ตอนที่ 123 – แครสซัสกลายร่าง

*ก่อนจะอ่านนิยาย โปรดตรวจสอบว่าท่านได้อยู่ในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือถ้าท่านอ่านในความมืดก็อย่าลืมเปิด Night Mode หรือจอส้ม เพื่อป้องกันการปวดหัวและสายตาสั้นด้วยนะครับ*

สิ่งที่ได้มาจากการไปว่าความที่ศาลนั้นเยอะมาก แล้วเขาเองก็ไม่ได้ทําอะไรมากมายด้วย เขาแค่สร้างสนามเด็กเล่นขึ้นมา แล้วก็ใช้แค่พลังปากเท่านั้น เขาได้เงินมาตั้ง3ทาเลนตั้ม, พื้นที่เพาะปลูก1,700 เอเคอร์แล้วก็ได้ไมตรีจากตระกูลผู้ดีอีก

พื้นที่เพาะปลูกตั้ง 1,700 เอเคอร์นั้นสําหรับนายทาสคนอื่นๆคงมีมากกว่าอยู่แล้ว ยิ่งชนชั้นสูงคงไม่ต้องพูดถึง

พวกชั้นสูงอํานาจใหญ่ๆคงมีเมืองทั้งเมืองไว้ครอบครองเลย

แต่พื้นที่นั้นก็มากเกินพอสําหรับเย่เทียนในตอนนี้ ถ้าเขาได้มามากเกินไปเขาคงหาทางจัดการพวกมันไม่ทันแน่ๆ

เย่เทียนชวนวิคเตอร์และซัลตาน่าให้อยู่ทานอาหารเย็นด้วยกันแต่พวกเขาก็ปฏิเสธเพราะมี เรื่องที่ต้องทําหลายอย่าง

เย่เทียนภูมิใจมาก เพราะชีวิตของแครสซัสหลังจากนี้คงลําบากขึ้นแน่ๆ

เสียที่ดิน2,500 เอเคอร์พร้อมกับทอง5ทาเลนตั้ม ต่อให้แครสซัสคนพ่อจะเป็นชายที่ร่ํารวยที่สุดในโรมก็ตาม ขนหน้าแข้งร่วงเยอะขนาดนี้เขาคงต้องรู้สึกแสบบ้างแน่

จริงอยู่เงินน่ะไม่ตายก็หาใหม่ได้และที่ดินก็หาซื้อได้ใหม่ง่ายๆ ด้วย

แต่ชื่อเสียงของตระกูลไม่สามารถฟื้นกลับมาในเวลาสั้นๆได้แน่

ตาแก่แครสซัสคงกระอักเลือดตายแน่พอได้ยินข่าว.

พวกขี้โกหก! พวกหน้าไม่อาย! พวกหลอกลวง!

ไม่นานตระกูลแครสซัสคงจะถูกครหาไปทั่วทั้งโรมแน่นอน

หลังแครสซัสกลับมาจากศาลเขาก็ขังตัวเองอยู่ในห้องมืดๆคนเดียวโดยไม่กินไม่ดื่มอะไรเลย เขาอยู่คนเดียวในความมืดปล่อยให้มันกลืนกินหัวใจเขาแล้วเขาก็เริ่มเป็นคนหมองมัวหนักขึ้น เรื่อยๆ

“ซาตาน! เจ้ามันปีศาจท่ามกลางแสงสว่าง!!”

ในความมืดนั้น เสียงเบาๆและแหบแห้งของแครสซัสก็ดังขึ้น

ในความมืดนั้น, ใบหน้าของเย่เทียนโผล่ขึ้นมาในหัวของแครสซัส.

“ตอนเราเจอกันครั้งแรก เจ้ามองแผนของข้าทะลุปุโปร่ง. ความลับทุเรศของฟิลิปถูกเจ้าขโมยไปแล้วตอนข้าจะไปแย่งซื้อที่ดินของแม็กซ์จากเจ้า ข้าก็พ่ายแพ้ให้เจ้าอีกครั้ง ในศาลข้าก็เกือบจะ โดนเจ้าฆ่าอีก. ตอนนี้การที่เจ้าสาวข้าหายไปจะเกี่ยวกับเจ้าด้วยมั้ย? ข้าไม่เชื่อหรอกว่าตาเจ้า สามารถอ่านใจคนออกได้น่ะ”

แครสซัสพึมพําเบาๆ พยายามนับความผิดของเย่เทียน, เขารู้สึกว่าตั้งแต่พบเย่เทียน เทพธิดาแห่งโชคลาภได้ทอดทิ้งเขาไป เขาโชคดีมาตลอดแต่พอเรื่องเย่เทียนนั้น ทุกๆครั้งที่เจอเขาไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังเขาก็จะจบไม่สวยตลอด

ชื่อซาตานนั้นเป็นดั่งคําสาปที่คอยล่ามตัวเขาไว้ ทําให้เขาทรมาณราวกับตกนรกทั้งเป็น

“ขอบใจเรื่องกฏ12โต๊ะนั่นนะ…”

ท้ายสุดเสียงเบาๆนั้นก็สะท้อนไปทั่วความมืด

2วันต่อมาในที่สุดแครสซัสก็เปิดประตูออกจากห้องมืดนั้นแล้วเดินออกมาอย่างช้าๆ เขาไม่สามารถรับแสงตรงๆได้จึงยกมือมาบังตาไว้

ผมเขายุ่งเหยิงไปหมดราวกับรังไก่และเคราของเขาก็สะบัดไปมาขณะเดินราวกับไม่ได้โกนมาค รึ่งเดือนยังไงอย่างงั้น

2วัน2คืนผ่านไป เขาทั้งคอแห้งและหิวโซ. เขาเซไปหน่อยนึ่งระหว่างเดินด้วยแต่แทนที่จะรีบหาอะไรกิน เขากลับเรียกทาสหญิงคนนึงมาช่วยเขาอาบน้ํา

หลังจากอาบเสร็จเคราของแครสซัสก็ถูกโกนเรียบร้อย, ผมของเขาถูกหวีอย่างเป็นระเบียบแล้วเขาก็สวมชุดคลุมสีขาว. เขาดูหล่อเหลาและสดใสมาก

ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มบางๆอยู่ ราวกับแครสซัสได้กลับมาเป็นตัวของตัวเองอีกครั้งและความหม่นหมองทั้งหมดก็หายไปราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นกับเขา

แต่ทว่าถ้ามองเขาดีๆแล้ว จะเห็นว่าในดวงตาของเขานั้นมีความวิปลาศและขุ่นมัวเต็มไปหมด

แครสซัสได้เปลี่ยนร่างกลายเป็นอสรพิษที่ร้ายกาจซะแล้ว

แม้ว่าเขาจะกระหายและหิวโซแต่แครสซัสก็ไม่ได้รีบกินมูมมามเลย เขาค่อยๆกินอย่างช้าๆและสง่าที่สุด

เขากําลังกินเนื้อย่างกับไวน์

เขาอยากอาหารมาก

“ท่านพ่อครับ!!”

แครสซัสเพิ่งทานเสร็จตอนที่พ่อเขาเดินเข้ามาช้าๆ

แครสซัสค่อยๆเช็ดปากให้สะอาดแล้วทักทายพ่อเขาอย่างเคารพ

สีหน้าของแครสซัสคนพ่อดูดีขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่เขาก็ดูน้ําหนักลดไปหลายกิโลอยู่เหมือนกัน

“เจ้าออกมาได้ซักทีนะ!”

แครสซัสคนพ่อพยักหน้าแล้วพูดอย่างสุขุม

“ครับ, ข้าสมองโล่งขึ้นแล้วครับ!”

แครสซัสพยักหน้า

“เจ้าอยากรู้สถานการณ์ปัจจุบันของเราไหมล่ะ?”

แครสซัสคนพ่อถามอย่างสุขุม.

“ข้าว่าข้าคงถูกประณามเป็นคนหลอกลวง, ขี้คดไปแล้วแน่เลย แถมยังล้างมลทินได้ยากด้วย”

ความหมองมัวผุดขึ้นมาในดวงตาของแครสซัสแต่ภายนอกเขาดูสุขุมมาก.

“เราเสียชื่อเสียงไปหมดสิ้นแล้ว, ไม่สิ! เรายังพอมีเหลืออยู่แถมตระกูลแครสซัสเองยังดังกว่า แต่ก่อนด้วย ไม่มีใครในโรมที่ไม่รู้เรื่องนี้เลย! หลายตระกูลที่ร่วมมือกับเราตอนนี้ได้ยกเลิกสัญญา และการค้าขายหมดแล้ว แค่2วันธุรกิจของเราก็โดนโจมตีอย่างหนักหน่วงขนาดพวกชาวบ้านยัง ไม่อยากซื้อของของเราเลย ข้าบอกเลยนะ! ถ้าเราพลิกสถานการณ์ไม่ได้ในหนึ่งปีล่ะก็ความพ ยายามตลอด10ปีของตระกูลเราจะต้องสูญเปล่าแน่”

ใบหน้าของแครสซัสคนพ่อเริ่มหมองขึ้น ขณะที่เขาพูดอยู่นี้เขาก็รู้สึกเจ็บใจ

“ครับ, ข้าได้พิจารณาหลายๆเรื่องแล้ว, อย่างที่คิดเลย วิคเตอร์โจมตีเรากลับหนักหน่วงจริงๆ!!”

แครสซัสพยักหน้าเบาๆแล้วพูดอย่างช้าๆว่า “พวกชาวเมืองโง่ ยังไงซะพวกมันก็เป็นพวก นต่ํา ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าข้าเคยมอบรอยยิ้มที่สดใสให้คนพวกนั้น, ข้าคิดจริงๆว่าข้าไปหลบหลู่พระเจ้าจนท่านส่งสัตว์ประหลาดมาขโมยเจ้าสาวข้าไปแล้วจริงๆ!”

แครสซัสยังคงดูสุขุมมากแต่ในใจนั้นเขาเดือดดาลมาก

“ใช่ วิคเตอร์เป็นคนทํา…”

แครสซัสคนพ่อพูดอย่างเย็นชา

“ไม่ครับ! เขาไม่ฉลาดเช่นนั้นแน่แล้วเขาก็ไม่มีปัญญาพอจะทําด้วย! ซาตานอยู่เบื้องหลังทั้งหมดเลย!!”

แครสชัสยิ้มอย่างเย็นชา

“ซาตาน? เจ้าหนุ่มที่อยู่ในศาลนั่นเหรอ!”

ความโหดร้ายแว่บขึ้นมาในตาของแครสซัสคนพ่อ

“ท่านพ่อครับ, โปรดอย่าดูถูกมันนะครับ มันเป็นคนอันตราย!!”

ความรู้สึกชิงชังผุดขึ้นมาในดวงตาของแครสซัสขณะเขาเตือนพ่อของเขา