บทที่ 196 ข้าชื่อเมี่ยป้า เอาชีวิตคนเลวเช่นเจ้า

เข้าสู่โลกนิยายเพื่อไปเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดของสามวายร้าย

บทที่ 196 ข้าชื่อเมี่ยป้า เอาชีวิตคนเลวเช่นเจ้า

“ใคร!”

ไม่นานจี้จือฮวนก็ถูกองครักษ์พบเข้า นางกลอกตารอบหนึ่ง ก่อนจะเป็นฝ่ายเดินออกไป เซี่ยหยางเห็นนางกลับมาก็เอ่ยด้วยความประหลาดใจ “แม่นาง?”

จี้จือฮวนจ้องมองกลุ่มคนที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะหันหน้าและเอ่ยขึ้นมา “เมื่อครู่นี้ข้าไปเก็บสมุนไพรห้ามเลือดมาให้เจ้า เจ้าบอกว่าจะตอบแทนข้า ยังเป็นไปตามนั้นอยู่หรือไม่?”

เหล่าองครักษ์ต่างมองหน้ากัน เพื่อรอคำตอบของเซี่ยหยาง

เซี่ยหยางมองไปที่สมุนไพรในตะกร้าสะพายหลังของจี้จือฮวนก็รู้สึกยินดีขึ้นมา “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าจะไม่ช่วยไม่ใช่หรือ?”

จี้จือฮวนแสร้งทำเป็นเขินอาย และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นธรรมชาติเท่าไรนัก “ใครใช้ให้เมื่อครู่เจ้าจับข้อเท้าของข้ากันเล่า?”

เหล่าองครักษ์รู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที ดูเหมือนว่านิสัยเรียกร้องความสนใจขององค์ชายรอง ไม่ว่าจะไปที่ใดก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย

ในฐานะพระเอกของเรื่อง กฎที่ว่าขอเพียงเป็นสตรีทุกคนล้วนชอบเซี่ยหยางย่อมต้องมีอยู่แล้ว สำหรับเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ เหล่านั้นของเซี่ยหยาง บรรดาองครักษ์เองก็เห็นจนชินตาเสียแล้ว

เมื่อจี้จือฮวนเอ่ยเช่นนี้ พวกเขาจึงคิดว่าองค์ชายรองคงเป็นฝ่ายลวนลามแม่นางผู้นี้

แล้วก็จริงเมื่อเซี่ยหยางดวงตาเป็นประกายขึ้นมา “เป็นผู้น้อยที่ทำผิดเอง”

จี้จือฮวนกลัวว่าพวกเขาจะจากไปเช่นนี้ ดังนั้นนางต้องยืนยันให้ได้ก่อนว่าคน ๆ นี้คือเซี่ยหยางจริงหรือไม่ มิฉะนั้นหากปล่อยเขาไปจะกลายเป็นการปล่อยเสือกลับเข้าป่า หากมีความเป็นไปได้แม้เพียงเล็กน้อย จี้จือฮวนก็จะให้เขาตายอยู่ที่นี่เสีย

เมื่อจี้จือฮวนตัดสินใจเช่นนั้น ท่าทีก็ไม่แข็งกระด้างเหมือนเมื่อครู่อีก นางหยิบสมุนไพรในตะกร้าด้านหลังออกมา แล้วเอ่ยขึ้น “เช่นนั้นเจ้ายังต้องการหรือไม่? ในเมื่อคนของเจ้ามาแล้ว”

เซี่ยหยางมองใบหน้าของจี้จือฮวน “ในเมื่อแม่นางเก็บสมุนไพรมาแล้ว ผู้น้อยจะปฏิเสธได้อย่างไรกัน”

เหล่าองครักษ์คิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในเมื่อเซี่ยหยางเอ่ยปากแล้ว เช่นนั้นพวกเขาก็ทำได้เพียงหุบปากเท่านั้น

จี้จือฮวนพยักหน้าให้ “เช่นนั้นข้าจะไปจัดการสมุนไพรสักครู่ อีกเดี๋ยวจะเอามาพอกให้เจ้า ด้านหน้ามีกระท่อมเก่า ๆ ที่นายพรานทิ้งเอาไว้ สามารถไปพักที่นั่นได้ชั่วคราว ส่วนนี่เป็นไก่ป่าที่ข้าจับมาได้ พวกเจ้าคงหิวแล้วกระมัง?”

“แม่นางรู้วิชาแพทย์ด้วยอย่างนั้นหรือ?”

“นับเป็นวิชาแพทย์อันใดกัน คนบ้านนอกอย่างพวกเราเวลาได้รับบาดเจ็บก็ไปหาหมอไม่ไหว ทำได้เพียงพอกสมุนไพรให้ตัวเองเท่านั้น เวลาพ่อข้าปวดหัวตัวร้อนก็มักจะทำเช่นนี้ ไม่ได้สูงศักดิ์เช่นพวกเจ้าหรอก ตามข้ามาเถอะ” จี้จือฮวนนำทางไปก่อน เหล่าองครักษ์จึงเข้าไปประคองเซี่ยหยาง

“นายท่าน ท่านนี้คือ?”

“แค่สาวชาวบ้านจากหมู่บ้านใกล้ ๆ นี้ก็เท่านั้น อารมณ์รุนแรงอยู่บ้าง พวกเจ้าอย่าทำให้นางตกใจล่ะ”

“หรือไม่พวกเราอย่าเข้าใกล้นางจะดีกว่ากระมัง”

“กลัวอะไร นางก็แค่สตรีที่อ่อนแอบอบบางผู้หนึ่ง แม้จะดุไปสักหน่อยแต่ความน่าสนใจก็ไม่ได้ลดลงไปเลย”

เซี่ยหยางไม่เคยเห็นค่าสตรีคนใด ยกเว้นจี้หมิงซูที่มีความสามารถและช่วยงานของเขาได้ ดังนั้นก็ถือเสียว่าใช้โอกาสนี้ล่าสาวงามเพิ่มก็เท่านั้น

เมื่อถึงด้านหน้ากระท่อมไม้ จี้จือฮวนก็จัดแจงทำความสะอาดพื้นที่ว่างอยู่ จากนั้นเมื่อจัดการไก่ป่าเรียบร้อยแล้วก็นำไปย่างบนกองไฟ การเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วนั้น มองออกว่าเป็นคนที่ทำงานเป็นประจำ

เหล่าองครักษ์จับตาดูการเคลื่อนไหวของนาง เมื่อแน่ใจว่านางไม่ได้ทำอะไรกับไก่ป่าตัวนั้นจึงได้รับมา

จี้จือฮวนบดยาสมุนไพรแล้วพอกลงบนหลังของเซี่ยหยาง จากนั้นก็ใช้ผ้าพันแผลให้เขา เซี่ยหยางเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของนางอยู่ตลอด พลางพิจารณาใบหน้าของนางอย่างละเอียด

ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่านางมีเสน่ห์ เป็นสาวงามที่ดูสบายตา หากแต่งกายด้วยชุดที่งดงามและแต่งหน้าสักหน่อย จะต้องงดงามกว่าคนทั่วไปอย่างแน่นอน

แต่น่าเสียดายที่ฐานะต่ำต้อยเกินไป ประดับอยู่ในวังหลังก็คงได้กระมัง แต่หากนางมีความสามารถช่วยเขาได้อย่างจี้หมิงซู เขาจะปฏิบัติต่อนางเช่นเดียวกับจี้หมิงซูอย่างแน่นอน

จี้จือฮวนเห็นเซี่ยหยางลอบพิจารณาตนอยู่ จึงแสร้งทำท่าทางเขินอาย และหลบเลี่ยงสายตาของเขา

“เจ้าบาดเจ็บได้อย่างไรกัน? หมู่บ้านของพวกเราอยู่ห่างไกลมาก ปกติบนเขามักจะมีสัตว์ป่าดุร้ายออกหากิน นับว่าเจ้าโชคดีจริง ๆ”

เซี่ยหยางเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจขึ้นมา “ข้าออกมาทำการค้าแล้วพบกับศัตรูเข้า แต่ข้าช่างโชคดีจริง ๆ อยู่ในป่าในเขาเช่นนี้ก็ยังได้พบแม่นางที่งดงามราวกับเทพธิดาได้”

จี้จือฮวนเบือนหน้าหนีพร้อมใบหน้าที่แดงระเรื่อ แต่ในใจกลับแอบสาปแช่งเจ้าสุนัขตัวนี้อยู่ เป็นปลามังกรราดน้ำมันหรืออย่างไร ไหลลื่นตั้งแต่หัวยันหาง

เห็นได้ชัดว่าเซี่ยหยางไม่ได้รู้ตัวเลยว่าความเจ้าชู้ของตนเอง ทำให้หญิงงามตรงหน้ารู้สึกขยะแขยงเพียงใด เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้นางอีกหลายส่วนก่อนจะเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “แม่นางใช้แป้งอะไรอย่างนั้นหรือถึงได้ตัวหอมเช่นนี้? ข้าเห็นแม่นางแต่งตัวเรียบง่าย หรือว่าเป็นกลิ่นหอมจากกายของแม่นางอย่างนั้นหรือ?”

จี้จือฮวนรู้สึกว่าตัวเองพร้อมแล้ว

หมัดของนางพร้อมเต็มที่แล้ว

นางกัดฟันแล้วเอ่ยออกมา “คุณชายกล่าวชมเกินไปแล้ว ข้ายังไม่ทราบเลยว่าท่านมีนามว่าอะไร ข้าชื่อว่า เมี่ยป้า คนในหมู่บ้านล้วนเรียกข้าว่า ป้าป้า”

เซี่ยหยางผงะไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาด้วยความอึดอัด “ชื่อของแม่นางช่างดูเข้มแข็งจริง ชื่อเล่นของข้าคือ หวยเอี้ยน เจ้าเรียกข้าว่าหวยเอี้ยนก็ได้”

จี้จือฮวนแทบจะหยิบมีดทหารออกมาจากช่องว่างมิติ หวยเอี้ยน

ชื่อเล่นของเซี่ยหยาง พระเอกในนิยายก็คือชื่อนี้ ดูท่าเขาคงเป็นเซี่ยหยางจริง ๆ

เซี่ยหยางในขณะนี้ยังไม่รู้ถึงเจตนาของจี้จือฮวนที่ต้องการจะฆ่าเขา

จากนั้นจี้จือฮวนก็ได้ลุกขึ้นแล้วเอ่ยว่า “จริงสิ บนภูเขาลูกนั้นมีสมุนไพรห้ามเลือดที่ใช้ได้ดีมาก แต่ว่ามันอยู่สูงเกินไป องครักษ์เหล่านั้นของเจ้าคงจะเอื้อมถึงกระมัง เจ้าให้ใครสักคนไปเก็บกับข้าเถอะ ส่วนอีกคนให้คอยดูแลเจ้าอยู่ที่นี่ ข้าจะได้ไม่เป็นกังวลด้วย”

ได้ยินคำพูดที่เป็นห่วงเป็นใยพร้อมน้ำเสียงที่นุ่มนวลของนาง เซี่ยหยางก็พยักหน้าให้ “รบกวนแม่นางแล้ว”

“รบกวนอะไรกัน เจ้าอย่าลืมคำพูดของตัวเองก็พอ” จี้จือฮวนหมุนกายไปพร้อมรอยยิ้ม ทว่าเพียงพริบตาเดียวรอยยิ้มบนใบหน้าของนางก็เลือนหายไปทันที

เซี่ยหยางให้องครักษ์คนหนึ่งตามนางไปเพื่อช่วยเก็บสมุนไพร จี้จือฮวนคุ้นเคยกับภูเขาด้านหลังอยู่แล้ว ดังนั้นจึงพาเขาตรงไปยังบริเวณที่ใกล้กับลำธารบนภูเขา

คนผู้นั้นเมื่อเห็นจี้จือฮวนยิ่งเดินยิ่งไกล ก็เอ่ยปากถามขึ้นมา “แม่นาง เจ้าเป็นชาวบ้านแถวนี้หรือ เหตุใดถึงขึ้นเขามาคนเดียวเล่า คนในครอบครัวไม่เป็นห่วงหรือ?”

จี้จือฮวนสังเกตบริเวณรอบ ๆ เล็กน้อย ที่นี่เซี่ยหยางคงไม่ได้ยินเสียงอะไรแล้วกระมัง

นางก้มลงอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะแสร้งเปล่งเสียงอุทานออกมา พลางนั่งยอง ๆ อยู่บนพื้น องครักษ์ก็รีบพุ่งเข้ามาทันที “แม่นาง เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่!”

น่าเสียดายที่เขาเพิ่งพูดจบ มีดสั้นที่สามารถตัดเหล็กได้อย่างง่ายดายก็ตัดเส้นเลือดใหญ่ของเขาในทันที มืออีกข้างก็หักกระดูกสันหลังของเขาจนหมด

องครักษ์เอามือกุมลำคอเอาไว้ ดวงตาเบิกโพลง และหงายหลังล้มลงไป

จี้จือฮวนควงมีดทหารในมือไปมา มององครักษ์ผู้นั้นที่ตายตาไม่หลับ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม “ขึ้นเขาก็ต้องมาเพื่อล่าสัตว์น่ะสิ”

องครักษ์หายใจเฮือกสุดท้ายก่อนจะสิ้นลม จี้จือฮวนลากเขาเข้าไปในพงหญ้าที่อยู่ใกล้ ๆ จากนั้นก็แสร้งตะโกนไปทางเซี่ยหยาง “พวกเจ้าเป็นใครกัน! ข้าไม่มีทางบอกพวกเจ้าว่าคุณชายอยู่ที่ใด! ช่วย…ช่วยด้วย! ช่วยด้วย! ท่านองครักษ์ ท่านรีบหนีไปสิ!”

ไม่นานก็มีเสียงของใครบางคนรีบวิ่งมาทางนี้ จี้จือฮวนซ่อนตัวอยู่ ก่อนจะพุ่งเข้าไปโจมตีจุดตายของฝ่ายตรงข้ามในทันที หลังจากกำจัดองครักษ์ทั้งสองคนเรียบร้อยแล้ว จี้จือฮวนจึงค่อย ๆ กลับไปยังกระท่อม

เซี่ยหยางรออย่างกระวนกระวาย เมื่อเห็นว่าจี้จือฮวนกลับมาแล้วก็รีบเอ่ยถามทันที “แม่นางป้าป้า เมื่อครู่เกิดเรื่องอันใดขึ้น องครักษ์สองคนนั้นของข้าเล่า?”

จี้จือฮวนเอ่ยตอบพร้อมสีหน้าทำอะไรไม่ถูก “ทำเช่นไรดี เมื่อครู่ตอนที่พวกเราไปเก็บสมุนไพร ทันใดนั้นก็มีคนมากมายปรากฏตัวขึ้น พวกเขายังอยู่ที่นั่นและบอกให้ข้าหนีมาก่อน”

เซี่ยหยางมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที เขาหนีมาจนถึงที่นี่โดยไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ เอาไว้แล้วแท้ ๆ คนเหล่านั้นยังสามารถตามมาได้อีกอย่างนั้นหรือ? อีกทั้งเจ้าโง่สองคนนั่น เพื่อช่วยสาวชาวบ้านคนหนึ่ง กลับทิ้งให้เขาตกอยู่ในอันตรายอย่างนั้นหรือ?!

ขณะที่เซี่ยหยางกำลังนึกโมโหอยู่นั้น จี้จือฮวนที่อยู่ใกล้เขาอย่างมากก็ลงมือทันที!