาจารย์​ท่าน​นั้น​ค่อยๆ​ ​กวาดสายตา​มอง​คนที​่​อยู่​ล่าง​เวที​ ​หลังจากที่​พวกเขา​เงียบเสียง​ลง​ ​เขา​จึง​กล่าว​ต่อว่า​ ​”​การ​ประลอง​นี้​ต่าง​ไป​จาก​การ​ประลอง​สอง​รอบ​แรก​ ​ใน​การ​ประลอง​ลำดับ​ที่สอง​นี้​จะ​แบ่ง​ออก​เป็น​สอง​ส่วน​ด้วยกัน​ ​ส่วน​แรก​คือ​การ​สอบข้อเขียน​ ​กติกา​นั้น​ง่าย​มาก​ ​อาจารย์​ตู๋​เทียน​ได้​เตรียม​วัสดุ​ชนิด​เดียวกัน​เอาไว้​ให้​พวก​เจ้า​ใน​นี้​ ​พวก​เจ้า​ต้อง​คิดดู​ว่าวั​สดุ​ชนิด​นี้​จะ​สามารถ​นำ​ไป​สร้าง​อาวุธ​ประเภท​ใด​ได้ดี​ที่สุด​ ​พวก​เจ้า​จำเป็นต้อง​คิด​วิธีการ​สร้าง​อาวุธ​ชั้นสูง​อย่างน้อย​สอง​ชนิด​ ​จึง​จะ​สามารถ​ชนะ​ได้​ ​มี​เวลา​ให้​ครึ่ง​ก้านธูป​ ​หาก​ผู้เข้าแข่งขัน​ไม่​สามารถ​สร้าง​อาวุธ​ชั้นสูง​อย่างน้อย​สอง​ชนิด​ได้​ภายใน​เวลา​ที่​กำหนด​ ​จะ​ถือว่า​แพ้​ในทันที​ ​หรือ​พูด​อีก​อย่าง​ก็​คือ​ ​ทั้งสอง​คน​จะ​ได้​ออกแบบ​อาวุธ​ชั้นสูง​สอง​ชิ้น​ขึ้นไป​ ​คนที​่​สร้าง​อาวุธ​ได้มา​กก​ว่า​ ​และ​มีคุณ​ภาพ​ดีกว่า​อีก​ฝ่าย​ได้​จึง​จะ​เป็น​ผู้ชนะ​”

ทันทีที่​พูด​จบ​ ​อาจารย์​ท่าน​นั้น​ก็​เดิน​กลับ​ไป​ยืน​ที่​ข้าง​เวที

บน​เวที​ไม้​ ​มี​เสาหิน​สอง​ต้น​ค่อยๆ​ ​เคลื่อน​เข้ามา​ ​บน​เสา​แต่ละ​ต้น​มี​วัสดุ​ชนิด​เดียวกัน​ถูก​เตรียม​เอาไว้​ ​แต่​สิ่ง​ที่​ทำให้​ทุกคน​รู้สึก​ว่ายาก​ที่สุด​คือ​การ​ที่​วัตถุดิบ​เหล่านั้น​ล้วนแต่​กระจัดกระจาย​จน​แทบ​มอง​ไม่​ออก​ ​เพียงแค่​ทำให้​วัสดุ​ชนิด​นี้​กลายเป็น​อาวุธ​ชั้นดี​สัก​ชิ้น​ก็​ยาก​พอ​อยู่​แล้ว​ ​แต่​ตอนนี้​พวกเขา​กลับ​ถูก​สั่ง​ให้​คิด​อาวุธ​ขึ้น​มา​อย่างน้อย​สอง​ชิ้น​ ​สม​กับ​เป็น​อาจารย์​ตู๋​เทียน​ ​เขา​ถึงกับ​คิด​หัวข้อ​มาก​ด้วย​เล่ห์​เช่นนี้​ขึ้น​มา​ได้​!

ทุกคน​พร้อมใจกัน​คิด​เรื่อง​นี้​ขึ้น​มา​ใน​หัว​ ​พวกเขา​หันหน้า​ไป​มอง​ตำแหน่ง​ที่นั่ง​ของ​อาจารย์​ตู๋​เทียน​กัน​ทีละ​คน​ ​แต่​ก็​พบ​ว่า​สีหน้า​ของ​เจ้าตัว​ไม่ได้​มี​การเปลี่ยนแปลง​ไป​เลย​แม้แต่​นิดเดียว​ ​แม้ว่า​ที่นั่ง​ของ​เขา​จะ​ไม่ได้​อยู่​ไกล​จาก​เวที​การ​ประลอง​มาก​นัก​ ​แต่​ต้อกระจก​ใน​ดวงตา​ของ​เขา​ก็​ทำให้​เขา​ไม่​อาจม​อง​เห็น​ร่าง​ของ​คนที​่​อยู่​บน​เวที​ได้​อย่างชัดเจน​ ​เขา​ทำ​เพียง​ลูบ​เครา​ของ​ตน​ด้วย​ดวงตา​ยิ้มแย้ม​ที่​แฝง​ไป​ด้วย​ความรู้สึก​ลึกลับ​เท่านั้น

“​ปีนี​้​ศิษย์​จาก​หอ​สามัญ​ช่าง​ควรค่า​แก่​ความสนใจ​ยิ่งนัก​ ​หึๆ​ ​นึกไม่ถึง​เลย​ว่า​คนที​่​อยู่​บน​เวที​จะ​เป็น​เด็กสาว​เสีย​ได้​ ​ดูเหมือนว่า​การ​ประลอง​ครั้งนี้​จะ​น่าสนใจ​ขึ้น​เรื่อยๆ​ ​แล้ว​สิ​”

ผู้ตัดสิน​ที่นั่ง​อยู่​ข้างๆ​ ​ชำเลือง​มอง​เขา​พร้อมกับ​ยิ้มกริ่ม​ ​”​ตู๋​เทียน​ ​เฮ้อ​ ​ข้า​คง​ต้อง​ขอบ​อก​ว่า​สายตา​ของ​เจ้า​แย่​ลง​อีกแล้ว​ ​นั่น​มิใช่​คุณหนู​ไร้ค่า​จาก​ตระกูล​เฮ่อ​เหลียน​หรอก​หรือ​ ​เจ้า​จำ​นาง​ไม่ได้​หรือ​ไร​”

“​เขา​จะ​จำ​นาง​ได้​อย่างไรเล่า​ ​ในเวลานี้​ ​คนเดียว​ที่​ตราตรึง​อยู่​ใน​ใจ​ของ​เขา​มี​แค่​อัจฉริยะ​คนที​่​เขา​พบ​ที่​หอ​เฟิ​่ง​หวง​เพียง​คนเดียว​เท่านั้น​ ​กระทั่ง​ศิษย์​ของ​ตน​เขา​ก็​ยัง​ไม่สน​ใจ​เลย​ด้วยซ้ำ​ ​แล้ว​ทำไม​เขา​ถึง​จะ​สนใจ​คนที​่​ไม่รู้​จัก​ด้วย​ล่ะ​”

ตู๋​เทียน​วาง​ถ้วย​ชาล​งบ​นมือ​ ​”​พวก​เจ้า​เลิก​ล้อเลียน​ข้า​ได้​แล้ว​ ​ปีนี​้​หอ​สามัญ​โดดเด่น​จริงๆ​”

“​เรื่อง​นี้​ข้า​เอง​ก็​ต้อง​ยอมรับ​”​ ​สีหน้า​ของ​อาจารย์​อีก​ท่าน​หนึ่ง​ดูป​ระ​ทับ​ใจ​อย่างเห็นได้ชัด​ ​”​ศิษย์​คนที​่​เพิ่ง​ประลอง​สาขา​พลัง​ปราณ​จบ​ไป​นั่น​สามารถ​เข้าสู่​หอ​ชั้นเลิศ​ได้​เลย​ทีเดียว​ ​จะ​ว่า​ไป​แล้ว​ ​เขา​มี​ความเป็นมา​เช่นใด​กัน​ ​เหตุใด​ข้า​ถึง​ไม่เคย​ได้ยิน​เรื่อง​ของ​เขา​มาก​่อน​เลย​”

ตู๋​เทียน​เอง​ก็​รู้สึก​สงสัย​อยู่​เหมือนกัน​ ​แต่​โดยส่วนตัว​แล้ว​เขา​ไม่ได้​สนใจ​อัจฉริยะ​ด้าน​พลัง​ปราณ​มาก​นัก​ ​สิ่ง​ที่​เขา​อยาก​เห็น​มาก​ที่สุด​ใน​ระหว่าง​การ​ประลอง​สาขา​อาวุธ​ครั้งนี้​คือ​ม้ามืด​ที่จะ​ปรากฏตัว​ขึ้น​เพื่อ​จัดการ​โค่น​ผู้เข้าแข่งขัน​ด้วยกัน​ต่างหาก

“​พวก​เจ้า​ดู​สิ​!​ ​มู่​หรง​ซื่อ​จื่อ​เริ่ม​ลงมือ​เขียน​แล้ว​!​”

ไม่รู้​ว่า​ใคร​ใน​กลุ่มคน​ดู​เป็น​คนพูด​ขึ้น

ทุกคน​เบน​สายตา​ไป​มอง​ ​ใน​ดวงตา​ของ​พวกเขา​เต็มไปด้วย​ความประหลาดใจ​ ​”​เร็ว​ถึง​เพียงนี้​เชียว​หรือ​”

“​เสร็จ​แล้ว​”​ ​มู่​หรง​ฉาง​เฟิง​ใช้เวลา​เพียงแค่​ไม่​กี่​นาที​ก็​วาง​พู่กัน​ใน​มือ​ลง​ ​แล้ว​ยื่น​คำตอบ​ที่​ม้วน​เอาไว้​ให้​กับ​อาจารย์​ที่​ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​ ​”​นี่​เป็น​คำตอบ​ของ​ข้า​ ​รบกวน​ท่าน​อาจารย์​ช่วย​นำ​มัน​ไป​มอบให้​เหล่า​อาจารย์​ดูด​้วย​ขอรับ​”

ผู้​เป็น​อาจารย์​รับ​กระดาษ​เนื้อ​ดี​ม้วน​นั้น​มา​ ​เดิมที​แล้ว​เขา​ตั้งใจ​ที่จะ​นำ​มัน​ไป​ส่ง​ให้​กับ​ตู๋​เทียน​ ​แต่​ตู๋​เทียน​กลับ​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ​และ​โบกมือ​เป็น​สัญญาณ​ให้​เขา​นำ​มัน​ไป​มอบให้​กับ​อาจารย์​ท่าน​อื่น​แทน

“​สม​กับ​เป็น​ลูกศิษย์​ของ​ท่าน​ยิ่งนัก​ ​ภายใน​เวลา​สั้น​ๆ​ ​เพียงเท่านี้​ ​เขา​กลับ​ร่าง​แปลน​ขึ้น​มาถึง​สาม​แปลน​ด้วยกัน​”​ ​ดวงตา​ของ​ปรมาจารย์​ที่​รับ​กระดาษ​เนื้อ​ดี​แผ่น​นั้น​มาถึง​กับ​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความชื่นชม​ ​พร้อมกับ​พยักหน้า​ไป​ด้วย​ ​”​เท่านี้​ก็​น่าจะ​พอให้​ชนะ​ได้​แล้ว​กระมัง​”

ตู๋​เทียน​ไม่ได้​แปลกใจ​กับ​ผลลัพธ์​ที่อยู่​ตรงหน้า​นี้​เลย​แม้แต่น้อย​ ​พร้อมกันนั้น​เขา​ก็​กระตุก​มุม​ปาก​ขึ้น​ ​ความสามารถ​ของ​ลูกศิษย์​นั้น​ย่อม​เป็น​สิ่ง​ที่​เขา​รู้ดี​อยู่​แก่​ใจ​ ​และ​นั่น​ก็​นับว่า​ไม่เลว​เลย​ทีเดียว​…