ตอนที่ 218 หัวเราะหรือร้องไห้
หยุนเคอขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะจับจ้องเด็กชายที่ยังสูงไม่ถึงเอวของเขาด้วยซ้ํา
“มีอะไร? ทําหน้าเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร? หรือใบหน้าของข้าไปสะกิดใจอะไรเจ้าหรือ?”
เฉินเฉินตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ “หึ! อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ถึงข้อตกลงระหว่างท่านกับพี่สาว อีกทั้งนางยังไม่ได้แต่งงานจริง ๆ !”
หยุนเคอเลิกคิ้วสูง “อะไรกัน จนถึงตอนนี้เจ้ายังคิดว่าพวกเราจะไม่แต่งงานกันจริง ๆ งั้นหรือ? แล้วเจ้าคิดขัดขวางอย่างไรล่ะ?”
เฉินเฉินคล้ายกับผู้ใหญ่ร่างเล็ก เขานั่งเก้าอี้ด้วยท่าทางจริงจังก่อนจะกล่าวตอบ “ข้าจะบอกให้… แม้ว่าท่านจะดูดีขึ้น แต่ก็ไม่อาจคว้าหัวใจพี่สาวข้าได้ หากถึงวันที่พี่สาวข้าสมควรต้องแต่งงาน ข้าจะเป็นคนแต่งงานกับนางเอง!”
หยุนเคอรู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าตนเองมีคู่ต่อสู้ตัวน้อยเช่นนี้ด้วย
“เจ้าเป็นน้องชาย! แล้วจะแต่งงานกับนางได้อย่างไร?”
เฉินเฉินตะโกนเสียงดัง “ข้าไม่ใช่น้องชาย!”
แม้หยุนเคอจะไม่มั่นใจในตัวเองนัก แต่เขาก็ไม่คิดหวาดกลัวเด็กคนนี้
“แต่นางมองเจ้าเป็นน้องชาย! อีกทั้งตอนนี้นางอายุสิบห้าปี เจ้าเพิ่งเจ็ดขวบ! กว่าเจ้าจะโตพอ นางก็อายุยี่สิบเจ็ด… เจ้าไม่อาจแต่งงานกับนางได้ ข้าแนะนําได้หนึ่งอย่าง เจ้าปล่อยนางไปซะ แล้วจงแต่งงานกับหญิงสาววัยไล่เลี่ยกับตัวเองไม่ดีกว่าหรือไร?”
เฉินเฉินถึงกับพูดไม่ออก ส่วนหยุนเคอยกยิ้มเล็กน้อย
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าสายสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวคืออะไร? ตอนนี้เจ้ายังต้องพึ่งพาพี่สาวอยู่และ เจ้าไม่ได้ชอบนางจริง ๆ! อีกหน่อยเดี๋ยวเจ้าโตขึ้น และได้พบกับหญิงสาวอื่น เจ้าก็จะลืมเลือนพี่สาวไปเอง”
“ไม่จริง! พี่สาวช่วยเหลือข้ามากเช่นนี้ โตขึ้นข้าย่อมต้องแต่งงานกับนาง! ผู้ชายคนอื่นอาจทําให้นางผิดหวัง แต่ข้าจะไม่มีวันทําเช่นนั้น หึ! ข้ารู้ดีว่าท่านก็ตกหลุมรักพี่สาวเช่นกัน คิดหรือว่าโกนหนวดเคราออกแล้วจะสามารถพิชิตใจนางได้? รู้ไว้ด้วยว่านางมิใช่หญิงสาวที่มองใครเพียงรูปลักษณ์ภายนอก!”
หยุนเคอยกยิ้มมุมปาก หากหญิงสาวคนนั้นชื่นชอบรูปลักษณ์ของเขาบ้างสักหน่อยก็คงดีไม่น้อย แต่หลังจากเห็นปฏิกิริยาของนางในวันนี้แล้ว เขาก็พอเข้าใจว่าหญิงสาวมิใช่ใครที่จะชื่นชอบชายใดเพียงรูปลักษณ์จริง ๆ
“โอ้ แน่นอน! ข้ารู้ดีว่าพี่สาวเจ้าไม่ชื่นชอบชายใดเพียงรูปลักษณ์ เพราะแม้ข้าจะมีหนวดเคราดกดํา นางก็ยังไม่คิดแต่งงานกับหลี่ซื่อฮวาเช่นกัน! ส่วนเจ้าที่อายุเพียงเจ็ดขวบ เจ้าคิดอยากให้นางรอเจ้าจริง ๆ งั้นหรือ?”
“เรื่องสําคัญที่สุดก็คือแม้นางจะไม่รักข้า แต่นางก็ต้องแต่งงานกับข้า ทั้งหมดนี้คือคความจริง! สตรีที่ดีจะไม่แต่งงานซ้ําสอง เจ้าไม่รู้หรือไรว่าชาวบ้านทั้งหมดจะสาปแช่งมากเพียงใดหากนางแต่งงานกับน้องชายตัวเอง! เฉินเฉิน แม้พี่สาวจะใจดีกับเจ้ามากและเจ้ารักนางมากเพียงใด แต่เจ้าไม่มีสิทธิ์จะขัดขวางเรื่องนี้!”
“ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าอายุเพียงเจ็ดขวบ เจ้ารู้ใจตัวเองแล้วหรือว่าชื่นชอบหญิงสาวแบบใด? เฉินเอ๋อ เจ้าควรมีสติให้มาก อีกทั้งหากคิดจะแสดงความขอบคุณสําหรับน้ําใจของนาง เจ้าก็ควรปฏิบัติตัวให้ดีมิใช่ลากนางลงเหวไปด้วยเช่นนี้!”
เฉินเฉินรู้สึกไม่พอใจยิ่ง ส่วนหยุนเคอกําลังอธิบายอย่างใจเย็น ซึ่งความอดทนนี้เขาไม่เคยมีมันมาก่อนเลยในชีวิตนี้ “เจ้าหยุดคิดเรื่องอื่นได้แล้ว พี่สาวจะปฏิบัติต่อเจ้าดั่งเช่นน้องชายตลอดไป มันจะไม่มีความรักระหว่างชายหญิงเกิดขึ้นกับเจ้าสองคนแน่นอน เฉินเอ๋อ หากเจ้ารักและเคารพพี่สาวของตนจริง ๆ เจ้าก็จงร่ําเรียนให้หนักและอย่าทําให้นางผิดหวัง!”
เฉินเฉินถอนหายใจยาวราวกับคนแก่ “แต่ใครกันจะสามารถปกป้องพี่สาวข้าได้ ดูผู้หญิงในหมู่บ้านสิ ไม่เห็นจะมีใครพบเจอชีวิตดี ๆ หลังจากแต่งงานสักคน! หากท่านไม่แต่งงานกับนาง ข้าจะเป็นคนแต่งงานกับนางเอง!”
หยุนเคอถึงกับหัวเราะออก “ตอนนี้เจ้ายังต้องพึ่งพาพี่สาวตนเองอยู่ แต่เจ้ากลับกล่าวถึงการเลี้ยงดูนางงั้นหรือ? เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าพี่สาวไม่อาจต่อสู้กับโลกภายนอกได้? เจ้าไม่คิดว่านางแข็งแกร่งมากจนไม่ต้องพึ่งพาใครเลยบ้างหรือ? อีกทั้งนางยังสามารถเลี้ยงดูผู้ชายได้อย่างง่ายดายด้วย! เอาล่ะ เฉินเอ๋อ ตอนแรกมันอาจจะเป็นข้อ ตกลงระหว่างข้ากับนาง แต่ตอนนี้ข้าจะไม่ปล่อยพี่สาวเจ้าให้กับผู้ใดเด็ดขาด! หากเจ้าอยากให้นางมีชีวิตที่ดี ก็จงตั้งใจเรียนและประสบความสําเร็จให้ได้ จากนั้นก็ค่อยปกป้องมิให้ผู้ใดมารังแกนาง!”
เฉินเฉินมองใบหน้าเรียวได้รูปที่อยู่ไกลออกไปสักหน่อย เขารู้ดีว่าพี่สาวของตนแข็งแกร่งเพียงใด แต่อย่างไรแล้วนางก็ยังต้องแต่งงานกับใครสักคน… น่าเสียดายที่เขายังเด็กเกินกว่าจะแต่งงาน!
ในตอนนั้นเองที่หยุนเวียนเถียนชะโงกหัวออกมา “เด็กน้อย เจ้ากําลังพูดถึงข้าอยู่หรือ? รีบไปล้างมือเร็วเข้า เตรียมตัวกินข้าว!”
หยุนเคอมองเฉินเฉินก่อนจะกล่าวต่อ “สิ่งที่กล่าวออกทั้งหมดเป็นความลับระหว่างเรา เจ้าไม่อาจบอกใครได้แม้แต่พี่สาวของตน!”
หยุนเถียนเถียนเดินออกมาพร้อมกล่าวขึ้น “ความลับอะไรกัน? ข้าเป็นพี่สาวย่อมไม่มีความลับใด เจ้าบอกกล่าวอะไรกับน้องชายข้า?!”
เฉินเฉินถอนหายใจราวกับคนตาย “พี่สาว! พี่ใหญ่หยุนบอกว่าเขากําลังจะแต่งงานกับท่านเร็ว ๆ นี้และข้าก็เป็นแค่เด็กน้อยขนยังไม่ขึ้น!”
หยุนเคอถึงกับเบิกตาโพลง เด็กคนนี้กําลังพูดจาไร้สาระ แม้ต่อหน้าเขาก็ยังกล้าพูดโป้ปดออก เลวร้ายยิ่งเมื่อเด็กชายคนนี้คิดทรยศ!
หยุนเถียนเถียนยิ้มก่อนจะตอบ “เจ้าคิดว่าพี่ใหญ่หยุนจะเป็นเด็กเช่นเจ้างั้นหรือ? แล้วเจ้าก็ไม่ควรจะพูดจาเช่นนี้ออกมา หากไม่คิดจะบอก ข้าก็จะไม่ถาม!”
เฉินเฉินมองหยุนเถียนเถียนด้วยความไม่พอใจ เขาเดินเข้าครัวไปอย่างบึ้งตึง เหตุใดพี่สาวจึงไม่เชื่อวาจาของเขากันล่ะ? สิ่งที่เขาพูดออกไปคือ ความจริง!
“เอาล่ะ เด็กน้อยขนยังไม่ขึ้นในฐานะบุรุษ… ประการแรกเลยคือหากถูกดุด่าจากสตรีจะไม่เหมือนกับการถูกด่าจากบุรุษด้วยกัน นอกจากนี้ ข้าก็ไม่ได้ดุด่าว่าเจ้าขนยังไม่ขึ้นด้วย!”
หลังจากหยอกล้อจนพอใจแล้ว หยุนเคอกล่าวต่ออย่างจริงจัง “เจ้ารู้หรือไม่ว่าหากชาวบ้านคนอื่นล่วงรู้ถึงความคิดเจ้า พวกเขาจะมองพี่สาวเจ้าอย่างไร? ผู้คนจะคิดว่าพี่สาวของเจ้าเป็นคนมักมากในกาม แม้แต่น้องชายที่เติบโตด้วยกัน มาเพียงเจ็ดขวบก็ยังคิดจะคว้าเอาไว้!”
ดูเหมือนว่าคําพูดของหยุนเคอจะร้ายแรงเกินกว่าเฉินเฉินจะรับได้ เขากระทืบเท้าเล็ก ๆ ลงที่นิ้วเท้าของอีกฝ่ายอย่างแรง แม้ว่ามันจะเจ็บปวดไม่น้อย แต่ก็ยังอยู่ในจุดที่รับได้…
“คิดว่าคําพูดของข้ามันเลวร้ายเกินไปงั้นหรือ? แต่หากชาวบ้านข้างนอกพูด มันจะร้ายแรงยิ่งกว่านี้หลายเท่า! ตอนนี้ชื่อเสียงของพี่สาวเจ้ามิใช่จะดีนักและเจ้าไม่มีสิทธิ์ทําให้มันแย่ลงได้ ตอนนี้ เจ้าเป็นเด็กจึงพูดกล่าวออกมาไม่ทันคิดไตร่ตรอง แต่หากคนอย่างหลี่ชุนเกี่ยวรับรู้เรื่องนี้ คําพูดทั้งหมดก็ยังน่าเกลียดจนเจ้าไม่อาจทนฟังได้!”
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เฉินเฉินรู้ดีในใจ แต่ยังไงซะ เขาก็ยังไม่คิดยอมแพ้และกล่าวช้า ๆ อย่างชัดถ้อยชัดคํา “น่าเสียดายที่พี่สาวข้างดงามดั่งดอกไม้แต่ต้องมาจมปลักอยู่ในมูลวัวเช่นท่าน แต่ข้าจะขอเตือนไว้หากท่านคิดรังแกพี่สาว หลังจากข้าโตขึ้น ข้าจะกลับมาจัดการกับท่านให้สาสม!”
หยุนเคอยึดตัวก่อนจะเผยรอยยิ้มอ่อนจาง “เจ้าเป็นบ้าหรือไร? ข้าไม่เคยรังแกนางแม้สักครั้ง มีเพียงนางที่รังแกข้าอยู่เสมอ! หากเป็นเรื่องนี้ จงไปบอกกล่าวพี่สาวตนเถิด!”
Next